ตอนที่ 644 เป้าหมายอันแน่วแน่

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับห้านั้น ทำให้คนเหล่านั้นมิอาจต้านทานได้

ปัง ปัง ปัง! ร่างของคนเหล่านั้นตกลงมาจากด้านบนทีละคน ๆ ราวกับปลาที่กำลังจะตายนอนดิ้นอยู่บนพื้น

พวกเขาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับห้า เหตุใดถึงได้มียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ในเสียโจว

ผู้อาวุโสทั้งห้าต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขาคาดเอาไว้แล้วว่าชายผู้นี้มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าพวกเขามาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

“นายท่าน พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนท่านเลย ได้โปรดนายท่านไว้ชีวิตด้วย!”

“นายท่านโปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”

หลิงหันไปมองมู่เฉียนซีและกล่าวถามว่า “ซีเอ๋อร์ คนพวกนี้ จะฆ่าหรือไม่ ?”

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “พวกมันต้องเป็นคนของสำนักปีศาจดำแน่นอน น่าจะรู้ว่าอาจารย์ใหญ่อยู่ที่ไหน”

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม ถ้าอยากมีชีวิตรอด ก็ต้องแลกเพื่อชีวิต”

พวกเขาเหงื่อเย็นไหลพลั่ก “พวกเราไม่รู้จริง ๆ! พวกเราแค่มีหน้าที่มาตามไล่ฆ่าตาเฒ่าเหล่านี้เท่านั้น”

“นั่นก็หมายความว่า ชีวิตของพวกเจ้าก็ไร้ประโยชน์แล้ว” แววตาของหลิงเย็นยะเยือก ลำแสงของพลังวิญญาณพุ่งโจมตีไปที่พวกเขา และพวกเขาก็สิ้นลมหายใจไปโดยสมบูรณ์

หลิงลงมือได้อย่างอ่อนโยน แม้แต่เลือดสักหยดของพวกเขาก็ไม่ให้ไหลออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หลานสาวของเขาตกอกตกใจ

ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งห้าก็ฟื้นพลังกลับมาพอสมควรแล้ว พวกเขากล่าวว่า “สาวน้อย ดูเหมือนว่าครั้งนี้สำนักปีศาจดำเตรียมพร้อมที่จะลงมือบุกแล้ว เกรงว่าสำนักศึกษาซวนเสียของพวกเราจะต้องเผชิญกับอันตรายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พวกมันคิดจะทำลายหน่วยสำนักปรุงยาของพวกเรา ทำลายแหล่งกำเนิดยาวิญญาณของหน่วยสำนักปรุงยาของพวกเรา”

“เพราะฉะนั้นพวกเราอยากจะขอวิงวอนนายท่านผู้นี้ช่วยพวกเราหน่อยจะได้หรือไม่ ?”

พวกเขามองไปที่หลิงอย่างมีความหวัง มีนายท่านผู้นี้อยู่ ครั้งนี้จะต้องกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้แน่

มู่เฉียนซีกล่าว “จะให้มหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งช่วยพวกเจ้า เกรงว่าสำนักศึกษาซวนเสียกองกำลังระดับสองจะจ่ายไม่ไหว”

ยิ่งไปกว่านั้น พลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอารอง เกรงว่าจะไม่ใช่เพียงแค่นี้

“นี่เจ้า……”

ผู้อาวุโสสูงสุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าต้องการสิ่งใดบอกมาตรง ๆ ได้เลย!”

“ใช่! ขอเพียงแค่พวกข้าทำให้ได้ พวกข้าก็จะทำ เจ้าก็เป็นนักเรียนของสำนักศึกษาซวนเสียเหมือนกัน ช่วยสำนักศึกษาผ่านความยากลำบากนี้ไปหน่อยเถอะนะ!” ผู้อาวุโสท่านอื่นก็กล่าวอย่างเห็นด้วย

มู่เฉียนซีกล่าว “สิ่งที่ข้าต้องการก็คือ พบอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาซวนเสีย ข้าอยากจะให้เขาหลอมกระบี่ให้ข้าเล่มหนึ่ง”

“อาจารย์ใหญ่!”

“เจ้าอยากเจออาจารย์ใหญ่!”

