คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 869
”นี่แกกำลังทำอะไร? พายเรือเร็วเข้าสิ” แลนวินกล่าวขณะเตะไม้พายให้ลิลี่
ลิลี่ขบริมฝีปากของเธอและห้ามใจตัวเองไม่ได้ที่จะต้องกล่าว “ศิษย์พี่ เราจะใช้เรือลำเล็กนี่พายไปจักรวาลโลกจริง ๆ เหรอ?”
‘เรือลำนี้มันเล็กเกินไป และใช้แค่ไม้พายด้วย มันต้องพายไปนานแค่ไหนกว่าจะถึง?’ ลิลี่คิด
“ทำไมล่ะ? แกอยากจะเช่าเรือลำใหญ่ที่มีลูกเรือเป็นสิบคนรึไง? แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดว่ามาเที่ยวเล่นเหรอ?” แลนวินหน้านิ่วคิ้วขมวดและชี้ไปที่จมูกของลิลี่
ลิลี่มองไปที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลและกล่าวเบา ๆ “แต่… มันมีไม้พายแค่อันเดียว”
“ก็ใช่ไง มีแค่อันเดียวให้แกพายไง!” แลนวินฉุนเฉียว “ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันคงไม่มีวันพาแกมาด้วยหรอกถ้าหากท่านอาจารย์ไม่ได้สั่งให้แกมาด้วยเพื่อฝึกฝน! ฉันจะนั่งสมาธิและบ่มเพาะพลังไปตลอดการเดินทาง ฉะนั้นแกต้องพายเรือลำนี้ ฉันมั่นใจว่าเรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้แกตายแน่”
คำกล่าวของแลนวินเริ่มแย่ลง “แกมันก็แค่คนหน้าตาอัปลักษณ์ ได้โปรดอย่าคิดว่าตัวเองสูงส่งมากยศ อย่ามาเสแสร้งนังแพศยาต้อยต่ำ”
เมื่อกล่าวเช่นนั้น แลนวินก็นั่งลงบนเรือและหลับตาลงโดยไม่ได้กล่าวอะไรต่อ
ลิลี่ขบริมฝีปากของเธอ และค่อย ๆ หยิบไม้พายขึ้นมาพายเรือ
…
ระหว่างนั้นที่จักรวาลโลก พระราชวังฟูเหยา
ใกล้จะถึงกลางฤดูหนาวแล้ว พืชพรรณที่อยู่ด้านนอกแห้งเหี่ยวภายใต้ลมหนาวที่กระโชกอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ห้องโถงบุปผาหลวงที่พระราชวังฟูเหยาก็อยู่ในบรรยากาศรื่นเริงและเฉลิมฉลอง พวกเขากำลังจัดงานเลี้ยงดอกเหมย
งานเลี้ยงดอกเหมยเป็นประเพณีพิเศษของพระราชวังฟูเหยาที่สืบทอดกันมายาวนานหลายพันปี
ทุกปีในช่วงเวลานี้ ดอกเหมยในพระราชวังฟูเหยาจะเบ่งบานสะพรั่งพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว จากนั้นพระราชวังฟูเหยาก็จะจัดงานเลี้ยงดอกเหมย
ในเวลานั้น เจ็ดเทพธิดาก็มารวมตัวกัน สนทนากันและหัวเราะในขณะที่กำลังเพลิดเพลินดื่มด่ำกับน้ำชาของพวกเธอ
ชายหลายสิบคนคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ เพื่อคอยรับใช้พวกเธอ ภายในพระราชวังฟูเหยาผู้ชายจะมีสถานะต่ำกว่าและได้รับการปฏิบัติราวกับทาส
บนที่นั่งของแขกข้างพวกเธอ มีผู้ชายคนหนึ่ง ชายคนนี้เป็นชายคนเดียวภายในพระราชวังฟูเหยาทั้งหมดที่ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า ชายคนนี้คือ ลีรอย เฮนเดอร์สัน!
ในขณะนั้น เจ้าพระราชวังซินดี้ ไวท์ หัวเราะออกมาเบา ๆ มองไปที่ลีรอยและกล่าว “ท่านเจ้าสำนักเฮนเดอร์สัน เป็นยังไงบ้างที่ได้อาศัยอยู่ในพระราชวังฟูเหยา”
เส้นลมปราณของลีรอยถูกตัดขาดในระหว่างที่สำนักคุนหลุนถูกทำลาย เขาไม่สามารถจะบ่มเพาะพลังได้อีกต่อไปตลอดชีวิต และมาอาศัยอยู่ในพระราชวังฟูเหยา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เหมือนหมาหงอย
อย่าไรก็ตาม ลีรอยก็อาศัยพักพิงอย่างมีความสุขในพระราชวังฟูเหยา เพราะซินดี้ดูแลเขาเป็นอย่างดี
ภายในใจของซินดี้ เธอรู้สึกว่าเธอติดค้างกับลีรอยเพราะเธอคือคนที่ยอมตกลงจะช่วยสังหารแดร์ริลในตอนแรก แต่เธอก็ไม่ได้รักษาสัญญา ไม่ใช่แค่เธอจะไม่ได้สังหารแดร์ริลในท้ายที่สุด แต่เธอยังไปช่วยสำนักประตูสุราลัยต่อสู้กับกองทัพโลกใหม่ที่หอคอยดาวปราถนาด้วย
ซินดี้ก็ท่องไปทั่วทั้งยุทธภพจนในที่สุดเธอก็หาสมุนไพรนพเก้าหยินหยางมาได้ เพื่อช่วยรักษาเส้นลมปราณของลีรอยที่ถูกตัดขาดเป็นการชดเชยสิ่งนั้น ในเวลานี้ กำลังภายในของลีรอยก็ฟื้นฟูกลับมาเต็มที่และอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธขั้นสี่
ลีรอยค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนก่อนจะโบกมือทักทายอย่างสุภาพ “ขอบพระคุณทั้งเจ็ดเทพธิดา ที่ให้ฉันได้อาศัยอยู่ที่พระราชวังฟูเหยาอย่างมีความสุข ตลอดปีที่ผ่านมา”
จากนั้นเขาก็ขบขันและกล่าวต่อ “แต่ว่าเจ็ดเทพธิดา ฉันอาศัยอยู่ที่นี่มาปีกว่าแล้ว บรรดาสาวกของพระราชวังฟูเหยาเป็นผู้หญิงทั้งหมด มันคงจะไม่เหมาะสมสำหรับฉันที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันจึงอยากจะขอลาไปก่อน…”
ซินดี้มองไปที่เขาและยิ้มก่อนจะกล่าว “ท่านเจ้าสำนักเฮนเดอร์สัน สำนักคุนหลุนของนายถูกทำลาย ทำไมนายไม่มาเข้าร่วมกับพระราชวังฟูเหยาของเราล่ะ? ฉันยอมฝ่าฝืนประเพณีนี้เพื่อนายได้ นายจะเป็นสาวกผู้ชายคนเดียวของพระราชวังฟูเหยา นับจากนี้เป็นต้นไป”
ลีรอยโค้งคำนับลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความสุข “ขอบคุณเจ้าพระราชวัง! ถ้าหากทั้งเจ็ดเทพธิดาไม่ขัดข้อง นับแต่นี้ไปฉันก็จะขอเป็นสาวกของพระราชวังฟูเหยา ฉันจะไม่มีวันทรยศหักหลังพระราชวังฟูเหยาไปตลอดชีวิต!”
ทันใดนั้น ลีรอยก็คุกเข่าลงกับพื้นและหันหน้าไปทางเจ็ดเทพธิดา