1889-3 vs 1889-4 vs 1890 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1889-3

ประจวบเหมาะกับที่วันนี้คุณท่านอานออกจากบ้านสาย เมื่อเห็นหลานโดนกอดแล้วยังไม่ผลักไสฝ่ายตรงข้ามอีก ความตะลึงพรึงเพริดในแววตาจึงเด่นชัดเข้าไปใหญ่ ท่านรู้ว่าหลานชายปฏิบัติต่อยัยเสือน้อยบ้านตระกูลป๋อไม่เหมือนคนอื่น แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นนี้ แค่สามวันครึ่งก็ดีกันขนาดนี้เชียวหรือ? บุคลิกของหลานที่หยิ่งยโส ไม่ค่อยใกล้ชิดใคร จะพังทลายแล้วใช่ไหม?

แต่เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน การได้คบเพื่อนตั้งแต่เด็กจะยิ่งทำให้หัวใจอ่อนโยน

หากคุณท่านอานรู้ว่าหลานชายไม่ได้คบเพื่อน แต่เลี้ยงเด็กต่างหาก จะต้องกระอักกระอ่วนแน่ ทว่าคุณพ่อบ้านผมทองที่อยู่ข้างๆ รู้สึกว่าคุณชายวางแผนการเลี้ยงเด็กไว้อย่างรัดกุมแล้ว น่ากลัวจริงๆ

ทว่ายัยเสือน้อยกลับเห็นต่าง เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกเลี้ยง เพราะพ่อเคยบอกว่าใครมีเงินเยอะกว่า คนนั้นคือคนดูแลครอบครัว เช่นบ้านเธอที่แม่เลี้ยงเธอกับพ่อ วันนี้เธอวางแผนให้แล้วว่า พอไปที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ เธอจะเป็นคนจ่ายเอง เธอจะต้องแสดงศักยภาพทางการเงินของครอบครัวให้เจ้าหญิงน้อยได้ประจักษ์ นี่แหละคือเป้าหมายของเธอที่อยู่นอกเหนือจากการกินเนื้อให้เยอะๆ!

บ้านตระกูลอานมีคนขับอย่างเพียงพอ นี่เป็นครั้งแรกที่หลานชายจะได้เดินทางไปนอกบ้าน หลังจากมาถึงที่นี่ คุณท่านอานวิตกเช่นกันว่าหลานจะไม่ชอบที่นี่ แต่ชอบบ้านเกิดมากกว่า จึงส่งรถลินคอนคันยาวมาให้

หากบอกว่าคุณท่านอานเอาใจหลานชายมากก็อาจจะโอเว่อร์ไปหน่อย เพราะฉินมั่วเห็นรถแล้วก็สั่งให้โชเฟอร์ที่สวมหมวกทรงสูงเปลี่ยนคัน  เพราะรถคันนั้นมันใหญ่เกินไป เขานั่งอยู่ด้านหลังจะไม่สามารถให้ยัยเสือน้อยนั่งตักเขาได้ เมื่อวานเขาอ่านหนังสือ ในหนังสือบอกว่าเวลาดูแลเด็กจะต้องเอามานั่งตัก เด็กจะได้รู้ว่าเราให้ความสำคัญต่อเขา

ฉินมั่วคิดแล้ว เห็นว่าการทำแบบนี้ตอนนั่งรถจะสะดวกที่สุด เจ้าหญิงน้อยให้ความสำคัญเรื่องความสูงมาก แต่ไม่แสดงออกมา ทว่ายัยเสือน้อยที่ถูกกอดเมื่อขึ้นรถก็ถึงกับแปลกใจ ต้องรู้ว่าเธอเอาแต่หาทางกระโจนใส่เขา แต่นี่เขากลับเป็นฝ่ายมากอดเธอเอง ไม่ปกติอย่างแรง หรือว่าเจ้าหญิงน้อยไม่อายแล้ว?

