บทที่ 1143 อารมณ์ดีไม่เลว / บทที่ 1144 ถ้าโชคดีหน่อย

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1143 อารมณ์ดีไม่เลว

เยี่ยมู่ฝานที่ปลายสายถอนหายใจ “นี่เพิ่งจะชั่วโมงเดียว เว็บออฟฟิเชียลก็จวนจะถูกว่าจนเป็นอัมพาตแล้ว…เวยป๋อทางการโพสต์ข้อความหนึ่ง ว่าให้พวกเขาไปดูหนังแล้วค่อยพูด เปล่าประโยชน์”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก “ความประทับใจแต่เดิมของพวกเขาที่มีต่อกงซวี่อยู่ตรงนั้น พวกเราก็เป็นบริษัทของเขาอีก ถ้าพวกเราออกมาพูด ไม่ว่าพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์”

น้ำเสียงเยี่ยมู่ฝานหนักหน่วงอยู่บ้าง “หวันหวั่น สถานการณ์ตอนนี้แย่มาก พวกเรา…เท่ากับอยู่ในสภาพถูกแบนแล้ว…หลายวันนี้ฉันติดต่อพาร์ตเนอร์หลายเจ้า ไม่มีสักเจ้าเต็มใจร่วมงานกับพวกเรา เจ้าสารเลวเยี่ยเส่าอันนั่นต้องแอบเล่นลูกไม้ลับหลังแน่นอน”

เพราะคุณปู่ยอมรับเยี่ยมู่ฝานแล้ว ถ้าเขาทำผลงานออกมาได้ ก็ได้ฟื้นฟูอำนาจการสืบทอดของเขา ดังนั้นครั้งนี้ทางฝั่งเยี่ยอีอีกับเยี่ยเส่าอันจึงไล่ต้อนทั่วทุกทาง บวกกับที่โกลบอลคอยเล่นสกปรกอยู่ลับหลังเสมอ สถานการณ์ของพวกเขาจึงย่ำแย่มาก

ถ้าผ่านพ้นด่านนี้ไปไม่ได้ เกรงว่าบริษัทคงต้องเผชิญกับการล้มละลาย

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ต้องรีบร้อน ลั่วเฉินกับกงซวี่ก็เข้ารอบแล้วไม่ใช่เหรอ”

เรื่องกลายเป็นแบบนี้แล้ว เยี่ยมู่ฝานอดร้อนใจไม่ได้ เขาเอ่ยอย่างฉุนเฉียว “เข้ารอบจะมีประโยชน์อะไร! ไม่ได้รางวัลทุกอย่างก็ไร้ความหมาย! พวกเราลงเงินทุนทั้งหมดที่มีก่อนหน้านี้ไปกับหนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป แล้วย้อนกลับไม่ได้อีก บริษัทพวกเราก็จบกันแล้ว!”

หลายวันนี้เขาโทรศัพท์ไปทั่วทุกที่ ขอร้องคนไปทั่วทุกแห่ง แต่ก็เปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง

เขาติดต่อผู้กำกับของ ‘ดาราดังมีนัด’ โฮ่วฉงเลี่ยง หวังปล่อยสิบนาทีที่ถูกลบไปนั้นออกมาอาทิตย์หน้า แต่กลับถูกบอกว่าลบทิ้งหมดไม่มีเหลือแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นกล่าว “พี่ พี่เชื่อฉันไหม”

เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “ฉัน…แน่นอนว่าเชื่อแก…”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอีก “ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายก็อย่ายอมแพ้ ตกลงไหม”

เสียงของหญิงสาวราวกับสายน้ำไหลผ่านหัวใจ เยี่ยมู่ฝานสงบลงอย่างน่าประหลาด “หวันหวั่น ขอโทษที เป็นฉันที่ร้อนใจไป พวกเรายังหนุ่มสาว ต่อให้พ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร อย่างแย่ที่สุดก็แค่เริ่มต้นใหม่!”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบาง “คิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว!”

คุยกับเยี่ยหวันหวั่นสักพัก เยี่ยมู่ฝานก็ใจเย็นลงแล้ว “จริงสิ คุณปู่ให้พวกเรากลับไปกินข้าวเย็นพรุ่งนี้”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ได้ ฉันรู้แล้ว พวกเรากลับไปพรุ่งนี้เช้า ยังทันเวลา”

วันถัดมา บ้านเก่าตระกูลเยี่ย

เมื่อเห็นเยี่ยมู่ฝานเหลียงเหม่ยเซวียนก็เอ่ยหัวเราะทันที “โอ้ คุณชายใหญ่เยี่ยของพวกเรากลับมาแล้ว! ดูอารมณ์ดีไม่เลวนี่นา! ได้ยินว่าหนังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจินหลาน ยินดีด้วยจริงๆ จ้ะ!”

