” หุ้นสกุลถังใน หอชนชั้นสูง นั้นคือของข้า มันคือเงินส่วนตัวของถังหยวน !  สกุลถังมิได้มีส่วนอันใด  ข้าไม่มีความเห็นเกี่ยวกับความปรารถนาของท่านในการ ถวายสุรานี้แก่องค์จักรพรรดิ  อย่างไรก็ตาม ข้ามิอาจสูญเสียสุราหนึ่งร้อยโถที่เป็นของข้าได้  ดังนั้น องค์ชายสามสามารถซื้อมันในราคาเริ่มต้นหากพระองค์ปรารถนาอย่างแท้จริง  แต่กระนั้น ข้าไม่วิพากษ์ว่าพระองค์มีแผนที่จะรับสองร้อยโถนี้เอาไว้   “

ถังหยวนทวนซ้ำประโยคนี้ออกจากใจ

 

น้ำเสียงและสีหน้าขององค์ชายสามดุร้าย แต่ถังหยวนมิได้สนใจเขาตั้งแต่แรกแล้ว  เจ้าอ้วน ไม่ตะโกนกลับไป แม้ว่าองค์ชายจะทำตัวต้อยต่ำโดยพยายามข่มขู่ผู้อื่น  ในความจริง ถังหยวนเกือบจะระเบิดออกมา หากเขามิได้รับคำแนะนำจาก เสียงของนายน้อยจวิน !

 

สำหรับสิ่งที่เจ้าอ้วนเพิ่งจะพูดไปนั้น คือการที่ จวินโม่เซี่ยใช้เคล็ดวิชาลับเพื่อส่งข้อความไปสู่หูของถังหยวน  เจ้าอ้วนถังได้ฟังคำเหล่านี้ และทวนมันอย่างช้าๆ

 

อย่างไรก็ตาม องค์ชายสามต้องการจะจ่ายสำหรับร้อยโถนี้ในราคาเริ่มต้นจริงๆหรือ ?  ราคาเริ่มต้นของสุราหนึ่งร้อยโถนี้ ประมาณสามล้านตำลึงเงิน และองค์ชายสามก็มิได้มีเงินชนิดนั้นสำรองไว้  เจ้าอ้วนนี่เป็นคนที่ฟุ่มเฟือย แต่กระนั้น เขาก็มีสกุลถังอยู่เบื้องหลัง  ปู่ของเขา และพ่อขององค์ชายนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน  ดังนั้น องค์ชายสามจึงมิอาจรับเอาสุราหนึ่งร้อยโถนั้นมาได้โดยการโกง หากเจ้าอ้วนเอาจริง  ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจปล่อยไป แม้ว่าราคาจะไม่น้อย  องค์ชายมิต้องการจะสร้างปัญหากับถังหยวน แม้ว่าเจ้าอ้วนจะมิได้ใยดีกับเขา

 

องค์ชายสามครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ชั่วครู่ และจากนั้นจึงหัวเราะลั่นในทันที  เขาเอ่ย

” เอาละ !  องค์ชายผู้นี้จะรับเอาสารุชั้นเลิศสองร้อยโถที่เหลือขึ้นราชรถ หากนายประมูลถังไม่คัดค้าน  เป็นสิ่งสำคัญที่องค์ชายผู้นี้ต้องถวายท่านพ่อด้วยของขวัญชิ้นใหญ่  และข้าจะมอบความดีความชอบให้แก่ หอชนชั้นสูง เป็นการตอบแทน ! “

 

” การสำบัดสำนวนของเจ้าจบสิ้นแล้วหรือยัง พระองค์สาม ? “

น้ำเสียงขี้เกียจดังขึ้นจากชั้นบน   ทุกผู้หันขึ้นไปเห็นเพียงแต่ นายน้อยจวิน ในชุดคลุม  ใบหน้าอันงดงามของเขาตรงข้ามกับโทสะที่เข้ามา  เขาก้าวยาวหนึ่งก้าวไปยังบันได  ขาของเขาเกือบตั้งตรง ขณะที่มองลงมาและคำรามทางจมูกใส่ องค์ชายสาม

 

” เจ้าหมายความว่าอย่างไรนายน้อยจวิน ?  ข้าจะเสแสร้งได้อย่างไร ? “

องค์ชายสามสีหน้ามืดมน

 

” ข้าหมายความอย่างไรกระนั้น ?  ข้าคิดว่าข้าควรบอกองค์ชายสามว่า การกระทำของเจ้าไม่เป็นที่รื่นรมย์ที่นี่ “

 