ป๋อจิ่วหันไปวิเคราะห์สีหน้าอีกฝ่าย เห็นแค่สีหน้าเย็นชาเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเจือปน ตอนแรกๆ ฉินมั่วก็เขินเหมือนกัน เพราะเขาไม่เคยกอดใครมาก่อน แต่หลังจากที่ขับรถได้สามนาที เขาได้กลิ่นนมจากตัวยัยเสือน้อยจึงรู้สึกชิน ส่งผลให้ป๋อจิ่วตาโต เธอนั่งในอ้อมกอดของเขา พลางมองซ้ายขวา ทั้งยังอธิบายให้ฉินมั่วฟังเวลาผ่านไปยังตามถนนเส้นต่างๆ “มั่วมั่วจะต้องมาเล่นที่นี่นะ พ่อเคยมาฉันมาด้วย สนุกมากเลย มั่วมั่ว ตรงนั้นเป็นแม่น้ำ ตรงข้ามแม่น้ำก็คือมหาวิทยาลัยที่พ่อฉันเรียนอยู่ ตอนที่เธอยังไม่ได้มาที่นี่ ฉันต้องเล่นอยู่คนเดียว เพราะพ่อฉันต้องทำวิจัย เธอเชื่อไหมว่า คนอย่างพ่อฉันจะเรียนดอกเตอร์ด้วย พ่อฉันเจ้าชู้จะตาย ฉันต้องคอยจับตาดูแทนแม่ บางครั้งเฝ้าๆ ไปพ่อก็หลับเฉยเลย แถมยังให้ฉันนอนที่บนโต๊ะเรียนด้วย แต่เวลาอาจารย์โรเบิร์ตเครายาวมาสอนทีไร ต้องทำให้คนง่วงนอนทุกที พูดยาก”

บรรยากาศด้านนอกกำลังดี แถมยังมีเสียงเด็กน้อยพูดอยู่ในอ้อมกอด เหมือนภาพวาดสไตล์ยุโรป คนที่ใช้ชีวิตที่ต่างประเทศต่างรู้ดีว่าสภาพอากาศทำให้ถนนของที่นี่สะอาด แถมหิมะเพิ่งจะตก อากาศจึงสดชื่น เวลาเดินไปยังลานกว้างก็จะเห็นนกพิราบขาวบินมาเป็นฝูง คนที่เดินตามท้องถนนชอบถือกาแฟในมือ สิ่งปลูกสร้างแบบตะวันตกสูงเด่นให้สีสันชัดเจน นี่น่าจะเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้

 ……………………………………….

ตอนที่ 1889-4

ทว่าฉินมั่วไม่ได้ดูบรรยากาศ แต่กลับทุ่มเทความสนใจต่อยัยเสือน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง นอกจากพับแขนเสื้อให้แล้ว ยังสรุปบางเรื่องได้จากคำพูดของเธอ เช่นความทรงจำของยัยเด็กที่เขาเลี้ยงดูอยู่ช่างดีเยี่ยม ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะจำถนนหนทางได้ กระทั่งผู้ใหญ่ยังหลงทางได้เลย อย่างเช่นแม่เขาที่ยังแยกทิศเหนือใต้ออกตกไม่ออก ทว่ายัยเสือน้อยไม่เพียงแต่จะมีความจำดี เธอยังจำแม่นถึงสภาพถนนและเส้นทางเชื่อมต่อ รวมถึงมีสถานที่อะไรบ้างชนิดไม่ตกหล่นเลย ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเซนส์ด้านเส้นทาง แต่เป็นเรื่องความจำต่างหาก

ฉินมั่วเลิกคิ้วครู่หนึ่ง ต้องบอกว่าเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับยัยเสือน้อย เขายิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ไม่ได้พิเศษแต่อย่างใด เพราะที่นี่มีคนที่เก่งพอๆ กับเขาอยู่ด้วย

ดูเหมือนเขาต้องการมั่นใจในบางอย่าง จึงหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากช่องเสียบของด้านหลังเก้าอี้ตัวหน้า เป็นหนังสือด้านธุรกิจที่คุณตาชอบอ่านบ่อยๆ โดยเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษล้วน ซึ่งไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการอ่านของยัยเสือน้อย เขาจึงเลือกหน้าที่หนึ่ง “ป๋อเสียวจิ่ว”

“หือ?” ยัยเสือน้อยกำลังซน คิดว่าจะหอมแก้มยังไงไม่ให้เจ้าหญิงน้อยรู้ตัว

“ในนั้นเขียนว่าอะไร?” ฉินมั่วชี้ย่อหน้าหนึ่ง ป๋อจิ่วหลุบตามอง อ่านย่อหน้าดังกล่าวให้ฟัง ขนตาเธอช่างยาวเหลือเกิน

ฉินมั่วฟังจนจบก็ปิดหนังสือ ป๋อจิ่วถึงได้รู้สึกว่าเมื่อกี้เจ้าหญิงน้อยต้องการถามเธอ น่ารักจัง เธอไม่เยาะเย้ยหรอกว่าเจ้าหญิงน้อยภาษาอังกฤษไม่ดี ก็เธอยังเริ่มเรียนภาษาจีนอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่นี่นา!

