อยากตายหรือ ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก

 

 

 

เดิมทีเสิ่นเวยวางแผนจะพาเด็กหนุ่มหมู่บ้านตระกูลเสิ่นไปฝึกซ้อมต่อ แม้ว่าจะยืมคนจากท่านปู่นางแต่ก็ไม่อาจยืมเยอะเกินไปได้ ตอนนี้ทราบข่าวว่าบนเขาเอ้อร์หลงซ่อนทหารเดนตายซีเหลียงไว้ เสิ่นเวยก็เปลี่ยนแผนการเดิมทันที

 

 

ตามที่ทหารลับสืบข่าวมา โจรบนเขาเอ้อร์หลงมีทั้งหมดห้าถึงหกร้อยคน เสิ่นเวยไตร่ตรองแล้ว ก็ตัดสินใจยืมกองทัพแปดร้อยคนจากท่านปู่ของนาง นางคิดเช่นนี้ ในเมื่อมีกำลังที่บดขยี้ได้แน่นอน ใครจะยังอดทนเล่นกลยุทธ์ใช้กำลังที่น้อยกว่าชนะข้าศึกที่มีกำลังมากกว่าอยู่อีก ดีที่สุดคือไม่จำเป็นต้องสละชีพ ชีวิตใครบ้างไม่สำคัญ

 

 

เสิ่นเวยพูดกับท่านปู่นางเช่นนี้ “ท่านปู่ เร็วเข้า เลือกทหารแปดร้อยนายให้ข้า ข้าจะไปนำเสบียงมาให้ท่าน และถือโอกาสให้ซีเหลียงได้ลิ้มรสชาติความพ่ายแพ้จากพวกเราเร็วหน่อย”

 

 

ตอนนั้นฟังต้าฉุยเองก็อยู่ด้วย เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ตื่นเต้นในชั่วขณะ “ไปๆๆ คุณชายสี่ เหล่าฟังจะเลือกคนให้ท่านเอง ท่านว่าเหล่าฟังเป็นอย่างไร เลือกข้าด้วยดีหรือไม่” เขามาหาท่านเสิ่นโหวก็เพราะเรื่องเสบียงเช่นกัน ในกองทัพไม่มีเสบียงแล้ว ปากท้องหลายหมื่นคนรอกินข้าวอยู่ เขากลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว

 

 

เสิ่นเวยยิ้มกล่าวด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “แม่ทัพฟังไปไม่ได้ ท่านน่ะ ต้องอยู่เป็นกำลังหนุนให้พวกข้าในเมือง เลี่ยงไม่ให้พวกข้านำเสบียงกลับมาด้วยความลำบากลำบนแต่กลับถูกกองทัพซีเหลียงนอกเมืองปล้นไป”

 

 

“ได้ๆๆ คุณชายสี่ให้เหล่าฟังทำอะไรข้าก็จะทำ ขอเพียงแค่สามารถนำเสบียงมาได้ก็พอ” ตอนนี้ฟังต้าฉุยขอเพียงแค่นำเสบียงมาให้เขาได้ เสิ่นเวยพูดอะไรเขาก็ตอบรับหมด

 

 

ทหารแปดร้อยคนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะสุ่มเลือกมารวมให้ครบจำนวนเท่านั้น ต้องเลือกคนที่องอาจกล้าหาญเชื่อฟังคำสั่ง ท้ายที่สุดผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าก็ตกเป็นของหวังต้าชวน ทำให้เขาดีใจอย่างยิ่ง ตบอกรับปากกับเสิ่นเวยว่าจะเชื่อฟังคำสั่งปฏิบัติตามคำบัญชาการ

 

 

คนที่ถูกเลือกทราบว่าจะได้ตามคุณชายสี่ไปขนเสบียงก็ดีใจมากเป็นพิเศษ เดิมพวกเขาก็เลื่อมใสในความสามารถของคุณชายสี่มากอยู่แล้ว ตอนนี้ได้เห็นยุทธ์คุณชายสี่กับตาในสนามฝึก แม้แต่รองแม่ทัพหวังของพวกเขาเองก็สู้อยู่ภายใต้น้ำมือของคุณชายสี่ได้ไม่ถึงยี่สิบกระบวนท่า

 

 

