ตอนที่ 694 ดูเพลิน
ซูจิ่วซือไม่ได้ใส่ใจตอบ เปลี่ยนเรื่องพูด “ชิงเฉิง ข้าจะไปเข้าเฝ้าไทเฮา ให้หลียวนกับปิงปิงอยู่ที่นี่ก่อน”
“เจ้าไปเถอะ”
พอรู้ว่าซูจิ่วซือจะไปเข้าเฝ้าไทเฮา กู้ชิงเฉิงก็ไม่ทัดทาน เพราะรู้ว่าซูจิ่วซือเคยได้รับการสนับสนุนจากไทเฮา กลับมาครั้งนี้ไปเข้าเฝ้าไทเฮาจึงเป็นเรื่องสมควร
เผยปิงปิงมองตามหลังซูจิ่วซือ แล้วถอนหายใจ ปมในใจครั้งนี้เมื่อไรจึงจะคลายออก
“พี่สะใภ้ จิ่วซือเป็นอะไรไป”
กู้ชิงเฉิงสายตาแหลมคม สังเกตเห็นว่ามีปัญหาบางอย่าง ด้วยสายพระเนตรที่แหลมคม รีบถามขึ้น
“เจ้าเตือนจิ่วซือก็ดี ข้าพูดกับจิ่วซืออย่างไรก็ไม่ได้ผล” เผยปิงปิงเล่าเรื่องราวให้กู้ชิงเฉิงฟังรอบหนึ่ง ด้วยความหวังว่ากู้ชิงเฉิงจะเข้าใจซูจิ่วซือ นางดูออกว่าซูจิ่วซือกับกู้ชิงเฉิงสนิทสนมกันมาก
ขณะที่ซูจิ่วซือมาถึงวังหย่งโซ่วกงนั้น เสิ่นไทเฮากำลังหลับตาเข้าสมาธิ พอมีคนบอกว่าซูจิ่วซือมา เสิ่นไทเฮาก็ลืมตาทันที ให้คนพาซูจิ่วซือเข้ามา
ไม่ได้พบกันครึ่งปีกว่าแล้ว เสิ่นไทเฮากลับมีราศีขึ้นมาก ดูเยาว์วัยลง ซูจิ่วซือรู้ว่าเป็นเพราะหวังเฉิงอยู่ที่จิงเฉิงนั่นเอง
ความคิดของหวังเฉิง ซูจิ่วซือรู้ดี
เสิ่นไทเฮายังคงอ่อนหวาน กระตือรือร้น นางพระหัตถ์ให้ซูจิ่วซือ “จิ่วซือ เข้ามานี่”
ซูจิ่วซือเข้าไปหาเสิ่นไทเฮา เสิ่นไทเฮาจับมือซูจิ่วซือ ลูบหลังมือนาง “เจ้าเด็กคนนี้ช่างโชคดีจริงๆ ”
“ด้วยพระบารมีของไทเฮาเพคะ”
เบื้องหน้าเสิ่นไทเฮา ซูจิ่วซือยังคงนอบน้อม แสดงตนเป็นผู้เยาว์
สำหรับเสิ่นไทเฮา ซูจิ่วซือรู้สึกสำนึกในบุญคุณมาตลอด ถ้าไม่มีเสิ่นไทเฮา นางคงไม่สามารถมีที่ยืนอย่างมั่นคงในจิงเฉิง นางอาศัยเสิ่นไทเฮา และเสิ่นไทเฮาก็ดีกับนางมาก
เสิ่นไทเฮามองดูซูจิ่วซืออย่างละเอียด เห็นราศีที่แผ่ออกมาจากซูจิ่วซือ เสิ่นไทเฮารู้สึกชื่นชมาก
เสิ่นไทเฮาดูซูจิ่วซือจนเพลิน รู้ว่าซูจิ่วซือเป็นคนฉลาด และเข้าใจสถานการณ์ จึงรักใคร่ซูจิ่วซือมาตลอด
นึกไม่ถึงว่าแม่นางคนนี้ได้เป็นฮองเฮาแคว้นเจียงจริงๆ สามารถยืนอย่างมั่นคงในตูเฉิงซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย แม้แต่ตระกูลเฟิงยังพ่ายแพ้แก่นาง
แม้อายุยังน้อยก็ยังสร้างผลงานได้อย่างนี้ เสิ่นไทเฮายอมสยบ
เมื่อก่อนนางรักใคร่ซูจิ่วซือเป็นพิเศษ เวลานี้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป นางไม่อาจมองซูจิ่วซือเป็นเด็กสาวผู้รู้จักสถานการณ์อย่างเมื่อก่อน แต่เป็นฮองเฮาแคว้นเจียง
