ตอนที่ 473

The Novel’s Extra

บทที่ 473 สาบาน (5)

 

สายตาของหญิงสาวดูเหมือนจะทะลุจิตใจของเธอ มันเป็นครั้งแรกในที่ จินซาฮยอค ได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขามขนาดนี้แต่ จินซาฮยอค ก็ไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว

 

เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ

 

จินซาฮยอค เป็นคนที่ไม่แน่นอน เธออาจยอมแพ้ในบางช่วงเวลาแต่เรื่องนี้เธอไม่มีทางยอม จินซาฮยอค ใช้เวลาคิดอยู่นานว่าจะทำยังไงดี แต่เธอก็ตัดสินใจว่าเธอจะไม่มีทางยอมแพ้เรื่อง คิมฮาจิน

 

“อย่ามาบ้าไปหน่อยเลย เขาเป็นของฉัน”

 

เธอไม่แน่ใจว่าความสามารถที่แท้จริงของเขาคืออะไร แต่เธอรู้ว่ามีอะไรพิเศษเกี่ยวกับพลังเวทมนต์ของ คิมฮาจิน จากสิ่งที่เธอเห็นใน อคทรีน่า เธอกล้าพูดเพราะเธอไวต่อพลังเวทมนต์เป็นพิเศษเพื่อการสร้าง

อคทรีน่า ขึ้นมาใหม่จำเป็นต้องใช้พลังของเขา

 

“…ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”

 

บอสพูดออกมา พลังเวทมนต์อันร้อนแรงอันเกิดจากความโกรธเกรี้ยวและจิตสังหารที่พุ่งขึ้นมาราวกับทอร์นาโด จินซาฮยอค รีบป้องกัน

ตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยบาเรีย

 

“และ…..ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอรอดไปจากที่นี่เด็ดขาด”

 

เงาย้อมร่างกายของหญิงสาว จิตสังหารพุ่งอย่างมาอย่างที่ไม่เคยมีก่อนความกระหายเลือดของ 2 สาวเติมบรรยากาศ จินซาฮยอค รู้สึกว่านี้จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดของเธอ

 

“…ถ้าอยากสู้ก็เข้ามาเลย”

 

จินซาฮยอค ไม่มีแผนที่จะปฏิเสธการต่อสู้ แม้ว่าเธอจะไม่มั่นใจที่จะชนะแต่เธอก็รู้สึกว่าเธอแพ้ไม่ได้เหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นจินซาฮยอค อยากประเมินความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่เธอมาที่นี่ เธออยากรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่กับคิมฮาจินมันจะเก่งขนาดไหนกัน

 

“ถ้างั้นก็จัดให้”

 

เมื่อหญิงสาวพูดจบเงาก็ลุกขึ้นมาจากเท้าของเธอและล้อมรอบบริเวณนั้นเอาไว้มันคือ ‘เงาบาเรีย’ ที่ปิดเส้นทางหลบหนีของจินซาฮยอคเอาไว้

 

“ชิ.”

 

จินซาฮยอค ยิ้มเยาะและปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของเธอออมา…นอกจากนั้นออร่าสีแดงเข้มและอาวุธหลายร้อยชิ้นก็ถูกสร้างขึ้นมาในอากาศ

 

สนามรบที่ดุเดือดและอันตรายยิ่งกว่า Pandemonium Arena เริ่มขึ้น

หญิงสาว 2 คนจ้องมองกันและกันก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้แห่งความตาย

 

แต่ว่า…

 

“…ฮะ? บอส?”

 

เสียงดังออกมาเหมือนเทน้ำเย็นๆลงบนร่างกายที่ตึงเครียด บอสและ

จินซาฮยอค ทั้งคู่หันไปหาที่มาของเสียง

 

“การลงโทษของฉันจบลงแล้วเหรอ?”