แต่ในขณะที่เธอจะหอมแก้มเพื่อปลอบใจเขา เจ้าหญิงน้อยพลันเอ่ยขึ้นอีกว่า “เมื่อกี้ที่เธออ่านไป ตอนนี้ยังจำได้อยู่ไหม?” ยัยเสือน้อยพูดในใจว่า ดูสิ ถามเธออีกแล้ว ช่างเป็นคนที่น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน เธอทบทวบข้อความที่อ่านไปอย่างจริงจังหนึ่งรอบ และรอคอยแววตาชื่นชมของเขา แต่ว่า…ไม่มี

ฉินมั่ววางหนังสือลง ยิ้มมุมปาก “เหมือนอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ” ยัยเสือน้อยเหมือนเขาที่อะไรที่เคยผ่านตาย่อมไม่ลืม แน่นอนว่าความสามารถในการจำเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน แต่ถ้าเรามีพรสวรรค์ช่วยด้วย และพยายามนึกภาพเชื่อมโยงกัน ก็ใช่ว่าจะไร้ความสามารถที่ว่า

คนที่เคยดูรายการโทรทัศน์ ‘The Brain’ ล้วนรู้ว่าทุกเรื่องราวและสถานที่ต่างมีความเชื่อมโยงกัน ขอแค่จำความเชื่อมโยงนี้ได้ การจำอะไรต่อมิอะไรย่อมเป็นเรื่องง่าย เพราะสมองเราได้สร้างแผนผังสามมิติไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราจะต้องสัมผัสแผนผังดังกล่าวด้วยตัวเอง

เมื่อก่อนเวลาที่เขาแสดงความสามารถด้านนี้ออกมา ทุกคนเป็นต้องตะลึง คนพวกนั้นควรต้องมาเห็นยัยเสือน้อยที่เขาเลี้ยงดูสักครั้ง เพราะความสามารถด้านนี้ของเธอเก่งกว่ามาก

ป๋อจิ่วหูตั้งกับยิ้มที่เห็น แต่เธอคิดว่ายิ้มนั่นสวยเหมือนหิมะที่เพิ่งละลาย เจ้าหญิงน้อยยิ้มอย่างนั้นเพราะอยากให้เธอหอมเหรอ?

ไม่ได้ วันนี้เธอต้องสงวนท่าทีหน่อย เดี๋ยวยังต้องกินแฮมเบอร์เกอร์ หากวันนี้เธอรีบหอมเขาเร็วไป เกิดเธอกินอาหารแล้วมีความสุขขึ้นมา เจ้าหญิงน้อยอาจไม่ยอมให้เธอหอมอีก จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเอา

ในระหว่างที่ป๋อจิ่วคิดเช่นนี้ รถก็มาถึงสถานที่นัดหมาย รถธรรมดาคันดำจอดที่ริมถนนอันเป็นสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะ แถมยังมีลูกโป่งล่องลอย

……………………………………………………

ตอนที่ 1890

ฉินมั่วและป๋อจิ่วลงจากรถตามกันมา แม้ชุดที่พวกเขาสวมไม่ได้สะดุดตา แต่เพราะหน้าตาน่ารัก แถมดวงตาดำขลับ ทำให้ชาวตะวันตกเหลียวมองโดยไม่รู้ตัว หนูน้อยจากเอเชียสองคนนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่บุคลิกดูดีมาก

หลังจากที่ลงจากรถ ฉินมั่วก็ไม่ได้รีบเดินไป ทั้งยังไม่ให้ยัยเสือน้อยซี้ซั้ววิ่ง เขาหลุบตารูดซิปเสื้อขนเป็ดให้เธอ ทั้งยังช่วยจัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย เหล่าชาวตะวันตกที่เห็นต่างรู้สึกว่าน่ารักเหลือเกิน เด็กชาวเอเชียดูแลเอาใจใส่เพื่อนขนาดนี้เชียวเหรอ?