จวินโม่เซี่ยยิ้มเจ้าเล่ห์

” เจ้าอ้วนถังเป็นเพียง นายหน้าประมูลแห่ง หอชนชั้นสูง  เด็กผู้นี้คือนายใหญ่ตัวจริงแห่ง หอชนชั้นสูง !  ยิ่งไปกว่านั้น นายน้อยผู้นี้ก็เป็นเจ้าของ สุราร้อยโถในสองร้อยที่ยังเหลือนั้น !  ทั้งหมดที่ผู้นี้เห็นคือ คนที่กำลังจะเอาส่วนแบ่งของข้าไปโดยไม่จ่ายเงินซื้อ   เจ้าต้องการจะเอาสิ่งนี้ไปกระนั้นหรือ ?  ดีละ  อย่างไรก็ตาม ข้า พ่อเจ้าต้องการราคาที่สูงที่สุดในการประมูลที่ผ่านมา  ข้าคิดว่ามันจำเป็น หากหลานชายกล้าขโมยข้าวของของปู่ไป ! “

 

จวินโม่เซี่ยชั่วร้าย และมากฝีมือ เขาเปลี่ยนสรรพนามของตัวเองไปประมาณห้าครั้ง  เปลี่ยนจากเด็กชาย ไปยัง นายน้อย ไปเป็น คนผู้นี้ ไปเป็นพ่อ ก่อนที่จะจบลงที่คำว่าปู่

 

น่าประหลาดใจ เขาไม่คาราวะต่อบุตรแห่งองค์จักรพรรดิเลยแม้แต่น้อย

 

” เจ้าเด็กนี่บ้า ! “

ตู่กู้วูตี้ มีชีวิตชีวาขึ้น ขณะเขาอุทานกับลูกสาว

” นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับข้า  แต่เจ้าเด็กผู้นี้กล้าหาญจริงหรือ ?  แม่เจ้าเอ้ย !  คำพูดของเขาทำให้ข้าสุขใจ !  นานมาแล้ว ตั้งแต่ข้าได้พบเห็นบางสิ่งที่หาได้ยากเช่นนี้ !  เขานั้นคู่ควรที่จะเป็นลูกชายของ พี่ใหญ่จวิน อย่างแท้จริง !  พ่อของเขาเป็นวีรบุรุษ แต่เจ้าเด็กนี้ก็มีความกล้าเช่นเดียวกัน ! “

 

ตู่กู้วูตี้ ประทับใจ

จวินโม่เซี่ยอาจไม่เข้าใจในตอนนี้  ดูคล้ายกับว่าสมองของเขามิได้กลั่นกรองคำพูด  อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ต้องการความกล้าหาญอย่างมาก !  เขากำลังยืนหยัดเพื่อความแข็งแกร่งของสกุล  ลูกชายของข้าไม่กล้าที่จะเอ่ยเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะโดนโบนจนตาย  แต่จวินโม่เซี่ยนั้นสามารถ !  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้พิสูจน์ได้ว่า เขานั้นเกินกว่า ลูกชายและหลานของเขา ไม่ว่าเขาจะมีสมองจริงๆหรือไม่ !

 

เจ้าเด็กนี่ต้องเมาแน่ๆ  แต่กระนั้น เขาสามารถพูดได้สมเหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ?

 

หากไม่สนถึงความจริงว่าเขาคือเด็ก แม้แต่ยอดขุนพลก็มิอาจพูดเช่นนี้ ในกริยาเช่นนี้ได้ !

 

” ท่านพ่อ เจ้าพูดโดยไม่สาปแช่งผู้อื่นมิได้เลยกระนั้น ?  เจ้าสามารถพูดให้สุภาพมิได้สักเล็กน้อยเลยหรือ ?  อย่างน้อยก็ดูเหมือนชนชั้นสูงสักนิด ! “

 

ตู่กู้เซี่ยวอี้ คำรามทางจมูก ขณะที่นางคัดค้านถ้อยคำหยายคายของพ่อนาง  นางรู้สึกว่า ความต่ำช้าของเขานั้นมาเกินเกินไปในสถานที่นี้  จากนั้น นางจึงกางนิ้วออกและพูดต่อด้วยท่าทางอับอาย

” ท่านพ่อ ข้าข้าชอบมองพี่โม่เซี่ยเล่นเป็นอันธพาลจริงๆ  และเขานั้นช่างดูหล่อเหลา !  แม้แต่กริยาของเขาก็สง่างามยิ่งนัก  ความใจกว้างที่ไม่ถูกเอ่ยถึงในตำนาน และตำนานก็มิอาจเอาชนะความกล้าหาญของเขาได้ “

 

” … อะไรนะ ? … “

 

ยอดขุนพลตู่กู้วูตี้ตะลึงงัน

ไม่มีความเป็นธรรเลยกระนั้น ?  ข้าใช้คำพูดดูหมิ่น และข้าขุ่นเคือง  แต่ ตอนนี้เจ้าหนุ่มนั่น ทำตัวอันธพาลไร้ยางอาย ข้าสง่างามและหล่อเหลา ?! ความใจกว้างเช่นไรกันที่เขาแสดงให้นางหลงไหล ?