 

มันคือ ชอคจุนกยอง ที่ถูกคุมขังใน ‘เงาบาเรีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพราะไปสังหาร ปีศาจ ของ เทอร์โรว์ เพราะพวกเขาเลือกต่อสู้กับเขา

 

แต่จินซาฮยอค ดูไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เธอเชื่อว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนประเภทที่จะให้คนอื่นเข้าร่วมในการต่อสู้แบบ 1: 1

 

บอสพูด “…ใช่แล้ว, การลงโทษของนายจบลงแล้ว”

 

“โอ้ว~ ขอบคุณพระเจ้า โอ้ ใช่บาเรียของคุณน่าสนใจมาก แม้ฉันจะเห็นมันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม”

 

บอส ‘เงาบาเรีย ไม่ใช่แค่เปลี่ยนพื้นที่โดยรอบ แต่เก็บสิ่งมีชีวิตดข้าไปในนั้นได้ นี่คือเหตุผลที่จินซาฮยอดและบอสเจอ ชอคจุนกยอง ในสถานที่แห่งนี้’

 

“…กยอง.”

 

“ฮะ?”

 

ในขณะที่บอสและ ชอคจุนกยอง กำลังคุยกันจินซาฮยอคคลายกล้ามเนื้อของเธอด้วยการยืดกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย

 

“จัดการเธอซะ”

 

“โว้วววว?”

 

“…อะไรนะ?”

 

ดวงตาของ ชอคจุนกยอง และ จินซาฮยอค เบิกกว้าง พวกเขาแปลกใจด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

 

“สะ-สอง ต่อหนึ่งไม่ยุติธรรม!”

 

จินซาฮยอค ชี้นิ้วของเธอไปที่บอสและตะโกนออกมา แต่ ชอคจุนกยอง ไม่สนใจเธอ เขาถูกคุมประพฤติเป็นเวลา 2 สัปดาห์เขาไม่ได้ต่อสู้กับใครมานาน เขารู้สึกดีใจที่มีคู่ต่อสู้ที่มีค่าอยู่ต่อหน้าเขา

 

“คุฮาฮาฮาฮา!”

 

ชอคจุนกยอง พุ่งไปข้างหน้าเหมือนสัตว์ป่า

 

“เจ้ากรรม!”

 

จินซาฮยอค เปิดใช้งาน [การจัดการความเป็นจริง] อย่างรวดเร็วเพื่อพยายามหลบหนีจากเงาบาเรีย แต่บอสและชอคจุนกยอง ไม่ยอมให้เธอทำตามใจตัวเอง

 

วิ้งงงงงงงงงงงงงงง!

 

ระเบิดพลัง ของ ชอคจุนกยอง ทำลายเส้นทางที่สร้างโดย จินซาฮยอค

 

“อย่าหนีนะ!”

 

ชอคจุนกยอง ตะโกนอย่างมีความสุขและชกกำปั้นของเขาไปทางใบหน้าของจินซาฮยอค

*************************************************************************

[พระราชวัง ออร์เดน]

 

ไม่รวมโทจิมอนสเตอร์มนุษย์อีกสามตัวคือไทกริส, ซิฟิลิสและโดโลเรน

กลับไปยังวังของออร์เดน พวกเขาทำตามคำสั่งของ ออร์เดน เรียบร้อยและประสบความสำเร็จในการสร้างความเสียหายในบางประเทศ

 

“อ้า น่าเบื่อ”

 

แต่ไทกริสไม่พอใจ มอนสเตอร์ร่างมนุษย์อีก 2 ตัวเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขาต้องการที่จะฆ่ามนุษย์อย่างสนุกสนานแสดงความแข็งแกร่งจนให้ความรู้สึกที่เหนือกว่า

 

“วังมันน่าเบื่อ”

 

ออร์เดนสั่งให้พวกเขากลับมาก่อนที่พวกเขาจะสามารถบรรลุความต้องการได้ครึ่งหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกรำคาญ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามคำสั่งของกษัตริย์

 

“เกิดอะไรขึ้นกับโทจิ?”

