1872-2 vs 1872-3 vs 1873-1 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1872-2

เวลานั้น ไม่รู้ว่าทำไมภาพของยัยนั่นที่นอนบนโซฟาถึงลอยอยู่ในหัวของเขา เธอไม่ได้เช็ดผม เพราะเขาไม่ให้เธอลุกขึ้นมาเป่าผมให้แห้ง เธอถึงได้เป็นหวัดใช่ไหม?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินมั่วหน้านิ่วเข้าไปใหญ่ แต่ยัยเสือน้อยกลับไม่รู้ตัว ยังพูดต่อไป “มั่วมั่ว เธอจะนอนใช่ไหม? งั้นวันนี้ฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยวหายแล้วจะมาหาเธอ” พูดจบ ป๋อจิ่วกะจะเอาคีย์บอร์ดกลับด้วยวิธีเดิม ไม่คิดว่าพอเธอกำลังจะย่างเท้า หางเสือด้านหลังก็ถูกกระตุก เมื่อหันไปมองก็เห็นสีหน้าที่เย็นชาของเจ้าชาย

“มั่วมั่ว?” เวลาที่ป๋อจิ่วไม่เข้า ตาจะโตเป็นพิเศษ หูเสือพลอยตั้งชัน

ฉินมั่วพูดเสียงเข้ม “ป๋อเสียวจิ่ว เธอโง่หรือไง?”

ป๋อจิ่วได้ยินแล้วรู้สึกว่าตัวเองจะต้องอธิบายสักนิด แต่ฉินมั่วไม่ให้โอกาสเธอ ออกแรงที่มือ แล้วจึงกอดรัดยัยคนที่มีขนาดเท่ากับตัวเองไว้

ป๋อจิ่วยังงงๆ แต่เมื่อโดนกอดก็ไม่สนใจเรื่องที่เจ้าหญิงว่าเธอโง่อีกต่อไป หน้าเล็กๆ ยิ้มอย่างเบิกบาน ทว่าฉินมั่วกลับตีหน้ายักษ์ใส่ “เป็นหวัดแล้ว ยังจะวิ่งวุ่นวายอีก”

“วันนี้ไม่ได้วิ่งวุ่นวายสักหน่อย ฉันตื่นมาก็รู้สึกไม่สบายเลยกลับบ้านก่อน ไม่งั้นก็กินข้าวเช้าเป็นเพื่อนเธอแล้ว” ป๋อจิ่วพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ ว่าแล้วก็ไออีกอย่างกลั้นไม่อยู่

ฉินมั่วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ยื่นมือไปต่อสายถึงข้างล่าง โดยคนรับสายคือพ่อบ้านที่อยู่ชั้นล่าง เขากำลังแปลกใจที่มีสายภายในดังขึ้นทั้งที่ดึกขนาดนี้ “คุณชาย?”

“ช่วยเอากล่องยาขึ้นมาที” ฉินมั่วออกคำสั่งที มักทำให้ผู้คนลืมอายุที่แท้จริงของเขาในเวลานี้

คุณพ่อบ้านผมทองได้ยินแล้ว เลิกคิ้วขึ้น “คุณชายเป็นอะไรหรือครับ?”

คุณชายน้อยโปรดอย่าได้เป็นอะไรเลยนะครับ ท่านประธานอานรักคุณชายน้อยคนนี้มากจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร เพิ่งจะมาถึงที่นี่เอง หากเกิดเรื่องขึ้น ท่านต้องรับพากลับประเทศจีนแน่

ฉินมั่วพอจะเดาจากน้ำเสียงออกว่า คุณพ่อบ้านคิดอะไรอยู่ “ไม่ใช่ฉันหรอก เอากล่องยาขึ้นมา แล้วอย่าบอกคุณตาล่ะ อีกอย่าง ขอน้ำอุ่นมากระติกหนึ่งด้วย”

น้ำร้อน? คนต่างชาติที่แสนน่ารักไม่เข้าใจว่าทำไมคนจีนถึงต้องดื่มน้ำอุ่นเวลาที่ป่วย ที่ประเทศจีน เวลาเป็นหวัด เราต้องดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ เวลาปวดกระเพาะก็ต้องดื่มน้ำอุ่น เวลาที่ป้าใหญ่มาเยือนก็ต้องดื่มน้ำอุ่นเหมือนกัน

