AST
บทที่1768 – เสน่ห์ของหญิงสาวเผ่าพันธุ์ปีศาจดูดเลือด
ดูดพลังหมายถึงการดูดพลังของศัตรูผ่านอาวุธหรือจากพลังปราณ นอกจากนี้ ถ้าหากอาศัย แร่ทองคำปีศาจสวรรค์ เขาก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงพลังปราณของศัตรูมาเป็นพลังปราณของตนเองได้
เฉิงเจินไม่ได้ต่อต้านหรือขัดขวางความคิดของชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อที่ต้องการมุ่งหน้าไปยังผาราชินีปีศาจดูดเลือดเพียงแต่เธอเลือกที่จะเตือนให้ทั้งสองคนคอยระมัดระวังตัวเอาไว้ให้มาก เธอเองก็เป็นคนที่ฉลาด จึงรู้ดีว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่มีทางนั่งอยู่เฉยๆโดยที่จะไม่ทำอะไรเลย เขาน่าจะเป็นคนที่อยากเดินทางไปที่นั่นมากที่สุด
ดังนั้นเธอจึงเลือกเตือนความจำชิงสุ่ยเกี่ยวกับสถานที่ที่เขาควรระวังด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชิงสุ่ย คงมากพอจะปกป้องมูหยุนชิงเก้อให้อยู่รอดปลอดภัยและไม่เป็นปัญหากับเขา
”ชิงสุ่ยที่แห่งนั้นก็คือผาราชินีปีศาจดูดเลือด”มูหยุนชิงเก้อชี้ไปยังภูเขาขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากพวกเขา
ทั้งที่ทั้งสองคนเดินทางเข้าสู่อาณาเขตของผาราชินีปีศาจดูดเลือดพวกเขาก็รู้สึกถึงรัศมีที่แสนอบอุ่นของอากาศ ราวกับว่าที่นี่ไม่ใช่พื้นน้ำทะเลสาบ เพราะมันมีอุณหภูมิอบอุ่นเกือบจะเท่าอุณหภูมิของเลือดมนุษย์
”หืมว่าแต่เจ้าเคยเห็นคนของกลุ่มผาราชินีปีศาจดูดเลือดตัวเป็นเป็นมาก่อนหรือไม่?”ชิงสุ่ยรู้สึกนี่เง่าที่ถามคำถามแบบนี้ แต่เขาก็ได้เรียนรู้มาจากมูหยุนชิงเก้อ ว่าคนของผาราชินีปีศาจดูดเลือดไม่ได้สวมเสื้อผ้า นอกจากนี้ทุกคนของผาราชินีปีศาจดูดเลือดก็มีรูปลักษณ์งดงามเหมือนกับดอกไม้บาน
นั่นจึงทำให้เขาคิดว่าเธอคงเคยพบเจอคนเหล่านี้มาก่อน
”ข้าเห็นคนของผาราชินีปีศาจดูดเลือดมาหลายครั้งแล้วพวกเธองดงามอย่างแท้จริง นอกจากนี้พวกเธอยังเดินเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา”มูหยุนชิงเก้อมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาฉลาดแกมโกงพร้อมกับรอยยิ้ม
ชิงสุ่ยถึงกับพูดไม่ออกจากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังดวงตาคู่งามของมูหยุนชิงเก้อ และนึกถึงอดีต อดีตที่เขาเคยเห็นร่างที่งดงามของหญิงสาวผู้นี้
ไม่นานนักความคิดของเขาก็เริ่มฟุ้งซ่านเขาพยายามย้ำเตือนตัวเองว่า “ข้าไม่มีทางสนใจเรือนร่างของพวกผาราชินีปีศาจดูดเลือดเด็ดขาด”
มูหยุนชิงเก้อแสดงความเขินอายเมื่อเห็นดวงตาที่ชิงสุ่ยมองมาหาเธอมันคือดวงตาที่ทำให้เธอย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ดวงตาที่เขาจ้องมองร่างกายของเธอ เธอพยายามลืมเลือนเรื่องราวเหล่านี้แต่สุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้
”อย่าได้มองข้าด้วยสายตาเช่นนี้อีก”อย่างไรก็ตามมูหยุนชิงเก้อกำลังทำเหมือนว่าเธอพยายามหลอกตัวเอง
