บทที่ 1139 ทักษะการแสดงนี้ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ / บทที่ 1140 สงบนิ่งอย่าสั่นคลอน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1139 ทักษะการแสดงนี้ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเอาใจ “ใช่ๆๆ หล่อพอแล้ว พวกเราไปรอที่ห้องพักกันเลยเถอะ”

กงซวี่ที่เมื่อครู่นี้ยังพองขนจนจะไปหาคนทะเลาะวิวาทพลันดีใจดี๊ด๊า ตามเยี่ยหวันหวั่นไปห้องพักแต่โดยดี

เหยาเจียเหวินที่อยู่ด้านข้างมองจนมีสีหน้าประหลาดใจ กงซวี่นี่…ตกลงนับว่าโอ๋ง่าย หรือโอ๋ยากกัน

เกลี้ยกล่อมตั้งครึ่งค่อนวันไม่ได้ผล แต่ดันยอมอ่อนลงด้วยประโยคเดียวของเยี่ยหวันหวั่น

ที่ถ่ายทำลำดับแรกสุดเป็นส่วนของหลิงเส่าเจ๋อ กงซวี่กับลั่วเฉินรออยู่สองชั่วโมงเต็มจึงค่อยถึงตาของพวกเขา

ผลคือพอถึงตาของพวกเขา ถ่ายทำไม่ถึงสิบนาทีก็จบแล้ว

เหยาเจียเหวินกดความโกรธ สื่อสารกับโฮ่วหมิงเลี่ยง “ผู้กำกับโฮ่ว อัดเสร็จแล้วเหรอคะ มีตรงไหนไม่ถูกต้องหรือเปล่า”

โฮ่วฉงเลี่ยงที่กำลังประจบหลิงเส่าเจ๋อหันมามองเหยาเจียเหวินอย่างรำคาญ “ไม่ถูก? ไม่ถูกตรงไหน? ”

“เนื้อหาบทถูกตัดออกไปเยอะเกินไปแล้ว ไม่เหมือนกับที่พวกเราตกลงกันตอนแรก อีกอย่างตำแหน่งยืนก็ไม่ถูก ตอนขึ้นเวทีตำแหน่งของกงซวี่กับลั่วเฉินค่อนไปทางด้านหลังมากเกินไป…”

“แผนงานตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนตำแหน่งยืน ย่อมต้องเป็นไปตามเรตติ้งและความนิยม ฉันจัดให้เส่าเจ๋อ จุดนี้คิดว่าทุกคนคงไม่มีความเห็นมั้ง เพราะงั้น ยังมีคำถามอะไรไหม”

เหยาเจียเหวินยังอยากอธิบาย แต่ก็ถูกเยี่ยหวันหวั่นดึงกลับมา “ไปเถอะ รีบไปงานโปรโมตถัดไป”

เสียเวลาตรงนี้ก็เปล่าประโยชน์ ยืนหยัดอัดจนจบรายการ แค่เพื่อทำตามหลักการทำงานจนจบให้เกียรติสัญญา

เหยาเจียเหวินยังคงอารมณ์หดหู่อยู่บ้าง “สิบนาทีนี้ตัดๆ ต่อๆ สุดท้ายเหลือได้สักห้านาทีก็ไม่เลวแล้ว…แต่ก็น้อยเกินไป…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแบบนั้นก็ยกมุมปากวาบแววเย็นชา ห้านาที? ออกจะประเมินความใจดีของเยี่ยหวันหวั่นเกินไปหน่อยแล้ว

ถึงแม้จะเจอกับสิ่งกีดขวางเหล่า แต่เยี่ยหวันหวั่นก็คาดคิดไว้นานแล้ว ตอนนี้เวลาของพวกเขามีค่า ไม่ว่างมายุ่งกับเรื่องยิบย่อยอย่างนี้ สามารถไปโปรโมตได้มากอีกสักที่ก็ไป พยายามด้านรายได้จำหน่ายตั๋วก็พอ แต่ว่าไม่ใช่จุดสำคัญ

เป้าหมายของเธอไม่เคยเป็นรายได้จำหน่ายตั๋ว ยังไงเสียทำเหมือนหวงเทียนในชาติก่อน ปรับเปลี่ยนบทโดยตรงก็พอแล้ว

เป้าหมายของเธอคือรางวัลจินหลาน

เวลาผ่านไปไวชั่วพริบตา ไม่นานก็ถึงวันฉายรอบทดลองของ ‘เป็นหรือตาย’

ที่สมกับที่ดีใจคือ คนบนออนไลน์ที่ไปดูหนังเรื่องนี้ ล้วนวิจารณ์ชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน

การแสดงในหนังของกงซวี่สร้างความตกตะลึงให้แฟนคลับอย่างไม่ต้องสงสัย…

[พระเจ้า! ฉันได้ดูอะไรไป นี่ใช่เบบี๋บ้านฉันเหรอ หล่อจนแม่ยกอย่างฉันไม่รู้จักแล้ว!]

