บทที่ 1155 มีแผนล่วงหน้า / บทที่ 1156 เขาก็เครียดนะ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1155 มีแผนล่วงหน้า

ส่วนกองถ่ายทำก็เหมือนกลัวโลกไม่ถล่มอย่างเห็นได้ชัด จงใจให้ช่างกล้องเล็งเลนส์กล้องไปที่เยี่ยหวันหวั่น เสมือนกับว่าอยากดูท่าทีเสียกิริยาของเยี่ยไป๋

แต่น่าเสียดาย เยี่ยหวันหวั่นยังคงมีท่าทีเอื่อยเฉื่อยผ่อนคลายตั้งแต่ต้นจนจบไม่เปลี่ยนแปลง กระทั่งว่ามองเลนส์กล้องที่จับเขาไม่ปล่อยด้วยสีหน้าใจเย็น และยิ้มบางๆ

รอยยิ้มนั้นปรากฏบนจอใหญ่ของงานตอนนี้ แทบจะได้ยินเสียงสูดหายใจของทุกคน

“ละ…หล่อจัง…” ศิลปินหญิงคนหนึ่งเอ่ยเสียงเบา

“นั่นคือเยี่ยไป๋? ใบหน้านั้นไปเป็นผู้จัดการน่าเสียดายจริงๆ!”

ไช่หย่งเซิ่งมองท่าทีแสร้งทำใจเย็นของเยี่ยไป๋ก็ลอบยิ้มเยาะไม่จบสิ้น

ความตายจวนจะเกิดขึ้นแล้วยังแสร้งทำท่าทางแบบนั้นอยู่อีก!

เจ้าเด็กเหม็น รอจนมันสิ้นหนทางแล้ว ก็อย่ากลับมากระดิกหางคุกเข่าขอข้าวกินกับเขาเชียว!

พิธีมอบรางวัลเริ่มดำเนินต่อ

ตามมาด้วยรางวัลสำคัญอย่างรางวัลนักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยม และนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

รางวัลยอดนิยมสองอันนี้ทั้งหมดล้วนตกเป็นของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จากนั้นโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ยังได้รับอีกสองรางวัลได้แก่การถ่ายทำยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์สร้างสรรค์ยอดเยี่ยม…

แนวโน้มเริ่มต้นดีมาก ฉู่หงกวงยิ้มหน้าบานตลอดกระบวนการ เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจมาก

ส่วนฝั่งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เยี่ยอีอีกลับสงบเยือกเย็น สีหน้าแสดงท่าทีมีแผนล่วงหน้าแล้ว

ยังไงรางวัลใหญ่ที่แท้จริงก็ยังไม่เริ่ม

ในเวลานี้เอง บนเวที พิธีกรก็เริ่มประกาศรางวัลบทละครดัดแปลงยอดเยี่ยม….

“ผู้ได้รับรางวัลบทละครดัดแปลงยอดเยี่ยมคือ…หรงจวินเหว่ย!”

คนในงานปรบมือกันระนาว ต่างก็แสดงความยินดีกับหรงจวินเหว่ยและกองถ่าย เลนส์กล้องของจอใหญ่สลับไปยังเยี่ยอีอีและหลิงเส่าเจ๋อ

หรงจวินเหว่ยคือผู้สร้างมือทอง ผลงาน ‘ฤดูร้อนปีนั้น’ ของปีนี้โด่งดังไปทั่วประเทศ ครั้งนี้ด้วยความสัมพันธ์กับกู้เยว่เจ๋อเยี่ยอีอีจึงสามารถเชิญเขาออกมาจากเขาได้

ผู้สร้างแข็งแกร่งแบบนี้กับสมาชิกกองถ่าย หลิงเส่าเจ๋อจะไม่ดังก็ไม่ได้

ช่างน่าขันว่า ไม่นานมานี้หวงเทียนเพิ่งเกิดข้อพิพาทกับผู้เขียนบทเพราะปัญหาเรื่องบทละคร แต่กลับได้รับรางวัลบทละครดัดแปลงยอดเยี่ยม

เห็นได้ชัดว่าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต้องการล้างมลทินผ่านรางวัลจินหลาน และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จจริง

เห็น ‘ฤดูร้อนปีนั้น’ ได้รับรางวัล พวกหลิวชิงก็รู้สึกหนักหน่วงอยู่บ้าง

กงซวี่ทนไม่ไหวอดแขวะไม่ได้ “แค่รางวัลบทอันเดียว น่าทึ่งตรงไหน! เจ้าหลิงเส่าเจ๋อนั้นไม่ได้แม้แต่ถูกเสนอชื่อด้วยซ้ำ!”

