บทที่ 1135 เข้าใจผิดพลาดไปหน่อย / บทที่ 1136 ยอดฝีมือที่แท้จริง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1135 เข้าใจผิดพลาดไปหน่อย

กงซวี่พลันดีใจ “ไป! รีบไปเลย! พี่เยี่ยเรียกนายแน่ะ!”

เป็นครั้งแรกที่กงซวี่ลิงโลดที่เยี่ยหวันหวั่นเรียกลั่วเฉินไม่ใช่ตัวเอง

ลั่วเฉินลังเลครู่หนึ่งก่อนลุกขึ้นยืน “พี่เยี่ย…ความจริงไม่มีอะไร…”

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว “ไม่มีอะไรแล้วพวกนายเห็นฉันทำไมเหมือนเห็นผีไปได้”

กงซวี่งึมงำเสียงเบา “ไม่ๆๆ พี่เยี่ยไม่ใช่พี่ พี่เป็นจงขุย[1] พี่จับผีได้เชียวละ!”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็หมดคำพูด

ลั่วเฉินอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าพูด สุดท้ายหานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ตรงข้ามก็เอ่ยปาก “เยี่ยไป๋ เรื่องเมื่อวาน นายจำไม่ได้สักนิดเลย? ”

เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “เมื่อวานทำไมเหรอ จำไม่ค่อยได้แล้ว ฉันดื่มเหล้าเสร็จก็เบลอๆ หน่อย…”

หานเซี่ยนอวี่เอ่ยอย่างจนใจ “แค่ก หลังนายดื่มเหล้าเสร็จ…นายก็นิดหน่อย…”

“นิดหน่อยอะไรเหรอ”

หานเซี่ยนอวี่เรียบเรียงคำเล็กน้อย “มุทะลุง่ายนิดหน่อย”

สุดท้ายกงซวี่ก็ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว “เชี่ย! นั่นมุทะลุนิดหน่อยเหรอ นั่นมันโหดร้ายกระหายเลือดแล้วชัดๆ! พี่เยี่ยพี่รู้ไหมว่าเมื่อวานพี่ทำอะไรกับผม”

เยี่ยหวันหวั่นลากเก้าอี้มานั่ง มือข้างหนึ่งชันคาง “ฉันจะทำอะไรกับนายได้ ฉันไม่ได้หิวแล้วกินดะขนาดนั้นมั้ง”

กงซวี่พลันพองขน “พี่เยี่ยพี่เกินไปแล้วนะแง! ผมแล้วทำไม! ผมหล่อขนาดนี้! พี่อาศัยอะไรมาหิวแล้วไม่เลือกผม อาศัยอะไร เมื่อวานพี่ยังบอกว่าผมดูดีชัดๆ ตอนนี้มาโกรธกันไม่เลือกหน้าแล้วเหรอ…”

เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจอย่างปวดหัว “หาคนปกติมาคุยกับฉันได้ไหม”

ที่มุมห้องมีเสียงเบาหวิของหยางเฟยดังขึ้นมา “ผู้อำนวยการเยี่ย เมื่อวานพอพี่เมาแล้วลงมาชั้นล่างกับพวกเรา กงซวี่ก็ดื่มมาก เลยได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณสุดๆ …”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “หลังจากนั้นละ ฉันต่อยกงซวี่เหรอ”

หยางเฟยกล่าว “พี่ไม่ได้ต่อยกงซวี่หรอก แต่พี่ต่อยรถแลนด์โรเวอร์คันนั้นของกงซวี่ยุบเป็นรูในหมัดเดียว…”

เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาปริบ จากนั้นก็เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ “ฉันต่อยรถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งเป็นรูในหมัดเดียว? ใช้หมัด? พี่หยาง พี่หยอกฉันเหรอ”

หยางเฟยอ่ย “เป็นเรื่องจริง”

เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองหานเซี่ยนอวี่ หานเซี่ยนอวี่กระแอมไอหนึ่งทีแล้วพยักหน้า “นายต่อยยุบจริง…”

“ไม่เชื่อพี่ดูภาพเอง! ผมลากรถไปซ่อมแต่เช้าแล้ว พนักงานร้านถามผมว่าทำยังไง ผมบอกว่าถูกคนใช้หมัดต่อยทำ เขาถามผมว่าฝันไปหรือเปล่า…”