ถึงแม้คุณพ่อบ้านจะได้ใกล้ชิดคุณชายน้อยแค่สองวัน แต่พอจะเข้าใจนิสัยอีกฝ่าย แถมด้วยท่านประธานอานเคยลั่นคำพูดไว้ ไม่ว่าเจ้านายตัวน้อยร้องขออะไรก็ขอให้ทำตาม ดังนั้นแม้ว่าคุณพ่อบ้านจะกังวลใจแค่ไหน ก็ไม่ได้รบกวนท่านประธาน เพราะท่านกำลังประชุมเรื่องธุรกิจอยู่

ทว่าเมื่อคุณพ่อบ้านเอากล่องยาขึ้นข้างบน กลับนึกขึ้นได้ว่าคุณชายบอกว่าไม่ใช่ตัวเอง แล้วจะเป็นใครได้?

 ……………………………………..

ตอนที่ 1872-3

เมื่อเปิดประตูออก ปัญหานี้ก็ได้รับคำตอบ เพราะไม่รู้ว่ายัยเสือน้อยที่มาอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไร กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้อง เจ้าหล่อนสวมผ้าปิดปากพลางกอดคีย์บอร์ดทำหน้าสำนึกผิดอยู่ต่อหน้าคุณชาย ไม่รู้ว่าไปทำอะไรผิดมา แต่พอเห็นเขา นัยน์ตาใสก็สว่างไสว “ไฮ เราเจอกันอีกแล้ว”

พูดตรงๆ คุณพ่อบ้านหนุ่มก็งงเหมือนกัน เส้นผมสีทองชี้ขึ้น นี่มันอะไรกัน? ทำไมยัยหนูข้างบ้านถึงได้มาอยู่ที่นี่ เมื่อกี้เขาเพิ่งเอาของไปให้ เธอก็ยังอยู่ในบ้านตัวเองนี่นา ยิ่งเขาเก็บข้าวของอยู่ที่ชั้นล่างตลอดเวลา นอกจากจะส่งแขกกลับ ก็ไม่เห็นมีใครเข้ามาอีก ยิ่งไม่เห็นยัยเสือน้อยด้วย แล้วทำไมอยู่ๆ เจ้าหล่อนถึงมาอยู่ในห้องของคุณชายได้ล่ะ?

คุณพ่อบ้านหนุ่มแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าจนหมด ในที่สุดก็เห็นคนที่แสดงอารมณ์ออกมาได้สักที ป๋อจิ่วกระโดดลงมาจากโซฟา ทำท่าจะเล่าให้อีกฝ่ายฟังมาตนเองมาได้อย่างไร

“ป๋อเสียวจิ่ว” คำเรียกสั้นๆ นั่นทำให้ยัยเสือน้อยไม่กล้าซ่าอีก ฉินมั่วเรียกเธอเสร็จก็หันมองคุณพ่อบ้านหนุ่มที่ยืนข้างประตูแวบหนึ่ง

ไม่รู้ว่าทำไมคุณพ่อบ้านถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเมื่อโดนคุณชายมองเช่นนั้น

ไม่ ไม่สิ มันมีความหมายมากกว่านั้น เหมือนจะบอกว่า คุณมาอยู่ที่นี่ทำอะไร พอคุณมานะ ยัยนี่ก็ไม่เรียบร้อยอีก

คุณพ่อบ้านหนุ่มพูดในใจ เขาเข้าใจที่คนจีนพูดแล้วว่า ‘ต่อให้นอนราบก็ยังโดนยิง’ น่ะมีความหมายว่ายังไง

ฉินมั่วรู้สึกว่าการปรากฏตัวของคุณพ่อบ้านส่งผลต่อยัยเสือน้อย คอเจ็บขนาดนั้น แถมยังไอไม่หยุด แต่ยังซ่าอยากจะพูดอีก

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินมั่วสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกล่องยาจากมือคุณพ่อบ้านหนุ่ม แล้วดึงเอาปรอทวัดไข้ออกมา เดินไปหยุดตรงหน้าใครบางคน “ผ้าปิดปาก”

