เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 739
ประตูผุพังบานใหญ่ถูกถีบออก เจ้าหน้าที่ทหารบุกเข้ามาในลานบ้านเล็กๆ

ลู่ฝานกับหานเฟิงไม่กลัวสักนิด พวกเขาเห็นความสามารถของเจ้าหน้าที่ทหารพวกนี้แล้ว พูดตามตรง ถ้าประชาชนทั้งเมืองหยุนไห่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารแบบนี้ ก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้หรอก

ความแตกต่างระหว่างพละกำลังของพวกเขา ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยจำนวนคน

ด้วยเหตุนี้ สายตาที่ลู่ฝานกับหานเฟิงมองเจ้าหน้าที่ทหารพวกนี้ ไม่ต่างอะไรจากมองอากาศ

ผู้เฝ้าเมืองซ่งเดินเข้ามาภายใต้การประคองของเจ้าหน้าที่ทหาร เห็นท่าทางกะโผลกกะเผลกของเขา เหมือนกับคนพิการอย่างไรอย่างนั้น

ผู้เฝ้าเมืองซ่งมองลู่ฝานกับหานเฟิงด้วยดวงตาแดงก่ำ หน้าตาบูดเบี้ยว

“โจรอย่างพวกนายสองคนฆ่าลูกชายฉัน วันนี้ฉันจะหั่นศพของพวกนายเป็นหมื่นชิ้น!”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งตะโกนออกมาแทบขาดใจ

หลิงเหยาที่อยู่หลังลู่ฝานดึงเสื้อเขาแล้วพูดว่า “นายฆ่าลูกชายเขาเหรอ”

ลู่ฝานพูดเบาๆ ว่า “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ คนที่ชื่อซ่งจงอะไรนั่น โดนฉันซัดแล้วมัดโยนเข้าไปในคุกใต้ดิน ตอนออกไปเธอก็น่าจะเคยเห็นนะ!”

หลิงเหยาเข้าใจทันที “คนที่โดนมัดเหมือนบ๊ะจ่างนั่นเหรอ ฉันเข้าใจว่าเป็นคนน่าสงสารที่ล่วงเกินตระกูลซ่ง โดนมัดจนเป็นแบบนั้น หึ สมน้ำหน้า ไอ้หมอนี่คิดไม่ดีกับฉันมาตลอด คนทั้งเมืองหยุนไห่ล้วนรู้จักซ่งจง คุณชายจอมปลอม ฉันเคยซัดเขาด้วย ตายไปก็ดี”

หลิงเหยาพูดแบบเหวี่ยงๆ เล็กน้อย

ลู่ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย กล้าแตะต้องหลิงเหยาของเขา ดูเหมือนเขาให้ซ่งจงตายง่ายเกินไป

ศิษย์พี่หานเฟิงยิ้มแล้วมองผู้เฝ้าเมืองซ่ง “นายเอาคนแค่นี้มาจัดการเราเหรอ ไม่รู้ว่านายเอาความกล้ามาจากไหน ระยะแค่นี้ ถ้าฉันลงมือนายตายแน่นอน รู้หรือเปล่า”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งตกใจจนถอยหลังไป จากนั้นพยายามตั้งสติ “ไอ้โจร ฉันรู้ว่านายเก่ง ทหารทั่วไปสู้พวกนายไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงเชิญพลเอกเฟิงมาโดยเฉพาะ ดูสิว่าวันนี้พวกนายจะตายไหม!”

พูดจบ ผู้เฝ้าเมืองซ่งหลีกทางให้

พลเอกเฟิงรออยู่นอกประตูนานแล้ว เขาพายอดฝีมือสี่คนเดินเข้ามา

ปากพูดพึมพำ

“ไอ้โง่ผู้เฝ้าเมืองซ่ง ฉันรอนายพูดไร้สาระอยู่ด้านนอกจนหงุดหงิดแล้วรู้ไหม จับคนแค่คนเดียว พูดซะเยอะ ประสาทจริงๆ!”

เสื้อสะบัด เกราะปกคลุมร่างกาย

พลเอกเฟิงเดินเข้ามาอย่างดุดัน มองลู่ฝานกับหานเฟิงแล้วพูดว่า “พวกนายสองคนไม่ต้องพูดมาก ยอมให้จับโดยดี รอการตัดสินจากเจ้าหน้าที่ ไม่งั้นแค่ทุกอย่างที่พวกนายทำที่เมืองหยุนไห่ ก็เพียงพอให้ฆ่าพวกนายแล้ว”

ยอดฝีมือทั้งสี่เดินเข้ามาพร้อมกัน พลังปราณถูกปล่อยออกมาบนตัว

ทอง ไฟ น้ำแข็ง ดิน พลังธาตุสี่ชนิดถูกปล่อยออกมา แสงแสบตา

แต่ละคนมีพละกำลังอย่างน้อยแดนปราณชีวิตชั้นหกขึ้นไป เหมือนทั้งสี่คนยังฝึกวิชาทางทหารมาด้วย ยืนล้อมสี่ด้านอย่างมั่นคง

บนตัวของพลเอกเฟิงก็มีเกราะปรากฏขึ้นมา พลังปราณแดนปราณดินพลุ่งพล่าน

สีหน้าหานเฟิงเปลี่ยนไป กัดฟันพูดเบาๆ ว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ครั้งนี้แย่แล้ว ฉันช่วยพวกนายต้านทานไว้ก่อน พวกนายรีบหนีไป”

เหมือนพลเอกเฟิงได้ยินคำพูดของหานเฟิง เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “จะหนีเหรอ ไม่มีทางแล้วล่ะ ฉันว่าถ้าฉันแสดงพลังออกมา พวกนายคงไม่คิดอะไรอ้อมค้อมอีก วางอาวุธลงยังมีทางรอด ไม่งั้นตาย!”

เมื่อพูดจบ พลังปราณแผ่ซ่านไปทั่ว ปกคลุมพวกลู่ฝานเอาไว้ทันที