บทที่ 467 ความหมายของอารมณ์ (3)
หมายเหตุ: เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน ‘หลงไหล’ ได้ถูกเปลี่ยนเป็น
‘ความรัก’ ซึ่งมีความคลุมเครือและสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้เขียนต้องการ
ทั้ง 3 อารมณ์ถูกเปิดเผยโดยแว่นขยาย
[ความรู้สึกผิด อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป ความรักใคร่]
ผมเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกผิด เพราะบอสสารภาพว่าเธอฆ่าพ่อแม่ของคิมชุนดง แต่มันยากที่จะเข้าใจอารมณ์ ‘ความรัก’ แน่นอนว่าความรักมีหลายรูปแบบเช่นความรักแบบพี่น้อง ความรักแบบเพื่อนหรือ……
คิมฮาจิน?
ในขณะนั้นบอสเรียกชื่อผมจน ผมตกใจแต่ผมตอบอย่างใจเย็นที่สุด
“วะ-ว่าไง?”
– …วิคเก็ช ขอความช่วยเหลือจากพวกเรา เธอบอกว่าเธอจะให้เวทีต่อสู้ของ Pandemonium กับพวกเราถ้าพวกเราปล่อยผู้บริหารของเธอที่ถูกคุมอยู่ขังบนชั้น 15 ออกมา
บอสเปลี่ยนหัวข้อของการสนทนา
ความภักดีที่มากเกินไปของโฮเนอร์ก่อให้เกิดความหายนะกับ วิคเก็ช ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร วิคเก็ช เธอมีเหตุผลมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ใน 9 ปีศาจ
“ได้สิ…เดี้ยวผมจะไปจัดการให้”
– อืมดี
ในที่สุดบอสก็ถอดหัวหมีออก ดวงตาของเธอมั่นคงเหมือนเช่นเคย
ผมจ้องมองที่เธอและเธอก็จ้องมองกลับมาที่ผม
เธออาจไม่รู้ความรู้สึกของตัวเธอเองเช่นกัน
บอสใช้เวลาในวัยเด็กของเธอกับเลือดและความตาย คำสาปและการถูกทำร้าย ถ้าผมเป็นคนธรรมดา ผมคงจะโกรธถ้าผมเห็นเธอ เธอคงจะสูญเสียความรู้สึกของเธอไปกับนรกที่โหดร้ายที่เธอเคยอาศัยอยู่ไปแล้ว
แต่ปัจจุบันผมรู้สึกคุ้นเคยกับบอสอย่างลึกซึ้ง บางครั้งผมก็ต้องพึ่งเธออย่างแท้จริง ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะเธอเป็น ‘ตัวละคร’ ที่ผมสร้างขึ้นงั้นเหรอ? หรือว่าเป็นเพราะผมมีความรู้สึกต่อเธอโดยที่ผมไม่รู้ตัว?
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเพราะกลัวสายตาของบอส
“….เฮ้ออออออ”
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าบอสมี ‘ความรัก’ ให้กับผมเพราะความรู้สึกผิดที่เธอรู้สึกกับผม ผมจะต้องสารภาพกับเธอในสักวัน ว่า คิมฮาจิน และ คิมชุนดง เป็นคนที่แตกต่างกันซึ่งพ่อแม่ของเขาที่เธอฆ่าไปไม่มีเกี่ยวข้องอะไรกับผม ผมไม่ใช่คนที่เกิดมาบนโลกนี้อดีตในร่างนี้ก็ไม่ใช่ของผมเพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด …
ในขณะนั้นเองก็มีแสงตกลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน
“หืม?”
ดาวขนาดเล็กเปล่งประกาย
“นั้น…..ดาวตกงั้นเหรอ ต้องขอพร ฉันแน่ใจว่ามันจะต้องเป็นจริง”
บอสดวงตาเบิกกว้างแล้วพูดออกมา แทนที่จะมองดูดาวตกผมกลับรวบรวมความกล้าหาญและจ้องมองบอส บอสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ผมเห็นอกเห็นใจเธอเกี่ยวกับชีวิตที่ว่างเปล่าที่เธอผ่านมา ความงดงามของเธอทำให้จิตใจผมเต้นรั่ว
“นายเองก็อธิษฐานอะไรไปสินะ”
บอสยิ้มอย่างไร้เดียงสา
“…ไม่ ผมพลาดไป”
ผมพึมพำอย่างงุนงง
“ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวก็มีอีก ครั้งต่อไปจะเป็นตาของนายนะ”
ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงจ้องมองท้องฟ้าอย่างเงียบๆ บอสรอดาวตกอีกดวงปรากฏขึ้น แต่ไม่มีโชคแบบนั้นและบอสก็หันกลับมาหาผมอย่างหดหู่
“…ฮาจิน.”
