“คืนนี้ผมจะไปงานเลี้ยงอาหารค่ำกับใครบางคน” เซียวเหยาตอบ
ทันใดนั้นดวงตาเฮ่อหว่านอีก็เป็นประกายสดใสขึ้น เธอก็ยิ้มกว้างเต็มที่ ใบหน้าเธอเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มอันสวยงามนั้น เธอถามเซียวเหยา “แล้วหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำล่ะคะ”
เซียวเหยาชะงัก “ผมต้องนั่งเครื่องบินกลับไปประเทศจีน แล้วผมจะมีวันหยุดครึ่งเดือน”
“คุณไปดูหนังกับฉันหลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำนั้นได้ไหม” เฮ่อหว่านอีถาม มือเธอกำแน่น เธอรู้สึกประหม่ามากจนริมฝีปากเม้มแน่น
เซียวเหยาไม่คาดคิดว่าเฮ่อหว่านอีจะพูดแบบนี้ เขาหยุดนิดหนึ่งแล้วพยักหน้า “ตราบใดที่คุณไม่รังเกียจความน่าเบื่อของผม”
“ไม่ แน่นอนค่ะ ไปทานอาหารเย็นกันก่อน แล้วคุณค่อยไปงานเลี้ยงอาหารค่ำ” เฮ่อหว่านอีกล่าวอย่างมีความสุข ราวกับได้ยกภาระหนักอึ้งออกจากสมอง และกระโดดโลดเต้นไปมา
ขณะมองตามหลังเธอ เซียวเหยาพยักหน้า ราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจครั้งสำคัญแล้ว และเดินตามเธอไปจนทัน
…
สิ่งแรกที่ถังซีทำเมื่อกลับมาถึงเมือง A คือ นอนหลับสนิท เพื่อรับมือกับอาการเจ็ตแล็ก เธอนอนเป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อเนื่อง เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเซียวจิ่งก็ไปทำงานที่บริษัทเขาแล้ว มีเพียงเซียวส่าอยู่ที่บ้าน เขาอยู่บ้านเพราะจะส่งถังซีไปโรงเรียน
ถังซีบิดขี้เกียจและออกกำลังกายก่อนจะลงไปชั้นล่าง เซียวส่าเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เธอแล้ว เมื่อเห็นเธอเขาก็พูดติดตลกว่า “ท่านประธานเซียว วันนี้เธอต้องเหนื่อยมากแน่ๆ มาทานอาหารกันเถอะ นี่คืออาหารเช้าแห่งความรักที่พี่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับเธอ”
ถังซีเลิกคิ้วเดินเข้าไปหาเขา เมื่อเธอเห็นโจ๊กหอยเป๋าฮื้อและอาหารทานเล่นบนโต๊ะหลายอย่าง เธอก็รู้สึกอบอุ่นในใจ เธอรีบวิ่งไปกอดเซียวส่า “พี่ส่า พี่ใจดีจังเลย ฉันคิดถึงอาหารจีนมากตอนอยู่ปารีส ต้องยกนิ้วให้สามร้อยหกสิบครั้งสำหรับโจ๊กหอยเป๋าฮื้อรสชาติเยี่ยมนี้”
เซียวส่าตบหลังเธอเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม “บริษัทเธอประสบความสำเร็จมากนะในครั้งนี้ เดอะควีนเกือบจะครองรายการประเด็นที่มีการค้นหามากที่สุดในไมโครบล็อก พี่คิดว่าคนดังต้องรีบมาซื้อเสื้อผ้าของบริษัทเธอแน่!”
ถังซียิ้ม “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ไปที่บริษัท วันนี้ฉันจะไปโรงเรียนก่อน ถึงจะไปที่บริษัท”
“พี่เดาว่าห้างสรรพสินค้าหลายแห่งจะรีบมาเชิญเธอไปเปิดร้านในห้างของพวกเขา” เซียวส่ากล่าวพลางตักโจ๊กหอยเป๋าฮื้อให้เธอหนึ่งชาม แล้วตักให้ตัวเอง เขานั่งลงตรงกันข้ามถังซี และทั้งสองก็เริ่มทานโจ๊ก
ทันใดนั้นประตูบ้านก็ผลักเปิดออก ถังซีหันหลังเหลือบมองแต่ไม่เห็นใครเข้ามาเธอจึงทานโจ๊กต่อไป เซียวส่ามองหน้าเธอ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “น่าจะเป็นเจี่ยน เขาอยากมาหาเธอตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่พี่บอกว่าอย่าเพิ่งมา บอกเขาว่าเธอนอนหลับอยู่”
ในขณะที่เขาเดา เซียวเจี่ยนก็เข้ามาในชุดสูทอย่างเป็นทางการ พร้อมกับถือกระเป๋าเอกสาร เมื่อเขาเห็นถังซีรอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าไร้ความรู้สึกของเขา “โหรวโหรว หลับสบายไหม”
ถังซีพยักหน้า ทักทายเขา “ทำไมพี่ถึงมาที่นี่ล่ะคะ พี่เจี่ยน”
“ก็เธอไม่ได้กลับบ้าน พี่ถึงต้องมาที่นี่ไงล่ะ” เซียวเจี่ยนมองหน้าเซียวส่า ซึ่งไม่สนใจการจ้องมองของเขา และทานโจ๊กต่อไป
