นอกจากนั้นลูกผสมไม่ได้ฆ่าชาวบ้านทั้งค่ายจนหมด หากมันกลับเลือกที่จะปล่อยกลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่กลุ่มเล็กๆไป โดยเฉพาะผู้นำค่าย พวกที่มียศทหาร ลูกผสมขับไล่กลุ่มคนพวกนี้ออกไปจากค่าย
คนที่โชคดีหนีรอดมาได้แต่ได้คาดเดาจุดประสงค์ของการกระทำของกลุ่มลูกผสมพวกนี้ โดยเฉพาะผู้นำค่ายที่สงสัยอย่างมากกับการถูกกลุ่มลูกผสมขับไล่ออกมาอย่างปลอดภัย
ค่ายเล็กๆที่ค่อยพัฒนาจนในที่สุดก็เข้าร่วมกับซางจิงอย่างเป็นทางการ
กลับถูกทำลายลงอย่างง่ายดายภายในพริบตาเดียว!
”พวกลูกผสมพวกนี้แค่ผ่านมาแล้วก็ยึดค่ายของเราเล่นๆแค่พักหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?”
”ถึงจะแค่ผ่านมาแต่ค่ายของเราไม่ได้กองกำลังที่จะต้านทานอะไรได้เลย”
”พวกมันมีโอกาสที่จะฆ่าเราทำไมมันถึงไม่ทำ?”
”ไม่เห็นเหรอ?ตอนแรกพวกมันดูเหมือนอารมณ์ดี”
”ฉันไม่รู้ว่าพวกนายสังเกตหรือเปล่า”คนคนหนึ่งที่เงียบมาตลอดจู่ๆก็เอ่ยขึ้น “มีหัวคนอยู่ในมือลูกผสมระดับสูง”
”ใช่ฉันเห็น” ผู้นำค่ายกระพริบตาปริบๆ “มันดูคุ้นตามาก”
ผู้นำค่ายอ้าปากค้างอย่างพยายามนึกภาพในหัวและไม่นานหน้าเขาก็พลันซีดขาวและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ฉันมีโอกาสได้ไปเข้าประชุมที่ซางจิงมา และนั่นคือชูฮัน ฉันมั่นใจ”
มันคือหัวของชูฮัน!
ชูฮันตายแล้วจริงๆ!
ความหวาดกลัวแพร่กระจายเข้าไปในหัวใจของทุกคนทันทีมันเป็นข่าวที่น่าตกใจยิ่งนัก ไม่มีใครสังเกตเห็นสีหน้าพึงพอใจจากชายที่ตั้งข้อสังเกตขึ้นมา เพราะทุกคนมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ตกใจกับเรื่องที่พึ่งได้รับรู้อยู่
หลังจากค่ายเล็กถูกสังหารหมู่โดยกลุ่มลูกผสมมันก็มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากค่ายที่อยู่ห่างออกมาไม่ไกล กลุ่มลูกผสมไล่ไปปรากฏตัวอย่างกระทันหันต่อหน้าค่ายเล็กๆและทำการสังหารหมู่เพื่อความสนุกสนานไปเรื่อยๆ
ส่วนกลุ่มมนุษย์สายพันธุ์และผู้นำทั้งหลายก็จะถูกขับไล่ออกมาอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนจากนั้นข่าวเรื่องที่ลูกผสมถือหัวของชูฮันก็แพร่กระจายไปทั่ว
ครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเวลาแค่สองวัน ค่ายเล็กๆบริเวณใกล้เคียงค่ายหนาานตู้ต่างถูกโจมตีด้วยฝีมือกลุ่มผสมจนหมด และก็มีมนุษย์สายพันธุใหม่จำนวนมากที่ได้เห็นภาพหัวขาดของคนที่หน้าคล้ายชูฮัน
ชูฮันตายแล้วลูกผสมแหกปากร้องอย่างสะใจขณะกำลังเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนานอยู่ในค่ายเล็กๆแห่งหนึ่ง แค่กระจายข่าวสองวัน แถมพวกมันยังอิ่มหน่ำสำราญ และยังได้หลอกให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทว่าชูฮันตายแล้ว
ลูกผสมกำลังโอ้อวดพวกมันมีหัวขอชูฮันในมือ พวกมันต้องการกระตุ้นทั่วทั้งจีนให้ร้อนรนด้วยความกลัว!