เห็นแล้วหรือยัง โอวหยางไน่ที่ยืนอยู่ข้างหลังคุณชายสี่ ทหารคนสนิทอันดับหนึ่งที่เคยอยู่ข้างกายท่านโห่ว บุคคลที่กล้าหาญกว่าคนทั้งกองทัพ สามปีก่อนเขาไม่อยู่ในกองทัพ ทุกคนต่างก็สงสัยว่าเขาไปไหน ไม่นึกว่าเห็นอีกทีเขาจะติดตามอยู่ข้างกายคุณชายสี่แล้ว ทหารคุ้มกันโอวหยางเป็นคนดื้อรั้นทะนงตน ตอนนี้กลับเคารพนบนอบคุณชายสี่

 

 

ชั่วขณะความรู้สึกเลื่อมใสที่ทุกคนมีต่อเสิ่นเวยก็หลั่งไหลมาไม่หยุดราวกับแม่น้ำเชี่ยวกราก

 

 

ตกดึกยามซวี ดวงตาที่สะลึมสะลือกะพริบอย่างอ่อนเพลีย เสิ่นเวยพาคนกลุ่มนี้ออกจากประตูเมืองเงียบๆ บนกีบม้าหุ้มฝ้ายไว้ ในปากม้าคาบกระบองไม้ กองทัพเกือบพันคนขี่ม้าท่ามกลางราตรีที่มืดมิดอย่างไม่มีเสียงใดๆ

 

 

ทหารลับรออยู่ล่างเขาเอ้อร์หลงแล้ว เมื่อเสิ่นเวยนำคนมาถึง พลลับหนึ่งก็เข้ามารายงานสถานการณ์ “คุณชาย หน่วยลาดตระเวนลับและไม่ลับด้านล่างเขาและท้องเขาทั้งหมดถูกกวาดล้างเรียบร้อยแล้วขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาบนเขายังไม่เคลื่อนไหว

 

 

เสิ่นเวยพยักหน้า เรียกโอวหยางไน่กับหวังต้าชวนเข้ามา กล่าว “โจรบนเขาให้พวกเจ้าจัดการ จำไว้ว่าไม่อาจปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว พลลับเจ็ด เจ้านำคนไปร่วมมือกับพวกเขา”

 

 

“คุณชายสี่วางใจ ข้ารับปากว่าจะไม่ปล่อยคนชั่วหนีไปแม้แต่คนเดียว ท่านเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะขอรับ!” หวังต้าชวนพูดอย่างตื่นเต้น

 

 

ทิ้งคนไว้ดูม้าสามสี่คนแล้ว เสิ่นเวยก็แบ่งกองทัพขึ้นเขาออกเป็นสองทาง

 

 

แผนการของพวกเขาเป็นเช่นนี้ โอวหยางไน่กับหวังต้าชวนนำทหารแปดร้อยนายกับเด็กหนุ่มหมู่บ้านตระกลเสิ่นไปกวาดล้างโจร เสิ่นเวย เถาฮวา เสี่ยวตี๋และทหารลับอีกเจ็ดนายที่เหลือไปเก็บกวาดทหารเดนตายซีเหลียง

 

 

ตามการสืบข่าว ทหารเดนตายซีเหลียงมีอยู่เจ็ดคน ฝั่งพวกเขามีสิบคน น่าจะสามารถจับตัวทั้งหมดมาได้อย่างง่ายดาย

 

 

เส้นทางเขาเอ้อร์หลงอันตราย อีกทั้งยังมีกับดักอยู่อีกไม่น้อย หากไม่คุ้นเคยก็ยากจะไปถึงยอดเขาได้จริงๆ แต่เพราะว่ามีทหารลับมาสำรวจเส้นทางก่อนหน้านี้แล้ว เสิ่นเวยและคนอื่นๆ จึงปีนขึ้นเขาเอ้อร์หลงได้อย่างง่ายดาย

 

 

“คุณชาย ทหารเดนตายซีเหลียงอยู่ในเรือนเล็กหลังนั้น” เสี่ยวตี๋ชี้เรือนเล็กหลังหนึ่งที่อยู่ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้บอกเสิ่นเวยเงียบๆ

 

 