เมื่อเห็นภาพเขินอายของหญิงสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้าชิงสุ่ยได้แต่ระเบิดเสียงหัวเราะ “เจ้าช่างงดงามจริงๆ”
ไม่มีหญิงสาวคนไหนไม่ชอบการชมเชยแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ชอบแต่ในใจลึกแล้วกลับรู้สึกยินดี ทุกคนต่างรู้ดีว่าคำชื่นชมถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ประจบประแจง แต่ผู้คนก็ยินดีที่จะได้ยินคำพูดเหล่านั้น
”เอาละเราไปข้างในกัน!!”มูหยุนชิงเก้อเพิกเฉยการกระทำของชิงสุ่ยและก้าวเข้าสู่ผาราชินีปีศาจดูดเลือด
ชิงสุ่ยคว้าตัวเธออย่างรวดเร็วถ้าหากเขาต้องประสบพบเจอกับสิ่งอันตราย มันคงจะง่ายกว่าถ้าหากเขาจะพาเธอหลบหนี
ผาราชินีปีศาจดูดเลือดมีสภาพดินแดนเหนือดินแดนรกร้างแต่ต้นไม้ทั้งหมดถูกแทนที่ใบสีเขียวด้วยใบสีเหลืองให้ความรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังเหี่ยวเฉา ไอลีนโนเวล
ปีศาจดูดเลือดอาศัยการดูดเลือดเพื่อประทังชีวิตไม่เพียงแต่จะดูดเลือดจากสัตว์อสูร แต่พวกเธอยังดูดเลือดจากมนุษย์และมังกร พวกเขาชื่นชอบในการดูดเลือดที่มีอยู่ในร่างกายของทุกสิ่งมีชีวิต
เผ่านี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและทรงพลังพวกเธอไม่จําเป็นต้องฝึกฝนได้เลยเพราะความแข็งแกร่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดที่พวกเธอกินเข้าไป
ภายในผาราชินีปีศาจดูดเลือดเป็นไปด้วยสัตว์อสูรจำนวนมาก เนื่องจากเผ่าพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่จำเป็นต้องพึ่งพาเลือด มิฉะนั้นเผ่าพันธุ์ทั้งหมดจะล้มตาย
ทุกย่างก้าวที่ชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อก้าวผ่านทำให้ฝูงสัตว์อสูรจำนวนมากแตกตื่นเพื่อหนีรอด
”แร่ทองคำปีศาจสวรรค์อยู่บริเวณใดกัน?ถ้าหากพวกเราต้องหาทั่วสถานที่ขนาดมหึมาแห่งนี้โอกาสที่จะพบเจอมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย”ชิงสุ่ยตรวจสอบสภาพแวดล้อมพร้อมกับมองดูเขาสูงใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
”มีเพียงแค่กลุ่มผาราชินีปีศาจดูดเลือดเท่านั้นที่รู้วิธีเก็บเกี่ยวพวกมันดังนั้นถ้าหากเราต้องการทางที่ดีที่สุดคือการพบเจอกับกลุ่มของผาราชินีปีศาจดูดเลือด” มูหยุนชิงเก้อกล่าว
ชิงสุ่ยเรียกใช้งานอสูรสยบมังกรทันทีเพราะมันมีระบบประสาทสัมผัสไวต่อสิ่งของประเภทสมบัติเขาเลือกใช้มันเพื่อทดสอบว่าเขาจะมีโชคดีมากพอจะได้รับสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่
หลังจากติดตามเจ้าอสูรสยบมังกรเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาผาราชินีปีศาจดูดเลือดเวลาก็ผ่านพ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมง ชิงสุ่ยเปิดใช้พลังการรับรู้ทางจิตวิญญาณและมองออกไปยังสถานที่ที่ห่างไกล เหนือท้องฟ้า ปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์สองร่างโดยด้านหลังเหมือนกับมีนกยักษ์ช่วยให้ร่างมนุษย์เหล่านี้เคลื่อนที่อย่างว่องไว
ดวงตาของชิงสุ่ยทอแสงประกายสดใสและทันทีที่เขาเห็นร่างพวกนี้อย่างชัดเจน ชิงสุ่ยถึงกับตกตะลึง
