1883 vs 1884 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1883
ไปฉี่ด้วยกัน? ฉินมั่วได้ยินแล้วหน้านิ่วอย่างแรง เขาหันหน้าไปก็เห็นยัยเสือน้อยคลานลงจากเตียง เจ้าหล่อนคลานเข่าพลางโอบคีย์บอร์ดไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ขยี้ตาตัวเอง เตรียมจะกระโดดลงสู่พื้น
ฉินมั่วไม่อยากหายใจเข้าลึกอีกแล้ว เขาเอ่ยเสียงกระด้างเตือนเธอ “ป๋อเสียวจิ่ว เธอเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนฉันเป็นเด็กผู้ชาย ไหนลองบอกหน่อยซิว่าจะไป ฉี่ กับ ฉัน ยัง ไง? หา?”
เล่นพูดเสียงแบบนี้ ท่าทางจะโกรธแฮะ ป๋อจิ่วตาสว่างเลยทีเดียว เธอหยุดทุกการกระทำแล้วยิ้มขึ้นมา “ฉันลืมอีกแล้ว มั่วมั่ว เธออย่าโมโหสิ ฉันผิวปากเป็น ฉันยืนผิวปากให้เธออยู่หน้าห้องน้ำได้นะ”
ฉินมั่วหันไปยิ้มเย็นชา ก่อนจะจับเจ้าหล่อนยัดไว้ใต้ผ้าห่ม บอกแค่ว่า “อยู่เฉยๆ”
พูดบ้าอะไร เล่นผิวปากอยู่หน้าห้องน้ำ ใครมันจะฉี่ออก เขาเคยบอกแล้วไงว่าที่ยอมทนยัยลูกเสือได้ก็เพราะเธอเชื่อฟังทุกสิ่งที่เขาพูด รอจนฉินมั่วทำธุระส่วนตัวเสร็จ ป๋อจิ่วก็ยังอยู่บนเตียง เจ้าหล่อนคงรอจนเบื่อเลยตีลังกาเล่น พอเห็นเขาเสร็จธุระส่วนตัวก็กลิ้งลงจากเตียงมายืนตรง ฉินมั่วไม่มีรองเท้าแตะสำรอง เธอต้องสวมของตัวเอง
ทีแรกเขาเองก็ไม่คิดจะยุ่งอะไรกับเธอให้มาก แต่พอยัยนี่เข้าห้องน้ำก็ก้มลงล้างหน้าทันที ฉินมั่วต้องลากเจ้าหล่อนกลับมา ก่อนจะก้มหน้าพับแขนเสื้อให้ เพราะทนมองกิริยาโง่เง่าของเธอไม่ไหว
ทว่าป๋อจิ่วรู้ว่าดูเหมือนเจ้าหญิงน้อยจะไม่สบายที่คอ คงไม่ใช่เพราะเธอแพร่หวัดให้หรอกนะ แต่ด้วยคิดถึงปัญหานี้ ทำให้เธอล้างหน้าอย่างไม่ตั้งใจ แค่ปาดๆ เล็กน้อยก็วิ่งออกมาหาที่โต๊ะหนังสือ เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเจ้าหญิงน้อยเอากล่องยามาวางไว้ที่นี่ ป๋อจิ่วไม่รู้หรอกว่ายาอะไรเป็นยาอะไร ยิ่งฉลากยาเป็นภาษาจีนด้วย จึงยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ แต่ดีที่จำรูปภาพบนฉลากได้ อาศัยว่าความทรงจำดีเยี่ยม จำกล่องยาที่เมื่อวานเจ้าหญิงน้อยเอามาป้อนเธอได้ เมื่อคืนเธอกินยานี่เสร็จคอก็ไม่เจ็บมากแล้ว เธอจึงแกะมาเม็ดหนึ่ง