สองวันต่อมาห้องประชุมภาายในค่ายเขี้ยวหมาป่าที่ไม่ได้ตกแต่งหรูหราหรือเต็มไปด้วยข้าวของหรือพื้นที่กว้างขวางเหมือนค่ายอื่นๆ ขณะนี้มีเจ้าหน้าระดับสูงทั้งหลายและคนสนิทของชูฮันอยู่แน่นกันเต็มไปหมด ทุกคนต่างเงียบสนิท สายตาจับจ้องไปที่ซางจิ่วตี้เป็นหนึ่งเดียว ไอลีนโนเวล
ความเงียบอันน่ากลัวทำให้ทั้งประชุมอยู่ในสภาพหดหู่หากมันก็ไม่ลากยาวนานประตูห้องประชุมถูกผลักเปิดออก มีสองคนที่อยู่ในสภาพจงใจปลอมตัวเดินเข้ามาและนั่งลงในตำแหน่งของตัวเอง
หลังจากได้ยินข่าวว่าชูฮันตายแล้วหลูอี๋และกูเหลียงเฉินที่รีบมาจากค่ายเจียนอี๋เนื่องจากในตอนนี้หลูอี๋ตกอยู่ในความดูแลของหน่วยสอดแนมลับของค่ายเขี้ยวหมาป่า เขารีบมุ่งหน้ามาค่ายเขี้ยวหมาป่าทันทีที่ได้ยินข่าว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอและเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของทุกคนเขาจึงจำเป็นต้องปลอมตัวมา
อย่างเช่นในตอนนี้ที่ทั้งห้องมองตามหลูอี๋ซึ่งเป็นผู้นำค่ายเจียนอี๋พร้อมกับกูเหลียงเฉินที่เข้ามาและนั่งลงที่เก้าอี้ว่างอย่างรวดเร็ว
ทั้งๆที่ข่าวมันพึ่งจะลือได้ไม่นานแค่ทั้งสองก็มาปรากฏตัวที่นี้แล้วแสดงว่าคงจะรีบมาด้วยความเร็วสุดกำลัง
ทันทีที่มาถึงหลูอี๋ก็จบมือสกปรกของตัวเองลงกับโต๊ะออย่างแรง หน้าตาเต็มไปด้วยความกังวลและอ่อนเพลีย “เกิดอะไรขึ้น? ชูฮันตายแล้ว? เขาตายแล้วจริงเหรอ…”
ชูฮันจะตายได้ยังไง?
ฉันเชื่อใจเขาถึงได้ยอมร่วมมือด้วย?
แล้วจะทำงานร่วมกันต่อยังไงถ้าชูฮันตายไปแล้ว?
ตอนนี้ตัวหลูอี๋กึ่งถูกบังคับกลายๆให้ร่วมกับหน่วยสอดแนมลับของค่ายเขี้ยวหมาป่าแน่นอนว่ามันไม่ใช่การบังคับอย่างสมบูร์แบบเพราะตัวเขาก็แอบเห็นด้วย หลูอี๋เป็นทหารที่มีความสามารถซึ่งถูกส่งมาจาากซางจิง เขาไม่ใช่คนโง่ เขาร่วมมือกับชูฮันเพราะมันเป็นสิ่งที่ควร และความสัมพันธุ์ของเขากับค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง!
แต่ตอนนี้ชูฮันตายแล้ว?
