ตอนที่ 250 ฉันไม่ยอมให้ทรยศ!
“หรือคุณจะไม่ยอมรับผิดชอบ” เฉวียนหมิงหลุบตาลง สีหน้าหดหู่ ทำราวกับถูกอีลั่วเสวี่ยข่มเหงอย่างรุนแรง ดูน่าสงสารมาก
อีลั่วเสวี่ยกระอักกระอ่วน “พี่ชาย บัญชีนี้ไม่ต้องคิดก็ได้ไหม แล้วที่ฉันเหนื่อยยากดูแลคุณมาครึ่งค่อนคืน คุณจะชดใช้ฉันยังไง”
พอเฉวียนหมิงได้ยิน แววตาก็เป็นประกายทันที “เรื่องนี้ง่ายมาก ผมรับผิดชอบคุณเอง ยังไงคุณก็เห็นผมแก้ผ้าหมดแล้ว ต่อไปผมก็คือคนของคุณ คุณจะมาบ่ายเบี่ยงไม่ได้หรอก”
ให้ตาย มีวิธีบีบให้คนรู้สึกอึดอัดแบบนี้ด้วย ฉันช่วยคนเหนื่อยแทบตาย กลับมาถูกเล่นงานเข้าแล้ว
“อยากเป็นคนของฉัน ไม่ใช่เรื่องที่พูดพล่อยๆ ได้ คุณว่ามา คุณมีข้อดีอะไร มีคุณสมบัติอะไร ที่ทำให้ฉันต้องรับผิดชอบคุณ” ล้อเล่นนักใช่ไหม งั้นฉันจะเล่นด้วยถึงที่สุด ดูสิว่าเขาจะพูดกลับดำให้เป็นขาวยังไง
พอเธอพูดแบบนี้ เฉวียนหมิงก็คิดอย่างจริงจัง “ข้อดี? ข้อดีของผมก็คือไม่มีข้อเสียสักอย่างเดียว!”
‘โอ้โห ช่างมั่นใจ มั่นใจถึงขั้นหน้าไม่อาย’ ลูกบอลเงินฟังอยู่ข้างๆ อดพูดออกมาไม่ได้
ข้อดีของเขาก็คือไม่มีข้อด้อย คำพูดอย่างนี้ไม่ใช่ใครก็มั่นใจขนาดนั้นได้ แต่มองดูเฉวียนหมิง เขาพูดได้อย่างหน้าตาเฉย โดยไม่รู้สึกว่าร่างกายตัวเองมีข้อบกพร่อง
อีลั่วเสวี่ยถึงกับอึ้งกับคำพูดนี้ ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร
“คุณช่างมั่นใจในตัวเองจริงนะ แต่ฉันไม่อยากฟังคำตอบกำกวม” อีลั่วเสวี่ยเลิกคิ้ว หดมือกลับ แล้วหยิบเสื้อโค้ตข้างตัวมาห่มให้เฉวียนหมิง ท่าทางของเธอเป็นธรรมชาติมาก เอาใจใส่ราวกับเธอเป็นแฟนเขา
เฉวียนหมิงดึงมือเธอกลับมาอีก “สิ่งที่ผมให้คำมั่นกับคุณได้ก็คือ ผมจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อทำให้คุณมีความสุข ให้อิสระแก่คุณอย่างเพียงพอ ความสุขของคุณก็คือความสุขของผม”
คำพูดที่น่าฟังที่สุดในโลกไม่ใช่คำพูดที่ฟังแล้วทำให้ใจเคลิบเคลิ้ม แต่เป็นคำพูดเรียบง่ายเปี่ยมด้วยความจริงใจแบบนี้
อีลั่วเสวี่ยหลุบตาลง พลิกมือมากุมมือเฉวียนหมิงไว้ โน้มตัวไปข้างหน้า แล้วหยุดห่างจากเขาราวหนึ่งกำปั้น ระยะห่างเท่านี้ เธอสามารถมองเห็นเส้นขนและผิวหน้าเนียนละเอียดของเขาได้ชัดเจน
“คุณพูดเองนะว่าอยากเป็นคนของฉัน” ใช่ ก็คือราชินีอย่างฉันนี่แหละ