[ตอนแรกกะพุ่งไปดูลั่วเฉินกับกงซวี่ขายโมเมนต์ ไม่นึกว่าจะดูจนร้องไห้เลย! กินใจเกินไปแล้ว! ทักษะการแสดงของกงซวี่คราวนี้ร้ายกาจจริงๆ! เขากินยาผิดหรือเปล่า]

[ลั่วเฉินสุดยอด! พัฒนาก้าวกระโดด! กงซวี่…อึก ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่ากงซวี่ได้รับแรงกระตุ้นอะไร…ทักษะการแสดงนี้…ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์เลย!]

กงซวี่อ่านคอมเมนต์เล็กๆ น้อยๆ พวกนั้นก็ถอนหายใจ “จิ๊ เมื่อก่อนตอนฉันไม่ใส่ใจ แสดงมั่วๆ พวกเขาทุกคนวิ่งไปจ่ายเงิน ตอนนี้พอฉันตั้งใจแสดงสุดชีวิต กลับไม่มีคนไปดู…เฮ้อ นี่คือวงการบันเทิงสินะ…”

เยี่ยหวันหวั่นใช้หางตาเหลือบมองกงซวี่ เจ้าหมอนี่นานๆ ที่จะมีตอนลึกซึ้งแบบนี้

ผลคือเพิ่งคิดแบบนี้ไม่ทันไร ก็เห็นกงซวี่หยิบฟาดมือถือ “กินยาผิดบ้าบออะไร! ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์บ้าอะไรอีก! ใครกำหนดว่าฉันมีทักษะการแสดงไม่ได้กัน หวังฉันดีหน่อยไม่ได้ ไม่ได้หวังฉันกิน ขี้อยู่หรอกนะ! ยังใช่แฟนคลับพันธุ์แท้อยู่หรือเปล่า”

————————————————————–

บทที่ 1140 สงบนิ่งอย่าสั่นคลอน

หนังฟอร์มยักษ์หมุนเวียนเข้าฉายช่วงนี้ ลำพังแค่หนังของโกลบอลกับหวงเทียนก็ครองเจ็ดแปดส่วนของตลาดแล้ว กิจกรรมโฆษณาต่างๆ ถล่มทลาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในสถานการณ์ที่พวกเขาตั้งใจกดดันจูเสินสือไต้

ถึงแม้ทุกคนประเมินรอบทดลองฉายไว้ดีมาก แต่เมื่อรายได้จำหน่ายตั๋ววันแรกออกมา ทุกคนก็ตกใจแล้ว

รายได้ยอดจำหน่ายตั๋วมีเพียงไม่กี่แสน ยังไม่ถึงเสี้ยวของหนังเรื่องนั้นของหลิงเส่าเจ๋อด้วยซ้ำ แถมไม่กี่แสนนี้ ยังมาจากการอุทิศตนของแฟนคลับเดนตายของกงซวี่และลั่วเฉิน

ถ้าสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป หนังเรื่องนี้พวกเขาก็ขาดทุนย่อยยับแแล้ว

รายได้จำหน่ายตัวย่ำแย่ บรรยากาศในบริษัทก็ขุ่นมัว

ลั่วเฉินเอ่ยปาก “ ‘ดาราดังมีนัด’ ออกฉายวันนี้พอดี ไม่แน่อาจช่วยขยับรายได้จำหน่ายตั๋วได้นิดหน่อย…”

สำหรับศิลปินในวงการบันเทิง แฟนคลับคือสมบัติล้ำค้า แต่ก็กลับหายไปได้ง่ายดายที่สุด

ลั่วเฉินกับกงซวี่ไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะหลายเดือนเพื่อถ่ายทำ ‘เป็นหรือตาย’ ส่วนดาราหน้าใหม่กลับงอกแล้วงอกอีกประดุจดอกเห็ด แฟนคลับจึงหลั่งไหลหายไปด้วยความรวดเร็ว

ช่วงโปรโมตหนังตอนนี้ก็ยังถูกขัดขวางซ้ำแล้วซ้ำเล่า รายได้จำหน่ายตั๋วจึงน่าเป็นห่วงอย่างแท้จริง

เวลานี้เหยาเจียเหวินรีบร้อนผลักประตูเข้ามา ในมือถือโทรศัพท์ เอ่ยด้วยสีหน้าเปี่ยมความโมโห “ทำเกินไปแล้ว!”