เหลียงเหม่ยเซวียนพูดแสดงความยินดี แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความดูถูก

ถึงเข้ารอบแล้ว แต่ใครไม่รู้บ้างว่าก็แค่ไปร่วมงานเป็นเพื่อนผู้รับรางวัลเท่านั้น แถมยังถูกทั้งออนไลน์ไล่ต่อว่า รายได้จำหน่ายตั๋วย่ำแย่น่าเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้

ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน หนังเรื่องแรกของเยี่ยมู่ฝานนี้เรียกได้ว่าพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า สมกับฉายาขยะไร้ค่า

หลังได้เยี่ยหวันหวั่นสั่งสอน เยี่ยมู่ฝานคราวนี้ไม่ได้มุทะลุเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มแย้ม “สะใภ้รองเกรงใจไปแล้ว ไม่แปลกที่ผมจะอารมณ์ดี ในประวัติศาสตร์รางวัลจินหลานนี้ยังไม่มีใครได้ตำแหน่งราชาจอเงินคู่มาก่อน หวงเทียนกับโกลบอลก่อตั้งมาตั้งหลายปีก็ยังไม่มีคนได้ ถ้าศิลปินผมได้เป็นราชาจอเงินคู่ เกรงว่าคงสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทั้งวงการบันเทิง ชื่อสลักลงในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เทียบกับเรื่องนี้ รายได้จำหน่ายตั๋วนับเป็นอะไร”

เหลียงเหม่ยเซวียนได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะเยาะ “อะไร ราชาจอเงินคู่? คณะกรรมการเห็นว่าบทที่เธอขโมยไปจากพวกเราหวงเทียนไม่เลว ให้พวกเธอเข้ารอบเป็นการปลอบใจก็เมตตามากแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังคิดจะเอารางวัล แถมยังเอารางวัลราชาจอเงินคู่ ฉันว่าเธอบ้าไปแล้วมั้ง ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นต่ำจริงๆ!”

———————————————————————————-

บทที่ 1144 ถ้าโชคดีหน่อย

บนโต๊ะอาหาร

เป็นธรรมดาที่จะคุยกันเรื่องหนัง

เหลียงเหม่วยเซวียนตั้งแต่ต้นจนจบก็แสดงท่าทีทระนงโน้มน้าวบิดามารดา “หนังหลายเรื่องที่หวงเทียนถ่ายทำปีนี้โด่งดังทุกเรื่อง งานดังที่ได้รับรางวัลก็ถูกหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยึดครองส่วนใหญ่หมด! คุณพ่อคุณแม่วางใจได้เลยค่ะ! รับรองว่าหวงเทียนในมืออีอีกับเยี่ยเส่าอันต้องดียิ่งขึ้นๆ แน่นอน!”

เยี่ยหงเหวยกับถานอี้หลานได้ยินดังนั้นก็ปรากฏสีหน้ายินดี

“คุณแม่คะ คุณแม่เลิกชมหนูได้แล้ว หนูยังมีจุดที่ต้องเรียนรู้กับคุณปู่อีกเยอะค่ะ!”

เยี่ยอีอีถ่อมตนสองสามประโยคจากนั้นก็มองเยี่ยมู่ฝาน เอ่ยอย่างสนิทสนม “มู่ฝาน ได้ยินว่ารายได้จำหน่ายตั๋วหนังเรื่องนั้นของนายไม่ค่อยเป็นไปตามที่คิดไว้ใช่ไหม ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าต้องการให้ช่วยก็บอกได้ไม่ต้องลังเล”

เหลียงเหม่ยเซวียนแค่นเสียงเย็น “อีอี ลูกอย่าหลับหูหลับตาเป็นห่วงเลย รายได้จำหน่ายตั๋วนับเป็นอะไร นักแสดงนำชายสองคนของเขาเข้ารอบชิงรางวัลจินหลานเชียวนะ! ขอแค่สักคนได้รางวัล ก็ได้เงินเกินหลายเท่าแล้ว!”

เยี่ยหงเหวยได้ยินแบบนั้นก็พึมพำ “ปู่ดูรายชื่อเข้ารอบรางวัลจินหลานคราวนี้แล้ว นอกจากหนังที่เข้ารอบจะเป็นหนังจากผู้กำกับดังหมด การแข่งขันก็ยังดุเดือด โอกาสได้รับรางวัลมีไม่มาก แต่ เข้ารอบได้ก็ไม่เลวแล้ว พยายามต่อไปแล้วกัน!”

