บทที่ 1149 กำลังตื่นเต้นอยู่ใช่ไหม? / บทที่ 1150 นี่มันรักจริงชัดๆ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1149 กำลังตื่นเต้นอยู่ใช่ไหม?

ด้านหลังตึกใหญ่ของซือกรุ๊ป เยี่ยหวันหวั่นขับรถมุ่งหน้าไปยังพิธีมอบรางวัลจินหลาน เพื่อไปรวมตัวกับพวกเยี่ยมู่ฝาน

เพราะเป็นงานใหญ่ในวงการบันเทิงที่จะมีแค่หนึ่งครั้งต่อปี คืนนี้จะต้องได้รับความสนใจอย่างล้นหลามแน่นอน

ตั้งแต่เริ่มเปิดเผยรายชื่อของผู้เข้ารอบ กระแสบนโลกโซเชียลก็ร้อนแรงมาตลอด พวกเขาพากันเดาว่าราชาและราชินีจอเงินของปีนี้จะเป็นใคร ถึงขนาดมีคนเปิดเดิมพันกันเองด้วยซ้ำ

มีคนพนันข้างเผยเหิงของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์มากที่สุด เผยเหิงเคยคว้ารางวัลราชาจอเงินมาสองครั้งแล้ว เป็นสายความสามารถตัวจริง ครั้งนี้หวงเทียนเชิญเขาลงจากเขา เห็นได้ชัดว่าจะไม่ยอมชวดรางวัลอย่างแน่นอน

รองลงมาก็เป็นจิงว่านชิง จากโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ นักแสดงที่ทีมผู้ผลิตเหรียญทอง ลงทุนเป็นเงินก้อนโตถึงสองร้อยล้านหยวนในการสร้างผลงาน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเทอร์เน็ตแตกออกเป็นสองขั้ว แต่หนังกลับทำเงินได้มหาศาลทีเดียว

หานอี้จากจื้อซ่างมีเดียเป็นม้ามืดที่โผล่มาในครั้งนี้ เขาเองก็ถูกจับตามองไม่น้อยเหมือนกัน

ส่วนลั่วเฉินกับกงซวี่จากหนังเรื่อง “เป็นหรือตาย” นั้น ตั้งแต่ผู้กำกับจนถึงผู้ประพันธ์บทล้วนไร้ชื่อเสียง นักแสดงที่พอจะเป็นที่จับตามองก็มีแค่หานเซี่ยนอวี่ที่เข้าชิงในสาขานักแสดงสมทบ

ทั้งสองคนถูกชาวเน็ตขนานนามให้ว่า “สุดยอดตัวประกอบ”

บนรถ กงซวี่เปิดเวยป๋ออ่านคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ต บนใบหน้าหล่อเหล่าเต็มไปด้วยสีหน้าเย่อยิ่ง “ชิ ตัวประกอบ? ข้างกายฉัน คนอื่นก็เป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้นแหละ!”

ลั่วเฉินเหลือบมองกงซวี่ ได้แต่เงียบไม่พูดอะไร

เจ้าหมอนี่ไม่รู้ว่าจิตแข็ง หรือไร้หัวใจกันแน่ ถึงได้ดูเหมือนไม่เคยรู้สึกอะไรเลยอย่างนี้…

พอเห็นลั่วเฉินเงียบไม่พูดอะไร กงซวี่เหลือบมองเขา “เฮ้ย!”

ลั่วเฉินที่กำลังเหม่อลยอหันไปมองกงซวี่แวบหนึ่ง แล้วถามเขาด้วยสายตาว่ามีอะไร

กงซวี่จับไหล่เขา แล้วถามเบาๆ ว่า “นายกำลังตื่นเต้นอยู่ใช่ไหม?”

ลั่วเฉินชะงัก สีหน้าอึกอักเล็กน้อย “เปล่า”

กงซวี่เม้มปาก ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ “ชิ ไม่ต้องมาโกหกฉันหรอก ยังไงฉันก็อยู่ตบตีกับนายมานานขนาดนี้ แค่มองตาฉันก็รู้แล้วว่านายกำลังคิดอะไรอยู่! มีอะไรให้น่าตื่นเต้นกัน นายดูฉันนี่ โดนด่าขนาดนี้ยังไม่เห็นเป็นไรเลย!”

เยี่ยมู่ฝานที่ขับรถอยู่ข้างหน้ากลอกตาขาวใส่เขาผ่านกระจกมองหลัง “นายพูดอย่างกับเป็นเรื่องน่าภูมิใจมากอย่างงั้นแหละ?”

