ตอนที่ 831

Alchemy Emperor of the Divine Dao

เขารู้หรือไม่ว่าเมื่ออาวุธวิญญาณระดับสิบปะทะกับอาวุธวิญญาณระดับสิบเป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งคู่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ

หากปะทะกันสองสามครั้งอาจไม่เป็นไร แต่ถ้าปะทะกันหลายครั้งจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน และถ้าอาวุธวิญญาณทั้งสองทรงพลังพอกัน ความเสียหายที่จะได้รับก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก

ดังนั้น แม้ว่าหลิงฮันจะมีกายหยาบเทียบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบ แต่อาวุธวิญญาณระดับสิบก็สามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้!

พลังต่อสู้ของอู๋เกาเหยียนนั้นแข็งแกร่งเกินไป หลังจากที่ถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง โลหิตของหลิงฮันก็เริ่มปรากฏออกมาให้เห็น แม้ว่ากายหยาบของเขาจะเทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบ แต่ก็ยังต้านทานการโจมตีของอู๋เกาเหยียนได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมเจ้าถึงเงียบไปล่ะ” อู๋เกาเหยียนหัวเราะเยาะ

“ข้าไม่ได้เงียบ แต่กำลังจดจ่อสมาธิอยู่” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย และโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์และบาดแผลของเขาก็ถูกรักษาในพริบตา

ถ้าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากจอมยุทธระดับทลายมิติ กายาเพชรก็จะสามารถรักษาตัวเองได้ แต่การโจมตีนี้ยังมีเจตจำนงแห่งเต๋าด้วย ทำให้กายาเพชรไม่สามารถรักษาตัวเองได้ เขาจึงจำเป็นต้องโคจรพลังของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เพื่อขับไล่เจตจำนงแห่งเต๋าของอู๋เกาเหยียนออกไปและฟื้นฟูบาดแผล

ความเร็วในการรักษาของมันนั้นน่าทึ่งมาก ในชั่วพริบตาเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้น!” เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก

“หึ่ม ถึงเจ้าจะมีความสามารถรักษาบาดแผลได้รวดเร็วขนาดนั้น แต่เจ้าจะสามารถรักษาบาดแผลได้รวดเร็วขนาดนั้นได้ตลอดหรือไม่?” อู๋เกาเหยียนแสยะยิ้ม เขาไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะรักษาบาดแผลได้รวดเร็วแบบนั้นได้ตลอด แน่นอนมันจะต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง

เขาจะกระหน่ำโจมตีใส่และบังคับให้หลิงฮันแสดงขีดจำกัดออกมา

ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย เขาจะรักษาบาดแผลได้รวดเร็วแบบนั้นตลอดได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงขีดจำกัด เพราะว่าเมื่อใดที่ความเร็วในการรักษาช้ากว่าบาดแผลที่ได้รับ หลิงฮันจะต้องตายอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้น หลิงฮันก็ยังคงลุกขึ้นยืนอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อซ้ำเดิมความประหลาดใจของทุกคน

เมื่อเห็นเช่นนั้น อู๋เกาเหยียนแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาคิดอยู่ตลอดว่าขีดจำกัดของหลิงฮันจะต้องเป็นการโจมตีครั้งต่อไปอย่างแน่นอน แต่มันก็ทำให้เขาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า หลิงฮันยังคงลุกขึ้นยืนทุกครั้งที่เขาโจมตีออกไป

เป็นไปได้ยังไง!

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติ การที่จะบดขยี้เขาเป็นเรื่องที่ง่ายดาย อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะโจมตีสักกี่ครั้งเขาก็ไม่เห็นความเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะถูกจัดการ

ในขณะเดียวกันราชันทั้งแปดต่างก็เผยสีหน้ามีความสุข พวกเขาคิดว่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับห้านิกายโบราณซะแล้ว ด้วยบุคลิกของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวไปอีกหนึ่งร้อยปีตามเงื่อนไขการเดิมพัน

แม้ว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่การรักษาสัญญานั้นเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

แม้ว่าหลิงฮันจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่ตราบใดที่จบลงด้วยผลเสมอ ผลของการเดิมพันทั้งหมดก็จะเสมอ และพวกเขาก็จะไม่ต้องทำตามข้อตกลงที่ห้ามเคลื่อนไหวเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี

แม้แต่หม่าตั๋วเป่าก็ยังพยักหน้าเล็กน้อย เขารู้ว่าหลิงฮันไม่ธรรมดา

ในทางตรงกันข้าม เหล่าผู้คนของห้านิกายโบราณดูมืดมน

พวกเขาจงใจแสดงความอ่อนแอออกมาเพื่อล่อลวงหม่าตั๋วเป่า และก็ทำสำเร็จ แต่ใครจะคิดล่ะว่าจะมีสัตว์ประหลาดอย่างหลิงฮันปรากฏตัวออกมา?

หลังจากการต่อสู้เก้ารอบ ถ้าหม่าตั๋วเป่าเข้าร่วมไม่ได้ มันก็การันตรีว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายชนะแล้วไม่ใช่หรอกรึ?

แต่ว่าเจ้าเด็กนี่!