และมันก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้คนมากมายจากหลายค่ายในจีนกำลังพูดเรื่องการตายของชูฮันกัน หากเรื่องที่หลูอี๋กังวลมากที่สุดตอนนี้ก็คือเพื่อนวัยเด็กของเขาที่ชูฮันชิงไป…ซางจิ่วตี้
ความโกรธของหลูอี๋ทำให้ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าอีกครั้งทุกคนต่างช็อคกับสิ่งที่ได้ยินซึ่งเหมือนเป็นการยืนยันข่าวลือ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา หากสายตากลับจับจ้องไปที่หลูอี๋กันหมด ”ขอโทษทีฉันตกใจมากไปหน่อย” หลูอี๋มองดูสถานการณ์ก็ตกใจ เขารีบเอ่ยถามออกมาด้วยความวิตกกังวล “การหายตัวไปของชูฮันเป็นการยืนยันว่าชูฮันตายแล้วจริงๆ ค่ายเขี้ยวหมาป่าของพวกคุณอยู่ห่างไกลและมีการป้องกันสูงมาก ข่าวจึงถูกสกัดเอาไว้ก่อนจะมาถึง แต่ที่ค่ายของผม ผมได้รับข่าวเดียวกันยืนยันว่าชูฮันตายที่เมืองหนานตู้และร่างของเขาก็ยังอยู่ที่นั่น ว่ากันว่าหลายคนจากค่ายเล็กๆรอบค่ายหนานตู้เห็นพวกลูกผสมถือหัวของชูฮันไปแสดง”
หลูอี๋พูดเร็วขณะพูดเขาก็คอยสังเกตท่าทางของซางจิ่วตี้อยู่เสมอ เขากลัวว่าซางจิ่วตี้จะบุกไปหาชูฮันทันที
หลังจากหลูอี๋พูดจบทั้งห้องประชุมก็ดังไปด้วยเสียงถอนหายใจอย่างกลุ้มใจ บรรยากาศหดหู่และสิ้นหวัง หลายคนก้มหน้างุดและปิดปากเงียบ โดยเฉพาะเจียงเทียนชิงที่อายุน้อยที่สุด ไหล่ทั้งสองข้างสั่นไหว ลมหายใจรุนแรงและสะดุด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถเก็บอารมณ์ได้และร้องไห้ออกมา
ซางจิ่วตี้เองก็ก้มหน้าลงทำให้ไม่มีใครมองเห็นสีหน้าของเธอได้หลังจากหลูอี๋พูดออกมา ตัวของซางจิ่วตี้ก็แข็งค้างและเงียบยิ่งกว่าเดิม
เมื่อได้เห็นว่าคำพูดของตัวเองทำให้หลายคนในห้องประชุมรับไม่ไหวหลูอี๋ก็รู้สึกหวิวในใจ ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้น และยิ่งได้เห็นภาพของซางจิ่วตี้ หลูอี๋ก็ยิ่งเป็นกังวลและเศร้าใจตาม
ตาของหลูอี๋เริ่มแดงเขาพยายามสูดลมหายใจลึกๆ คุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นและเอ่ยพูดกับซางจิ่วตี้ “อย่าเศร้าและอย่าไปนึกถึง ชูฮันจากไปแล้ว แต่แม่ของชูฮัน…ป้าหยวนซีเยยังต้องได้รับการดูแล ถ้าเธอล้ม แล้วใครจะดูแลแม่ของชูฮัน”
แม้แต่หลูอี๋เองก็หลุดสะเอื้อนออกมาและยิ่งเห็นภาพโศกเศร้าของทุกคน เขาก็ตัดสินใจพยายามจะให้กำลังทุกคน “เราจะยอมแพ้ไม่ได้ เราต้องสานต่องานของเรา เห็นเรื่องพันธมิตรเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอไง? ตอนนี้ไม่มีใครกล้าออกไปไหน แต่ในค่ายเขี้ยวหมาป่ามีคนเก่งกาจตั้งมากมาย เราต้องรับผิดชอบพวกเขาในฐานะค่ายระดับสูง เราต้องร่วมมือกันเพื่อทำให้ความปรารถนาของชูฮันเป็นจริง และชูฮันจะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป!”