 

โดโรเรน บ่นขณะที่เธอเล่นกับศีรษะมนุษย์ที่เธอรับมาเป็นของที่ระลึก หัวเป็นของฮีโร่ขั้นสูง ระดับ 2

 

“งี่เง่าน่า ฉันแน่ใจว่าเขาตกหลุมพราง และเขาจะหาทางกลับมาได้”

 

“นั้นสิ? โทจิไม่ตายง่ายๆหรอกด้วยร่างกายที่แข็งแก่รงนั้น”

 

“เขาแข็งแกร่งและยากที่จะฆ่า”

 

พวกเขาคุยกันและพวกเขาเดินไปที่วังพวกเขายืนอยู่หน้าประตูใหญ่และเจอตั๊กแตนตำข้าว เป็นคุรุคุรุที่มีปีกและแขนข้างหนึ่งหัก

 

“…เอ๊ะใช่เลย มันทำให้คิดทุกครั้งที่เห็นเขา ทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น?”

 

“นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะถามพอดี”

 

โดโรเรน ขมวดคิ้วขณะที่เธอจ้องมองที่คุรุคุรุ ไทกริสเดินเข้ามาใกล้คุรุคุรุ

คุรุคุรุ พึมพำขณะที่เขาจ้องมองพวกเขา

 

“คุรุคุรุ, คุรุคุรุ….”

 

“เขากำลังพูดอะไร เขาพูดไม่ได้งั้นเหรอ”

 

“คุรุคุรุ.”

 

โดโรเรน แปลคำของ คุรุคุรุ

 

“ทำไมพวกเจ้ามาช้า พวกเจ้าน่าจะมาทันทีที่ราชาสั่งนั่นคือสิ่งที่เขาพูด”

 

“… ชิ.”

 

ไทกริสเยาะเย้ย

 

“ตั๊กแตนตำข้าวเพียง เจ้าไม่สมควร”

 

ไทกริสยกมือใหญ่ขึ้นและตบคุรุคุรุ

 

พัวะ!

 

คุรุคุรุลอยไปด้านข้างและกลิ้งไปบนพื้น.

 

“ตั๊กแตนตำข้าวที่อ่อนแอและชั้นต่ำซึ่งพูดไม่ได้ -ไม่คู่ควรมาสั่งพวกข้า”

 

ไทกริสตะโกนและเดินเข้าไปในราชสำนัก โดโรเรน จ้องที่ คุรุคุรุ ด้วยรอยยิ้มเล็กๆก่อนจะตามไทกริสเข้าไปข้างใน

 

“…คุรุคุรุ.”

 

“ ท่านคุรุคุรุ!”

 

มอนสเตอร์ร่างมนุษย์มาช่วย คุรุคุรุ หลังจากเดินโซเซ คุรุคุรุก็จ้องมอง

มอนสเตอร์ทั้ง 3 ที่ยืนอยู่ต่อหน้ากษัตริย์ของเขา กษัตริย์ของเขาทักทาย มอนสเตอร์ผู้หยิ่งผยองที่มาสายด้วยรอยยิ้ม

 

“คุรุคุรุ… .”

 

คุรุคุรุ กัดฟันของเขาจนกรามของเขาบวมเป้ง

*************************************************************************

[คังวอนโด, บังเกอร์ใต้ดิน]

 

การฝึกฝนสำหรับภารกิจลอบสังหาร ออร์เดน สิ้นสุดลง ในวังของ

ออร์เดน ทีม 3 เอาชนะมิโนเทารัสได้สำเร็จ

 

แต่การทำงานเป็นทีมของพวกเขาไม่สามารถเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เซินหยวน และ ยีจิยูน ถูกฆ่าตายก่อนที่พวกเขาจะมาถึงบอสที่เป็น

‘มิโนทอร์’ และ คิมซูโฮ ก็เอาชนะบอสลงด้วยตัวเอง

 

“ทำไม มันถึงแข็งแก่รงขนาดนี้นะ….”