กงซวี่ตึกๆ เปิดภาพหนึ่งในอัลบั้มโทรศัพท์ส่งให้เยี่ยหวันหวั่นดู บนกระโปรงรถแลนด์โรเวอร์ออฟโรดในภาพมีรูขนาดเท่ากำปั้นหนึ่งอยู่จริงๆ

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันก็คิดว่านายฝันไป…”

เยี่ยมู่ฝานเอ่ยงึมงำ “แกต่อยนั่นแหละ เมื่อวานพวกเราทุกคนเห็นกับตา ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าแกดื่มเหล้าแล้วจะเรี่ยวแรงเยอะขนาดนี้ เมื่อวานใครคนนั้นของแกที่ชื่อว่าซือจิ่วก็มาด้วย แถมยังพาบอดี้การ์ดมาหลายคน แกดื่มเหล้าแล้วก็เมาอาละวาด อัดบอดี้การ์ดพวกนั้นทุกคนจอดในหมัดเดียว ต่อมาแกก็ตามผู้ชายหยาบช้านั่นไปแล้ว ฉันไปดึงแกไว้ แกกลับยังถามว่าฉันเป็นใคร เชี่ย…”

ประเด็นของเยี่ยมู่ฝานเป็นประโยคสุดท้ายไม่ผิดแน่

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินคำกล่าวหาของทุกคน ก็ใช้น้ำเสียงเหมือนพิธีกรรายการเข้าถึงวิทยาศาสตร์เอ่ยตามหลักวิทยาศาสตร์ “ฉันว่าพวกนายน่าจะเป็นโรคประสาทแบบหมู่ เกิดภาพหลอน ฉันไม่แค่ต่อยรถมือเปล่า แต่ยังตะลุมบอนกับคน? ไม่มีทาง ฉันไม่เคยต่อสู้โอเค๊? ”

กงซวี่เอ่ย “พี่เยี่ย ผมว่าพี่อยู่จนโตขนาดนี้ แต่ความเข้าใจในตัวเอง…อาจจะผิดพลาดไปหน่อยนะ…? ”

—————————————————————

บทที่ 1136 ยอดฝีมือที่แท้จริง

เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองท่าทีแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ของทุกคนในห้องประชุมก็สงสัยแล้ว “เอ่อ ฉันชกรถมือเปล่าจริงเหรอ”

ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันยังตะลุมบอนกับบอดี้การ์ดที่แฟนฉันพามาด้วย?”

กงซวี่ส่ายหน้าแรง “เปล่าๆๆ! พี่ไม่ได้ทำ!”

เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “ฉันก็ว่าอยู่ว่าเป็นไปไม่ได้!”

กงซวี่เอ่ยต่อ “พี่ไม่ได้ตะลุมบอน พี่อัดพวกเขาฝ่ายเดียว!”

เยี่ยหวันหวั่นเงียบกริบ

สุดท้าย ภายใต้การยืนยันเป็นเสียงเดียวของทุกคน เยี่ยหวันหวั่นก็จำต้องเชื่อ ว่าพวกเรื่องเป็นเรื่องจริงแล้ว

เยี่ยมู่ฝานเอ่ยสีหน้าจริงจัง “เพราะงั้น การประชุมของพวกเราวันนี้ ข้อแรกคือ เขียนห้ามเยี่ยไป๋ดิ่มเหล้าลงในคู่มือพนักงาน!”

เยี่ยหวันหวั่นพึมพำอย่างหมดคำพูด “…ต้องโอเวอร์ขนาดนี้เลยเหรอ”

หลังเยี่ยมู่ฝานพูดจบ ก็เหลือบมองมือเยี่ยหวันหวั่นโดยไม่รู้ตัว “มือแกไม่เป็นไร?”

เยี่ยหวันหวั่นยกสองมือตัวเองขึ้นมาดู “ไม่เป็นไรนะ! สบายดี!”