 

แม้นว่าเขาจะมิได้อ่านหนังสือมากนัก เขาก็พอจะรู้ว่าอะไรคือความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดเหล่านั้น

 

อะไรกัน ?  แม้แต่คนรักของ กวีปันยู่ก็มิอาจอธิบายถึงท่าทางชั่วร้ายเช่นนี้ได้ !  นางปฏิบัติกับพวกเราได้แตกต่างกระนั้นเลยหรือ ?  นางคงมิได้ชื่นชอบเขามากมายเช่นนั้นหรอกกระมั้ง ?

 

” เจ้าหมายความว่าอย่างไรนายน้อยจวิน ?  เจ้าไม่เห็นด้วยที่จะถวายของขวัญเหล่านี้แก่ท่านพ่อข้า องค์จักรพรรดิกระนั้นหรือ ?  องค์จักรพรรดิอุทิศทั้งตัวและหัวใจเพื่อกิจการบ้านเมือง  ท่านพ่อข้านั้นไม่คู่ควรในสายตาของ นายน้อยจวิน กระนั้น ?  ไม่ แม้แต่เจ้าจะมอบสุราของเข้าให้แก่พระองค์เลยกระนั้น ?  หืม ? “

 

องค์ชายสามมองจวินโม่เซี่ยเยือกเย็น  แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมองจวินโม่เซี่ยอย่างสุภาพ  อย่างไรก็ตาม เขาก็เห็นเพียงแต่ความชั่วร้ายในดวงตาของมือสังหาร

 

” มันไม่สำคัญกับข้า !  ข้าทำกิจการที่นี่  และที่นี่ ก็มิได้มีชื่อว่าหอเมตตา !  ไม่มีผู้ใดสามารถเข้ามาที่นี่และกลั่นแกล้งพวกเราได้ ! “

 

ประกายแสงชั่วร้ายสะท้อนออกจากดวงตาของมือสังหารจวิน ขณะที่คำรามทางจมูกทีท่าเยือกเย็น

” ข้าจะต้องถามถึงประสงค์องค์ชายสาม  เมื่อเจ้าอ้วนถังบอกว่าเขาไม่มอบส่วนของเขาให้เจ้า และเจ้าจะต้องซื้อมัน เจ้ากลับนิ่งเฉย แต่กระนั้น สุราชั้นดีในส่วนของนายน้อยผู้นี้ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเอามันไปได้ตามประสงค์กระนั้นหรือ ?  ข้าไม่รู้ว่า องค์ชายสาม มองข้าในฐานะของผู้ที่สามารถกลั่นแกล้งได้อย่างสนุกสนาน !  บางทีเขาอาจจะมองว่าสามารถกลั่นแกล้งสกุลของข้าได้อย่างง่ายดาย ?  ข้าเชื่อว่าทุกผู้ในที่นี้ สามารถมองทะลุความไร้สาระที่เจ้าเสแสร้ง ถูกผิด ยุติธรรมและอยุติธรรม และ ความประสงค์ของประชาชน … องค์ชายสาม พระองค์ … นายน้อยจะต้องถามในเรื่องนี้ ! “

 

น้ำเสียงของถังหยวนเต็มไปด้วยความชอบธรรม ขณะเงยหน้า

” สกุลจวินของข้า ชอบทำลายมากกว่ายินยอม !  พวกเราได้ประสบกับหายนะมากมาย และยังคงไม่ยอมแพ้ !  วันนี้ องค์ชายสาม ดูถูกสกุลจวินของข้าต่อหน้าผู้คนมากมาย !  เขาดูหมิ่นโดยไร้เหตุผล และทุกผู้รู้เห็นเป็นพยาน !  ข้าจักระงับอารมณ์ได้อย่างไรภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ? “

 