แม้ลุงหวังที่เป็นโชเฟอร์ได้อาศัยอยู่ที่นี่มานาน แต่ก็พอจะเข้าใจตัวคุณชายอยู่บ้าง ได้เห็นภาพดังกล่าวก็อยากจะใช้มือถือมาอัดคลิปส่งให้ท่านประธานดู มันช่าง…เหลือเชื่อจริงๆ หากเทียบกับการที่คุณชายกอดคุณหนูจิ่วอยู่ในรถแล้ว นี่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เหลือเชื่อยิ่งกว่า เพราะคุณชายไม่เคยปรนนิบัติใครมาก่อน

ฉินมั่วกลับไม่รู้สึกอะไร เด็กที่เขาเลี้ยงย่อมต้องได้รับการดูแลอย่างถี่ถ้วน ยิ่งอากาศข้างนอกหนาวขนาดนี้  แถมยัยเสือน้อยชอบสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย หากไม่พับแขนเสื้อก็ลืมรูดซิปเสื้อ ถ้าเขาไม่ใส่ใจแล้วใครจะทำ?

ฉินมั่วจัดแจงแต่งตัวอีกฝ่ายให้รัดกุม จากนั้นจึงจูงมือเธอ ทางด้านป๋อจิ่วก็ดีใจเป็นหนักหนา เจ้าหล่อนเดินไป หากยังสวมชุดนอนเสือน้อยล่ะก็ต้องส่ายหางแน่

หากเทียบกับในประเทศจีน สวนสนุกของเมืองนอกจะมีคนสวมชุดโจ๊กเกอร์และนักมายากลด้วย ทว่าเด็กทุกคนต่างชอบเหมือนกัน เมื่อเห็นคนที่มีสีผมและสีผิวต่างๆ เดินผ่านตรงหน้า ฉินมั่วจึงดึงให้ยัยเสือน้อยเดินตามเขา

วิลเลี่ยมจูเนียร์สวมชุดเสื้อโค้ทสีส้ม สวมหมวกไหมพรมคริสมาสต์ กำลังซุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกง รออยู่ที่จุดนัดพบ

ในความคิดของเขา จิ่วน่าจะมาคนเดียวต่างหาก แต่คิดไม่ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นมองจะไม่ได้เห็นแค่จิ่ว ยังมีคนที่เขาไม่รู้จักอีกด้วย แถมเจ้านั่นหน้าตาดีผิดมนุษย์มนาอีกต่างหาก! ตาดำ ผมดำ แถมหน้ายังหล่ออีก

วิลเลี่ยมจูเนียร์ชอบทุกสิ่งที่เป็นเอเชีย เขารู้ดีเช่นกันว่าจิ่วก็ชอบทุกอย่างที่เป็นเอเชีย พูดตามหลักแล้วจิ่วก็ชอบทุกสิ่งที่เป็นเอเชียเช่นกัน!

แต่ตามหลักแล้ว ในเมื่อเธอเป็นคนเอเชีย น่าจะยิ่งชอบชาวตะวันตกอย่างเขาไม่ใช่เหรอ แต่คนหล่อๆ อย่างเขาเดินเตร็ดเตร่ตรงหน้าเธอ เธอกลับไม่สนใจ

วิลเลี่ยมจูเนียร์ยังจำได้ดีตอนที่เขาหลงรักเธอ เดิมมาพร้อมพวกเพื่อสารภาพรักด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าจิ่วจะนึกว่าเขาพาพวกมาหาเรื่อง ผลสุดท้ายกลายเป็นเขาโดนเล่นงาน เด็กตัวใหญ่อย่างเขากลับโดนต่อย

นับจากนั้นเป็นต้นมา วิลเลี่ยมจูเนียร์ที่ชื่นชมพวกฮีโร่ก็ยิ่งศรัทธาและชอบจิ่วมากขึ้น ดังนั้นแม้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะหน้าตาจะหล่อเหลาเอาการ เขาก็ไม่สนใจ เขากลัวก็แต่จิ่วของเขาจะชอบฝ่ายนั้น!

ดูเหมือนวิลเลี่ยมจะคาดเดาอะไรได้ จึงเดินไปหาจิ่วอย่างฉุนเฉียว นั่นไง สองตาของเธอมีแต่เจ้าปีศาจนั่น บ้าที่สุด!

วิลเลี่ยมจูเนียร์สูดหายใจลึก จมูกยังคงแดงอยู่ เขาน้อยใจ แต่ไม่แสดงออกมา โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าปีศาจที่มาจากเอเชียนี่! วิลเลี่ยมจูเนียร์มองฉินมั่วด้วยความคิดเช่นนี้

เช่นเดียวกัน ฉินมั่วเองก็จับตามองเจ้าเด็กผมแดงตั้งแต่ป๋อจิ่วเดินพาเขามาที่นี่ ทว่าสิ่งที่ฉินมั่วติดใจมากก็คือ ความสูงที่ต่างกันของทั้งสอง…

……………………………………………..