เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 740
เห็นได้ชัดว่าพลเอกเฟิงเก่งกว่าอี่ว์ชิงเฉินเยอะ พลังปราณอันแข็งแกร่งแอบมีแนวโน้มจะกลายเป็นค่ายกล

แม้ยังห่างจากเขตวิถีบู๊อีกไกล แต่อย่างน้อยก็ก้าวเข้ามาแล้ว แค่จุดนี้ ก็ชนะนักบู๊แดนปราณดินไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว

“ฉันจะสู้สุดใจกับนาย!”

ศิษย์พี่หานเฟิงถือกระบี่เตรียมจะเข้าไป

ขณะนั้นลู่ฝานรั้งหานเฟิงเอาไว้ “อย่ารีบร้อน”

ลู่ฝานเดินเข้ามามองพลเอกเฟิงอย่างไม่กลัว พูดเสียงก้องว่า “พลเอกเฟิงใช่ไหม นายไม่ได้เป็นพวกเดียวกับผู้เฝ้าเมืองซ่งใช่ไหม รู้จักป้ายนี้ไหม”

ลู่ฝานเอาป้ายผู้ตรวจการชั้นล่างออกมา

เมื่อพลเอกเฟิงเห็นป้าย สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที

“ป้ายคำสั่งผู้ตรวจการชั้นล่าง!”

พลเอกเฟิงพูดพลาง มองผู้เฝ้าเมืองซ่ง ในแววตามีความโกรธ เหมือนกำลังพูดว่า นายจงใจหาเรื่องให้ฉันใช่ไหม

ฆ่าเด็กธรรมดาทั่วไปสองคน ถึงพละกำลังไม่เลว ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่จัดการอย่างรวดเร็วก็พอ

แต่ถ้าจัดการสองคนที่มีชื่ออยู่ในราชสำนัก อีกทั้งยังเป็นผู้ตรวจการที่มีป้ายอยู่ นั่นคือปัญหาใหญ่ ถ้าเบื้องบนสืบขึ้นมา ถึงเขาเป็นพลเอก ไม่ตายก็โดนถลกหนังแน่นอน

ผู้เฝ้าเมืองซ่งเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว รีบเข้ามาพูดว่า “พลเอกเฟิง สิบกว่าปีมานี้ ไม่เคยมีผู้ตรวจการอะไรมาเมืองหยุนไห่ พวกเขาอาจสวมรอยก็ได้”

พลเอกเฟิงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ถ้าไม่ใช่ล่ะ”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งกัดฟัน ปากสั่นเบาๆ ส่งเสียงออกมาว่า “ใช่หรือไม่ใช่ พลเอกเฟิงเอาสมบัติของตระกูลซ่งไปได้เลยครึ่งหนึ่ง”

พลเอกเฟิงตาเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดถึงผลได้ผลเสีย

ทันใดนั้น พลเอกเฟิงมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายคิดว่ามีป้ายแล้วจะเป็นผู้ตรวจการเหรอ ป้ายของนาย ฉันว่าเหมือนของปลอม จับตัวเขามา!”

เมื่อพูดจบ ยอดฝีมือทั้งสี่คนด้านหน้าเคลื่อนไหวทันที

ศิษย์พี่หานเฟิงเข้ามาจู่โจมด้วยกระบี่ทันที!

วิชากระบี่ชิงสวรรค์!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้นติดต่อกันสี่ครั้ง ยอดฝีมือทั้งสี่โดนปราณกระบี่ขวาง แต่พลังปราณของพวกเขาทะลุผ่านปราณกระบี่ที่หนาแน่นมาโดนหานเฟิง

ทันใดนั้นหานเฟิงเหมือนลูกธนูที่โดนยิงออกไป ติดอยู่บนกำแพงด้านหลัง

เดิมทีห้องก็เก่าอยู่แล้ว โดนกระแทกจนยุบลงไปเป็นรูปคน

“หยุด!”

ลู่ฝานตวาดออกมา ทุกคนมองมาที่เขา

ลู่ฝานสะบัดมือ เอาป้ายอีกอันหนึ่งออกมา แล้วโยนไป

แสงแสบตา ตัวหนังสือขนาดใหญ่คำว่าลู่ฝาน สะท้อนเข้ามาในตา

“ป้ายนี้พวกนายน่าจะรู้จัก!”

ผู้เฝ้าเมืองซ่งกับพลเอกเฟิงมองป้ายคำสั่งที่ลู่ฝานเอาออกมาอย่างตะลึง ตัวหนังสือคำว่าโลกอู่อานที่เคลื่อนไหวอยู่ เหมือนมีดฟันลงบนหน้าเขา

ทำให้ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว

“ป้ายหัวหน้าเขต ไม่ใช่สิ ด้านบนไม่มีคำว่าหัวหน้าเขต เป็นป้ายคำสั่งผู้ตรวจการชั้นกลาง ลู่ฝาน นายคือผู้ตรวจการชั้นกลาง!”

พลเอกเฟิงพูดออกมาด้วยความตกใจ

ผู้เฝ้าเมืองซ่งตกใจจนทรุดลงบนพื้น

เขาหาเรื่องผู้ตรวจการชั้นกลางอย่างนั้นเหรอ

ฐานะระดับนี้ อย่าว่าแต่สร้างความวุ่นวายใหญ่หลวงให้ตระกูลซ่งเลย ถึงฆ่าตระกูลซ่งทั้งตระกูล ก็ไม่น่าจะมีใครกล้าพูดอะไร

ป้ายแบบนี้ไม่มีทางเป็นของปลอม พลเอกเฟิงหันมาตบผู้เฝ้าเมืองซ่งจนสลบคาที่

“ผู้เฝ้าเมืองเหิมเกริม กล้าเสียมารยาทกับท่านผู้ตรวจการ น่าขำ นายยังกล้าตามฆ่าท่านผู้ตรวจการอีกด้วย!”