เมื่อได้ยินคำร้องขอเช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสต่างก็ลำบากใจขึ้นทันที

“สาวน้อย ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้เจ้าพบเขา แต่พวกข้าก็ยังไม่รู้เลยว่าอาจารย์ใหญ่เขาไปอยู่ที่ไหน!”

“พวกข้าได้ขอความช่วยเหลือไปยังอาจารย์ใหญ่ตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลย!”

“อาจารย์ใหญ่ไปไหนมาไหนเทพไม่รู้ผีไม่เห็นมาโดยตลอด พวกข้าก็เป็นกังวลใจอยู่เหมือนกัน”

มู่เฉียนซีรู้ว่าพวกเขาไม่ได้กล่าวคำโกหก ดูเหมือนว่าการหาอาจารย์ใหญ่ให้มาหลอมตัวกระบี่มังกรเพลิงของนางนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย

หลิงกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์อยากเจอคนผู้นั้น จะทำสิ่งใด ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “กระบี่ของข้าหักแล้ว นักหลอมอาวุธทั่วไปไม่สามารถหลอมตัวกระบี่ให้ข้าได้ ต้องเป็นยอดปรมาจารย์หลอมอาวุธเท่านั้นถึงจะหลอมได้ เพียงแต่ทั่วทั้งเสียโจว ดูเหมือนว่าจะมีแค่อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาซวนเสียเท่านั้นที่เป็นยอดปรมาจารย์นักหลอมอาวุธ”

“ซีเอ๋อร์บอกว่าทั่วทั้งเสียโจวมีเพียงคนเดียว แต่ดินแดนสี่ทิศ ไม่ได้มีเพียงคนเดียวสักหน่อย”

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “หรือว่าอารองรู้จักนักหลอมอาวุธคนอื่นที่ไหน ?”

“ผู้ที่เสาะแสวงหา อยู่ตรงหน้านี่เอง ซีเอ๋อร์อยากได้อาวุธใด อารองหลอมให้เจ้าได้ทุกอย่าง”

ในใจมู่เฉียนซีรู้สึกดีใจ แต่ก้นบึ้งหัวใจของผู้อาวุโสทั้งห้ากลับเย็นยะเยือก ในมือของพวกเขาไม่มีหมากต่อรองแล้ว จะทำเช่นไรให้พวกเขาช่วยล่ะ

เจ้าหนุ่มผู้นี้ดูเหมือนว่าอายุจะยังไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ แต่เป็นนักหลอมอาวุธแล้ว ช่างน่าทึ่งเกินไปแล้ว!

มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อพวกเจ้าหาอาจารย์ใหญ่ไม่เจอ เช่นนั้นหากพวกเจ้าตอบตกลงในคำขอต่อไปของข้า ข้าก็จะให้อารองช่วย”

“สาวน้อย เจ้าช่วยพวกข้าจริง ๆ ด้วย!”

“เยี่ยมไปเลย!”

ผู้อาวุโสทั้งห้าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

มู่เฉียนซีกล่าว “สภาพแวดล้อมในการฝึกฝนของสำนักศึกษาซวนเสียนั้นไม่เลวเลย ข้ายังอยากที่จะฝึกฝนต่อไปอีกช่วงระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่อยากจะให้ใครมาทำลายความสงบของข้า”

“ได้ ได้ ได้!”

“สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ของสำนักศึกษาซวนเสียของพวกเรานั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก!”

“สำนักศึกษาซวนเสียของพวกเรา……”

“รีบบอกมา เจ้าอยากให้พวกข้ารับปากทำสิ่งใด ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “สำนักศึกษาซวนเสียเป็นกองกำลังระดับสอง หน่วยสำนักปรุงยาของพวกเจ้าก็น่าจะเก็บสะสมสมุนไพรวิญญาณไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ! หากภารกิจนี้สำเร็จ ข้าจะไปที่คลังเก็บสมุนไพรวิญญาณของหน่วยสำนักปรุงยา และเลือกสมุนไพรวิญญาณที่ข้าถูกใจสามชนิด อีกทั้งยังต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรวิญญาณบางอย่างด้วย”

เพียงแค่สามชนิด มู่เฉียนซีไม่ได้ละโมบโลภมากเลย

อย่างไรเสียสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าก็เปรียบเสมือนชีวิตของนักปรุงยา!