เฉวียนหมิงไม่ตอบ แต่พยักหน้า ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าสวยที่อยู่ใกล้แค่คืบได้
“งั้นก็ดี ข้อเรียกร้องของฉันก็คือ ถ้าอยากอยู่กับฉัน ต้องซื่อสัตย์อย่างที่สุด ไม่ทรยศ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องเชื่อใจกัน” เธอต้องการคู่ครองที่อยู่ด้วยกันชั่วชีวิต ต้องเชื่อมั่นในกันและกัน
ไม่ใช่แบบที่พอเขาเห็นผู้ชายห้อมล้อมตัวเธอก็นึกระแวงไปต่างๆ นานา จากนั้นก็แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างขาดสติ ไม่ยอมให้เธอคบเพื่อนต่างเพศ ข้อนี้เธอกลัวว่าเขาจะทำไม่ได้ ขณะเดียวกัน ถ้าเธอเจอเพื่อนผู้หญิงของเฉวียนหมิง เธอก็จะปฏิบัติต่อพวกเธออย่างมีเหตุผลเช่นกัน
ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์แบบเพื่อน ถ้าอีกฝ่ายทรยศความรู้สึกของเธอ ขอโทษด้วย สิ่งที่รออยู่คือการแก้แค้นอย่างสาสม
“ที่คุณพูดก็คือสิ่งที่ผมอยากพูด” เขาต้องการคนเพียงคนเดียว หัวใจนั้นเล็กมาก คนเดียวก็กำลังพอดี เรื่องที่อีลั่วเสวี่ยพูดนั้น ไม่ต้องให้เธอเตือน เขาก็เข้าใจดี
อีลั่วเสวี่ยจ้องมองริมฝีปากบางและดวงตาที่เปี่ยมด้วยความเอาอกเอาใจของเขา ในใจเริ่มคล้อยตามทีละนิด
ศีรษะเธอขยับเข้าหาเขาโดยไม่รู้ตัว ใครบางคนรอไม่ไหว รีบส่งตัวเองเข้ามาหา
ครั้งนี้เฉวียนหมิงไม่ให้อีลั่วเสวี่ยเป็นฝ่ายนำ เขากอดเธออย่างรักใคร่ นำเธอเข้าสู่ความหวานละมุนสวยงามอย่างอ่อนโยน
ม่านหน้าต่างถูกลมพัดไหวจนแสงส่องเข้ามาเล็กน้อย ทาบทอลงบนร่างของทั้งสอง ชั่วขณะนั้น ราวกับรอบตัวทั้งคู่มีมีแสงเป็นประกายเจิดเจ้าอย่างประหลาด ดูกลมกลืนกันเหลือเกิน
ตอนที่ 251 ต่อไปไม่อีกทำแล้ว
ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม ครึ่งตัวอีลั่วเสวี่ยทาบทับบนตัวเฉวียนหมิง ทั้งคู่กล้าทำตามใจปรารถนามากขึ้น ลูกบอลเงินอยู่ข้างๆ มองจนตาค้าง
นี่แสดงสดให้ดูเลยเหรอ ซี้ด…คิดดูก็ชักตื่นเต้นแฮะ
ลูกบอลเงินไม่กล้าส่งเสียงเพราะกลัวอีลั่วเสวี่ยเห็นเข้า ดวงตากลของมันจ้องเป๋ง ไม่กะพริบแม้แต่น้อย
เฉวียนหมิงลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน และกำลังจะเลื่อนมือต่ำลงไป อยู่ๆ ก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น ทั้งสองลืมตาทันที แล้วคลายมือออกจากกัน
‘ไม่เกี่ยวกับฉันนะ’ ลูกบอลเงินรีบหนีไปไกล เสียงนั่นฉันไม่ได้ทำนะ คงไม่โทษฉันหรอกนะ?
