ตอนที่ 709 ถูกลงโทษ / ตอนที่ 710 สงครามหิมะ

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 709 ถูกลงโทษ

 

 

น่าสงสารอะไรเพียงนี้? มิน่าเล่าถึงไม่รู้ เป็นเพราะลืมไปเสียแล้วนั่นเอง

 

 

“อืม” ฉู่ป๋ายพยักหน้า

 

 

อวี้อาเหรานิ่งเงียบไปสักพัก จากนั้นจึงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเช่นเดิม จ้องมองเขา “เจ้ารีบตื่นได้แล้ว อย่าให้คนอื่นเห็นว่าพวกเรานอนอยู่บนเตียงเดียวกัน มิเช่นนั้นจะไม่ดี”

 

 

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่ลุกเล่า” ฉู่ป๋ายถามอย่างไร้เดียงสา

 

 

อวี้อาเหราไม่รู้จะพูดเช่นไร เหตุใดอะไรกันเล่า? ก็ข้างนอกหนาวจะตาย และนางยังอยากที่จะนอนหลับตื่นให้สายเสียให้พอ

 

 

สุดท้าย นางก็ถูกฉู่ป๋ายลากให้ลุกขึ้นจากเตียง

 

 

เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้เดินเข้ามาดูพวกเขาทั้งสอง พวกนางชินเสียแล้ว จึงไม่ค่อยตื่นตกใจอะไรแล้ว จึงเดินเข้ามาช่วยปรนนิบัติอาบน้ำอาบท่าเหมือนเคย

 

 

หลังจากล้างหน้าแล้ว อวี้อาเหราก็หันไปสั่งกับเมี่ยวอวี้อย่างไม่ค่อยสนใจนัก “อีกสักพักเจ้าก็ไปที่จวนเซิ่นอ๋อง ไปเชิญฉู่เกอมาเถิด นางอยู่ที่จวนคนเดียวคงน่าเบื่อแย่ ข้าเองก็คิดถึงนางเหมือนกัน”

 

 

“อ้อ บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ”

 

 

สีหน้าของฉู่ป๋ายชะงักไป ท่าทีการดื่มน้ำชาก็หยุดลง

 

 

จากนั้นก็มองอวี้อาเหราด้วยสายตาหนักแน่น

 

 

ในช่วงเวลานั้น ก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว

 

 

อวี้อาเหราที่กำลังทำโน้นทำนี่อยู่จึงมองไม่เห็น หลังจากล้างหน้าหวีผมแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งลงทานอาหารเช้า

 

 

ยามที่ทั้งสองกำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่นั้น อวี้จื้อก็เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งรอยยิ้มในหน้า เมื่อเห็นฉู่ป๋ายนั่งอยู่ด้วยกัน และยิ่งเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่เป็นของตัวเอง สีหน้าของเขาก็ชะงัก ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากชะงักไปก็แย้มยิ้มขึ้นมาแล้วหันไปทางอวี้อาเหรา

 

 

อวี้อาเหรามองเขา “เจ้ามาได้อย่างไรกัน”

 

 

“แน่นอนว่าต้องมีขอคารวะพี่รองสิ” เมื่ออวี้จื้อกล่าวจบ ก็ยิ้มเล็กน้อย

 

 

อวี้อาเหราเองก็ยิ้มออกมา “มาเพียงคารวะหรือ เพียงแค่นั้นจริงๆ หรือ?”

 

 

“ไม่หรอก” อวี้จื้อส่ายหน้า “มาเพื่อบอกถึงคำสั่งของเสด็จพ่อน่ะ”

 

 

“ว่าอย่างไร” รอยยิ้มใบหน้าของอวี้อาเหราค่อยๆ หายไป

 

 

“เสด็จพ่อกล่าวว่า อีกสองวันข้างหน้าในวังหลวงจะมีงานเลี้ยง เพราะฉะนั้นจึงต้องให้พี่รองเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วม หลายวันมานี้ไทเฮาไม่ได้สนใจให้ท่านพี่เข้าไปเรียนศิลปะสตรีอะไรอะไรอีกแล้ว” หลังจากอวี้จื้อพูดจบ ก็นึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “แต่เหตุใดพี่รองต้องเรียนศิลปะสตรีด้วยเล่า?”

 

 

เจาเอ๋อร์ที่อยู่ข้างพยายามที่จะกลั้นยิ้ม

 

 

อวี้อาเหราทำหน้าไม่ถูก

 

 

จะให้นางพูดว่า นางถูกลงโทษเพราะแอบไปกินปลาทรงเลี้ยงของฮ่องเต้หรือ?