คำขอของมู่เฉียนซีนั้นไม่ได้เกินไปเลย ผู้อาวุโสทั้งห้ารับปากอย่างไม่รีรอ

“ตกลง!”

“พวกข้ารับปาก!”

“……”

“ที่นี่ไม่เหมาะแก่การพูดคุย อาการของพวกเจ้าก็ยังไม่หายดี ไปหาโรงเตี๊ยมที่เมืองหนานเสียพักก่อนเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว

“อืม!”

พวกเขาอยู่พักที่โรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดของเมืองหนานเสีย ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสของหน่วยสำนักปรุงยา พวกเขาไม่ขาดแคลนเงินทองแน่นอน

“ก่อนอื่น ผู้อาวุโสสูงสุดส่งคนไปสืบข่าวมาก่อนเถอะ! จำเป็นต้องรู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอาจารย์ใหญ่ให้ได้”

“ได้!”

“อารอง ข้าจะตรวจร่างกายให้ก่อน ท่านก็รีบพักผ่อนซะหล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวกับหลิง

สุดท้ายเหล่าผู้อาวุโสก็ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง และถูกปฏิบัติอย่างแตกต่างออกไป!

อาการบาดเจ็บหลังจากที่ต่อสู้กับราชามังกรมา หลิงก็ฟื้นตัวได้ไม่เลวเลย

“ซีเอ๋อร์ เอากระบี่เจ้ามาให้ข้าดูหน่อย!” เรื่องของมู่เฉียนซีนั้น แน่นอนว่าเขาไม่อาจลืมได้

มู่เฉียนซีเอากระบี่มังกรเพลิงที่ซ่อมแซมแล้วออกมา หลิงสมกับที่เป็นนักหลอมอาวุธจริง ๆ แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้ว

“ตัวกระบี่ถูกทำลาย หากฝืนต่อไปเกรงว่าจะไม่ได้!”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “ไม่ได้มาก ๆ เลยหล่ะ!”

“อารองลองดูเดี๋ยวก็รู้เอง”

มู่เฉียนซีผลักหน้าต่างออก และกระโดดจากหน้าต่างลงไป จากนั้นก็ใช้กระบวนท่ามังกรเพลิงพิฆาต

พลังการโจมตีนี้กลับทำให้หลิงประหลาดใจมาก ในฐานะที่เป็นนักหลอมอาวุธ แน่นอนว่าเขาดูออกว่าคมกระบี่นั่นไม่ธรรมดา

แกร๊ง! การโจมตีหนึ่งครั้งผ่านไป เสียงกระบี่หักก็ดังขึ้นอย่างผิดปกติ

มู่เฉียนซีหยิบตัวกระบี่และคมกระบี่ขึ้นมา ก่อนจะกล่าวว่า “อารอง มันก็เป็นเช่นนี้แหละ”

เขาลอยตัวลงมาด้านล่าง และกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ไม่ได้ใช้ตัวกระบี่เดิมเชื่อมมันอย่างนั้นเหรอ ?”

“ตัวกระบี่เดิมของมันก็ไม่ใช่ตัวกระบี่เดิมที่แท้จริงของมัน หลังจากที่พลังของมันเพิ่มขึ้นก็ไม่อาจใช้ตัวกระบี่เดิมได้แล้ว”

ปลายนิ้วของหลิงแตะไปที่ปลายกระบี่มังกรเพลิง เขากล่าว “ซีเอ๋อร์รู้ความเป็นมาของมันหรือไม่ ?”

“ข้าเจอมันด้วยความบังเอิญ และได้มันมาครอบครอง ชื่อของมันก็คือกระบี่มังกรเพลิง มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ค่อนข้างจะเกี่ยวข้องกับกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ แต่ก็ไม่รู้ที่มาอย่างชัดเจน” มู่เฉียนซีตอบ

“กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ หากซีเอ๋อร์ชอบ อารองจะช่วยเจ้าหาแน่นอน กระบี่เช่นนั้นถึงจะคู่ควรกับซีเอ๋อร์ของข้า”

ศพที่เดินได้ที่รู้เพียงว่ามีเป้าหมายในใจที่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ต้องเสาะหากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณมอบให้หลานสาวของเขาให้ได้ สิ่งของในแหวนมิติมอบให้เป็นของขวัญที่ได้เจอกันครั้งแรกนั้น ดูอับอายเกินไปแล้ว