ป๋อจิ่วเห็นแล้ว รู้ทันทีว่าเจ้าหญิงน้อยจะวัดอุณหภูมิให้เธอ จึงถอดผ้าปิดปากออกอย่างให้ความร่วมมือ จากนั้นจึงอ้าปากงับปรอทวัดไข้

คุณพ่อบ้านจึงเข้าใจทันที ที่แท้คุณชายก็เอากล่องยามาใช้กับคุณหนูจิ่วนั่นเอง แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาอยากรู้เหลือเกินว่า คุณหนูจิ่วเข้ามาได้ยังไง? แต่นั่นแหละ หน้าที่ของเขามีแค่ส่งกล่องยาและน้ำร้อนเท่านั้น เพราะคุณชายส่งสายตามองให้เขาเดินออกไปเอง แม้จะเป็นคนละเชื้อชาติ ใช้คนละภาษา แต่เรื่องความหมายซ่อนเร้นในสายตาแบบนี้ เข้าใจได้แบบไม่ขึ้นกับเชื้อชาติแน่นอน

เมื่อเห็นประตูปิดเรียบร้อยแล้ว ป๋อจิ่วตัวน้อยก็เสียดายนิดหน่อย ยังไม่ได้อวดวีรกรรมเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปีนกำแพงสูงขนาดนี้ ยิ่งเธออยากถามอีกฝ่ายว่าเจ้าหญิงน้อยชอบอะไรอยู่ด้วย แต่เห็นทีเธอคงต้องหาโอกาสไปถามคุณตาอานเสียแล้ว

พอต้องงับปรอทวัดไข้ เธอย่อมพูดไม่ได้ นอกจากมองดูเจ้าหญิงน้อยที่เลือกยาให้เธออยู่ ป๋อจิ่วมองเอาๆ แล้วกะพริบตา เจ้าหญิงน้อยอดทนกับเธอจริงๆ ดูจากสีหน้าก็รู้ แต่เธอรู้สึกอบอุ่นจัง คนอื่นไม่เห็นจะดีกับเธอขนาดนี้ ขนาดเธอเป็นหวัดอยู่ เขาก็ไม่กลัวติดหวัดจากเธอ แถมยังหายาให้เธอกินด้วย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ มุมปากของเธอก็แยกยิ้ม จากนั้นกระโดดลงมาจากโซฟาเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังฉินมั่ว หางเสือส่ายไม่หยุด

ฉินมั่วหยิบยาแก้หวัดออกมา หันไปมองยัยคนที่ยิ้มสดใส ตอนนั้นเขาคิดว่า เด็กคนนั้นยิ้มเป็นอย่างเดียวหรือไง? จนเกิดความรู้สึกแบบเด็กๆ ขึ้น

น่าอิจฉาจริงๆ พ่อแม่เธอคงดีต่อเธอมาก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉินมั่วพลันหยุดชะงัก เพราะเขาคิดว่าตัวเองคิดผิด เมื่อตอนเช้าที่ตื่นขึ้น เขายังเห็นว่าแสงไฟในบ้านเธอยังไม่สว่างเลย จึงรู้ว่าเธอก็เหมือนกับเขานั่นแหละที่พ่อแม่งานยุ่งมาก ฉินมั่วเก็บความรู้สึก ยื่นมือออกไปข้างหนึ่งพลางเอ่ยเสียงเรียบอย่างรำคาญอีกฝ่าย “อ้าปาก”

…………………………………………………………….

  ตอนที่ 1873-1 จะนอนด้วยกันอีกแล้วนะ

 “อ้า…” ดูสิ ยัยเสือน้อยของพวกเราว่าง่ายจะตาย อ้าปากเห็นเขี้ยวเพื่อที่อีกฝ่ายจะได้เอาปรอทวัดไข้ออกมา เจ้าหล่อนนุ่มนิ่มไปทั้งตัว และในระหว่างที่กำลังอ้าปาก ดวงตารูปอัลมอนด์ยังคงจ้องฉินมั่วเหมือนกับมีเรื่องจะพูดด้วย

ฉินมั่วส่งสายตาให้เธอ แววตานั่นช่างเย็นชาเหมือนจะพูดว่า ลองพูดออกมาสิ!