 

 

สุภาษิตกกล่าวว่า คานด้านบนไม่ตรงเสาด้านล่างย่อมเบี้ยว อย่างไรนางก็เป็นพี่สาว อย่างไรนางก็ไม่ควรที่จะก่อเรื่องเช่นนี้

 

 

“ถูกฝ่าบาทลงโทษน่ะ” เป็นฉู่ป๋ายที่ตอบแทนนางขึ้นมา

 

 

อวี้อาเหราพยักหน้าคล้อยตาม

 

 

อวี้จื้อเข้าใจ “หลายวันมานี้ พี่รองก่อเรื่องไม่น้อยเลย”

 

 

อวี้อาเหราหน้าหมอง เหตุใดเขาถึงมากล่าวโทษพี่สาวเช่นนี้?

 

 

จากนั้น เขาก็เปลี่ยนโทนเสียง เป็นความเสียดายนัก “เราไม่เคยอยู่ด้วยกันเลย น่าเสียดายนัก”

 

 

อวี้อาเหราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ้าอยากเห็นฝ่าบาทลงโทษพี่หรืออย่างไร?”

 

 

“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว” อวี้จื้อชะงัก แล้วถามขึ้นมาอีกว่า “เหตุใดพี่รองโดนลงโทษคนเดียวเล่า?”

 

 

อวี้อาเหราไม่ได้ว่าอะไรอีก นั่นจะเพราะอะไรอีกเล่า เป็นเพราะฉูป๋ายและฉู่เกอเก่งกาจเสียเหลือเกิน ดังนั้นนางจึงต้องโดนลงโทษคนเดียวอย่างไรเล่า

 

 

เป็นฉู่เกอแท้ๆ ที่วางแผนขึ้นมาแต่เพียงผู้เดียว ทำไมคนที่ต้องเรียนศิลปะสตรีนั้นเป็นนางไปได้

 

 

อยากจะร้องไห้ก็ไร้น้ำตา

 

 

อวี้อาเหราคิดอย่างนิ่งเงียบ ทันใดนั้นก็มีบุคคลาหลายคนที่บุกเข้ามา

 

 

ที่แท้ก็เป็นพวกชิงอวิ๋น

 

 

ไม่ได้พบเสียนาน

 

 

เมื่อวี้อาเหรากำลังคิด พวกเขาก็เข้ามาแสดงความเคารพ

 

 

“ข้าน้อยคารวะคุณหนูรอง เซิ่นซื่อจื่อขอรับ”

 

 

“ลุกขึ้นมาเถิด” อวี้อาเหราส่ายหน้า “ข้าไม่อยู่เสียหลายวัน พวกเจ้าคงได้พักผ่อนกัน ออกไปเสียเถิด”

 

 

 

 

ตอนที่ 710 สงครามหิมะ

 

 

คนอื่นยังดูนิ่งเงียบ มีเพียงชิงอวิ๋นที่ปิดบังความยินดีเอาไว้ไม่มิด

 

 

คงเป็นเพราะอายุน้อยสุด ดังนั้นจึงไม่นิ่งเหมือนคนอื่นๆ

 

 

“เจ้านี่ช่างดีต่อบ่าวไพร่ยิ่งนัก” ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างกาย

 

 

“แน่นอนอยู่แล้วสิ” อวี้อาเหราเลิกคิ้วอย่างถือดี

 

 

ฉู่ป๋ายยิ้มขึ้นมา “อย่างนั้นก็ดี หานสือเองก็อยู่ในช่วงพักอยู่ ตอนนี้ไม่ได้เข้ามาปรนนิบัติ สองสามวันมานี้ข้าขอมาอยู่ที่จวนหลิงอ๋องแล้วกัน และยังสามารถพิสูจน์ได้อีกด้วย เจ้าจะได้รู้ว่าข้านั้นสามารถรักษาความลับได้มากเพียงใด”

 

 

“เจ้า…” อวี้อาเหราไม่พอใจเล็กน้อย เจ้ากล้าหาญนัก กล้าที่จะมาขอร้องเช่นนี้

 

 

จ้องมองไปรอบๆ ด้าน คนอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าจะฟังที่เขาพูดเข้าใจหรือไม่

 

 

อวี้จื้อมองอย่างแปลกใจ ทว่ากลับไปพูดอะไร

 

 

อวี้อาเหราชะงักไป แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้ “วันนี้มีหิมะตกนี่นา…”

 

 

“ใช่แล้ว” อวี้จื้อคล้อยตาม “พี่รองไม่ค่อยแข็งแรง มิเช่นนั้นพวกเราคงได้เล่นปาหิมะกัน น่าจะสนุก”

 

 

“เล่นปาหิมะหรือ?” อวี้อาเหราสนใจขึ้นมา

 

 

“อืม” อวี้จื้อพยักหน้า

 