แต่ทว่า เยี่ยหวันหวั่นกลับชัดเจนดี ตัวหลิงเส่าเจ๋อไม่จำเป็นต้องรับรางวัลใด แค่ต้องเกาะกระแส ‘ฤดูร้อนปีนั้น’ ไปก็พอ

“รางวัลจินหลานครั้งนี้…ผู้ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมคือ…ผู้กำกับเรื่อง ‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’ เหรินจื่ออัน! ผู้กำกับเหริน! ยินดีด้วย!”

จากนั้น ‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’ หนังอีกเรื่องของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม…

‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’ ก็คือหนังที่หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ใช้มาชิงชัยรางวัลครั้งนี้ หนังได้รับเสนอชื่อชิงหลายรางวัลอย่างพร้อมกัน เช่นรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลผู้กับยอดเยี่ยม ผู้รับบทนักแสดงนำชายเผยเหิงก็ยังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

บนเวทีเริ่มแสดงการร้องเล่นเต้นรำ หลักพักผ่อนชั่วครู่ ก็เริ่มมอบรางวัลต่อ

เยี่ยมู่ฝานมีสีหน้าน่าเกลียดอย่างยิ่ง “ต่อไปเป็นรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม…”

บนเวที แขกผู้มีเกียรติผู้มามอบรางวัลเอ่ยประกาศอีกครั้ง “ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคือ… ‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’!”

ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่วอีกแล้ว…

ได้ยินชื่อหนัง หัวใจเยี่ยมู่ฝานก็พลันจมสู่ก้นบึ้ง

นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ห้าอย่างนี้เป็นรางวัลสำคัญที่สุด

ตอนนี้โกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้ไปแล้วสองรางวัลคือผู้กำกับยอดเยี่ยมกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

————————————————————————————–

บทที่ 1156 เขาก็เครียดนะ

ผ่านหนังสองเรื่อง ‘ฤดูร้อนปีนั้น’ กับ ‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’ ปีนี้หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คว้ารายได้จำหน่ายตั๋วกับชื่อเสียงได้อยู่หมัด เรียกได้ว่าคว้าชัยอย่างงดงาม

“เหลือแค่รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมกับนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแล้ว…” เยี่ยมู่ฝานพึมพำเสียงเคร่งเครียด

เห็นถัดไปกำลังจะประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แม้แต่กงซวี่ก็ยังเก็บสีหน้าเอ้อระเหยไปอย่างหาได้ยาก เขามองไปยังหน้าจอใหญ่…

ด้านล่างเวทีพลันวุ่นวายด้วยความตื่นเต้นขึ้นมา ทุกคนที่เดิมง่วงงุนเพราะขั้นตอนที่ยาวนานตื่นกันหมดแล้ว พวกเขามองบนเวทีอย่างกระซิบกระซาบกัน

“ต่อไปพวกเราจะประกาศ รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่ทุกคนตั้งตารอคอยกันค่ะ! รางวัลราชาจอเงินครั้งนี้จะตกเป็นของใครกันแน่นะ ทุกคนเชิญดูบนหน้าจอใหญ่ ภาพยนตร์ที่เข้ารอบครั้งนี้มี ‘ตำนานเทพแห่งแม่น้ำลั่ว’…”

บนเวที พิธีกรเริ่มแนะนำห้าหนังที่เข้ารอบครั้งนี้

ตอนที่แนะนำหนังเรื่องสุดท้าย ‘เป็นหรือตาย’ ทุกคนก็มองลั่วเฉินกับกงซวี่ทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัว สีหน้าเต็มไปด้วยแววนินทา

“จิ๊ๆ ดูท่าจะมีละครดีๆ ให้ดูแล้ว!”

