บทที่ 1137 ศัตรูบนถนนแคบ / บทที่ 1138 หล่อพอแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1137 ศัตรูบนถนนแคบ

กลุ่มคนมาถึงกองถ่ายรายการอย่างรวดเร็ว

ด้านหลังเวทีคับคั่งไปด้วยผู้คน เจ้าหน้าที่วิ่งไปวิ่งมากันให้วุ่น ทุกคนกำลังยุ่งมือเป็นระวิง

เวลานี้เอง ที่ทางเข้ามีแถวคนเดินเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่

ผู้มาคือหลิงเส่าเจ๋อ ด้านข้างตามมาด้วยบอดี้การ์ดสองคน ผู้ช่วยสามคน และยังมีช่างแต่งหน้าและสไตลิสต์

ผู้ได้รับเชิญขณะเดียวกันก็ยังมีหลิงเส่าเจ๋อจากหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ช่วงนี้หลิงเส่าเจ๋อก็มีละครกำลังจะฉาย เป็นการทุ่มทุนทุ่มกำลังสร้างของหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์

ว่ากันว่าคำชมและรายได้จำหน่ายตั๋วของรอบปฐมนิทัศน์ต่างไม่เลว การแสดงของหลิงเส่าเจ๋อในละครก็ดีสมคำชมเชย ความสามารถเจ้าตัวยังนับว่าโด่งดังมากความนิยม บวกกับอาศัยต้นไม้ใหญ่อย่างหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์นี้ จุดด่างพร้อยจากการใส่ร้ายกงซวี่เมื่อครั้งก่อนของเขาจึงถูกชำระล้างไปพอสมควรในเวลาอันรวดเร็ว

ถึงขั้นว่าแฟนคลับไม่น้อยคิดสมน้ำหน้ากงซวี่เนื้อร้ายวงการบันเทิงผู้ไร้ความสามารถนี้…

ศัตรูบนถนนแคบ แค่คิกก็รู้ท่าทางของทั้งสองฝ่ายได้

หลิงเส่าเจ๋อนับว่าอาศัยหนังเรื่องนี้พลิกตัว ช่วงนี้กำลังลำพองใจ จึงเป็นฝ่ายทักทายกงซวี่ก่อน “คุณชายกง ไม่เจอกันนาน!”

วันนี้เยี่ยหวันหวั่นมาเป็นเพื่อนพวกเขาด้วยตัวเอง อารมณ์ในวันนี้ของกงซวี่จึงยังนับว่าไม่เลว เขาไม่เต็มใจตอบหลิงเส่าเจี๋ย

หลิงเส่าเจ๋อย่อมไม่ปล่อยโอกาสฉีกหน้ากงซวี่ครั้งนี้ เอ่ยปากต่อว่า “ได้ยินว่าละครใหม่นายใกล้ออกฉายแล้ว แถมยังเข้าคัดรางวัลจินหรานด้วย? คาดหวังผลจินหรานซะจริง!”

หลิงเส่าเจ๋อพูดจบ ด้านข้างก็พลันมีเสียงพ่นหัวเราะของศิลปินคนอื่น “น่าคาดหวังจริงๆ นั่นแหละ ได้ยินว่ากงซวี่ปล่อยคำปฏิญาณ ว่าถ้าไม่ได้รางวัลจินหรานสาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมจะไลฟ์สดกินขี้แน่ะ!”

“พรืด เขาคิดว่ารางวัลจินหรานบ้านเขาเป็นคนจัดเหรอ คิดอยากเป็นราชาจอเงินก็เป็นได้? รางวัลจินหรานเป็นรางวัลภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศเชียวนะ!”

กงซวี่ถูกเสียงซุบซิบที่ด้านข้างทำหนวกหูจนหมดความอดทนแล้ว เขาแค่นหัวเราะเบาๆ หนึ่งเสียงพลางหันไปหาหลิงเส่าเจ๋อ “จิ๊ รอบปฐมทัศน์ทำรายได้แค่สามสิบล้าน ยังกล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าคุณชาย ตอนที่คุณชายทะลุร้อยล้าน แกยังไม่ได้ปีนขึ้นเตียงเสี่ยแกเลย!”

ฝีปากนี้ของกงซวี่ ไม่อาจเรียกได้ว่าไร้พิษสงแล้ว

หลิงเส่าเจ๋อหน้าเปลี่ยนสี “กงซวี่! ใส่ร้ายคนอื่นให้มันน้อยๆ หน่อย!”