 

อวี้อาเหราจึงเอ่ยขึ้นว่า “สุขภาพข้าดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้สบายดี ออกไปเล่นข้างนอกเถิด ตอนนี้หิมะยังไม่ตกหนัก มิเช่นนั้นคงเล่นไม่ได้แน่”

 

 

“เมื่อคืนเจ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ยังจะเล่นอีกหรือ?” ฉู่ป๋ายได้ยินดังนั้นก็ไม่ค่อยพอใจ

 

 

“แค่กๆ ข้าสบายดีมาก ไม่ได้เป็นอะไรเลย” อวี้อาเหราเข้าใจขึ้นมา รู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องที่เขาช่วยแก้พิษให้เมื่อคืนนี้ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อวาน ซึ่งนางก็อดนอนจริงๆ เพราะเอาแต่รบเร้าฉู่ป๋าย เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ใบหน้าของนางก็เริ่มแดงขึ้นมา

 

 

ทุกครั้งที่หวนคิด ใบหน้าของนางก็แดง และใจของนางก็เต้น

 

 

แทบไม่กล้าที่จะเชื่อ ว่าคนเมื่อวานนั้นจะเป็นนางจริงๆ

 

 

เมื่ออวี้อาเหราหวนคิด ก็สัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคนกำลังมองมาที่นาง ทันใดนั้นนางก็หงอลงทันที

 

 

อวี้จื้อมองเห็นใบหน้าแดงก่ำ “พี่รอง ท่านหน้าแดงแล้ว”

 

 

“ไม่นี่ คงเป็นเพราะอากาศร้อนเกินไป หน้าเลยแดงน่ะ” อวี้อาเหราหาเรื่องแก้ตัวไปเรื่อย

 

 

คนข้างๆ ได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกงุนงง ตอนนี้ด้านนอกมีหิมะตก แม้ว่าจะอยู่ในห้อง แต่ปลายเท้ายังสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น เหตุใดถึงบอกว่าร้อนอีก ฟังดูก็รู้ว่านางกำลังพูดไปเรื่อย

 

 

อวี้อาเหราไม่สนว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อยืนขึ้นก็เอ่ยขึ้นกับอวี้จื้อว่า “บอกว่าจะไปเล่นหิมะไม่ใช่หรือ? ไปสิ!”

 

 

“ไปขอรับ” อวี้จื้อดีดตัวลุกขึ้นยืน แล้วเดินตามหลังเข้ามา

 

 

ฉู่ป๋ายมองไปยังเงาร่างของทั้งสอง สีหน้าของเขาก็กระตุก นิ้วมือของเขาเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ

 

 

เมื่อเห็นว่าเขายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ เจาเอ๋อร์ก็ถามขึ้นมา “เซิ่นซื่อจื่อไม่ไปเล่นด้วยหรือเจ้าคะ”

 

 

“ไป” ฉู่ป๋ายพยักหน้าน้อยๆ แล้วจึงเดินตามไปหลังๆ

 

 

เมื่อออกมาด้านนอก เมี่ยวอวี้พาเจาเอ๋อร์ออกมาด้วย และหานสือก็เข้ามาด้วย

 

 

อวี้อาเหรามองไปทางหานสือแล้วชะงัก จากนั้นก็หันไปทางฉู่ป๋าย ไหนบอกว่าเขาหยุดงานอย่างไรเล่า?

 

 

เขาก็เพียงพูดไปเรื่อยเปื่อย นางคิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขบฟัน

 

 

ฉู่ป๋ายทำเสียงเบา “เขาก็มากับเกอเอ๋อร์อย่างไรเล่า ไม่ได้หรือ?”

 

 

“ก็ได้” อวี้อาเหราพยักหน้า ทำไมจะไม่ได้เล่า? เขาอยากพูดเรื่องอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไปเถิด ก็แค่เปลืองข้าวเปลืองน้ำเล็กน้อยเท่านั้นเอง นางจึงฟังเขาพูดอย่างไร้อารมณ์ และตอบอย่างขอไปที

 

 

ฉู่เกอมองพวกเขา ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “พี่เหราเอ๋อร์ เหมือนว่าเมื่อคืนพี่ชายของข้าไม่ได้กลับจวนนะเจ้าคะ”

 

 

“แค่กๆ” อวี้อาเหรามองนางด้วยสายตาไม่เป็นธรรมชาติ

 

 

ไม่ได้กลับหรือ? ถ้าเป็นฉู่เกอต้องรู้แน่ว่าเมื่อคืนนี้ฉู่ป๋ายไปอยู่ที่ไหนมา แล้วยังมาถามอีก คงจะต้องการที่จะตั้งใจแกล้งนางแน่