มุมปากอีลั่วเสวี่ยกระตุก เจ้าหมอนี่ เห็นทีคราวหน้าต้องให้มันระวังหน่อย ทุกครั้งที่เราสองคนทำอะไรแล้วถูกมองนี่มันรู้สึกแปลกชะมัด เวลาอยู่กันสองต่อสองไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มีคนที่เป็นส่วนเกินโผล่มา อ้อ ไม่สิ มีเครื่องจักรกลที่มีความนึกคิดโผล่มา
“แค่กๆ อาเสวี่ย คุณคงหิวแล้ว ผมจะไปต้มโจ๊กให้” แววตาเฉวียนหมิงอ่อนโยน ยื่นมือมาช่วยปัดผมอีลั่วเสวี่ยให้เรียบร้อย จากนั้นก็เตรียมจะลุกจากเตียงไปต้มโจ๊ก
เธอดูแลเขามาตั้งนาน นี่ก็สายแล้ว ควรจะต้องกินอะไรบ้าง
“คุณนอนต่อดีๆ เถอะ ฉันไปทำเอง ไม่ต้องลุกขึ้นมาหรอก” อีลั่วเสวี่ยกดเฉวียนหมิงให้นอนลงตามเดิม แล้วลุกออกไป
เฉวียนหมิงเห็นประตูห้องปิดลงก็อยากลุกตามออกไป แต่คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงนอนต่อด้วยสีหน้ามีความสุข ความรู้สึกที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ช่างเยี่ยมจริงๆ
ถ้าเหล่าเการู้ความคิดนี้เข้าคงอึ้งไปเลย ที่เขาเคยดูแลนายน้อยมา ไม่มีความหมายใช่ไหม
ทั้งสองอยู่บนเกาะอีกหนึ่งวัน ย่างเนื้อ ตกปลากัน ดูแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่สำหรับสองคนที่ชอบความเงียบสงบนับว่าเป็นการฟื้นฟูร่างกายที่ดีทีเดียว
พอถึงเที่ยงวันที่สอง เหล่าเกาก็ขับเรือมารับพวกเขา
“นายน้อย ก่อนหน้านี้หนังตาผมกระตุกไม่หยุด ยังกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น โทร.หาพวกคุณ ก็ไม่ติด ร้อนใจแทบแย่แน่ะครับ” แต่คิดว่าสองคนนี้คงไม่อยากให้ใครรบกวน เขาจึงไม่รีบร้อนมา
เห็นเหล่าเกามีท่าทีกังวล อีลั่วเสวี่ยก็นึกในใจ ก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ น่ะแหละ ดีที่ฉันแก้ปัญหาได้
เฉวียนหมิงเม้มปาก “เราไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ตอนที่สนุกกันเผลอทำมือถือตกน้ำจนใช้ไม่ได้ เก็บของเถอะ เตรียมกลับกันได้แล้ว”
ประตูคฤหาสน์ถูกปิดอีกครั้ง อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงนั่งเรือกลับไป ครั้งนี้เธอตามเฉวียนหมิงไปที่คฤหาสน์ของเขา
รอบๆ ยังคงมีทิวทัศน์และการตกแต่งที่คุ้นเคยเหมือนเดิม อีลั่วเสวี่ยรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย เดินเข้าไปในบ้านเหมือนไม่มีอะไร
ไม่นาน เหล่าเกาก็จัดหามือถือเครื่องใหม่ให้ทั้งสองคน เพิ่งใส่ซิมโทรศัพท์แล้วเปิดเครื่อง เสียงข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“แย่แล้ว” อีลั่วเสวี่ยหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูข้อความ คนที่โทร.มามากที่สุดคืออวิ๋นเว่ยกับอาเหมา รองลงมาเป็นหลิ่วเฟยซวง
“ยายหนู ไปไหนมา โทร.ก็โทร.ไม่ติด อาเหมาบอกว่าลูกไปกับไอ้เด็กหน้าเหม็นนั่น ไปที่ไหนก็ไม่รู้ รู้ไหมว่าพ่อเป็นห่วงแทบแย่”
เสียงพูดด้วยความโมโหดังมาจากในมือถือ อีลั่วเสวี่ยรีบเอามือถือออกห่างเล็กน้อย พอฟังเสียงอวิ๋นเว่ยคำรามจบ จึงเอามือถือมาแนบหูอีกครั้ง “พ่อคะ หนูผิดไปแล้ว พอดีช่วงนั้นมือถือตกน้ำ เครื่องเสียค่ะ แล้วก็ยังไม่ทันได้เปลี่ยนใหม่”
“หึ! คราวนี้ยกโทษให้ลูก วันหลังค่อยคิดบัญชีกับไอ้หนุ่มนั่น ไม่พูดแล้ว พ่อกำลังประชุม”
“อืม แล้วเจอกันค่ะพ่อ” อีลั่วเสวี่ยวางสาย ถอนหายใจอย่างจนใจ ทั้งรู้สึกมีความสุข ที่แท้การมีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ
เมื่อก่อนอาจารย์คอยสืบหาว่าเธออยู่ที่ไหน จนกระทั่งเจอตัวเธอ เธอยังคิดว่าอาจารย์เห็นเธอไม่เป็นผู้ใหญ่สักที ที่จริงทั้งหมดนี้เป็นเพราะความห่วงใย