เธอเรียกชื่อของผมซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ชื่อของ คิมชุนดง
“ว่าไง.”
ผมตอบอย่างเฉยเมย บอสมองตาผมแล้วพูดพึมพำอย่างรวดเร็ว
“…ฉันขอโทษด้วยสำหรับหลายสิ่งหลายอย่าง ฉันไม่สามารถพูดมันออกมาเป็นคำพูดได้”
เสียงของเธอทำให้จิตใจผมเต้นรั่วไปทั่วร่างกายของผม คำขอโทษของเธอทำให้ผมรู้สึกผิด ผมหัวเราะและส่ายหัว
“…ผมบอกคุณแล้วคุณสามารถลืมมันไปได้เลยตอนนี้”
คำอธิษฐานของเธอกับดาวตกยิงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องนี้
*************************************************************************
หลังจากบอกลาคิมฮาจินแล้วบอสก็กลับไปที่ห้องของเธอ สปาร์ตันนอนบนเตียงของเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่างมันเปลี่ยนเตียงของเธอเป็นรังของมันเอง
บอสยิ้มและนั่งลงที่โต๊ะทำงานของเธอ เธอมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการก่อนนอน
ก่อนอื่นเธอส่งข้อความไปหา วิคเก็ช โดยถามว่าผู้บริหารของเธออยากปล่อยให้เป็นอิสระตอนไหน จากนั้นเธอก็เริ่มตอบกลับข้อความลับที่สมาคมฮีโร่ส่งมาเกี่ยวกับภารกิจลอบสังหารออร์เดน
ขณะที่เธอกำลังตอบเธอก็รู้สึกถึงความว่างเปล่าในหัวใจของเธอ
สิ่งนี้ทำให้เกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายเธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากวางปากกาของเธอลง
“… .”
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหนื่อย
เธอทำสิ่งที่เธอต้องการได้สำเร็จแล้ว Chameleon Troupe ได้เป็นเจ้าของ Pandemonium เธอได้อำนาจของบอสคนก่อนหน้ากลับมาในครอบครองและชื่อของพวกเขาถูกจารึกไว้ในจิตใจของปีศาจและมนุษย์อย่างชัดเจน
เป้าหมายเดียวที่เธอเหลืออยู่คือการแก้แค้น
“…เบลล์.”
บอสคิดถึงเบลล์คนทรยศที่ฆ่าบอสคนก่อนและหายตัวไป เพียงแค่เอยชื่อของเขาก็ทำให้เธอโกรธอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนในอดีต แต่ความโกรธของเธอก็ลดลงเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นยะเยือก
“… .”
ทันใดนั้นใบหน้าของคิมฮาจินก็โผล่ขึ้นมาพร้อมกับเบลล์ ตอนแรกเขาเป็นเพียงเครื่องมือในการฆ่าเบลล์ เธอวางแผนที่จะทิ้งเขาไปถ้าเขาไม่มีประโยชน์ในฐานะเครื่องมือ แม้ว่าเขาจะเป็นอะไร เธอก็วางแผนที่จะใช้เขาเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะทิ้งเขาไป
แต่ตอนนี้คิมฮาจินมีสถานะที่แตกต่างไปจากตอนนั้นแล้ว
ปี้ดดดดดดดดดด
“หืม?”
อาการเจ็บปวดอย่างฉับพลันทำให้จิตใจของเธอต้องเจ็บปวด บอสเงยหน้าขึ้นโดยสงสัยว่าเธอได้รับบาดเจ็บขณะฝึกซ้อมหรือเปล่า เธอไม่สามารถหาคำตอบของเธอได้ เธอเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อมองหายี่ยูริ
– โดรน ดูนั้นสิ
– อะไรเหรอ?
ยี่ยูริและโดรนหัวเราะและพูดคุยกันภายในกล้องวงจรปิด วัยรุ่น 2 คนดูมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน
“… 2 คนนี้”
ดวงตาของบอสเหมือนถูกไฟไหม้เมื่อเธอเห็นพวกเขาจีบกัน
– ดูสิมีดอกไม้กำลังโตอยู่ใต้ดินด้วยละ~
– …เธอชอบดอกไม้งั้นเหรอ?
