ตอนที่ 711 หวีผม / ตอนที่ 712 เรื่องของสามีภรรยา

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 711 หวีผม

 

 

หลังจากชะงักไป อวี้อาเหราจึงเปลี่ยนเรื่องพูด “น้องสามบอกว่าอยากเล่นปั้นหิมะ เจ้ารีบมาเร็วเข้า หากยังชักช้า เจ้าจะไม่ได้เล่นนะ”

 

 

“ปั้นหิมะหรือ?” เมื่อฉู่เกอได้ยินดังนั้นก็ชะงัก แล้วจึงเข้าใจความหมายของนางทันที แล้วรีบวิ่งตามไป

 

 

อวี้จื้อรออยู่ด้านนอก นางจะไม่รีบออกไปได้หรือ?

 

 

เมื่อหันกลับไปมองอีกที ก็เห็นฉู่ป๋ายนั่งนิ่งไม่ขยับไปได้ เขาเพิ่งจะตื่นนอน ผมเผ้าจึงยุ่งเล็กน้อย ไม่ได้จัดระเบียบเลยแม้แต่น้อย

 

 

ฉู่ป๋ายสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง แล้วจึงลูบเส้นผมตัวเองอย่างลังเล

 

 

ยุ่งจริงๆ จากนั้นก็ยิ้มแย้ม ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

 

 

อวี้อาเหราชะงักแล้วจึงปรายตามอง “เจ้าหวีผมเสียก่อนไม่ดีหรือ?”

 

 

แม้ว่าตอนนี้เขาก็ยังคงดูดีมาก แต่เส้นผมก็ยังคงยุ่งเหยิงจนแทบจะปิดหน้าปิดตาเสียอยู่แล้ว สีหน้าของเขาที่เคยเย็นชามาตลอด แต่เมื่อผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงเช่นนี้ก็ทำให้เขาดูไม่ค่อยใส่ใจใดๆ และมีท่าทีเกียจคร้านเล็กน้อย

 

 

ท่าทีเช่นนี้ ก็ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ยิ่งทำให้เกิดความยั่วยุขึ้นมาในทันที

 

 

ฉู่ป๋ายไม่ได้รู้ถึงสายตาของอวี้อาเหราที่จ้องมอง แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ทำไมเจ้าไม่ไปเล่า?”

 

 

อวี้อาเหรากระแอมเล็กน้อย “ข้าจะช่วยเจ้าหวีผมเสียก่อน”

 

 

ฉู่ป๋ายยังไม่ทันที่จะตอบ ก็ถูกนางผลักเข้าไปเสียแล้ว

 

 

เมื่อเขานั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วอวี้อาเหราก็ยัดหวีที่ตัวเองใช้ใส่มือเขา แล้วนิ่งไป

 

 

อวี้อาเหราชะงัก “เหตุใดไม่หวีเล่า?”

 

 

“เมื่อก่อนนี้เป็นหานสือที่หวีให้ข้า ข้าทำเองไม่ค่อยเป็น” หลังจากลังเลไปนาน เข้าจึงก้มหน้าลงแล้วตอบกลับมา

 

 

แม้แต่ผมก็หวีไม่เป็นหรือ? อวี้อาเหราขมวดคิ้ว มองไปที่เส้นผมดำสนิทที่เรียบรื่นกว่าสตรีของเขา คงจะต้องหวีง่ายเป็นแน่ แล้วจึงรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปเรียกหานสือมาให้”

 

 

“ไม่เอา” ฉู่ป๋ายเรียกนางเอาไว้ เมื่อเห็นสายตาลังเลของอวี้อาเหราส่งมา ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ก็เมื่อครู่นี้ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าข้าบอกให้หานสือหยุดงานแล้ว หากตอนนี้จะให้ไปเรียกเขามาอีกก็เท่ากับพูดกลับไปกลับมา ข้าทำเรื่องเช่นนั้นไม่ได้หรอก แล้วตอนนี้เขายังเล่นอยู่ข้างนอกอยู่เลย ถ้าเจ้าไปเรียกก็เท่ากับไปขัดความสุขเขาน่ะสิ”

 

 

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะเรียกเจาเอ๋อร์มา นางคล่องแคล่วนัก” อวี้อาเหราเสนอข้อคิดเห็น

 

 

ฉู่ป๋ายยังคงส่ายหน้า “นางเป็นสตรี คิดว่าคงไม่ค่อยสะดวกนัก”

 

 

สีหน้าของอวี้อาเหราค่อยๆ เย็นชาขึ้นมา นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา เขาต้องการอะไรกันแน่ หรืออยากจะให้นางหวีผมให้ด้วยตัวเองกันเล่า?