ยัยเสือน้อยถึงได้รู้สึกตัวว่าผิดปกติ เจ้าหญิงน้อยเหมือนจะไม่ชอบใจเธอ เธอเศร้านะ

ฝ่ายฉินมั่วไม่สนอะไรอีก หยิบเอาปรอทออกมาดูแวบหนึ่ง “อุณหภูมิปกติ”

ป๋อจิ่วได้ยินแล้วพยักหน้า “ไม่มีไข้แล้ว แม่ให้ฉันกินยาตั้งแต่เช้า”

ฉินมั่วได้ยินเสียงแหบแห้งของอีกฝ่ายแถมพูดจบแล้วยังไอออกมาอีก คงเพราะไอแรงมาก กระทั่งไหล่ยังพลอยสั่น ไม่มีไข้แล้วก็เท่ากับไม่ป่วยงั้นสิ? ฉินมั่วคร้านจะพูดกับยัยงั่งอีก เปิดกระเป๋ายาเอายาอมมายื่นตรงปากอีกฝ่าย

“โอ้โห!” ป๋อจิ่วไม่ปฏิเสธคนป้อน ต่อให้ยาจะขมก็เถอะ แต่ยานี้เจ้าหญิงน้อยเป็นคนให้เองเชียว ทว่าหลังจากที่ป้อนเสร็จ ฉินมั่วก็ขมวดคิ้วมุ่นแล้ววางยาลงในมือเธอ “กินเองนะ”

เขาคงโดนผีเข้า ทำไมถึงได้ป้อนยาให้กับมือตัวเอง เมื่อครุ่นคิดถึงเหตุผล น่าจะเพราะยัยเสือน้อยยั่วให้โกรธจนเสียสติ

หลังจากที่ถอนใจยาว ฉินมั่วกลับสู่สภาพเจ้าชายน้อยสูงศักดิ์เหมือนเดิม เขาเดินไปดึงหน้าต่างปิด แถมล็อกสองชั้นด้วย

ป๋อจิ่วแบมือจับยาเล่นพลางมองดูด้านข้าง ตอนที่ส่ายหางไปมาก็รู้สึกว่าเจ้าหญิงน้อยไม่ได้อยากแค่ล็อกหน้า แต่อยากโยนเธอออกไปเสียมากกว่า

หากเป็นไปได้ ฉินมั่วก็อยากทำอย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าทำไมถึงอนุญาตให้เธอลงมาอยู่ในห้องด้วยกัน แถมยังบอกให้คุณพ่อบ้านเอากล่องยาขึ้นข้างบนเพื่อป้อนยาให้กับมือด้วย หากเรื่องแบบนี้รู้เข้าถึงหูคุณตาก็ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นอย่างไร

นัยน์ตาฉินมั่วกระตุก หันร่างไปก็เห็นยัยเสือน้อยหักยา ก่อนจะกินห้าเม็ดในทีเดียว

ห้าเม็ดเลยเหรอ?

ฉินมั่วจับมือเธอ “ป๋อ เสียว จิ่ว”

“หือ?” ป๋อจิ่วตาโตมองเขาราวกับเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันที “มั่วมั่ว ทำไมเธอถึงเอาแต่ถอนหายใจล่ะ ตั้งแต่ฉันเข้ามาแล้วนะ เธอก็เอาแต่ถอนหายใจ เหนื่อยแล้วเหรอ? ยังจะมีเรื่องอะไรอีก ฉันจะบอกให้นะ คนเราน่ะต้องมีความสุขเข้าไว้ อย่างอื่นไม่สำคัญ ขอลูบหัวหน่อย”

ทำไมเขาต้องถอนหายใจ? ฉินมั่วมองดูมือน้อยๆ ที่ลูบไปมาบนหัวตัวเอง เขาบอกตัวเองว่า อย่ามีเรื่องกับคนป่วย เห็นทียัยนี่โง่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว ฉินมั่วมองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก “ลูบพอหรือยัง?”

ป๋อจิ่วส่ายหน้า “ไม่ มั่วมั่ว ผมเธอนุ้มนุ่ม ไม่เหมือนของฉันเลย แข็งทื่อจนแทงมือจะแย่อยู่แล้ว”

ฉินมั่วส่งเสียงหยันขึ้นจมูก “กินยาซะ แล้วกลับบ้านเธอ อีกอย่าง ห้ามปีนกำแพงมาอีกนะ”

 ……………………………………….