น้ำเสียงของจวินโม่เซี่ยโศกเศร้าและขุนเคืองขณะเขาพูดต่อ

” ข้ารู้สึกเสียใจกับสกุลจวินของข้าที่ต้องเสียสละมากมายสำหรับเมืองนี้   ปู่ของข้าต่อสู้รับใช้นครอย่างกล้าหาญมาทั้งชีวิต !  พี่และน้าสองของเขาถวายชีวิตเพื่อ อาณาจักร แม้นว่าเขาจะไม่มีชีวิตอยู่อีกแต่ไปแล้ว !  น้าสามของข้าต้องพิการในการสังหารหมู่นั้น !  พี่ทั้งสองของข้ายังเสียสละไปมากมาย และต้องจากไปก่อนเวลาอันควร !  ทั้งสกุลของข้าอาบไปด้วยเลือดด้วยมุ่งมั่นปกป้องอาณาจักรนี้ด้วยชีวิต  พวกเขาใช้ทั้งชีวิตบนหลังม้า  พวกเขามอบทุกสิ่ง กระทั่งชีวิตของพวกเขา !  ตอนนี้ สกุลจวินเสื่อมถอยและโดดเดี่ยว  แต่กระนั้น เจ้ายังมาสร้างความอัปยศอย่างโจ่งแจ้งแก่พวกเราอีกกระนั้น ?!  เหตุใดสวรรค์ไม่ยุติธรรม ?

 

ข้าขอบังอาจถามองค์ชาย มีเหตุผลอันใดเบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ?  เจ้ากำลังหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ของพวกเรากระนั้น ?  หรือเจ้ามีเราเป็นเป้าอย่างลับๆ ?  พระองค์สาม ทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์จะไม่แยแสและผิดหวังเมื่อเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร ?  เจ้ากระทำใจแคบ และทำให้ทั้งสกุลทางทหารของข้าต้องอับอายเพราะสุราเพียงไม่กี่โถ !  ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังใช้พ่อบังหน้า และใช้ตำแหน่งอันทรงอำนาจของเจ้าเพื่อกดขี่ผู้อื่นตามพอใจ  เจ้า !  เจ้า !  เจ้า !  เจ้า ! …  เจ้าพยายามจะทำสิ่งใด ?!  สกุลจวินจักต้องทำสิ่งใดเพื่อให้เหมาะสมกับเรื่องนี้ ?! “

 

นายน้อยจวิน ได้เพิ่มรสชาติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงไป ในกระทะ ชัดเจนว่าเขาผสมรวมทั้งเรื่องการเมือง และอารมณ์ลงในเรื่องนี้  เขาสามารถบิดเบือนสถานการณ์นี้ได้อย่างฉลาดล้ำ และจากนั้นเอากระทะตีหัวองค์ชาย  องค์ชายสามไม่เคยประสบกับคู่ต่อสู้เช่นนี้  เขาเหนื่อยหอบขณะที่สีหน้าของเขาแดงคล้ำ  ตระหนักได้ว่าการตอบโต้ของเขานั้นผิดแปลก  ด้วยเหตุนี้ จึงไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดไปชั่วขณะ

 

” สกุลจวินของข้า … ถูกกล่าวหาผิดๆ “

น้ำเสียงของนายน้อยจวินรุนแรงราวกับกระอักด้วยอารมณ์  เขาจับราวประคองตัวเองด้วยตัวสั่น  จากนั้น เขามองขึ้นมาพร้อมถอนหายใจยาว  ใบหน้าราวกับดอกบัวงดงามที่โดนทิ้งไป  ท้ายที่สุด เขาพยุงตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง …

 

ผู้ที่ได้ยินความอ้างว้างในน้ำเสียงของเขา … ไม่ช้านานพวกเขาเศร้าใจ  ราวกับ หิมะในเหมันตฤดู ร่วงโรงลงมาในยาวค่ำคืนแห่งคิมหันตฤดู ความอยุติธรรมมิอาจเกิดขึ้นได้

 

องค์ชายสามปราชัยเขาเกือบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ

 

ทุกคนตะลึงงัน

 

ทั้งหมด เพ่งมองไปยังจวินโม่เซี่ย

เขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร ?  เขาเพิ่งจะวิจารณ์องค์ชายสามอย่างโจ่งแจ้ง ในลักษณะที่น่ากลัวเช่นนี้ !

พวกเขาได้เห็นว่าองค์ชายสามบิดเบือนความจริง และกระทำการอย่างชั่วร้ายก่อนหน้านี้  และพวกเขาคิดว่าเขานั้นเวลาร้าย  แต่กระนั้น ตอนนี้พวกเขาได้เห็น นายน้อยจวิน ทำในสิ่งเดียวกัน แต่ความรู้สึกนั้นไม่เกมือนกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  พวกเขาทั้งสองนั้นมิอาจเปรียบกันได้ !