เวลานี้นางกลับมา แสดงว่านางยังคงจำแคว้นเว่ยซึ่งเป็นแผ่นดินแม่ได้ และยังมีน้องชายอยู่ที่นี่ หวังว่านางจะไม่ลืมตัวไปตลอด
“ได้กลับมาสักครั้งนับว่าเป็นโอกาสหายาก ควรอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง ถ้าว่างก็เข้าวังมานั่งเป็นเพื่อนข้า”
“ถ้าไทเฮาไม่รังเกียจว่าข้าหนวกหู ข้าจะมานั่งที่นี่ประจำ”
ซูจิ่วซือยิ้มเล็กน้อย
“เราสองคนเข้ากันได้ดี ข้ายินดีต้อนรับ มีหรือจะรังเกียจ”
เสิ่นไทเฮายิ้ม ทั้งสองไม่ได้สนทนาเรื่องอื่น แต่คุยเรื่องทั่วไป จนกระทั่งฟ้าใกล้มืด ซูจิ่วซือจึงออกจากวังหย่งโซ่วกง
คืนนั้น เฟิ่งอวิ๋นหล่างจัดงานเลี้ยงต้อนรับซูจิ่วซือ ผู้ที่เข้าร่วมมีบรรดาพระสนมระดับสูง นอกจากนี้ยังมีขุนนางส่วนหนึ่ง ซูเหิงกับกู้จื่อหยวนก็ได้รับเชิญด้วย
บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงเพลง สนุกสนาน ซูจิ่วซือในชุดสีแดง นั่งต่ำกว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างเล็กน้อย สีหน้ายิ้มน้อยๆ กำลังดี มีสง่าราศี แผ่บารมีความเป็นฮองเฮาแห่งแผ่นดิน โดดเด่นท่ามกลางฝูงชน
ตอนที่ 695 งานเลี้ยง
เฟิ่งหลิงอวี่จ้องซูจิ่วซือด้วยสีหน้าปั้นปึ่ง พอเห็นซูจิ่วซือนางก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เวลานี้นางยังไม่ได้แต่งงาน เรื่องการหมั้นหมายที่ถูกยกเลิกในอดีตกลายเป็นที่เย้ยหยันของผู้คน
เฟิ่งอวิ๋นหล่างอยากให้นางแต่งงานกับกู้จื่อหยวน นางไม่ถูกใจ แต่รู้ว่าไม่อาจปฏิเสธได้ นางเป็นเพียงองค์หญิง สักวันหนึ่งต้องแต่งงานออกไป
พอนึกได้อย่างนี้ เฟิ่งหลิงอวี่ก็รู้สึกไม่ยอมแพ้ นางมีฐานะสูงศักดิ์ กลับถูกเด็กผู้หญิงกำพร้าแย่งคู่หมั้นไป ยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นได้เป็นฮองเฮาแคว้นเจียงมีหน้ามีตา จึงรู้สึกเหมือนถูกหยาม
ถ้าไม่พบซูจิ่วซือก็ยังดีอยู่ แต่ซูจิ่วซือยังมีหน้ากลับมา คิดจะอวดบารมีหรือ
ซูจิ่วซือรู้ว่าเฟิ่งหลิงอวี่จ้องมองนางตลอดเวลา นางไม่ใส่ใจ ทำเหมือนมองไม่เห็น
เผยปิงปิงซึ่งนั่งข้างซูจิ่วซือ พูดเบาๆ “จิ่วซือ ดูแววตาขององค์หญิงสามสิ แค้นจนแทบจะกินเจ้า กู้จื่อหยวนก็เหมือนกัน พระสนมโหรวทำไมสนใจเจ้ามาก คอยส่งสายตามองเจ้าเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่านางยังอิจฉาเจ้าอยู่หรือไม่”
“อย่าไปใส่ใจ”