ถึงแม้เยี่ยหงเหวยไม่ได้พูดอะไรมาก แค่ให้กำลังใจไม่กี่ประโยค แต่ก็ย่อมยากหลีกเลี่ยงความผิดหวัง

ในใจเขาชัดเจนดี หากหนังเรื่องนี้ไม่อาจได้ผลตอบรับกลับมา บริษัทเล็กๆ ของเยี่ยมู่ฝานนั้นก็ยันอยู่ได้ไม่นานแล้ว

เทียบกับเยี่ยอีอี เด็กอีกสองคนนั้นยังห่างไกลเกินไปนัก…

เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า “ครับ คุณปู่ ผมจะพยายาม”

หลังกินข้าวเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นกับเยี่ยมู่ฝานก็จากบ้านเก่าไปด้วยกัน

มือถือของเยี่ยหวันหวั่นพลันดังขึ้นมา

เป็นสายจากเจียงเยียนหราน

เยี่ยหวันหวั่นรับสายจากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ยแสดงความยินดี “ฮัลโหล เยียนหราน ยินดีด้วยนะ!”

“หวันหวั่น ทำไมโทรหาเธอไม่ติดล่ะ” เจียงเยียนหรานบ่นอุบอิบ

“ขอโทษทีๆ สองวันนี้ฉันอยู่ในเขตภูเขาตลอด สัญญาณเลยไม่ค่อยดี วันนี้เพิ่งกลับมา ยุ่งตลอดจนเพิ่งเสร็จเมื่อกี้นี่แหละ

เจียงเยียนหรานก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอเอ่ยอย่างตื่นเต้น “หวันหวั่น เธอเห็นแล้วใช่ไหม ฉันเข้ารอบแล้ว! ฉันเข้ารอบชิงรางวัลจินหลานสาขานักแสดงนำหญิงแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มน้อยๆ “อืมๆ ฉันเห็นแล้ว! เธอเก่งมาก! ฉันเพิ่งคิดจะโทรหาเธอตอนกลับไปพอดี!”

โชคดีที่ก่อนหน้านี้

โชคดีที่ก่อนหน้านี้คอยระวังไว้เลยไม่มีใครรู้ว่าเจียงเยียนหรานเป็นคนของเธอ ดังนั้นตั้งแต่ถ่ายทำจนถึงโปรโมตฝั่งเจียนเยียนหรานจึงราบรื่นดี รายได้จำหน่ายตั๋วและคำชื่นชมของภาพยนต์ก็ล้วนแล้วแต่ไม่เลว เป็นหนึ่งในหนังดังที่เข้าแย่งชิงรางวัล

“ยังดีที่ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง แต่การแข่งขันรุนแรงไปแล้ว ไม่รู้จะได้รางวัลหรือเปล่า”

“นี่เป็นหนังเรื่องแรกของเธอ เข้ารอบได้ก็เก่งมากแล้ว นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยให้กำลังใจ

เจียงเยียนเหรียนถามอย่างเป็นกังวล “หวันหวั่น เธอจะมาพิธีมอบรางวัลหรือเปล่า จริงด้วย กงซวี่กับลั่วเฉินก็เข้ารอบ เธอต้องมางานให้ได้นะ!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก “ได้ ฉันจะไป”

เจียงเยียนหรานค่อยโล่งใจขึ้นมา “งั้นก็ดี เธอไปฉันก็ไม่ประหม่าแล้ว ฉันเพิ่งไปงานแบบนี้ครั้งแรก”

เยี่ยหวันหวั่นคุยกับเจียงเยียนหรานสักพักก็ชี้แจงเรื่องที่จำเป็นต้องใส่ใจให้เธอ จากนั้นก็วางสาย

หลังวางสาย เยี่ยหวันหวั่นก็มองเยี่ยมู่ฝานที่ว้าวุ่นใจอยู่ข้างๆ “เอาละๆ เลิกทำหน้าตึงได้แล้ว เยียนหรานก็เข้ารอบแล้ว ฝั่งพวกเราเข้ารอบสามคน คำนวณตามหลักความน่าจะเป็น โอกาสที่จะได้รางวัลก็ยังค่อนข้างสูงอยู่ ถ้าโชคดีหน่อย ไม่แน่อาจจะได้ควบทั้งราชาราชินีจอเงิน จากนี่พี่จะได้เดินขวางหน้าพวกเหลียงเหม่ยเซวียนแล้ว!”

…………………………..