เซียวเจี่ยนไม่สนใจความคิดเซียวส่า เขาเข้าไปในห้องครัว หยิบชามและตะเกียบสำหรับตัวเอง แล้วตักโจ๊กใส่ชามให้ตัวเอง ถังซีเลิกคิ้ว “ฉันง่วงมากเหลือเกินค่ะ ตอนที่กลับมาถึงเมื่อวาน ก็เลยกลับบ้านกับพี่จิ่ง”
เซียวเจี่ยนส่งเสียงตอบรับในลำคอ แล้วนั่งลงข้างเซียวส่า “เดี๋ยวพี่ต้องเข้าประชุมแต่เช้าวันนี้ พี่ไปส่งเธอที่โรงเรียนไม่ได้ แต่พี่จะไปรับเธอจากบริษัทของเธอกลับไปที่คฤหาสน์ของเราตอนสี่ทุ่ม ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่คิดถึงเธอมาก พี่รู้ว่าเธอยุ่ง พี่เลยห้ามท่านไม่ให้โทรหาเธอ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเธอ”
เซียวส่าพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ เธอไปหาพวกท่านสิ พวกท่านเอาแต่ถามพี่ จนพี่เกือบจะบ้าตาย”
“จริงเหรอคะ” ถังซีคิดว่าเซียวส่าต้องพูดเกินจริง
“ถามเขาดูก็ได้” เซียวส่าใช้คางชี้ไปที่เซียวเจี่ยน
เซียวเจี่ยนมองหน้าถังซี “เขาพูดจริงๆ”
ถังซียักไหล่ “ตกลงค่ะ แต่ฉันจำได้ว่าฉันโทรกลับบ้านทุกวันนะ ตอนที่ฉันอยู่ปารีส”
หลังจากรับประทานอาหารเช้า ถังซีก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวที่ชั้นบน เซียวเจี่ยนมองหน้าเซียวส่า “นายเข้ามารับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเครือข่ายของเซียวกรุปได้ไหม”
เซียวส่าเลิกคิ้วมองหน้าเซียวเจี่ยน “นายจะเอางานนี้มาให้ฉันทำเหรอ”
เขาจำได้ว่าเซียวกรุปมักเซ็นสัญญากับบริษัทรักษาความปลอดภัยเครือข่ายมืออาชีพ ทำไมจู่ๆ ถึงจะมาให้เขาทำงานนี้ เซียวเจี่ยน… ต้องการสงวนงานสำคัญๆ ไว้ในครอบครัวหรือเปล่า
เซียวเจี่ยนนั่งไขว่ห้างบนโซฟา มองหน้าเซียวส่าด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เหมือนกับตอนกำลังเจรจากับหุ้นส่วนทางธุรกิจ “นายบอกว่าอยากอัพเกรดบริษัทของนายไม่ใช่เหรอ ถึงแม้อุตสาหกรรมเกมจะเฟื่องฟู แต่นายก็ต้องขยายธุรกิจ ฉันได้ยินมาว่านายต้องการเข้าสู่ตลาดการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย”
เซียวส่าพยักหน้า “ใช่ ฉันมีแผนอย่างนั้น”
“นั่นแหละ” เซียวเจี่ยนมองหน้าเซียวส่า “ในฐานะผู้ถือหุ้นเซียว นายควรมีส่วนร่วมในบริษัทของนายเอง ในเมื่อนายสามารถทำงานนี้ได้ แล้วทำไมฉันต้องไปหาบริษัทอื่นด้วย”
ดังนั้นเซียวเจี่ยนจึงมอบหมายงานนี้ให้เขา ไม่ใช่เพราะเซียวส่าเป็นคนในครอบครัว แต่เป็นเพราะเซียวเจี่ยนต้องการหาประโยชน์จากแรงงานของเซียวส่า!
เซียวส่ามองหน้าเซียวเจี่ยน “นายนี่มัน… นายทุนหน้าเลือด!”
“ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบริษัท” เซียวเจี่ยนลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตบไหล่เซียวส่า “โอเคนะ ฉันจะไปบริษัทก่อน เดี๋ยวนายว่างเมื่อไรมาคุยกับฉันที่บริษัท เซียวกรุปก็เป็นบริษัทของนายเหมือนกัน นายจะมาปล่อยให้ฉัน… ทำงานคนเดียวไม่ได้”
เมื่อถังซีแต่งตัวเสร็จลงมาชั้นล่างเซียวเจี่ยนก็ออกไปแล้ว เซียวส่าทรุดตัวลงบนโซฟา ดูท่าทางสิ้นหวัง ถังซีเดินเข้าไปหาเขา ถามเซียวส่าว่า “เป็นอะไรไป พี่ส่า”
“เซียวเจี่ยนมันเป็นแวมไพร์!” เซียวส่าคำราม แล้วลุกขึ้น
ถังซีเลิกคิ้วมองหน้าเซียวส่า “เขาขอให้พี่ไปแก้ไขเครือข่ายของเซียวกรุปเหรอ”
“เธอรู้ได้ยังไง”
ถังซียักไหล่ โยนกระเป๋านักเรียนให้เขา แล้วไปเปลี่ยนรองเท้า “ง่ายมากที่จะเดา พี่เก่งด้านไหน แล้วตอนนี้ที่เซียวต้องการอะไร”
เซียวส่าถอนหายใจ มองกระเป๋าที่ถืออยู่ในมือ “ทำไมจู่ๆ พี่ก็รู้สึกว่าแรงงานของพี่ถูกเอาเปรียบจากเธอทั้งสองคน”
ถังซีมองหน้าเซียวส่า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่จะปฏิเสธฉันก็ได้ อาเหลียงจะมารับฉันไปส่งโรงเรียนเอง” เธอชำเลืองมองไปที่รถคันหนึ่งผ่านทางหน้าต่าง และฉีกยิ้ม