กงซวี่เลิกคิ้ว “จะทำไม ฉันพูดผิดตรงไหนเหรอ”

“ภูมิใจอะไร ทักษะการแสดงเหมือนหมาเหมือนขี้แบบนั้น หลอกเอาเงินกันชัดๆ แสดงจบคนเขาก็เกือบพังโรงหนังแล้ว ยังมีหน้ามาอวดเบ่งอีก!” หนึ่งในผู้ช่วยของหลิงเส่าเจ๋อพึมพำเสียงเบา

กงซวี่ได้ยินก็จวนจะระเบิดขึ้นมา หางตาเยี่ยหวันหวั่นเหลือบเห็นผู้กำกับมาแล้ว ก็กดๆ ไหล่กงซวี่ สื่อว่าเขาควรพอได้แล้ว กงซวี่จึงเบ้ปากอดทนไว้

“สวัสดีครับ ผู้กำกับโฮ่ว!”

เยี่ยหวันหวั่นพาลั่วเฉินกับกงซวี่เข้าไปทักทายหัวหน้าผู้กำกับรายการ

ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม “ไอ้หยา ผู้อำนวยการเยี่ยมาแล้ว! งั้นมาเริ่มกันเลย รีบไปแต่งหน้าเถอะ!”

“ตกลงครับ ห้องแต่งหน้าอยู่ตรงไหนเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นถาม

ดวงตาเรียงยาวของโฮว่ฉงเหลียงวาบประกายแสง จากนั้นเขาเอ่ยด้วยสีหน้าขอโทษ “ไอ้หยา ผู้อำนวยการเยี่ย ขอโทษจริงๆ วันนี้คนเยอะเกินไป ห้องแต่งหน้าเดี่ยวเต็มแน่นหมดแล้ว มีแต่ต้องให้พวกคุณไปแต่งหน้าข้างนอกสักหน่อย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินประโยคนี้ก็พลันสีหน้าเย็นชาลงหลายส่วน “ไปห้องแต่งหน้าที่ด้านนอก?”

ด้วยตำแหน่งสถานะของโฮ่วฉงเลี่ยง ไม่อาจพูดคำที่ไม่เป็นมืออาชีพขนาดนี้ออกมาได้

ลั่วเฉินกับกงซวี่ดีเลวอย่างไรก็เป็นแถวหน้า ตามมาตรฐานของแถวหน้ารายการต้องมีห้องแต่งหน้าส่วนตัวให้แน่นอน จะให้พวกเขาไปแต่งหน้ารวมกับพวกตัวประกอบได้อย่างไร

นอกเสียจาก…

————————————————————————-

บทที่ 1138 หล่อพอแล้ว

ทันใดนั้น โฮ่วฉงเลี่ยงก็หันไปหาหลิงเส่าเจ๋ออีก ตอนที่อยู่ต่อหน้าหลิงเส่าเจ๋อ ท่าทีเขาพลันเปลี่ยนไปชนิดร้อยแปดสิบองศา สุภาพหาใดเปรียบ “โอ๊ย เส่าเจ๋อ ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ ตรงนี้คนเยอะ วุ่นวายเกินไป ฉันพาเธอไปห้องแต่งหน้านะ! คุณหนูอีอีย้ำด้วยตัวเอง ว่าช่วงนี้เธอเดินสายโปรโมตจนเหนื่อยแย่แล้ว ให้ฉันดูแลเธอดีๆ นะ! มาเร็วเชิญมาทางนี้ อากาศตรงนี้แย่เกินไป…”

เยี่ยหวันหวั่นหรี่สองตา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าท่าทีที่โฮ่วฉงเลี่ยงปฏิบัติต่อพวกเธอ ก็เป็นการ ‘ดูแล’ เป็นพิเศษของเยี่ยอีอี

ต่อให้ลั่วเฉินกับกงซวี่เป็นแนวหน้า แต่ด้านหลังไม่มีบริษัทใหญ่สนับสนุน อีกทั้งหวงเทียนกับโกลบอลต่างก็กำลังกดพวกเขา ช่วงก่อนหน้าถ่ายหนังตลอด ไม่ได้ออกสื่อหลายเดือน แทบจะอยู่ในสภาพกึ่งแช่แข็งแล้ว ก็ไม่แปลกที่โฮ่วฉงเลี่ยงจะไม่กลัวเกรง กล้าสร้างความลำบากให้พวกเขา

หลิงเส่าเจ๋อได้ยินดังนั้นก็แสดงท่าทีภูมิใจ เหลือบมองทางกงซวี่กับลั่วเฉินอย่างยั่วยุแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปห้องแต่งหน้าที่กองถ่ายเตรียมไว้อย่างดีราวกับเป็นดาวล้อมเดือน

พวกหลิงเส่าเจ่อเพิ่งไป กงซวี่ก็ระเบิดโดยสมบูรณ์แล้ว

“เชี่ย! ถึงกลับกล้ามาดูถูกคุณชาย! ผมจะไปถามไอ้คนแซ่โฮ่วให้ชัด!”

ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นวาบแววเย็นชา เธอคว้าแขนกงซวี่ไว้ “พอแล้ว ใจเย็นหน่อย”

เหยาเจียเหวินที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยเกลี้ยกล่อม “ยังไงตอนนี้พวกเราก็ยังต้องพึ่งคน ไม่งั้น ทนๆ เอาหน่อยเถอะ การโปรโมตนี้ลำบากกว่าจะคุยได้มา…”

กงซวี่ได้ยินก็ยิ่งโกรธ “ทน? ในพจนานุกรมของคุณชายไม่มีคำคำนี้อยู่สักนิด! หรือว่าจะให้ผมไปห้องแต่งหน้าข้างนอกเบียดเสียดกับคนพวกนั้นจริงๆ? ”

แน่นอนว่าเยี่ยหวันหวั่นทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าวันนี้กงซวี่กับลั่วเฉินไปแต่งหน้าที่ห้องแต่งหน้าสาธารณะจริงๆ ไม่รู้ว่าข้างนอกจะลือกันว่ายังไงบ้าง

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างไม่ลังเล “ไม่ได้แน่นอน”

“งั้นพี่เยี่ย ตอนนี้พวกเราจะทำยังไง” ลั่วเฉินถามอย่างกังวล

กงซวี่สบถเสียงเบา “บัดซบ!”

เวลานี้กงซวี่โกรธจัด ฝูงหมาพึ่งพาอำนาจเจ้าของ คิดว่าพ่อเขาไม่สนเขาจริงๆ เขาก็ตกอับแล้ว?

ก่อนแม่เขาใกล้ตายแม่ทิ้งหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ไว้ให้เขา แต่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเขาแต่งงานเท่านั้น ต่อให้แม่เลี้ยงเขาคนนั้นคิดอยากบีบเขาแค่ไหน พ่อเขาก็ไม่อาจกล้าทำไม่รู้จักเขาจริงๆ

“แม่มเอ๊ย! ฉุกเฉินแล้วพรุ่งนี้คุณชายจะไปแต่งงาน!” กงซวี่เอ่ยอย่างโมโห

เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “แต่งงาน นายมีไพ่ตายอะไรอีกแล้ว”

“หึ ผมมีหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทตระกูลกงอยู่ในมือนะ! แต่ต้องแต่งงานถึงจะใช้ได้! แม่ผมคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย ถึงกับต้องให้ผมแต่งงานก่อนแล้วถึงใช้ได้…” กงซวี่พูดพลางแสดงท่าทีเจ็บปวดอยากตายพลาง

เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก “นายแต่งงานทำไมฟังดูเหมือนนายทำเรื่องคอขาดบาดตายเลยล่ะ”

กงซวี่พลันเอ่ย “แต่งงานก็เหมือนกับการเข้าสุสานไม่ใช่เหรอ นอกจากได้เข้าสุสานด้วยกันกับเสี่ยวมี่เจี้ยนของผม! ต่อให้ต้องลงนรกผมก็ยินดี!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

นายตัดใจเสียเถอะ…

“เอาเป็นว่าให้ตายผมก็ไม่ไปห้องแต่งหน้าข้างนอก! ไม่ได้! ผมยังโกรธมาก! ผมต้องไปเรียกไอ้คนแซ่โฮ่วนั่นออกมา แม่มเถอะเมื่อก่อนขอร้องให้ผมขึ้นรายการของพวกเขา มาตอนนี้กลับกล้ามาชักหน้าใส่ผม”

กงซวี่พอพูดก็ชักจะระเบิดอีก เหยาเจียเหวินโน้มน้าวครึ่งค่อนวันก็ไม่เป็นผล ตรงกันข้ามกลับยิ่งรุนแรงแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่เขา จากนั้นเอ่ยปาก “พอแล้วๆ ไม่ให้นายไปแต่งหน้าข้างนอกหรอก นายกับลั่วเฉินไม่ต้องไป ไม่ต้องแต่งหน้าแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน ตอนนี้พวกนายแบบนี้ก็หล่อมากพอขึ้นรายการแล้ว”

ทันทีที่กงซวี่ได้ยิน ความโกรธที่พลุ่งพล่านก็พลันหายวับไม่มีเหลือ กลายเป็นมีดอกไม้ไฟบานปุงปังเหนือหัวแทน “จริงเหรอๆ ตอนนี้ผมหล่อมากแล้วเหรอ”

กงซวี่เมินลั่วเฉินทันที

………………………