มันเหมือนกับที่มูหยุนชิงเก้อกล่าวไว้ไม่มีผิดพวกเธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์งดงามและมีเสน่ห์ ร่างกายของพวกเธอเปลือยเปล่า พร้อมกับผมสีแดงซึ่งยืนอยู่กลางอากาศ สิ่งเดียวที่แตกต่างคือด้านหลังของพวกเธอปรากฏให้เห็นเป็นอีกคู่นึงที่ขยายออกมาจากด้านข้างลำตัวประมาณ 2-3 เมตร มันคล้ายกับปีกค้างคาวที่มาจุติอยู่ในร่างมนุษย์
ร่างกายของพวกเธอไม่สวมเครื่องแต่งกายแม้แต่ชิ้นเดียวพวกเธอมีร่างกายที่เพียวบางแต่มีผิวหนังที่ซีดเซียว มันไม่ได้ขาวเหมือนกับหยก แต่ผิวหนังก็ดูเรียบเนียนและบอบบาง นอกจากนี้พวกเธอยังมีหน้าอกอันใหญ่โตคอยกระชากใจผู้คน
”ตื่นนนน……..”มูหยุนชิงเก้อมองดูชิงสุ่ยที่กำลังตาค้างไม่กระพริบตาเธอกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเล็กน้อย แต่ด้วยสาเหตุใดกันที่เธอรู้สึกแบบนี้เธอเองก็ไม่แน่ใจ
และทันทีที่เขารู้สึกตัวเขาก็แสดงสีหน้าตกใจเขากลัวว่ามูหยุนชิงเก้อจะเข้าใจผิด แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มและกล่าวว่า “พวกนางไม่ได้งดงามเท่าเจ้าเลย”
ชิงสุ่ยพยายามหาข้อแก้ตัวดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและกล่าวเชิดชูมูหยุนชิงเก้อแทน
แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้มูหยุนชิงเก้อตอบกลับด้วยความเงียบและเขินอาย เมื่อก่อนเธอเองก็เคยปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยสภาพเปลือยเปล่า คำพูดที่เขาบอกว่าพวกนางไม่ได้งดงามเท่าเธอเลย เขาพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอก หรือจากรูปลักษณ์ภายใน……..?
ในไม่ช้ามูหยุนชิงเก้อก้มหน้าลงเธอเองก็ไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอคิดแต่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ทำให้เธอไม่คิดถึงเรื่องนี้
เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยขณะมองชิงสุ่ยเธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นมีความสัมพันธ์กับชิงสุ่ยในระดับใดกันแน่……. ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทั้งสองคนพบปะพูดคุยกันแทบทุกวัน เธอค่อยๆคุ้นเคยกับรูปลักษณ์ของชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ……และชายผู้นี้ก็เป็นคนที่โดดเด่นอย่างมาก
ในไม่ช้าปีศาจดูดเลือดหญิงสาวทั้งสองคนก็ปรากฏกายห่างไม่ไกลจากชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อ ณ ตอนนี้ ชิงสุ่ยมองเห็นพวกเธออย่างชัดเจน พวกเธอมีลักษณะเหมือนกับมนุษย์ทุกอย่างเว้นแต่เพียงมีปีกอยู่ด้านหลัง รูปร่างของพวกเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ดวงตาของพวกเธองดงามและดึงดูดใจ พร้อมจะฉีกกระชากหัวใจของเหล่าชายหนุ่มที่พบเห็น
นี่คือหญิงสาวเผ่าพันธุ์ปีศาจดูดเลือดชิงสุ่ยจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าด้วยความสงสัยว่าพวกเธอมาดีหรือมาร้าย