ฉินมั่วมองดูการกระทำของยัยเสือน้อยอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไร แค่รู้สึกว่ายัยเสือน้อยไม่โง่ รู้จักหายาให้ตัวเอง แต่วินาทีถัดมา ฉินมั่วก็ตะลึงไปหมด เพราะยัยเสือน้อยอาศัยว่าตัวเองสูงกว่าเชยคางเขาขึ้นมา ก่อนจะยัดยาเม็ดหนึ่งเข้าปากให้ รสหวานระคนขม กลิ่นยาสมุนไพรจีนค่อยๆ กระจายจากปลายลิ้น
ฉินมั่วเบิกตากลมโต ไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด แต่หลังจากที่ยัยนั่นป้อนยาให้ยังจะลูบหัวเขาอีกต่างหาก “เป็นเด็กดีนะ ไม่ขมหรอก”
เด็กผู้ชายอย่างเขากลัวขมหรือไง? ยิ่งไปกว่านั้น ยัยป๋อเสียวจิ่ว เธอทำท่าอะไรของเธอเนี่ย
คุณชายฉินยิ้มเย็นชาอีกครั้ง ตอนนี้ท้องฟ้าสว่างแล้ว หากเขาจะโยนเธอออกไปก็คงไม่เป็นอะไร แต่เขายังไม่ทันพูด ยัยเสือน้อยก็จ้องเขาเสียก่อน “มั่วมั่ว ถ้าเธอไม่สบายตรงไหนต้องบอกฉันนะ เช่นปวดหัวอะไรแบบนี้ เมื่อวานฉันปวดหัวก่อนแล้วไข้ถึงจะขึ้น เวลาไข้ขึ้นนะ ทรมานมากเลย เลยออกมาเล่นกับเธอไม่ได้ แต่เรื่องนี้ต้องโทษตัวฉัน ทั้งที่เธออ่อนแอมากฉันยังมาหาเธออีก”
เยี่ยม อีกครั้งแล้วนะที่ว่าเขาว่าอ่อนแอมาก!
……………………………………..
ตอนที่ 1884 เขาจะเลี้ยงยัยเสือน้อยตัวนี้
ฉินมั่วมองเธอ เป็นครั้งแรกที่คิดจะเถียง “ป๋อ เสียว จิ่ว”
“หือ?” ป๋อจิ่วเกาหูตัวเองแล้วลูบหัวอีกฝ่าย แต่ดูท่าทางของเจ้าหญิงน้อยแล้ว ท่าทางจะไม่ชอบ จึงดึงมือกลับมา
ฉินมั่วเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก “ฉันไม่ได้อ่อนแอ เธอจำไว้ให้ดี”
“โอเค ไม่อ่อนแอก็ไม่อ่อนแอ แต่ฉันไม่อยากเห็นเธอป่วยนี่นา” ป๋อจิ่วพูดอย่างมีเหตุผล “เวลาป่วยน่ะทรมานจะตาย นอกจากต้องกินยาแล้วยังออกไปเล่นที่ไหนก็ไม่ได้ กินเนื้อก็ไม่ได้อีก กินได้แค่โจ๊กกับผัก ทรมานจะตาย แล้วถ้าเธอป่วย ฉันจะเจ็บปวดหัวใจมากเลยล่ะ”
แววตาของฉินมั่วสะดุดในทันทีที่ได้ยิน มองดูหน้ายัยเสือน้อยที่อยู่ใต้แสงอรุณ คงเพราะวันนี้แสงอาทิตย์ดีมากหรืออาจเป็นเพราะนัยน์ตาเธอไม่ขุ่นมัว ทำให้เขาอบอุ่นไปถึงหัวใจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาป่วยในทันทีที่เริ่มมีอาการ ตั้งแต่เล็กจนโต แม่เขาถูกพ่อโอ๋อย่างกับเป็นเจ้าหญิง ถึงได้รับรู้เรื่องอื่นช้าไปหมดแล้วยังดูแลไม่เป็นเขาอีกด้วย แต่เขารู้ดีและไม่เคยโทษใคร แค่รู้สึกเหงาบ้างในบางครั้ง โดยเฉพาะตอนที่ต้องทรมานทั้งคืน