“เกิดอะไรขึ้น” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วถาม

เหยาเจียเหวินถือโทรศัพท์ เอ่ยปากเล่า “ฉันเพิ่งดู ‘ดาราดังมีนัด’ กลายเป็นว่าซีนของกงซวี่กับลั่วเฉินใน ‘ดาราดังมีนัด’ ถูกตัดเกลี้ยงเลย! ไม่เหลือสักวินาทีเดียว!”

รออยู่สองชั่วโมงเต็ม ถ่ายทำสิบนาที เดิมทีนึกว่าจะเหลือสักห้านาที แต่ผลกลายเป็นว่าสุดท้ายถูกตัดต่อออกไม่มีเหลือ

ได้ยินคำพูดของเหยาเจียเหวิน ลั่วเฉินสีหน้าอึมครึมลง ตอนแรกเขายังหวังว่ารายการดังนี้จะช่วยโปรโมตได้สักนิด แต่ตอนนี้ หมดหวังอีกแล้ว

สถานการณ์แบบเดียวกัน ในช่วงเวลานี้เกิดขึ้นแล้วหลายต่อหลายครั้ง

อุตส่าห์ได้งานโปรโมตดีๆ ลำบากได้โอกาสโปรโมตมา แต่ซีนกลับถูกตัดออกอักครั้ง เห็นได้ชัดว่าเบื้องหลังมีคนจงใจกดดันพวกเขา

สุราดียังกลัวตรอกลึก ต่อให้หนังคุณภาพดีขนาดไหน ไม่มีคนดูก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นเนื้อหาหนังเรื่องนี้ของพวกเขาในบรรดาหนังวัยรุ่นและหนังรักโรแมนติกในเมืองใหญ่ทั้งหลาย แรกเริ่มก็เสียเปรียบ

เหยาเจียเหวินเอ่ยแนะนำ “ไม่งั้น…ให้กงซวี่กับลั่วเฉิน…ปฏิสัมพันธ์กันในเวยป๋อเยอะหน่อย ดึงความนิยมเป็นไงคะ”

เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า ปฏิเสธคำแนะนำของเหยาเจียเหวิน

ปฏิสัมพันธ์แบบนี้ทำเป็นธรรมชาติและเหมาะสมนิดหน่อยก็พอ ทำบ่อยเกินไปกับจงใจทำจะหนีไม่พ้นข้อสงสัยว่ามีเจตนาร้ายขายโมเมนต์เอา กลับจะกระทบความประทับใจแรกของคนดู และทำให้คนกำหนดคาแรกเตอร์ของพวกเขา ไม่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างตัวละครในหนังถัดๆ ไป

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็แก้ไขต้นตอไม่ได้ด้วย

“สถานการณ์ตอนนี้ ฉันเคยเปิดประชุมพูดคุยกับพวกเธอมาก่อนแล้ว เพราะงั้นพวกเธอน่าจะเตรียมใจไว้แล้วบ้าง แผนตอนนี้ของฉันคือ หยุดการโปรโมตต่อจากนี้ชั่วคราวได้แล้ว โกลบอลกับหวงเทียนต้องการจัดการพวกเราเห็นๆ ลงทุนต่อไปก็ผลาญเงินเปล่า ไม่สู้เอาไปทำเรื่องอื่นดีกว่า”

“เรื่องอื่น?” เหยาเจียเหวินไม่เข้าใจ

เยี่ยหวันหวั่นส่งเอกสารปึกหนึ่งให้อีกฝ่าย “ถูกต้อง จากนี้ไปพวกเราจะไม่ทำการโปรโมต เงินทุนที่เหลือ เอาไปทำสาธารณประโยชน์ให้หมด”

หานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าแล้วเอ่ยปาก “นี่เป็นแผนที่ดี”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “เรื่องนี้พี่หยางค่อนข้างมีประสบการณ์ ต้องรบกวนพี่หยางช่วยพวกเราตรวจสอบสักหน่อย”

เฟ่ยหยางตอบอย่างเปิดเผย “ไม่มีปัญหา”

เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองทุกคน “เรื่องนี้ที่ทุกคนต้องทำมีอย่างเดียว นั่นคือสงบนิ่ง”

เยี่ยหวันหวั่นพูดพลางมองกงซวี่เป็นพิเศษ “โดยเฉพะนายกงซวี่ อย่าใจร้อน”

…………………………………