บทที่ 1145 โชคชะตาจะเป็นยังไง / บทที่ 1146 การรวมตัวกันของเทพบุตรหน้าตางามล้ำ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1145 โชคชะตาจะเป็นยังไง

เหมารวมทั้งรางวัลราชาและราชินีจอเงิน?

เยี่ยมู่ฝานหัวเราะ “ขอบใจที่อุตส่าห์ปลอบใจฉันนะ! แต่นั่นคงไม่ใช่แค่โชคดี คงต้องทำลายกฎธรรมชาติกันเลยทีเดียว?”

เฮ้อ อาทิตย์หน้าก็ถึงพิธีประกาศรางวัลจินหลานแล้ว โชคชะตาของจูเสินสือไต้จะเป็นยังไง คงต้องรอดูในวันนั้นแล้ว

……

หลายวันต่อมา

วันนี้ซือเยี่ยหานต้องไปตรวจร่างกายตามนัด เยี่ยหวันหวั่นมอบหมายงานที่เหลือให้เถาเจียเหวิน แล้วพาเขาไปตรวจสุขภาพกับหมอซุน

การตรวจที่ดำเนินยาวนานถึงสองชั่วโมง เสร็จสิ้นในที่สุด

พอเห็นทั้งสองเดินออกมา เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเข้าไปถาม “เป็นยังไงบ้างคะ?”

ซือเยี่ยหานเดินออกมาเห็นใบหน้ากังวลของหญิงสาว สายตาอ่อนโยนลง เขากอดเธอเบาๆ “ไม่เป็นไร”

เยี่ยหวันหวั่นมองหมอซุนอย่างไม่วางใจ “หมอซุนคะ ไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ไหมคะ? พักนี้เขาเริ่มทำงานหนักอีกแล้ว แล้วยังแอบอดหลับอดนอนลับหลังฉันตั้งหลายครั้ง…”

พอได้ยินเยี่ยหวันหวั่นฟ้อง ซือเยี่ยหานทำหน้าหน่ายใจเล็กน้อย

ซุนไป๋เฉ่ามองหน้าสองสามีภรรยาหนุ่มสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เอ่ยว่า “คุณหนูเยี่ยวางใจได้ คุณซือฟื้นตัวได้ดีมาก การฝังเข็มในวันนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการการรักษาแล้ว หลังจากนี้หากใส่ใจเรื่องการพักฟื้นให้มากๆ ก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะครับ”

ซือเยี่ยหานบอก “ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร ฉันรู้ตัวเองดี”

เยี่ยหวันหวั่นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกในที่สุด “หมอซุนคะ ขอบคุณมากค่ะ! ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ! ยังมีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษอีกไหมคะ?”

เยี่ยหวันหวั่นกำลังพูด เสียงมือถือของซือเยี่ยหานก็ดังขึ้น

ซือเยี่ยหานมองหน้าจอ พยายามปกปิดสายตาที่ไหวระริกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเหมือนปกติว่า “ฉันไปรับโทรศัพท์แป๊บหนึ่งนะ”

“อ้อ ค่ะ…”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า จากนั้นก็หันไปคุยกับหมอซุนต่อ

หมอซุนอธิบายเรื่องที่ควรระวังเป็นพิเศษให้เธอฟังอย่างละเอียด เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจจดอย่างจริงจัง

คุยกันจบ ซือเยี่ยหานก็ยังไม่กลับมา

ทำไมถึงคุยนานจัง?

ในตอนนั้นเอง เสียงเหมือนมีบางอย่างแตกหักดังมาจากสวนหย่อม

เยี่ยหวันหวั่นตกใจ รีบวิ่งไปตามหาซือเยี่ยหานที่สวนด้านหลัง

ในสวนด้านหลัง เยี่ยหวันหวั่นเห็นซือเยี่ยหานยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไกลๆ เธอตั้งใจจะเดินเข้าไปหา แต่เสี้ยววินาทีที่เธอเห็นใบหน้าซือเยี่ยหาน ก็ต้องอึ้งไป

ตอนนี้ ทั้งสีหน้าและรังสีที่แผ่อยู่รอบตัวซือเยี่ยหานน่ากลัวมาก

ถึงแม้ในตอนที่เธอรู้สึกกลัวซือเยี่ยหานมากที่สุด เธอก็ยังไม่เห็นเขาน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