เสิ่นเวยพยักหน้า ออกคำสั่งเสียงเบาเช่นกัน “ไป พวกเราเข้าไป เคลื่อนไหวให้เบา จะต้องไม่ให้พวกเขารู้ตัวก่อน” กลางดึกเช่นนี้ หลบซ่อนอยู่ที่ใดในเขา จะไปหาเจอได้ที่ไหนกัน

 

 

คนหลายคนพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง ย่องเบาคลำทางเข้าไปเงียบๆ

 

 

เดิมทหารลับก็ขึ้นชื่อแล้วว่าลับ แน่นอนว่าชำนาญการหลบซ่อนและวิชาตัวเบาที่สุด ในกลุ่มพวกเขานอกจากเถาฮวาที่ไม่เป็นวิชาตัวเบาแล้ว คนที่เหลือก็ลอยเข้าไปในเรือนเล็กราวกับใบไม้ร่วง เถาฮวาย่อมมีเสี่ยวตี๋พาเข้าไป

 

 

เสิ่นเวยอิจฉาวิชาตัวเบาของเหล่าทหารลับมากเป็นอย่างยิ่ง แต่นางไม่รู้ว่าเหล่าทหารลับก็กำลังเลื่อมใสนางอยู่เช่นกัน คุณหนูสี่ดูไม่เหมือนคนที่มีกำลังภายใน แต่รูปร่างนั้นก็ราวกับมาร กระโดดทีเดียวก็เข้าไปในลานบ้านแล้ว เท้าแตะพื้นก็ไม่มีเสียงสักนิดเดียว

 

 

ในคืนมืดมิด ประตูห้องปิดสนิท เสี่ยวตี๋ยื่นมือชี้ห้องสี่ห้องในนั้น เสิ่นเวยโบกมือบัญชา จากนั้นจึงมีทหารลับสี่คนคลำทางเข้าไปที่หน้าต่างด้านหลังของห้อง เสิ่นเวยนับในใจ หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้คนที่เหลือ ทุกคนต่างก็วิ่งเข้าไปในห้องแต่ละห้องอย่างรู้กัน

 

 

ห้องที่เสิ่นเวยกับเถาฮวาไปคือห้องทางขวาสุด ถีบประตูเปิดอย่างแรงแล้วก็วิ่งไปที่หน้าเตียง ดาบหมื่นโลหิตกับกระบองเหล็กแกว่งออกไปพร้อมกัน แต่กลับได้ยินเพียงเสียงร้องโอดครวญ เสิ่นเวยร้องแย่แล้วในใจ อีกคนหนึ่งเล่า

 

 

เสิ่นเวยหันหลังกลับ มองเห็นเงาดำเงาหนึ่งวิ่งตรงมาข้างหลังนาง เสิ่นเวยหันข้างหลบ ถือโอกาสเตะ เงาดำหลบได้ แสร้งทำเป็นประมือหนึ่งกระบวนท่า แต่กลับไม่สู้ต่อ คาดไม่ถึงว่าวิ่งออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง

 

 

เสิ่นเวยดีใจในชั่วขณะ ยืนกอดดาบหมื่นโลหิตอยู่ในห้องหัวเราะหึๆ ไม่ไล่ตามแล้ว โง่จริงๆ เดินเข้ามาหากับดักเองแท้ๆ

 

 

เป็นดังคาด ผ่านไปไม่นานหน้าต่างด้านหลังก็มีเสียงร้องโอดครวญดัง “คุณชาย จับได้แล้ว” เป็นเสียงของพลลับหนึ่ง

 

 

การต่อสู้ทั้งหมดยังไม่ทันเริ่มก็จบแล้ว เสิ่นเวยรู้สึกไม่สนุกเอาเสียเลย ร่างยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวเลย

 

 

เถาฮวาเองก็แสยะปากอย่างไม่ยินดี “คุณชายๆ คนชั่วเล่า” คุณชายไม่ได้พานางออกมาตีคนชั่วหรอกหรือ นางเพิ่งตีไปแค่ทีเดียวเอง เหตุใดถึงหมดแล้วเล่า ไม่ได้ นางต้องฟาดอีกหลายๆ ที เถาฮวาชูกระบองเหล็กทุบลงบนเตียงอย่างแรง ได้ยินเพียงเสียงกระบองเหล็กตีเข้าเนื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าคนกลับไม่ส่งเสียงดังออกมาแม้แต่นิดเดียว คาดว่าคงตายไปนานแล้ว

