บทที่ 1510 ฟางหยวนถูกจับ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1510 ฟางหยวนถูกจับ

แปลโดย iPAT

 

อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

‘วิญญาณถูกเลือกแล้ว ตอนนี้ให้ข้าลองดู’ ฟางหยวนสูดหายใจลึกและควบคุมร่างของเด็กหนุ่ม

 

เขากระตุ้นใช้งานวิญญาณลอบโจมตี

 

ภูตเด็กร่างสีฟ้ากระโดดเข้าไปในผนังถ้ำ กระบวนการทั้งหมดเงียบราวกับไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้น

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ‘วิญญาณลอบโจมตีดวงนี้เป็นวิญญาณชั้นสูงจริงๆ มันเป็นวิญญาณระดับสองที่โดดเด่นและยังทำงานอย่างเงียบเชียบ ถ้ำแห่งนี้มีการป้องกันที่หนาแน่น แต่มันกลับไม่พบการคงอยู่ของวิญญาณลอบโจมตี บางทีข้าควรหลอมรวมวิญญาณดวงนี้ในอนาคต’

 

ฟางหยวนสามารถคิดค้นและดัดแปลงเคล็ดบลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์ได้ทุกระดับ

 

นอกจากนั้นเขายังสามารถใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อคิดค้นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณลอบโจมตีระดับอมตะ

 

เหตุผลเป็นเพราะความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของเขาอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์เอก

 

หลังจากใช้วิญญาณลอบโจมตี ฟางหยวนก็เลือกวิญญาณระดับหนึ่งจำนวนสามดวงและวิญญาณระดับสองอีกหนึ่งดวง

 

แม้เขาจะสามารถเลือกวิญญาณระดับสองทั้งหมดแต่มันไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลือกวิญญาณระดับหนึ่งที่สอดคล้องจำนวนสามดวงเพื่อสร้างท่าไม้ตาย

 

ท่าไม้ตายถูกกระตุ้นใช้งานทันที ภูตแรดบนเส้นทางความแข็งแกร่งปรากฏตัวขึ้นและพุ่งชนผนังถ้ำโดยตรง

 

ก่อนหนี้ผนังถ้ำส่วนนี้ถูกโจมตีโดยวิญญาณลอบโจมตี ตอนนี้เมื่อมันถูกกระแทกโดยภูตแรด มันก็พังทลายลงในที่สุด

 

น้ำจำนวนมากพุ่งออกมาจากรูช่องโหว่

 

แม้ฟางหยวนจะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อยู่ด้านข้าง แต่เขาก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่าถ้ำใต้ดินแห่งนี้อยู่ติดกับทะเลสาบ

 

ที่นี่มีน้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติตั้งอยู่ ดังนั้นมันจึงเหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่เก็บวิญญาณ

 

เด็กหนุ่มได้รับความไว้วางใจจากเผ่าให้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้เพราะเขาเติบโตขึ้นมาในเผ่า แต่ตอนนี้ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน เขากลับทำลายผนังถ้ำเพื่อทำภารกิจให้กับชาเซี่ยว

 

เมื่อมวลน้ำปะทุออกมา ชั้นแสงบางๆก็ปรากฏขึ้นและปิดกั้นน้ำส่วนใหญ่เอาไว้

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“ไปเร็ว มีบางอย่างเกิดขึ้น!”

 

เสียงตกใจดังมาจากด้านนอกขณะที่ผู้ดูแลรีบเข้ามาเมื่อตระหนักถึงสิ่งผิดปกติ

 

‘ไร้ประโยชน์!’ ฟางหยวนเย้ยหยันและกระตุ้นใช้วิญญาณลอบโจมตีพร้อมกับวิญญาณอีกสองดวงเพื่อสร้างท่าไม้ตายบางอย่าง

 

ชั้นแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นบนร่างกายของเขาทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มสูงขึ้น

 

ฟางหยวนเคลื่อนที่ผ่านชั้นแสงที่ปิดกั้นรูช่องโหว่และเข้าไปในทะเลสาบโดยตรง

 

การป้องกันของเผ่าเป็นเพียงวิธีการระดับมนุษย์ ในสายตาของฟางหยวน มันเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง

 

เมื่อผู้ดูแลสองคนมาถึง พวกเขาก็เห็นเพียงร่างของฟางหยวนที่เข้าไปในทะเลสาบ

 

“คนทรยศ!” ผู้ดูแลคนหนึ่งตะโกนด้วยความโกรธ “เผ่าเลี้ยงดูเจ้ามาแต่เจ้ากลับกล้าทำเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ?”

 

เขาโจมตีทันที

 

แต่ผู้ดูแลอีกคนหยุดเขาเอาไว้ “เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ? เราจะทำอย่างไรหากเจ้าทำลายวิญญาณที่อยู่ที่นี่ สิ่งสำคัญคือการซ่อมแซมแนวป้องกันโดยเร็วที่สุดเพื่อลดการสูญเสีย ด้วยวิธีนี้ความผิดของเราจะลดลง!”