ข้างเท้าของซือเยี่ยหานมีเศษกระถางดอกไม้แตกกองอยู่ ส่วนตัวเขาในตอนนี้เหมือนถูกพยับเมฆน่ากลัวปกคลุมไปทั้งตัว ไร้ซึ่งแสงสว่าง สัมผัสได้แต่รังสีอำมหิตที่น่ากลัวเป็นพิเศษ…

“จำได้สิ…จำได้อยู่แล้ว คุณเคยบอกว่า คุณกับผมไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินบทสนทนารางๆ อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

ซือเยี่ยหานกำลังคุยกับใคร?

ไม่เหมือนกำลังคุยเรื่องงานเลย…

ขณะเยี่ยหวันหวั่นกำลังสงสัย ซือเยี่ยหานก็วางสายไปแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นจึงเดินเข้าไปหาซือเยี่ยหานอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คุณเก้า เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลย…”

เยี่ยหวันหวั่นยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มก็ดึงตัวเธอเข้าไปกอด

ตัวของซือเยี่ยหานเย็นผิดปกติ ไอเย็นปกคลุมร่างกาย เสมือนมีหลุมดำขนาดใหญ่กำลังดูดกลืนพลังชีวิตและแสงสว่างทั้งหมดในตัวเขา ชายหนุ่มกอดเธอแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย อดทนต่อความเจ็บ เธอยกมือขึ้นตบหลังซือเยี่ยหานอย่างปลอบประโลม “เป็นอะไรไปคะ?”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซือเยี่ยหานคล้ายจะสงบสติได้เล็กน้อย เขาผ่อนอ้อมแขนลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่เรื่องยิบย่อยในตระกูล”

——————————————————————-

บทที่ 1146 การรวมตัวกันของเทพบุตรหน้าตางามล้ำ

ถึงแม้ซือเยี่ยหานจะพูดอย่างนั้น แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น

เรื่องในตระกูลไม่มีทางทำให้ซือเยี่ยหานสูญเสียการควบคุมขนาดนี้แน่นอน

ขนาดเธอยังไม่มีปัญญาทำให้เขาโมโหขนาดนี้เลย…

ใครกันถึงได้เก่งขนาดนี้?

“พรุ่งนี้เธอจะไปร่วมพิธีประกาศรางวัลจินหลานใช่ไหม?” ซือเยี่ยหานถาม

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ใช่ค่ะ หลังจบพิธีประกาศรางวัลยังมีงานเลี้ยงต่ออีก น่าจะกลับดึกหน่อย คุณพาถังถังเข้านอนเร็วหน่อยแล้วกันนะคะ”

ซือเยี่ยหานตอบ “อืม”

เยี่ยหวันหวั่นพิงไหล่ซือเยี่ยหานแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ พรุ่งนี้ก็จะประกาศรางวัลแล้ว ตื่นเต้นจังเลย! คุณช่วยพูดให้กำลังใจฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

ซือเยี่ยหานเอ่ย “ห้ามดื่มเหล้า”

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ค่ะ…”

ไม่มีเซนส์เอาซะเลย…

……

วันต่อมา

เยี่ยมู่ฝานเรียกทุกคนมารวมตัวกัน แล้วเริ่มจัดการแต่งหน้าทำผมให้พวกเขา

เยี่ยมู่ฝานถูฝ่ามือ “วันนี้ถึงจะไม่ได้รางวัล ก็ต้องเปล่งประกายจนทำให้พวกนั้นแสบตาให้ได้!”

กงซวี่ที่มีกิ๊ฟเล็กๆ ติดเต็มหัวพยักหน้า แล้วกล่าวเสริม “ใช่แล้ว พวกเราต้องเป็นบริษัทที่หน้าตาดีที่สุดในงานแน่นอน! เปรียบเสมือนการรวมตัวกันของเหล่าเทพบุตรที่หน้าตางามเลิศล้ำ!”

ปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุกเล็กน้อย

การรวมตัวของเทพบุตรหน้าตางามเลิศล้ำกับผีน่ะสิ…

แต่พอดูดีๆ แล้วระดับความหน้าตาดีของบริษัทพวกเขาก็ไร้ที่ติจริงๆ นั่นแหละ!