ตอนเด็กบอสมีแต่การถูกสาปแช่งและสอนในทางที่ผิด ไม่มีแม้แต่วันเดียวที่เธอชอบพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเธอ
– แน่นอน! พวกมันน่ารัก! ทำไมนายไม่ชอบพวกมันเหรอ?
– ฮะ? มะ-ไม่ ฉันชอบพวกมันเหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่เข้าใจความรู้สึกที่ยี่ยูริและโดรนมีต่อกัน
“… .”
ดังนั้นเธอจึงพบว่าภาพตรงหน้านั้นน่าสนใจ บอสยังคงมองดู ยียูริ และ โดรน อยู่นาน
*************************************************************************
1 สัปดาห์ต่อมา
อดีตประธานาธิบดีของเกาหลีและบุคคลผู้มีอำนาจในปัจจุบันของ
สมาคมฮีโร่ คิมซุคโฮนั่งอยู่ใน [Lv.6 Elven Chair] อันสง่างามในคฤหาสน์ของเขาและได้รับรายงานว่า
– ยีพังโฮ จากสมัชชาแห่งชาติถูกซุ่มโจมตีและสังหารเมื่อคืนที่ผ่านมา
– ผู้บริหารของสมาคม คิมยุนยองเสียชีวิตในคืนนี้
– ไคเซอร์ ซีอีโอของ อโทรเทคโนโลยี ถูกพบว่าเสียชีวิตในสำนักงานของเขา…
– ดอกบัวดำดูเหมือนจะอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตเหล่านี้
คิมซุคโฮถอนหายใจเมื่อได้ยินรายงาน เขาถูกรบกวนโดยยี่ยูริที่ถูกลักพาตัวไป แถมตอนนี้เขายังต้องกังวลเกี่ยวกับดอกบัวดำเช่นกัน
“คุณคิดไหมว่าพวกเขาเป็นสุนัขของออร์เดนทั้งหมด”
– คะ พวกเราพบหลักฐานที่สนับสนุนข้อสงสัยนี้แล้ว
“…ชิ.”
คิมซุคโฮส่ายหัวและคิดในใจ ‘ไอ้พวกโง่ ฉันบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่าโลภ’
– เราควรประกาศต่อสาธารณะอย่างไร
“ฝังพวกมันเดี๋ยวนี้ สถานการณ์ของกองกำลังพิเศษเป็นยังไงบ้าง”
– 177 สมาชิกถูกเลือกแล้ว พวกเขาน่าเชื่อถือทั้งหมด
“…เข้าใจแล้ว ตอนนี้ฉันต้องอยู่ที่นี่ หากมีอะไรเกิดขึ้นเธอคงรู้วิธีติดต่อฉันมานะ”
เมื่อคิมซุคโฮพูดจบเขาก็วางสายจาก ‘ห้องจัดเลี้ยงสีม่วง’
“เฮ้อออออออ…ไอ้พวกนั้น”
คิมซุคโฮสาปแช่งอย่างเงียบๆเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าเหล่าผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของเขาทุกคนต่างก็สื่อสารกับ ออร์เดน อย่างลับๆ ในขณะที่เขามีความสุขที่พวกมันตาย แต่ส่วนหนึ่งของเขาก็ยังรู้สึกเสียใจ
ออร์เดนเองก็เอื้อมมือมาหาเขาเช่นกัน คิมซุคโฮรู้สึกมีความสุขกับการตัดสินใจของเขาที่ปฏิเสธข้อเสนอพวกนั้นไป แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่า
ยี่ยูริจะถูกลักพาตัว
“ดอกบัวดำ….”
ดอกบัวดำ สุนัขล่าเนื้อที่เขาเคยใช้งาน ตอนนี้เขารู้ว่ามันอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้มันเป็นอิสระ
“อืม…ฉันเดาว่าฉันไม่มีทางเลือก”
เขาคิดได้เพียงทางออกเดียวเท่านั้น
กลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับปีศาจและมีพลังจะต่อต้าน Chameleon Troupe
กลุ่มนักฆ่าที่ก่อตั้งโดยฤาษีภูเขาในตำนาน มีคนไม่มากที่รู้จังกลุ่มที่ว่าวพวกเขาถูกลืมไปนาน ตอนนี้เป็นเวลาฟื้นคืนชีพพวกเขาแล้ว
คิมซุคโฮ เริ่มเขียนจดหมายส่งให้หัวหน้าของพวกนั้นตาต่อตาฟันต่อฟัน นั่นเป็นวิธีที่เขาวางแผนที่จะจัดการกับสุนัขล่าเนื้อที่บังอาจมาขวางทางเขา
************************************2************************************