 

 

โหดเ**้ยมเกินไปแล้ว โหดเ**้ยมเกินไปแล้วจริงๆ เสิ่นเวยกระตุกมุมปากถอยไปในลานบ้าน นางครุ่นคิดถึงปัญหาข้อหนึ่งอย่างละเอียด เลี้ยงเด็กผู้หญิงที่โหดเ**้ยมอย่างยิ่งขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไรดี ต้องรีบไปหาวิธีแก้แล้ว

 

 

คนที่เหลือเองก็ถอยออกไปในลานบ้าน นอกจากคนที่นอนตายอยู่บนเตียง ก็จับพยานมาได้สี่คน ทั้งหมดถูกมัดมืดมัดเท้า ในปากก็ยัดผ้าเอาไว้

 

 

“ส่งสัญญาณ” เสิ่นเวยสั่ง

 

 

พูดยังไม่ทันขาดคำ ดอกไม้ไฟสีแดงสดหนึ่งดอกก็พุ่งขึ้นฟ้า หลังจากนั้นบนเขาเอ้อร์หลงก็มีเสียงตะโกนฆ่าดังขึ้น

 

 

“คุณชายๆ” เถาฮวาดึงแขนเสื้อเสิ่นเวยตะโกนอยางร้อนใจ

 

 

เสิ่นเวยไหนเลยจะไม่เข้าใจเจตนาของนาง ก่ายหน้าผากอย่างอดไม่ได้ ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงที่ชอบการฆ่าฟันเช่นนี้มาก่อน เดิมข้าก็เป็นคนรักความสงบ เถาฮวาเด็กคนนี้ไปเลียนแบบใครมานะ

 

 

“เอาเถอะๆ พลลับหนึ่งทิ้งคนสองคนไว้เฝ้าเชลย คนที่เหลือตามข้าไปช่วย” เสิ่นเวยพูดจบ เถาฮวาก็ดีใจกระโดดโลดเต้น

 

 

ทหารประจำการที่ฝึกฝนเป็นประจำแปดร้อยนายต่อสู้กับโจรที่มีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน ผลลัพธ์แค่คิดก็รู้แล้ว ตอนที่กลุ่มของเสิ่นเวยมาถึง ก็เห็นโจรร้องโอดครวญวิ่งหนีทั่วสารทิศท่ามกลางแสงเพลิง

 

 

เถาฮวาไม่ต้องให้คนสั่งก็วิ่งเข้าไปแล้ว แกว่งกระบองเข้าสู่การต่อสู้ เดิมนางก็แรงเยอะไม่มีขีดจำกัดอยู่แล้ว กระบองเหล็กก็ใช้จนคล่องมืออย่างใจคิด ทุกๆ คนที่ถูกนางกวาดกระบองเหล็กออกไป เบาหน่อยก็ล้มลงได้รับบาดเจ็บ หนักหน่อยก็เสียชีวิตคาที่

 

 

มองดูปลาเล็กปลาน้อยหลายตัวที่น่าสงสารเช่นนี้ เสิ่นเวยก็ไม่มีแม้แต่ความต้องการที่จะลงมือแล้ว มีเด็กสาวที่ชอบแย่งความสนใจจากเจ้านายเสมออยู่แล้วมิใช่หรือ

 

 

“คุณชายๆ จับกุมหมดแล้วขอรับ” หวังต้าชวนวิ่งมารายงานด้วยความดีใจ นอกจากคนที่ตายแล้ว คนที่หายใจหอบบนเขาเอ้อร์หลงล้วนถูกจับกุมไว้แล้ว “คุณชาย พวกเราจะขนเสบียงเมื่อไร” หวังต้าชวนมองเสิ่นเวยด้วยความกระตือรือร้น

 

 

เสิ่นเวยโบกมือบัญชา “ไปเอาเถอะ!”

 

 

หวังต้าชวนนำคนไปค้นทรัพย์สินของรังโจรอย่างเริงร่า บนเขามีรถและม้าที่เตรียมไว้ ซ้ำกำลังคนของพวกเขายังเพียงพอ การขนย้ายจึงรวดเร็วอย่างยิ่ง