 

นายน้อยผู้นี้บิดเบือนความเป็นจริงอย่างแท้จริง เขากลับถูกผิด และรังสรรสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในตอนแรกขึ้นมา  เขาเป็นปรมาจารย์แห่งศิลป์อย่างแท้จริง

 

ตู่กู้วูตี้ หัวเราะลั่น  อย่างไรก็ตาม ตู่กู้เซี่ยวอี้ เอามือของนางปิดปากเขาก่อนที่เสียงหัวเราะจะทันหลุดรอดออกไป  ดวงตานางเต็มไปด้วยโทสะ  เรื่องทั้งหมดนี้จะสลายสิ้นไปหากเขาหัวเราะ  หัวใจของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ กระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง  นางเพียงประสงค์จะปิดปากของเขา แต่ไม่ได้สนใจว่าพ่อของนางจะหายใดได้อย่างไร  จนทำให้เขาสำลักมากมาย จนอาจนำไปสู่ความเลวร้ายได้อย่างง่ายดาย

 

ตู่กู้วูตี้ พยายามสุดสามารถเพื่อเอามือของลูกสาวออกจากปาก  เขาหายใจหวีดหวิวขณะหอบเอาอากาศเขาไปก่อนจะสำลักอย่างรุนแรง  จากนั้นจึงดุด้วยเสียงต่ำ

” สวาน้อย … เจ้าประสงค์จะสังหารพ่อตัวเองกระนั้นหรือ ?! “

 

ชายชุดดำสองคนที่นั่งอยู่เบื้องหลังองค์หญิงหลิงเมิง เป็นผู้ที่มีฝีมือมากล้น  น่าเศร้าที่เหล่าไพร่มิอาจมีปัญญาเช่นพวกเขา  อย่างไรก็ตาม แม้แต่พวกเขาก็ตกตะลึง  พวกเขาเห็นความเลวทรามและแววตาบนใบหน้าของจวินโม่เซี่ย และรู้สึกถึงความต้อยต่ำ

ใบหน้าของเขานั้นเกินกว่าตำนานทั้งหมด และสามารถสั่นคลอนสวรรค์ได้ !  ข้านั้นไม่สามารถทำเขาได้เลย !

 

องค์ชายสามเหนื่อยหอบเนื่องด้วยหายใจค่อยออก  และในที่สุดเขาก็ควบคุมมันได้  อย่างไรก็ตาม คล้ายกับว่าในดวงตาเขามีเปลวไฟ  เขาขบฟันขณะมองตรงไปยังจวินโม่เซี่ย และเอ่ย

” เนื่องด้วยเป็นเช่นนี้ องค์ชายผู้นี้จะเหลือร้อยโถของเจ้าเอาไว้ !  แต่เจ้า คงจะไม่มีปัญหากับร้อยโถที่เหลือใช่หรือไม่ ? “

 

” นั่นมิใช่เรื่องของข้า  ข้ามิใช่ผู้ที่เจ้าควรถามในส่วนของร้อยโถที่เหลือนั้น ! “

จวินโม่เซี่ยเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดจากสีหน้าที่ไร้ความกังวล

” นั่นคือส่วนของลูกชาย องค์รัชทายาท มู่หยาง มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าอีกกระนั้น ? “

อืม … ใส่เชื้อไป … กลั่นแกล้งเขา …

 

” หยางมู่  !  ให้เขามาหาข้า ! “

องค์ชายสามเอะอะ  ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องการกอบกู้ชื่อเสียง  ดังนั้นจึงตะโกนลั่น  ทุกผู้พยักหน้า  ไม่คาดฝัน เขาแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่สง่างามในฐานะของ องค์ชายแห่งอาณาจักรในสถานการณ์เช่นนี้ ความจริงแล้ว พฤติกรรมของเขาเริ่มทำให้คนมากมายรังเกียจ …

 

” เจ้า .. เจ้าต้องการอะไร ? “

หยางมู่ ตัวสั่นขณะเงยหน้าขึ้นแสดงตัว

 

” เจ้าจะถวายสุราร้อยโถในนามเจ้าแก่ท่านน้า องค์จักรพรรดิหรือไม่ ?  เจ้าจะทำเช่นนั้นไหม ? “

องค์ชายสามถามด้วยท่าทีกดขี่ ขณะมองหยางมู่เย็นชา