 

 

นางเอาแต่คิดไปเรื่อย จากนั้นฉู่ป๋ายก็พลันเอ่ยปากขึ้นว่า

 

 

“เจ้าก็หวีให้ข้าเสียไม่ดีหรือ”

 

 

“ข้าหรือ?”

 

 

อย่าล้อเล่นนะ นางไม่เคยหวีผมให้ผู้ชายมาก่อน แม้แต่ผมของตัวเอง นางยังทำไม่ค่อยเป็น ยังต้องให้เจาเอ๋อร์ช่วยนางอยู่เลย

 

 

“ใช่ ในเมื่อเจ้ารับปากเอาไว้ว่าจะปรนนิบัติข้า เรื่องหวีผมก็เป็นหนึ่งในนั้น”

 

 

น้ำเสียงของฉู่ป๋ายไม่มีแววล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ฟังดูจริงจังเป็นอย่างมาก

 

 

อวี้อาเหรารำคาญ ตอนนี้เขากำลังเปลี่ยนแผนเพื่อแกล้งนางแน่!

 

 

นางไม่น่าปากพล่อยรับปากไปตั้งแต่แรกเลย เขาจะได้ไม่ต้องพูดมาก นางไม่มีทางที่จะยอมง่ายๆ เช่นนี้แน่

 

 

โลกนี้ไม่มียาแก้โรคเสียใจในภายหลังขายหรือ

 

 

นางก็คงจะต้องทำตามที่เขาต้องการเท่านั้นแล้ว

 

 

อวี้อาเหราถอนสายตากลับมาจากร่างของฉู่ป๋าย แล้วจึงรับหวีที่เขาส่งมาให้อย่างจำยอม ใช้มือแบ่งผมออกมาช่อหนึ่งอย่างกระวนกระวาย มือสั่นเล็กน้อย หากจะกล่าวจริงๆ แล้วนางก็ไม่เคยหวีผมให้ใครมาก่อน หากนางหวีจนหนังศีรษะอีกฝ่ายเปิดจะเป็นอย่างไร ดังนั้นการกระทำของนางจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

ตอนที่ 712 เรื่องของสามีภรรยา

 

 

“เจ้าไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรหรอก” ฉู่ป๋ายเห็นท่าทีระมัดระวังของอวี้อาเหราผ่านกระจกทองเหลือง มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะโค้งขึ้นเล็กน้อย

 

 

อวี้อาเหราเม้มปาก “แม้แต่หวีผมยังทำไม่เป็นเช่นเจ้ายังจะพูดอีกหรือ? อย่างไรเสียข้าก็พอทำเป็นบ้าง”

 

 

“ใช่ ข้าทำไม่เป็น ก็แค่มีเจ้าอยู่ด้วยไม่ดีกว่าหรือ” ดวงตาของฉู่ป๋ายโค้งลง

 

 

“เจ้าพูดอะไรของเจ้ากัน” เมื่ออวี้อาเหราได้ยินดังนั้น ใบหน้าของนางก็ตึงขึ้นมาในทันที

 

 

ฉู่เกอที่กำลังเล่นอยู่ข้างนอกอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นว่าผ่านไปนานแล้วแต่อวี้อาเหราก็ยังไม่ออกมาเสียที จึงลองเดินเข้ามาดู จึงได้เห็นฉากนี้เข้า นางยกมือขึ้นปิดปากอย่างตื่นตกใจ “พี่เหราเอ๋อร์ พวกท่านทำอะไรกันน่ะ?”

 

 

นางอยากจะรู้นักว่าในต้าเยี่ยนนี้มีใครหวีผมให้คนอื่นอีก นี่มันเรื่องของสามีภรรยากันชัดๆ

 

 

ทว่า พวกเขาทั้งสองกลับ…

 

 

อวี้อาเหราตกใจเพราะเสียงของฉู่เกอ จนมือที่หวีผมอยู่ชะงักไป ก่อนจะกระชากผมของฉู่ป๋ายเข้า เขาเจ็บเสียจนต้องสูดปาก แล้วมองมาที่นางด้วยสายตาไม่พอใจนัก “ข้าบอกเจ้าว่าไม่ต้องกลัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าได้นะ”

 

 

“ขอโทษๆ” อวี้อาเหราขอโทษขึ้นมาในทันที

 

 