“ก็ผมพูดจริงนี่ ถ้าอยากอยู่ในวงการนี้ ก็ต้องทำตัวลอยเหนือปัญหาทั้งปวงเหมือนผม ถ้าหากเก็บทุกเรื่องมาใส่ใจหมด ก็เหนื่อยตายสิ เจ้าทึ่มนี่น่ะคิดมากเกินไป ผมล่ะเหนื่อยแทนจริงๆ” กงซวี่พึมพำ

ลั่วเฉินได้ยินอย่างนั้นก็สีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย

เขารู้ว่ากงซวี่ตั้งใจพูดอย่างนี้เพื่อปลอบใจเขา

ตอนนี้บริษัทอยู่ในสถานการณ์หมิ่นเหม่ การประกาศรางวัลในครั้งนี้สำคัญมาก ช่วงนี้เขาจึงกดดันมาก

กงซวี่พูดถูกแล้ว เขากำลังตื่นเต้น และไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน

เขานอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายคืนแล้ว พอคิดว่าตัวเองอาจทำให้พี่เยี่ยผิดหวัง พอคิดว่าบริษัทต้องเผชิญกับวิกฤติล้มละลาย เขาก็แทบหายใจไม่ออกแล้ว

นิสัยของเขาต่างกับกงซวี่มาก กงซวี่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนใจความคิดของคนอื่น แต่เขาไม่ใช่ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น อันดับแรกเขาจะคิดก่อนเลยว่าเขาทำอะไรผิด คอมเมนต์แย่ๆ ในเน็ตแค่คอมเมนต์เดียว ก็ทำให้เขาหดหู่ไปได้หลายวันเลยทีเดียว

สิ่งที่เขารับไม่ได้ที่สุด นั่นก็คือกลัว กลัวว่าความไร้ศักยภาพของเขา จะทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย

ลั่วเฉินหยิบมือถือว่าเปิดเวยป๋อ พอเห็นว่าแม้แต่แอคเคาท์เวยป๋อของเขา ก็ยังมีคอมเมนต์ด่ากงซวี่ กระทั่งมีหลายคอมเมนต์ที่ด่าว่ากงซวี่เป็นตัวถ่วงเขา ไม่อย่างนั้นด้วยทักษะการแสดงของเขา ก็อาจจะคว้ารางวัลได้ง่ายๆ

ลั่วเฉินจ้องคอมเมนต์พวกนั้นอยู่นาน จากนั้นก็กดปุ่มแก้ไข แล้วพิมพ์ข้อความบรรทัดหนึ่ง จากนั้นก็กดส่งออกไป

———————————————————————————

บทที่ 1150 นี่มันรักจริงชัดๆ

ในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนมือถือของเยี่ยมู่ฝานก็ดังขึ้น

เยี่ยมู่ฝานแทบจะกระเด้งตัว “กงซวี่ นายโพสต์อะไรของนายอีกแล้ว? ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามอัปเดตเวยป๋อจนกว่างานประกาศรางวัลจะจบน่ะ?”

กงซวี่ทำหน้างง “ให้ตายเถอะ! ผมไม่ได้โพสต์ซักหน่อย!”

“นายไม่ได้โพสต์? งั้นทำไมมือถือฉัน…”

เยี่ยมู่ฝานเปิดหน้าจอมือถือ แล้วก็ตะลึงไปเล็กน้อย ไม่ใช่กงซวี่จริงด้วย

เยี่ยมู่ฝานหันไปมองลั่วเฉินที่นั่งอยู่ข้างหลังแวบหนึ่ง สีหน้าดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

“ขอโทษครับ ผมโพสต์เอง” ลั่วเฉินเอ่ยปาก

เยี่ยมู่ฝานกระแอมเบาๆ “อืม ฉันเห็นแล้ว ถ้าโพสต์ไปแล้วก็ช่วยไม่ได้…”

กงซวี่เดือดดาล “ให้ตาย! นี่มันสองมาตรฐานชัดๆ! ทำไมเขาโพสต์เวยป๋อได้ แล้วผมโพสต์ไม่ได้ล่ะ? ผมขอประท้วง!”

เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “ประท้วงบ้าอะไร รู้เหรอว่าเขาโพสต์อะไรถึงจะประท้วงอ่ะ?”

กงซวี่พูดพลางเปิดเวยป๋อ “ผมอยากรู้นักว่าเจ้าหมอนี่โพสต์อะไร!”