 

ยีจิยูน ถอนหายใจและนวดกล้ามเนื้อเจ็บของเธอ ในขณะเดียวกัน

ชินจงฮัคจ้องมองที่ แชนายอน เธอกำลังจดบันทึกบางอย่างลงบนสมุดบันทึกของเธอ

 

“เฮ้! ทำไรอยู่น่ะ?”

 

เมื่อได้ยินชินจงฮัคพูดทั้งยีจินยูนและคิมซูโฮก็หันกลับมา

 

“…ฮะ?”

 

แชนายอน หยุดเขียนและยิ้มเล็กๆ

 

“ฉันกำลังคุยกับอาจารย์น่ะ”

 

“…อาจารย์?”

 

“ใช่สมุดบันทึกนี้ทำงานได้เหมือนจดหมายสื่อสารของหอคอย”

 

แชนายอน ใช้สมุดบันทึกเพื่อสื่อสารกับชายชราผู้ซึ่งได้เป็นอาจารย์ของเธอก่อนที่เธอจะสังเกตเห็น แม้ว่าพวกเขามักจะพูดคุยกันและก็มีหลายครั้งที่เธอได้รับคำแนะนำที่มีค่ามาเช่นกัน

 

“… โอ้? ใครคือคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งเหรอ?”

 

คิ้วของยีจินยูนเต้นอย่างสนุกสนาน

 

“ฉันบอกเธอแล้วเขาเป็นอาจารย์ของฉัน”

 

“อาจารย์? ฮีโร่ ยูชีฮยอก?”

 

“ไม่นะ ไม่ใช่เขา”

 

แชนายอน สงสัยว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรหากพวกเขาพบว่าอาจารย์ของเธอคือ เฮย์เนค แต่เธอก็ไม่บอก เธอยักไหล่แล้ววางสมุดลง

 

“โอเคแล้ว ฉันต้องติดต่อฮาจิน…อ๊ะ”

 

คำพูดต่อไปของคิมซูโฮทำให้หัวใจของ แชนายอน หยุดเต้น คิมซูโฮผู้ซึ่งพึมพำกับตัวเองรู้สึกตัวทันทีหลังจากที่ตระหนักถึงสิ่งที่เขาพูด

 

“…อ้ออออ~? แล้วคิมฮาจินล่ะ?”

 

ยีจินยูน ยิ้มอย่างลึกลับและเข้าไปหา คิมซูโฮ

 

“เอ่อ…ไม่มีอะไร”

 

คิมซูโฮปล่อยเสียงไอแห้งๆออกมาและให้คำตอบแบบเลี่ยงๆ

เขาต้องการขอบคุณฮาจินสำหรับความช่วยเหลือทั้งหมดที่เขาได้รับ

แต่พวกเขาไม่มีโอกาสได้เจอกันพบกันเลยตั้งแต่ที่อยู่กับยุนซึงอา

 

“คุคุคุคุ…”

 

เขาหันไปหา แชนายอน ที่กำลังจ้องมองเขาอย่างตั้งใจ

 

“แชนายอน อย่าปล่อยให้หัวหน้าเจอสมุดบันทึกนั้น เธอบอกว่าห้ามใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และนั่นก็ไม่ได้แตกต่างกันเลยนะ”

 

“… .”

 

แชนายอน พยักหน้าอย่างแข็งๆ

 

“มันก็ไม่ต่างไปจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์น่ะนะ”

 

ทันใดนั้น ‘หัวหน้า’ ของพวกเขาก็ปรากฏตัว แชนายอน และทีมที่เหลืออีก 3 คนแข็งตัวและก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองยุนซึงอาปล่อยพลังเวทของเธอเพื่อแย่งสมุดบันทึกของ แชนายอน มา

———————-2———————-