กงซวี่จ้องมือเยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกาย ยื่นอุ้งมือไปสัมผัสอย่างตื่นเต้น “พี่เยี่ย พี่สุดยอดไปแล้ว พี่เป็นกำลังภายในหรือเปล่าเนี่ย! รู้งี้ผมเรียนกับพี่ไปแล้ว ยังต้องเข้าร่วมการฝึกพิเศษอะไรอีก!”

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่เขา “ไปเลยไป นายได้แค่เรียนต่อยตีกับฉันเท่านั้นแหละ จะมีประโยชน์อะไร”

กงซวี่เอ่ย “ไอ้หยา เรียนต่อยตีก็ดีเหมือนกัน!”

เยี่ยมู่ฝานปัดมือเกเรของกงซวี่ออก ขยับเข้าใกล้มือของเยี่ยหวันหวั่นดูอยู่นาน ยืนยันว่าไม่เป็นไรจริงๆ จึงค่อยวางใจลง แต่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย

เยี่ยมู่ฝานนึกย้อนสิ่งที่เรียนมาเมื่อก่อนเล็กน้อยแล้วเอ่ยปาก “การต่อสู้กับวิทยายุทธ์แบ่งเป็นกำลังภายนอกและกำลังภายใน พลังปราณที่ใช้ก็แบ่งเป็นปราณนอกกับปราณใน ทำรถจนเป็นแบบนั้นได้ แต่ร่างกายกลับไร้บาดแผล งั้นต้องใช้กำลังภายในแน่นอน  กำลังภายในคือการฝึกพลังในร่างกาย เป็นขั้นตอนที่ต้องสั่งสมประสบการณ์เต็มเปี่ยม ไม่สามารถทำสำเร็จได้ในค่ำคืนเดียว นี่แกโอเวอร์ไปหน่อยมั้ง…”

เมื่อก่อนเพื่อให้เยี่ยหวันหวั่นเรียนความสามารถป้องกันตัว พ่อแม่จึงเชิญโค้ชและอาจารย์ชื่อดังมา แต่เธอวันๆ สามวันเรียนสองวันหยุด จะฝึกถึงขั้นนี้ได้ยังไง

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพึมพำ “ถึงในสายตาคนธรรมดาจะเหมือนแหกกฎสวรรค์ แต่พรสวรรค์บวกกับพละกำลังมากหน่อย ก็ไม่น่าแปลกอะไรมั้ง กว่าครึ่งปีมานี้ฉันฝึกฝนหนักตลอดนี่นา อีกอย่าง ฉันนับเป็นอะไรได้ ยังห่างไกลโขอยู่เลย! ยอดฝีมือที่แท้จริง นั่นไม่ใช่กำลังภายนอก กำลังภายใน นั่นเขาเรียกว่าการสะเทินแรง!”

ผู้ชายคงค่อนข้างสนใจของพวกนี้ กงซวี่พอได้ยินก็ซักถามอย่างใคร่รู้ “พี่เยี่ยๆ การสะเทินแรงคืออะไรเหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นคิดเล็กน้อย “อืม พูดง่ายๆ คือขั้นสูงสุดของกำลังภายในละมั้ง ยอดฝีมือที่แท้จริงสามารถใช้ร่างกายและพละกำลังได้ในระดับสมบูรณ์แบบ”

พวกนี้เป็นเรื่องที่เธอเคยพูดคุยกับอาจารย์มู่เมื่อก่อน

เยี่ยหวันหวั่นพูดพลาง อดนึกอยากไปรัฐอิสระ สถานที่ที่ว่ากันว่ามียอดฝีมือเดินเต็มท้องถนนนั้นอีกไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ไปแล้ว

ทั้งกลุ่มคุยนอกประเด็นกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็กลับมาประเด็นหลักอย่างรวดเร็ว คือการกำหนดขั้นตอนการโฆษณาช่วงนี้

หลังจบการประชุม เยี่ยหวันหวั่นก็พากงซวี่ ลั่วเฉิน รวมถึงเหยาเจียเหวินไปเดินสายโปรโมตด้วยกันอย่างไม่มัวเสียเวลา

การโปรโมตแรกคือรายการหนึ่งของดาวเทียมเมืองหลวง ซึ่งลั่วเฉินกับกงซวี่เข้าร่วมในฐานะแขกรับเชิญพิเศษพร้อมกัน

——————————