 

ผู้ดูแลอีกคนสะบัดแขนออก

 

“เจ้าซ่อมแซมแนวป้องกัน ข้าจะจับโจรชั่วผู้นี้!” เขาตะโกนก่อนจะออกไล่ล่าฟางหยวน

 

‘ศัตรู?’ ฟางหยวนรู้สึกได้ทันทีว่าผู้ดูแลกำลังตามมา

 

แต่มันก็ไร้ประโยชน์

 

เด็กหนุ่มเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งที่ไร้พรสวรรค์ เขามีพลังวิญญาณที่จำกัดและมันเกือบหมดลงแล้วหลังจากฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้

 

ดังนั้นกระทั่งฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะ แต่เขาก็ไม่ต้องการต่อสู้กับผู้ใช้วิญญาณระดับสาม

 

“โจรชั่ว เจ้าทำเรื่องนี้เพราะเจ้าเกลียดชังเผ่าที่เนรเทศเจ้าหรือมีผู้ใดออกคำสั่งเจ้า?” ผู้ดูแลที่ไล่ล่ามาสามารถพูดในน้ำ

 

ฟางหยวนกลั้นหายใจและใช้กำลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้

 

แต่เพียงไม่กี่กระบวนท่า เขาก็ถูกจับ

 

ผู้ดูแลคนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อฟางหยวน เขาโจมตีฟางหยวนอย่างรุนแรงทันที

 

เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของฟางหยวนและกระจายไปในทะเลสาบ

 

“เลือดสกปรกของเจ้าจะทำให้น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติของเผ่าแปดเปื้อน!” ผู้ใช้วิญญาณระดับสามกระตุ้นใช้วิญญาณเพื่อรวบรวมเลือดทั้งหมด

 

‘บัดซบ! เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามบนเส้นทางแห่งวารี’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น หลังจากถูกจับ เขาไม่แม้แต่จะสามารถขยับร่างกาย จิตวิญาณของเขาได้รับความเสียหายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

ฟางหยวนอดทนต่อความเจ็บปวดและตรวจสอบตนเองอย่างระมัดระวัง

 

‘ทรงพลังนัก! การโจมตีนี้ทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าลดลงถึงห้าสิบล้าน!’

 

เขาคาดเดา ‘ผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีมีไม่มากในทะเลทรายตะวันตก คนผู้นี้ถูกอาณาจักรแห่งความฝันส่งมาเพื่อจัดการข้าโดยตรงหรือไม่? จิตวิญญาณห้าสิบล้านถูกทำลายทันที หากเป็นคนอื่น พวกเขาอาจตายไปแล้ว ฉากที่สามพึ่งเริ่มต้น แต่ดูเหมือนมันจะยุ่งยากขึ้นอีกมาก’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกยินดีที่เขาสะสมรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณถึงระดับสองร้อยล้านก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

จากนั้นเขาก็คาดเดาต่อไป ‘หากข้าไม่ได้โจมตีแต่เดินไปตามเส้นทางของอาณาจักรแห่งความฝัน สิ่งนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่…หากทำเช่นนั้นข้าจะไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน’

 

นอกจากความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม ฟางหยวนยังต้องการสะสมประสบการณ์ในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันอีกด้วย

 

แม้การกระทำครั้งนี้จะมีความเสี่ยงแต่ฟางหยวนก็ได้รับกำไรมากมาย

 

เขาอาจถูกจับกุมแต่มันทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ ‘เดี๋ยว! รากฐานจิตวิญญาณห้าสิบล้านอาจไม่ใช่การสุ่ม นอกจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่นย่อมไม่มีรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณระดับนี้ หากผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่นมาสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันนี้ มันจะเกิดสิ่งใดขึ้น?’

 

ฟางหยวนนึกถึงถังฟางหมิงและท่าไม้ตายผนึกความฝันที่เขาสร้างขึ้นในชีวิตก่อนหน้า

 

‘ในชีวิตแรกของข้า เมื่ออาณาจักรแห่งความฝันถูกสำรวจ วิญญาณและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งความฝันนับไม่ถ้วนถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือพวกเขาตามลักษณะที่แตกต่างกันของอาณาจักรแห่งความฝัน’

 

‘อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ต้องการรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ หากคนธรรมดาต้องการสำรวจมัน พวกเขาต้องมีวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันที่เพียงพอ วิธีที่ดีที่สุดคือการสร้างท่าไม้ตายที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งความฝันและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่สามารถต่อต้านการกัดกร่อนจิตวิญญาณ’

 

อาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้เป็นของผู้อมตะระดับเก้าและมีขนาดใหญ่มาก ความยากลำบากในการสำรวจมันสูงมากเช่นกัน ในช่วงแรกและช่วงกลางของสงครามห้าภูมิภาค มันเป็นสุสานของผู้อมตะ

 

ฟางหยวนสามารถสำรวจมันได้เพราะรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขา

 

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันนี้คือการกัดกร่อนจิตวิญญาณที่รุนแรง แต่ฟางหยวนสามารถก้าวข้ามอุปสรรคนี้ด้วยรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขา

 

น้ำพุจิตวิญญาณธรรมชาติเริ่มส่งเสียงดังในทะเลสาบราวกับมันกำลังเดือด

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้ใช้วิญญาณระดับสามที่ถือฟางหยวนไว้ในมือตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้

 

‘แน่นอน การกระทำของข้าลดขั้นตอนลงอย่างมาก ข้ามาถึงจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่สุดของฉากที่สามแล้ว!’ ฟางหยวนรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้ ดวงตาของเขาส่องประกายเจิดจ้าเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น