ผู้คนของห้านิกายโบราณเกลียดแค้นหลิงฮํนมาก ถ้าการต่อสู้จบลง พวกเขาจะลงมือจัดการหลิงฮันทันที! ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา ภายใต้ท้องฟ้าเขาจะสามารถปกป้องเขาได้บ้าง?

อู๋เกาเหยียนรู้สึกโกรธ เขาเป็นคนที่หยิ่งผยองมากและยังเป็นอัจฉริยะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งลงมาโลกเบื้องล่างเพื่อแก้ไขสถานการณ์

แต่ตอนนี้ จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวากำลังต่อต้านเขา ถ้าเขากลับไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาจะยังมีหน้าไปพบคนอื่นอีกหรือไม่?

เขาโจมตีใส่หลิงฮันไม่หยุดและคิดว่าจะต้องจัดการให้ได้ด้วยการโจมตีนี้

แต่มันก็ไร้ประโยชน์!

แม้หลิงฮันจะได้รับบาดเจ็บไม่หยุด แต่ความเร็วในการรักษาของเขาก็ไม่ได้ลดลงเลย

อู๋เกาเหยียนใช้ทุกอย่างที่มีออกไปหมดแล้ว แม้กระทั่งแก่นแท้แห่งดาบก็ยังไม่อาจจัดการหลิงฮันได้

พวกเขาทั้งสองคนต่อสู้กันไม่หยุด หนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไป และสามวันผ่านไป

หลิงฮันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาถูกโจมตีไปทั้งหมดกี่ครั้งแล้ว การเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวของเขาคือเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปหลายชุด คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์รักษาบาดแผลได้ แต่ไม่อาจฟื้นฟูเสื้อผ้าได้ และนั่นทำให้เขาต้องนำชุดตัวใหม่ออกมา

“แม้ว่าจะไม่กำหนดเวลาต่อสู้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น” หม่าตั๋วเป่ากล่าว “พอได้แล้ว การต่อสู้จบลงแล้ว”

“การต่อสู้มันจะจบลงที่ผลเสมอได้ยังไง!” แน่นอนว่าห้านิกายโบราณไม่มีทางยอมรับ พวกเขากล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าอู๋เกาเหยียนเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด!”

“ฝ่ายใดจะแพ้ชนะมันขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างนั้นรึ?” ราชินีหยินพูดเยาะเย้ย “ทำไมเจ้าไม่พูดล่ะว่าหลิงฮันเป็นแค่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาเท่านั้น แต่มีความสามารถที่จะต่อกรกับจอมยุทธระดับทลายมิติเป็นเวลาสามวันสามคืน ข้าก็พูดได้เหมือนกันว่าหลิงฮันเป็นฝ่ายชนะ!”

หม่าตั๋วเป่าเดินออกไปข้างหน้าและพูดว่า “ข้าเสนอให้การต่อสู้จบลงด้วยผลเสมอ ใครมีความคิดเห็นอย่างอื่นอีกหรือไม่?”

“ข้า!” คนของห้านิกายโบราณผู้หนึ่งกระโจนออกมา เขาเป็นจอมยุทธระดับทลายมิติเช่นกัน แต่เป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นสามเท่านั้น

หม่าตั๋วเป่ามองไปที่อีกฝ่าย เขาสะบัดมือขวาและจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดก็พุ่งออกไป ตู้ม จอมยุทธระดับทลายมิติคนนั้นถูกคลื่นแสงพัดผ่านไปและถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

เขาตายแล้ว!

เพียงแค่สะบัดมือ จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นสามก็ตายแล้ว

นี่รึความแข็งแกร่งของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิจันทราม่วง!

หม่าตั๋วเป่าไม่แยแสและพูดต่อว่า “ใครยังมีความคิดเห็นอื่นอีกหรือไม่?”

ไม่มีใครเสนอตัวออกมาอีก แม้แต่พวกของฉัวชี่ฟงทั้งสี่คนก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับหม่าตั๋วเป่า

“พลังต่อสู้ยี่สิบดาว?”

“ใช่แล้ว!”

“อีกฝ่ายเป็นแค่มนุษย์จะมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้ยังไง? มีแค่ลูกหลานของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และลูกหลานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาวได้!”

“หึ่ม ถ้าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นิกายพวกเราสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย!”

พวกฉัวชี่ฟงทั้งสี่คนกำลังพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา พวกเขากำลังตัดสินใจ ถ้าพวกเขาห้าคนร่วมมือกันจะสามารถหยุดหม่าตั๋วเป่าได้หรือไม่ แต่ถึงจะทำได้ ใครจะเป็นคนต่อกรกับแปดราชัน?

“อู๋เกาเหยียนรับขวานไป!” ชายชราคนหนึ่งโยนขวานไปให้อู๋เกาเหยียน

ขวานภูผาวารี!

มันไม่ใช่ของลอกเลียนแบบ แต่เป็นความภูผาวารีของจริง!

หากเขาใช้ขวานนี่ อีกฝ่ายที่มีกายหยาบเทียบได้กับแร่เหล็กระดับสิบจะยังสามารถต้านทานได้อีกหรือไม่?