ซูจิ่วซือยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม ไม่ใส่ใจสายตาเหล่านี้
“ดูแล้วที่แคว้นเว่ยเจ้ามีคู่แค้นไม่น้อย ต้องระวังตัวหน่อย”
“ผลไม้แช่อิ่มรสชาติดี ปิงปิง ลองชิมหน่อย”
เผยปิงปิงไม่ชอบงานเลี้ยงอย่างนี้ นางรู้สึกเบื่อหน่ายมาก พอได้ยินซูจิ่วซือบอกจึงตั้งหน้ากินผลไม้แช่อิ่ม ไม่อยากใส่ใจสายตาดังกล่าว
กู้จื่อหยวนกับซูเหิงนั่งด้วยกัน ซูเหิงนั่งข้างหน้ากู้จื่อหยวน ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน ซูเหิงจ้องนางรำที่กำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อยเบื้องหน้า ท่าทางเหมือนกับชื่นชมการแสดง ความจริงเขาไม่ได้ดู
“ซูเหิง ข้าได้ข่าวว่าซูจิ่วซือมีลูกไม่ได้ ฟู่เฉินหรงคงไม่ต้องการนาง ถึงได้หนีกลับมาแคว้นเว่ย กรรมตามสนองแล้ว นางก่อกรรมทำเข็ญมามาก ในที่สุดสวรรค์ก็ทนดูไม่ไหว”
จู่ๆ กู้จื่อหยวนก็เอ่ยปากพูดขึ้น
พอได้ยินอย่างนี้ ซูเหิงซึ่งกำลังดื่มเหล้าอยู่รีบวางเหล้าลงบนโต๊ะ กระแทกอย่างแรง จนเหล้าหกออกมา “กู้จื่อหยวน พูดเหลวไหลอะไรกัน”
“ถ้าอยากให้เรื่องนี้รู้กันทั่ว เจ้าก็พูดดังๆ ข้าพูดเหลวไหลหรือไม่ เจ้าให้หมอมาตรวจพี่สาวเจ้าดู ฮองเฮาที่มีลูกไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะรุ่งอยู่นานแค่ไหน”
กู้จื่อหยวนพูดจบก็หัวเราะ สีหน้ายิ้มหยันนั้นทำให้ซูเหิงขัดตามาก เขานึกถึงที่ซูจิ่วซือมาครั้งนี้ไม่พูดถึงฟู่เฉินหรงเลย เห็นสีหน้าก็ดูออกว่ามีเรื่องในใจ เขารู้สึกว่าที่กู้จื่อหยวนพูดคงเป็นความจริง ถึงไม่ใช่เรื่องนี้ ฟู่เฉินหรงกับซูจิ่วซืออาจจะมีเรื่องอื่น
“เจ้าพูดอะไรให้ดีหน่อย” ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในงานเลี้ยง ซูเหิงคงจะเอาเรื่องแน่
“เป็นไปตามบัญชาของสวรรค์ ซูเหิง เจ้ายังจะโทษข้าอีกหรือ”
ซูเหิงพูดอย่างเย็นชา “ยังดีที่พี่สาวข้าไม่แต่งงานกับเจ้า เจ้าไม่คู่ควรกับพี่สาวข้า บังคับพี่สาวข้าให้แต่งงานด้วยพอไม่สำเร็จก็พูดใส่ร้ายลับหลัง คิดจะทำลายพี่สาวข้า พวกเจ้าตระกูลกู้เหมือนกันหมด เป็นคนถ่อยไร้ยางอาย”
“เจ้าอย่าลืม ฟู่เฉินหรงก็โตมาในตระกูลกู้ กู้หลียวนที่พี่สาวเจ้าสนิทสนมก็เป็นคนตระกูลกู้ นางหนีตระกูลกู้พ้นหรือ
ถ้าแน่จริง เจ้าให้นางไปจากฟู่เฉินหรง ไล่กู้หลียวนออกจากจวนอันผิงโหว ตระกูลกู้ยิ่งใหญ่ปานนี้ ไม่ใช่หน้าที่เจ้าที่จะรับเลี้ยงพี่ใหญ่ข้า”