โดยเฉพาะเมื่อผ่านการแต่งหน้าทำผมอย่างละเอียดประณีตของเยี่ยมู่ฝาน ยิ่งดึงเอาความดูดีในตัวพวกเขาออกมาได้อย่างถึงขีดสุด

เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองหานเซี่ยนอวี่ที่ทำผมเสร็จแล้ว กำลังนั่งอยู่บนโซฟา

ตามคาด!

ออร่าความหล่อพุ่งกระฉูดจริงๆ!

หานเซี่ยนอวี่รู้สึกถึงสายตาของเยี่ยหวันหวั่น เลยหันไปมองด้วยความสงสัย “มีอะไรรึเปล่า?”

เยี่ยหวันหวั่นโบกมือ “ไม่มีไรๆ ออร่าความหล่อของนายทำเอาฉันแสบตาเฉยๆ”

หานเซี่ยนอวี่หลุดขำ “วันนี้นายก็หล่อมากเหมือนกัน”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “แหมๆ ก็ว่าไป!”

เวลานี้เอง เยี่ยมู่ฝานที่กำลังทำผมให้กงซวี่ไม่รู้เห็นอะไรเข้า จู่ๆ ก็ตะโกนเสียงดัง

“เชี่ย! กงซวี่ นายโรคจิตรึไง? นายเอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาด้วยทำไมเนี่ย?”

กงซวี่กระเด้งตัว รีบแย่งถุงสีสันฉูดฉาดในมือเยี่ยมู่ฝานกลับไป “คืนมานะ! ห้ามแตะต้อง! ถ้าพี่ทำเสียผมไม่ยอมแน่…”

เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองกงซวี่ “เสื้อผ้าผู้หญิง?”

เจ้าหมอนี่จะมาไม้ไหนอีก?

กงซวี่กอดถุงเสื้อผ้าแล้วมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาน่าสงสาร จากนั้นก็พูดเสียงเศร้าๆ ว่า “เฮ้อ พี่เยี่ย พี่พูดถูกจริงๆ ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้ ทำไมผมไม่พยายามให้ดีกว่านี้อีกหน่อย ทำไมไม่พยายามอีกนิดนะ ตอนนี้เลยทำได้แค่ปล่อยโอกาสที่จะได้เห็นพี่แต่งหญิงหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา เสียดายชะมัด…”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก เธอเคยพูดอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หยุดตีความผิดๆ จะได้ไหมเนี่ย?

อีกอย่าง เขาควรโฟกัสเรื่องที่จะได้เจอเสี่ยวมี่เจี้ยนหรือไม่ต่างหากไม่ใช่เหรอ?

ทำไมตอนนี้เอาแต่หมกมุ่นกับเรื่องที่จะให้เขาแต่งหญิงอย่างเดียวล่ะ?

หมอนี่ต้องมีความชอบที่พิลึกพิลั่นมากแน่ๆ…

กงซวี่กะพริบตาถี่ๆ แล้วมองหน้าเยี่ยหวันหวั่นอย่างอาลัยอาวรณ์ พยายามฉีกยิ้มโชว์เขี้ยวหมา “พี่เยี่ย พี่จะไม่พิจารณาอีกทีเหรอครับ? สวยมากเลยนะ! จริงๆ นะ!”

เยี่ยหวันหวั่นหยิบเสื้อผ้าที่กงซวี่ซื้อขึ้นมาดู แล้วปากกระตุกทันที “นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?”

แม่เอ็งเถอะ!

ไม่นึกเลยว่าจะเป็นกระโปรงเจ้าหญิง…

อีกอย่างบนกระโปรงตัวนี้น่าจะมีผีเสื้อวิบวับไม่ต่ำกว่าหลายร้อยตัวแน่นอน

นี่มันรสนิยมความงามประเภทไหนกันเนี่ย?

เธอขอตายดีกว่าถ้าต้องใส่กระโปรงตัวนี้

จู่ๆ ก็นึกถึงช่วงเวลาน่ากลัวที่เคยถูกจับแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแปลกๆ ขึ้นมา…

เยี่ยหวันหวั่นโยนเสื้อผ้าทิ้ง “นายเก็บไว้ใส่เองเถอะ!”

………………………………