คุณปู่หลินด่าเพราะความโง่เขลาของเขา “หลายปีที่ลุกคลีอยู่ในโลกการเมืองมานี้เสียเปล่าจริงๆ แกทึ่มยิ่งกว่าเสี่ยวเซวียนอีก คิดว่าเขาล่อเสี่ยวเยียนออกไปทำไม”
หลินคังเริ่มเข้าใจ “พวกเราจะหลอกใช้เสี่ยวเยียน?”
“เธอเหมาะกับงานนี้ที่สุด” คุณปู่หลินพูดอย่างมั่นใจ “เราจะยอมให้เรื่องนี้โยงกลับมาหาเราไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องยืมมือคนอื่นเพื่อทำเรื่องนี้ ใครก็ตามที่ไม่ได้มาจากตระกูลหลิน”
หลินคังเริ่มกังวล “มันจะไม่เป็นอันตรายต่อเสี่ยวเยียนเหรอครับ ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดโปง…”
คุณปู่หลินหัวเราะ “แกลืมไปแล้วเหรอว่าเสี่ยวเยียนเป็นใคร ใครจะกล้าทำอะไรเธอ สุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่ความตายของผู้หญิงคนหนึ่ง มีตั้งหลายวิธีในการปกปิดมัน”
ใช่แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับถงเยียน ตระกูลเฉินและตระกูลถงจะต้องเข้ามาแทรกแซงแน่ บวกกับคำพูดดีๆ จากตระกูลหลิน ประธานาธิบดีก็จะต้องยกโทษให้เธอแน่ ดังนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับถงเยียน เธอจึงเป็นผู้ที่เหมาะกับการช่วยตระกูลหลินทำงานสกปรกมากที่สุด
ในที่สุดหลินคังก็เข้าใจและหัวเราะไปกับพ่อของเขา “พ่อครับ ผมว่านี่แหละคือความหมายของการฝึกฝนกองทัพเป็นพันวันเพื่อที่จะรบแค่หนึ่งชั่วโมง”
คุณปู่หลินหัวเราะดังขึ้น “แน่นอน พวกเราเตรียมการมาตั้งแต่หลายปีก่อน ในที่สุดก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของเราสักที!”
…
“คุณเปิดเผยข้อมูลของงานออกแบบตอนนี้ ไม่กลัวว่าตระกูลหลินจะมาทำอะไรคุณเหรอครับ” ลู่ฉีถามซิงเหอด้วยความกังวลหลังจากที่ส่งทุกคนออกไป แน่นอนว่าซิงเหอได้คิดถึงเรื่องนั้นแล้ว
เธอตอบ “ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องบังคับให้ตระกูลหลินลงมือและทำพลาด”
“แต่ว่ามันเสี่ยงเกินไป คุณยังไม่ได้เตรียมตัวเลยและนี่ก็เป็นเมือง A ถ้าพวกเขาโจมตีคุณจริงๆ ผมกลัวว่าคุณจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้”
ซิงเหอเบิกตาขึ้นเล็กน้อย “ใครบอกว่าฉันไม่ได้เตรียมตัว”
“คุณมีแผนป้องกันตัวแล้วเหรอครับ” ลู่ฉีตกใจปนยินดี
ซิงเหอพยักหน้า “ไม่ว่ายังไงฉันก็เห็นด้วยว่านี่มันเสี่ยงมาก แต่มีแค่การเปิดเผยงานวิจัยของเราออกมาเท่านั้นถึงจะบังคับให้พวกเขาลงมือได้ ไม่อย่างนั้นถ้าเรายังทำงานต่อไปเงียบๆ แบบนี้จนรักษาประธานาธิบดีได้ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ตระกูลหลินรอคอยเวลานี้มาหลายปีแล้ว พวกเขาไม่เกี่ยงหรอกถ้าจะต้องรออีกไม่กี่ปี ยังไงก็ตาม ภายในเวลาไม่กี่ปีทุกอย่างจะสายเกินไป! อีกอย่างฉันก็ไม่สามารถอดทนรอนานขนาดนั้น”
“นั่นอาจเป็นเรื่องจริงแต่ผมก็ยังเป็นห่วงคุณอยู่ดี หากประสบความสำเร็จก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าล้มเหลวมันก็จะเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของเราให้พวกเขารู้…”
ซิงเหอส่ายหน้า แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “นี่เป็นก้าวที่ฉันต้องเดิน ฉันทำทุกอย่างที่สามารถทำได้แล้ว ดังนั้นฉันจะปล่อยให้ที่เหลือเป็นไปตามโชคชะตา อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าตระกูลหลินจะไม่สามารถหนีรอดไปจากโทษทัณฑ์ในครั้งนี้! เวรกรรมมันมีจริง!”
ยิ่งกว่านั้นถ้าแผนนี้สำเร็จ จุดจบของคนพวกนั้นก็อยู่ไม่ไกลนัก
…
ซิงเหอขอลางานจากบ้านประธานาธิบดีสักสองสามวันเพื่อเปิดโอกาสให้ตระกูลหลินเล่นงานเธอ เธอให้เหตุผลว่าต้องการจะไปเยี่ยมมู่ไป๋ ถึงอย่างไรเธอก็จากบ้านมานานแล้วและเป็นห่วงเขา
คุณนายประธานาธิบดีเข้าใจความรู้สึกของเธอจึงอนุญาตให้เธอหยุดงานและให้ผู้คุ้มกันไปส่งเธอที่สนามบิน
ซิงเหอยอมรับน้ำใจของเธอ ไม่นานรถก็ออกมาจากบ้านของประธานาธิบดี
ในรถ ซิงเหอโทรหาอาลิและคนที่เหลือทันที “ฉันกำลังเดินทางอยู่ ไปรอฉันที่เดิมนะ”
อาลิซึ่งตั้งหลักอยู่ที่เมือง A ก่อนหน้านี้ตามคำสั่งของซิงเหอตอบ “โอเค พวกเราจะรอเธอ”
นับตั้งแต่ตอนที่เธอมาถึงเมือง A เธอก็คิดหาหนทางมากมายที่จะจัดการกับตระกูลหลิน แต่ไม่ว่าจะเป็นแผนการไหนเธอก็ต้องการกำลังคนทั้งนั้น