กงซวี่เปิดสเตตัสล่าสุดที่ลั่วเฉินโพสต์ในเวยป๋ออย่างขุ่นเคือง

พอเห็นว่าลั่วเฉินโพสต์อะไร กงซวี่ก็อึ้งงัน สีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

สเตตัสของลั่วเฉินสั้นมาก มีความยาวแค่แปดคำเท่านั้น

[เขาเป็นคู่หูที่ดีที่สุด @กงซวี่]

ลั่วเฉินเพิ่งจะโพสต์สเตตัสนี้ได้ไม่นาน คอมเมนต์ด้างล่างก็เดือดพล่านทันที

[ให้ตายเถอะ! ลั่วเฉินโดนแฮกรึเปล่าเนี่ย?]

[ไม่ใช่ว่ากงซวี่ขโมยมือถือลั่วเฉินมาโพสต์เองหรอกนะ?]

[มาเข้าข้างกงซวี่ในเวลาอย่างงี้ นี่มันรักจริงชัดๆ!]

“เชี่ย…” กงซวี่จ้องสเตตัสนั้นอย่างตะลึงงัน ผ่านไปนานกว่าจะตั้งสติได้

นึกไม่ถึงว่าลั่วเฉินที่ไม่ถูกชะตากับเขา กลับออกหน้าเข้าข้างเขาในเวลาอย่างนี้

กงซวี่จ้องสเตตัสนั้นอยู่นานมาก สีหน้าดูสับสนเป็นพิเศษ ไม่นานกงซวี่ก็จ้องหน้าลั่วเฉิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ลั่วเฉิน นายบอกฉันมาตรงๆ นายหลงรักฉันแล้วใช่ไหม? นายหลงเสน่ห์ฉันเข้าให้แล้วใช่ไหม? ฉันขอเตือนด้วยความหวังดี รีบตัดใจซะเถอะ! ถ้าต้องเป็นเกย์ ฉันขอคบกับพี่เยี่ยของฉันดีกว่า!”

ความรู้สึกซาบซึ้งอันน้อยนิดของลั่วเฉินเมื่อกี้มลายหายไปในพริบตา “…นายคิดมากไปแล้ว”

เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “เจ้าเด็กบ้านี่ ถ้านายยังพูดจาเหลวไหลอีก เชื่อไหมว่าฉันจะบีบคอนายให้ตายซะ?”

“เฟลิกซ์ พี่อยากมีเรื่องใช่ไหม! ทำไมต้องบีบคอผมด้วย ผมจะคบกับพี่เยี่ย ไม่ได้บอกว่าจะคบกับพี่ซักหน่อย! ทำไมพี่ชอบว่าผมนักล่ะ?” กงซวี่ที่กำลังเถียงกับเยี่ยมู่ฝานในตอนนี้ ไม่รู้เลยซักนิด ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ความจริงแล้วก็คือ “พี่เมีย” ของเขานั่นเอง

พวกเขาลงรถพร้อมกับเสียงโหวกเหวก เยี่ยหวันหวั่นเดินมาหาพอดี “พวกนายเป็นอะไรกันอีก?”

กงซวี่รีบวิ่งไปหาเยี่ยหวันหวั่นเหมือนผีเสื้อ แล้วฟ้องทันทีว่า “พี่เยี่ย ผมบอกว่าถ้าผมเป็นเกย์จะคบกับพี่ ปรากฏว่าเฟลิกซ์บอกจะบีบคอผมให้ตาย! เกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะ?”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาประกาศผลอยู่แล้ว คนอื่นๆ เขาพากันเดารายชื่อผู้ชนะ แต่เจ้าหมอนี่กลับมาพูดเรื่องเป็นเกย์เนี่ยนะ…

เอาน่า เป็นคนจิตแข็ง ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งเหมือนกัน!

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาขาวใส่เขา จากนั้นก็หันไปมองลั่วเฉิน “ลั่วเฉิน มานี่”

ลั่วเฉินรีบเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่น “พี่เยี่ย”

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วมองลั่วเฉินแวบหนึ่ง สีหน้าเหนื่อยล้าฉายชัดจนแม้แต่เครื่องสำอางก็แทบปกปิดไม่อยู่ โชคดีที่ทรงผมช่วยอำพรางได้หลายส่วน พอต้องแสงไฟ แม้อยู่ไกลๆ ก็มองไม่ออก

เด็กคนนี้ มักจะคิดมากอย่างนี้เสมอ

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “อะไรจะเกิดก็ล้วนแล้วแต่สวรรค์ลิขิต ขอแค่นายทำเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องโทษตัวเองอีกแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคอมเมนต์ในเน็ตพวกนั้น ความสามารถที่แท้จริงต่างหากที่จะปิดปากพวกนั้นได้ดีที่สุด ฉันเชื่อในตัวนาย”

ม่านตาของลั่วเฉินหดตัว ขอบตาร้อนผ่าวเล็กน้อย “เข้าใจแล้วครับ พี่เยี่ย”

…………………………………