บทที่ 591 หาที่ตายยังถือว่าน้อยไป

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation บทที่ 591 หาที่ตายยังถือว่าน้อยไป

 

ยามเมื่อซูหยางหายไปจากที่แห่งนั้นแล้ว เจ้าสํานักทองก็กล่าวกับซีหวังว่า “ถ้าเจ้าขยับตัวแม้ แต่เพียงน้อยนิด ข้าก็จักฆ่าเจ้า”

 

“…” ซีหวังขมวดคิ้ว แต่จริงๆแล้วเขาก็ไร้กําลังในชั่วเวลานี้

 

“เมื่อมาคิดว่าครั้งหนึ่งข้าเชื่อว่าข้าจักเป็นผู้ที่มิมีวันพ่ายแพ้หากว่าข้าเข้าถึงเขตราชันวิญญาณ เฮ้อ ยุทธภพจริงแล้วช่างโหดร้ายนัก” เขาถอนหายใจ

 

หลังจากที่เตือนซีหวังแล้ว เจ้าสํานักทองก็กลับไปยังยานของตนเอง

 

“ท่านเจ้าสํานัก พวกเราจักจากไปจริงๆ ถ้าพวกนั้นมอบผู้หญิงให้กับเรา” หนึ่งในคนที่นั่น ถามเขาด้วยเสียงเบา

 

“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ” เจ้าสํานักทองฉีกยิ้มแล้วกล่าวขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าพวกนั้นมอบผู้หญิงให้กับเราโดยดี ข้าก็มิได้เดินทางเสี่ยงชีวิตมากว่าหลายแสนกิโลเมตรข้ามทะเลหยกเพียงเพื่อคืนกลับไปพร้อมกับผู้หญิงคนเดียวอย่างแน่นอน ครั้นเมื่อพวกนั้นส่งหญิงสาวให้ข้าแล้ว พวกเราก็จักไปสนุกสนานกับทวีปตะวันออกจนถึงที่สุดก่อน”

 

ในเวลานั้นที่ยานบิน เมื่อซีซิงฟางเห็นซูหยางกลับคืนมาอย่างรวดเร็วโดยปราศจากปูของเธอข้างกาย เธอก็รีบถามเขาด้วยเสียงเป็นกังวลว่า “ซูหยาง เกิดอะไรขึ้นกับปู่ของข้า”

 

“อย่ากังวล เขากําลังให้ความบันเทิงกับแขกของเราอยู่ในตอนนี้” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

“เช่นนั้นท่านกลับมาทําไม” เธอเลิกคิ้วด้วยท่าทางสงสัย

 

“ข้ากลับมาเพื่อรับตัวเจ้า เจ้ามิต้องการที่จะพบกับคนที่พยายามจะทําลายชีวิตของเจ้าบ้าง” เขากล่าว

 

ซีชิงฟางมองดูเขาด้วยสีหน้าสับสนก่อนที่จะพยักหน้า

 

“ดี” จากนั้นซูหยางก็พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ชิวเยว่ เซี่ยวหรง พวกเจ้าก็มากับพวกเราด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าซ่อนตัวของพวกเจ้าไว้ก่อนจนกว่าข้าบอกให้พวกเจ้าปรากฏตัว”

 

สองสามอึดใจให้หลัง ชิวเยว่กับเซี่ยวหรงก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา แต่ทว่ากลิ่นอายและพลังวิญญาณของพวกเธอนั้นสูญหายไปอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าพวกเธอนั้นไม่มีตัวตน

 

“ช่างเป็นวิชาที่ลึกล้ำ…” ซีซิงฟางคิดในใจเมื่อไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงตัวตนของพวกเธอได้แม้ว่าจะยืนอยู่ต่อหน้าเธอก็ตาม

 

“พวกเราไปกันเถอะ” ซูหยางกล่าว

 

หลังจากนั้นซูหยางก็กลับคืนไปยังข้างกายของซีหวัง โดยมีซีซิงฟางไปกับเขาด้วย

 

“เจ้าพาเธอมาจริงๆด้วย…” ซีหวังมองไปที่เขาไม่อยากเชื่อ

 

“มิต้องกังวลท่านปู่ แม้ว่าท่านจะมิอาจรับรู้ถึงพวกเธอ แต่ผู้อาวุโสก็อยู่ที่นี่กับพวกเราเช่นกัน” ซีซิงฟางกล่าวกับเขา

 

“โอ นั้นสุดยอด” ความกังวลทั้งหมดในอกของชีหวังพลันมลายไปหลังจากที่ได้ยินคําพูดของเธอในทันที

 

“ท่านเจ้าสํานักทอง มองทางนั้น มีสาวสวยอยู่ข้างกายเจ้าหนุ่มนั่น” คนบนเรือกล่าวกับเขาด้วยความตื่นเต้น ในเมื่อพวกเขาต่างพากันหลงเสน่ห์ความงามของซีซิงฟาง

 

“เธอเป็นนางฟ้าตัวจริง นางฟ้าตัวจริง ข้าขอย้ำ”

 

“มิมีคนมากมายนักที่จะสามารถเทียบเคียงรูปร่างหน้าตาของเธอได้ แม้กระทั่งในทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางเองก็ตาม เมื่อมาคิดว่าจักมีของมีค่าเช่นนี้ในที่แห่งนี้”

 

“ข้าสามารถเพียงคนสองคนเท่านั้นที่อาจจะสามารถเทียบเคียงรูปร่างหน้าตากับเธอได้จากทั่วทั้งทวีปตะวันออก และทั้งสองคนนั้นก็อยู่กับอีกสองสํานักเก่าแก่”

