มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 534
อาณาจักรตะวันออก สำนักอัสนีวายุ

ตำหนักอันสง่างามบนภูเขาแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในทิศเหนือหันหน้าไปยังทิศใต้ โอ่อ่าตระการตา ยิ่งใหญ่อลังการ

เจ้าสำนักอัสนีวายุนั่งอยู่ในตำหนัก รอบกายรายล้อมไปด้วยรัศมีอันแรงกล้าของผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ช่วงปลาย

นอกเหนือจากแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่งต่าง ๆ แล้ว แม้แต่สำหรับกลองกำลังในลำดับต้น ๆ การสิ้นชีพของผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์ผู้หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแน่นอน เพราะทรัพยากรและเวลาที่ใช้ในการเลี้ยงดูฝึกฝนมกุฎยุทธ์ผู้หนึ่งนั้น แลกมากับอะไรมากมาย ไม่อาจสูญเสียไปอย่างง่ายดายได้

ทว่าในครั้งนี้ สำนักอัสนีวายุกลับสูญเสียไปพร้อมกันถึงสามคน บวกกับซุนเชียนซางในเมื่อก่อนหน้านี้ เท่ากับสูญเสียยอดฝีมือในระดับเดียวกันไปพร้อมกันถึงสี่คน เรื่องนี้สำหรับสำนักอัสนีวายุแล้ว นับเป็นการสูญเสียพลังชีวิตไปอย่างหนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน

เดิมทีการตายของซุนเชียนซาง ก็ได้ถูกสำนักอัสนีวายุให้ความสำคัญอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้ส่งผู้อาวุโสมกุฎยุทธ์ทั้งสามท่านมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรใต้ เพื่อจัดการเรื่องนี้ ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้โอกาสนี้ ขยายอิทธิพลของสำนักอัสนีวายุ ในอาณาจักรใต้

แต่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ในดินแดนเล็ก ๆ อย่างประเทศเทียนหวู ผู้อาวุโสมกุฎยุทธ์ทั้งสามท่านกลับไปแล้วไม่กลับ!

ในตอนที่ข่าวการตายของส่งผู้อาวุโสทั้งสามท่านถูกส่งกลับมา ทั่วทั้งสำนักอัสนีวายุ ครอบคลุมไปด้วยบรรยากาศที่หดหู่บางอย่าง

“จากข่าวคราวที่พวกเราได้รับ เหมือนว่าสำนักไท่เสวียนนั่นจะไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะหลัวซิวเจ้าสำนักไท่เสวียนผู้นั้น อายุเพียงแค่ยี่สิบ ก็มีความสามารถในการต่อสู้ทัดเทียมกับมกุฎยุทธ์ ถ้าหากเรื่องนี้ไม่อาจแก้ไขได้ หากวันหน้าเขาได้เติบโตขึ้นมา สำหรับสำนักอัสนีวายุของข้า ถือเป็นต้นเหตุของความหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย”

“แต่เหมือนว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวนั่นเหมือนจะไม่สูงนัก มีผลการฝึกตนอยู่แค่ในระดับจักรพรรดิยุทธ์ สามารถต่อกรกับมกุฎยุทธ์ได้ คงอาศัยค่ายกลของสำนัก ไม่ต้องกังวลมากเกินไป”

“แม้ว่าพรสวรรค์ของมันจะสูงเพียงใด แต่ก็อายุยังน้อย แต่สำนักอัสนีวายุของข้ากลับมีผู้อาวุโสระดับมหายุทธ์ประจำตำแหน่งอยู่ จำเป็นต้องกลัวมันด้วยหรือ?”

ผู้อาวุโสและผู้คุมกฎจำนวนมากที่อยู่ภายในตำหนัก ต่างวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นของตน

“ทุกท่านกล่าวไม่ผิด แต่ว่ากันว่าหลัวซิวเจ้าสำนักไท่เสวียนผู้นั้นได้รับการให้ความสำคัญจากหัวหน้าลาดตระเวนแห่งอาณาจักรใต้ จะแตะต้องมันง่าย ๆ ไม่ได้!” เจ้าสำนักอัสนีกล่าวเสียงเข้ม

“เรื่องนี้จักต้องวางแผนระยะยาว……”

เมื่อเทียบกับอาณาจักรใต้แล้ว ประเทศเทียนหวูเป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ ที่ค่อนข้างจะสงบสุขแห่งหนึ่งเท่านั้น ผู้ที่มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุดก็อยู่เพียงในระดับมกุฎยุทธ์เท่านั้น

แต่เนื่องด้วยมีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวหน้าลาดตระเวน จึงได้รับความสนใจจากกองกำลังต่าง ๆ ในอาณาจักรใต้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน

อาณาจักรตะวันออกตะวันตกเหนือใต้ทั้งสี่อาณาจักรของโลกแสงดาว ทุกอาณาจักร มีหัวหน้าลาดตระเวนอยู่เพียงท่านเดียวเท่านั้น ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับเจ้ายุทธจักร แถมยังล้วนเป็นเจ้ายุทธจักรที่ถูกแต่งตั้งขนานนาม!

เจ้ายุทธจักรที่ถูกแต่งตั้งขนานนามผู้หนึ่ง ความสามารถในการต่อสู้ทัดเทียมได้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์ หรือแม้กระทั่งเผชิญหน้ากันโดยตรง สามารถสังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์โดยทั่วไปได้!

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ สามารถสั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์โดยทั่วไปก็ไม่กล้าที่จะไปล่วงเกิน

บวกกับที่มีสี่แก๊งใหญ่อยู่เบื้องหลัง หัวหน้าลาดตระเวนท่านหนึ่งเป็นบุคคลใหญ่โตที่เพียงแค่กระทืบเท้า ก็สามารถทำให้อาณาจักรใต้สั่นคลอนได้อย่างแน่นอน

ด้วยอำนาจของหัวหน้าลาดตระเวนแห่งอาณาจักรใต้ เขาหวูโจวแห่งอาณาจักรตะวันตกก็ได้เลือกประนีประนอม ได้ส่งทูตมาผู้หนึ่ง ใช้ทรัพยากรและของมีค่าจำนวนมาก ถึงสามารถไถ่ตัวจูชิงกลับไปได้

เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาก็ผ่านมาสองปีแล้ว หลัวซิวจากเด็กหนุ่มที่ยังไม่เติบโตคนนั้น ได้กลายมาเป็นชายหนุ่มในวัยยี่สิบปี

เนื่องด้วยได้ฝึกวรยุทธ์วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ หน้าตาของเขาจึงไม่ได้เปลี่ยนไปสักเท่าไรนัก

ในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของประเทศเทียนหวูอยู่ในความสงบสุขมาโดยตลอด

สำนักไท่เสวียนก็ได้อาศัยโอกาสนี้พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว หอคอยมังกรบินแห่งนั้น ก็ได้ถูกหลัวซิวเคลื่อนย้ายมาไว้ที่สำนักไท่เสวียน ใช้เพื่อทดสอบพรสวรรค์และระดับผลการฝึกตนของศิษย์ในสำนัก