ฉู่ป๋ายไม่ได้ว่าอะไร เขาหันไปมองฉู่เกอด้วยสายตาเรียบนิ่ง แล้วยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ปล่อยให้อวี้อาเหราทำต่อไป

 

 

อวี้อาเหรายังคงหวีผมต่อไป นางมองไปที่สีหน้าตื่นตกใจของฉู่เกอ คิดว่าคงเป็นเพราะเห็นนางหวีผมให้ฉู่ป๋ายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าเช่นไรดี เพราะเป็นเรื่องที่นางไม่เคยคิดถึงมาก่อน นางยังคงหวีผมต่อไป ฉู่เกอจ้องมองไปทางด้านหลังของนาง ไม่รู้ว่าจะเอาไม้เอามือไปวางไว้ที่ไหน

 

 

ใจกำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยสะดวกใจนัก ก็แค่หวีผมเท่านั้นมิใช่หรือ มีอะไรน่ามองถึงเพียงนั้นเล่า?

 

 

เพียงไม่นานฉู่ป๋ายก็รับรู้ได้ว่ามือของอวี้อาเหรานั้นหยุดชะงักลง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองฉู่เกอ “เจ้าออกไปก่อน”

 

 

“ไม่เอา ก็ข้าอยากดูนี่” ฉู่เกอไม่ใช่คนโง่ เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะพบได้ง่ายๆ เสียหน่อย จะให้ปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรกันเล่า? นางย่อมอยากจะนั่งมองอยู่เช่นนี้ หากจะได้ดีหน่อย มีเมล็ดแตงโมให้แทะก็คงจะไม่เลวนัก

 

 

ฉู่ป๋ายเห็นว่าไม่มีประโยชน์ จึงรู้ว่านางได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว

 

 

อวี้อาเหราหยุดมือลง ก่อนจะทำคอแข็งหวีผมต่อไป และรู้สึกว่าทำไมในโลกนี้จึงมีคนแปลกๆ เช่นนี้อยู่ด้วยนะ

 

 

หลังจากหวีผมอยู่นาน ก็ไม่เห็นว่าอวี้อาเหราจะทำอย่างไรอีก

 

 

ไม่เพียงแต่ฉู่ป๋ายที่เริ่มปวดคอ แม้แต่ฉู่เกอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “พี่เหราเอ๋อร์ ท่านไม่คิดที่จะมัดผมให้ฉู่ฉู่หน่อยหรือ”

 

 

“ข้าทำไม่เป็น” อวี้อาเหราส่ายหน้า

 

 

นางไม่เคยหวีผมให้ผู้ชายมาก่อน แล้วไหนเลยนางจะมัดผมเป็นเล่า?

 

 

ฉู่เกอหัวเราะอย่างขบขัน “แค่นี้พี่เหราเอ๋อร์ก็ทำไม่เป็น ให้ฉู่ฉู่สอนสิ”

 

 

“ให้เขาสอนหรือ? ก็เขาบอกข้าเองนี่ว่าเขาเองก็ทำไม่เป็นน่ะ” กล่าวไปแล้วในใจของนางก็รู้สึกตงิดขึ้นมา

 

 

ชั่ววินาทีนั้น สายตาดุดันก็หันไปมองร่างของฉู่ป๋าย หากพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็คงจะหวีผมเป็นจริงๆ นั่นแหละ เมื่อครู่นี้นางก็โดนหลอกอีกแล้วหรือ? ความรู้สึกน้อยใจเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาในใจอีกครั้ง

 

 

สีหน้าของฉู่ป๋ายเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วจึงใช้สายตากับฉู่เกอ

 

 

ฉู่เกอที่รู้ตัวว่าพูดผิดไปเสียแล้วนั้นก็รีบพูดขึ้นมาว่า “เขาหวีผมไม่เป็นก็จริง แต่คนทั่วไปแม้ไม่ได้กินเนื้อหมูก็เคยเห็นหมูอยู่มิใช่หรือ? ความหมายของข้าก็คือ เขาเห็นผู้อื่นหวีผมให้เขาทุกวี่ทุกวัน อย่างไรเสียก็ต้องรู้วิธีมัดผมบ้างนั่นแหละน่า”

 

 

“อย่างนั้นหรือ” อวี้อาเหราจ้องมองเขานิ่ง เหตุใดท่าทีพูดไม่ออกของฉู่ป๋ายจึงดูแปลกๆ เช่นนี้เล่า

 

 

รอยยิ้มของฉู่ป๋ายฝืดฝืนเต็มที “ถ้าไม่เช่นนั้นเล่า?