กว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขาไม่สบายก็ล่วงเข้าสู่วันถัดมา ดังนั้นพอเขาคุ้นกับอาการป่วย จึงไม่สนใจว่าจะมีคนอยู่เป็นเพื่อนหรือไม่ กระทั่งตอนที่คุณปู่ที่ยังไม่เสียชีวิตในเวลานั้นยังไม่รู้ว่าเขาเริ่มจะไม่สบาย แต่ยัยเสือน้อยกลับรู้ แถมยังรีบป้อนยาให้เขาอีก และบอกเขาด้วยว่าเขาป่วยแล้วเธอจะปวดใจ
ฉินมั่วขยับเล็กน้อย นิ้วมือรั้งอะไรบางอย่างโดยอัตโนมัติ มือที่ซุกซนของเธอเข้าไปอยู่ในอุ้งมือเขา ช่างนุ่มนิ่มเหมาะกับมือเขาจริงๆ เว้นแต่เรื่องเจ้าหล่อนสูงกว่าเขาแล้ว เจ้าหล่อนก็หน้าตาดูดี เวลาไม่พูดก็น่าเอ็นดู ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาจะค่อยๆ สอนเธอไป ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง เขาย่อมไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ จริงไหม?
อย่างไรเสียพ่อแม่เธอก็ไม่ค่อยดูแลเธอ ฉะนั้นการที่เด็กคนนี้จะกลายเป็นของเขาย่อมไม่เป็นปัญหา แม้เขาจะไม่รู้ว่าการเลี้ยงเด็กต้องทำอย่างไร แต่การจะเลี้ยงยัยเสือน้อยน่าจะไม่ยาก ยิ่งยัยนี่ยังโง่มาก เอาแต่จะซื้อตัวเขาอยู่นั่นแหละ
ฉินมั่วคิดมาถึงตรงนี้ก็มั่นใจในบางอย่าง เขาหันหน้าไปพับแขนเสื้อให้เจ้าหล่อน พลางเอ่ยเสียงเรียบ “เธอคิดว่าใครต่อใครจะชอบเนื้อเหมือนเธอหมดหรือไง?”
“ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่ชอบเนื้อนะ วิลเลี่ยมจูเนียร์ผมแดงที่อยู่ข้างหน้าห่างจากที่นี่ไปสิบก้าวก็ชอบมากเหมือนกัน แต่เขากลัวฉัน ทุกครั้งที่บ้านเขาทำไก่งวงย่างนะ จะต้องส่งมาเอาใจฉันอยู่เรื่อยเลย แถมหน้ายังแดงด้วย” ป๋อจิ่วพูดเป็นจริงเป็นจัง “เบคอนย่างอร่อยมากเลย”
ฉินมั่วขมวดคิ้ว เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “วิลเลี่ยมจูเนียร์?”
“อื้อ เขาอยู่แถวนี้นี่แหละ พวกเรานัดกันไปกินแฮมเบอร์เกอร์กัน แต่ตอนนี้ต้องรอให้ฉันหายหวัดก่อน” ป๋อจิ่วเอาแต่เล่าเรื่องตัวเอง ไม่ได้สังเกตว่าแววตาของฉินมั่วต่างไปจากเมื่อกี้แล้ว
ก่อนหน้านี้เขามั่นใจอย่างยิ่งยวดว่า นอกจากเขาเธอคงไม่มีเพื่อนอีก แต่เห็นทีจะไม่ใช่ ยังมีเจ้าของชื่อวิลเลี่ยมจูเนียร์นั่น ซึ่งจะต้องเป็นชื่อของผู้ชายแน่ ผู้ชายคนหนึ่งให้อาหารผู้หญิงอีกคน แถมยังชอบหน้าแดงอีกต่างหาก หรือว่า…
………………………………………………