 

“ขอแสดงความยินดี ท่านเจ้าสํานักทอง”

 

แม้ว่าคนเหล่านี้จะแสดงความยินดีกับเขา แต่พวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉาอยู่ภายในใจ ไม่ว่าอย่างไร ซีซิงฟางก็นับได้ว่าเป็นสาวงามที่สามารถพลิกฟ้าคอาณาจักรด้วยเพียงแค่ การชม้ายตาของเธอได้อย่างแท้จริง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เจ้าสํานักทองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเขาเห็นชีชิงฟาง กระทั่ง เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมีสาวที่สวยเหมือนเช่นซีซิงฟางปรากฏตัวออกมา จนเขารู้สึกเหมือนกับว่าได้พบเข้ากับขุมทองคํา

 

“การเดินทางครั้งนี้นับว่าคุ้มค่า ต่อให้เธอเป็นเพียงแค่หญิงคนเดียวในดินแดนแห่งนี้มันก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาที่นี้” เจ้าสํานักทองหัวเราะต่อไปในใจก่อนที่จะเหาะไปหาพวกเขา

 

“คงจะเป็นการโกหกเจ้ากับตัวข้าเอง ถ้าข้าพูดว่ามิได้ประหลาดใจ เมื่อมาคิดดูว่าเจ้ากลับเป็นถึงสาวงามปานนี้ ข้ามิได้คาดคิดว่าจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้จริงๆ” เจ้าสํานักทองกล่าวก่อนที่จะยกมือทําท่ากวักมือเรียก

 

“เอาล่ะ ตอนนี้ส่งเธอมาให้ข้าแล้วข้าจักปล่อยทวีปตะวันออกไว้ตามลําพัง”

 

แต่ทว่าซูหยางกลับส่ายหน้าอย่างไม่ใยดีและกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “แม้ว่าข้าได้กล่าวว่าจักมอบเธอให้แก่เจ้า แต่ข้าก็มิได้กล่าวว่านี่จักเป็นการให้เปล่า”

 

เจ้าสํานักทองดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ และเขาก็พูดออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างงงงันว่า “เจ้าต้องการให้ข้าจ่ายเพื่อเธองั้นรึ เจ้าพูดจริงนะรึ เมื่อมาคิดดูแล้วเดิมข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนฉลาด” เจ้าสํานักทองพลันขมวดคิ้ว แล้วกล่าวต่อไปอีกว่า “เจ้ามีเวลาเพียงสิบวินาทีที่จะส่งเธอมาให้กับข้าก่อนที่ข้าจักไปเอาเธอมาด้วยตัวข้าเอง”

 

อย่างไรก็ตามสีหน้าของซูหยางยังคงเฉยเมย เขาพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดรีว่าข้าจักยื่นส่งเธอให้เจ้าแต่โดยดีง่ายๆแบบนี้ เจ้าค่อนข้างโง่สําหรับคนที่อยู่ในเขตราชันวิญญาณนะ”

 

“เจ้าชาติชั่ว…” คิ้วของเจ้าสํานักทองขมวดแนบแน่น สายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเบี่ยมด้วยความคิดฆ่าฟัน ในเมื่อนับเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วกว่าจะมีคนกล้าที่จะเยาะเย้ยเขาแบบนี้

 

“ข้าควรจะพูดแบบเดียวกัน เจ้าชาติชั่ว” ซูหยางหรี่ตา กระแสพลังของเขาพลันทะลักทลายออกไปอย่างรุนแรง

 

“เจ้ากล้าที่จะแตะต้องผู้หญิงของข้า ซูหยาง ได้อย่างไร กระทั่งเซียนยังต้องคิดทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะเข้าหาหญิงของข้า หาที่ตายยังถือว่าน้อยไป เจ้าสัตว์เดรัจฉานที่ใช้หัวแม่ตีนคิด”

 

“ซูหยาง” ซีซิงฟางใบหน้าขึ้นสีแดงหลังจากที่ได้ยินคําพูดของเขา เข้าใจผิดคําพูดของซูหยางไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อตอนที่เขาอ้างถึง “ผู้หญิงของเขา” ในเมื่อเธอคิดว่าเขากําลังพูดถึงเธอ

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้แจ้งเขาให้แก้ไขให้ถูกต้องกับการเรียกเธอว่าเป็นหญิงของเขา ทั้งยังรู้สึกเป็นสุขในเวลานั้น

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าช่างพูดได้ใหญ่โตสําหรับคนที่อ่อนแอเช่นนั้น แล้วจะทําไมหากข้าต้องการหญิงของเจ้า คนอ่อนแอเช่นเจ้ามิได้สมกับหญิงที่มีความสามารถแบบเธออยู่ดี อย่ากังวลข้าจักสัญญาเจ้าว่า ข้าจักดูแลเธออย่างดีและเล่นกับเธอทุกวันหลังจากที่ข้าฆ่าเจ้าแล้ว” เจ้าสํานักทองระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนที่จะปลดปล่อยพลังในเขตราชันวิญญาณออกมา

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเจ้าสํานักทอง ซูหยางก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “เจ้ามิใช่คนแรกที่โลภมากต้องการหญิงของข้า และแน่นอนว่าจักมิใช่คนสุดท้ายเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่มั่นใจได้ เจ้ามิอาจทําให้สําเร็จและแน่นอนว่าเจ้าจักตายในระหว่างการทําเช่นนั้น”