“ก็แหงละ ก่อนหน้านี้กงซวี่พูดในที่สาธารณะว่า ถ้าไม่ได้รางวัลราชาจอเงิน จะไลฟ์สดกินขี้น่ะ แถมยังลากลั่วเฉินลงน้ำไปด้วย ช่างกล้าพูดจริงๆ …”

“นายก็ไม่ดูบ้างว่าใครพูด มีอะไรให้กงซวี่ไม่กล้าพูดกัน แต่กงซวี่ถึงกับเข้ารอบได้ ก็น่าตกใจจริงๆ!”

“ฝั่งผู้จัดก็ต้องการเรตติ้ง ต้องการความนิยมนี่นา มุกนักแสดงนำคู่น่ะช่างเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าเคยใช้ครั้งแรกสักหน่อย อีกอย่าง ‘ดอกบัวแดง’ ก็กำลังถูกห้ามพอดี ไม่งั้นไหนเลยจะตกมาถึงพวกเขาได้เข้ารอบ? ไม่ว่าหนังเรื่องไหนก็ขยี้พวกเขาได้ทั้งนั้น สองคนนี้แค่มาร่วมงานเฉยๆ เท่านั้นแหละ…”

คัตซีนของตัวอย่างหนังเป็นฉากตอนเซวียเส้าหยางกำลังใกล้ตายลั่วเฉินกอดเขาไว้อย่างโศกเศร้า

ดวงอาทิตย์สนธยาดุจเลือด ธารน้ำตาไหลไหลผ่านใบหน้าเปื้อนเลือดของชายหนุ่ม พริบตานั้นพานให้คนรู้สึกถึงอารมณ์เจ็บปวดหนักหน่วงถึงขั้นไม่อาจสลัดพ้น

ลั่วเฉินต้องฉากบนจอใหญ่นิ่งไม่ไหวติง ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬ

กงซวี่บ่นงึมงำ “เกินไปแล้วนะ เอาฉากตอนฉันตายมาใช้ เป็นลางร้ายซะไม่มี…”

กงซวี่พูดจบ ก็มองเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ด้านข้างอย่างร้อนรน “พี่เยี่ย…”

เยี่ยหวันหวั่นไม่แม้แต่มองเขาเอ่ยปากโดยตรง “อยากให้ฉันสวม ก็ได้ ไปเอาราชาจอเงินมา”

กงซวี่พูดไม่ออก

ไร้หัวใจเหลือเกิน…

“ผู้เข้าชิงรางวัลราชาจอเงินครั้งนี้เข้มข้นมากจริงๆ ค่ะ มีม้ามืดสุดทรงพลังหานอี้ จิงว่านชิงผู้รับบทนักแสดงนำชายในหนังทุ่มทุนสร้างมูลค่าสองร้อยล้าน ‘นักฆ่า’ นักแสดงสายความสามารถที่ได้รับการเสนอชื่อสามครั้งติดต่อกันจี้เหวินจิ้ง แล้วก็ยังมีผู้สมกับเคยได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมถึงสองครั้งในครั้งก่อนๆ จักรพรรดิเผยเหิงผู้เก่งกาจ อีกทั้งยังมีลั่วเฉินกับกงซวี่ในหนังเรื่อง ‘เป็นหรือตาย’ ที่ได้รับการเสนอชื่อพร้อมกัน…”

พิธีกรเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ขับบรรยากาศตึงเครียดอย่างสุดความสามารถ

เยี่ยหวันหวั่นมองลั่วเฉินอย่างเป็นห่วง ลั่วเฉินแสดงท่าทีตัวเองไม่เป็นไร สูดหายใจลึกแล้วหลับตา

กงซวี่เห็นเยี่ยหวันหวั่นแลกเปลี่ยนทางสายตากันก็นั่งบนหงุงหงิงอย่างน่าสงสาร “พี่เยี่ยๆ เขาก็เครียดนะ…”

เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่อีกฝ่าย เดิมทียังคิดเมินเฉย แต่ทว่าหางตาไม่รู้เหลือบเห็นอะไรเข้า จากนั้นก็ชะงักงันแล้ว

ก่อนหน้านี้กงซวี่เจ้าเด็กนี่นั่งก็ไม่นั่งยืนก็ไม่ยืน แต่เวลานี้กลับแข็งค้างในท่านั่งอยู่ตรงนั้น…

เยี่ยหวันหวั่นยื่นมือออกไป จับไหล่กงซวี่อย่างไร้สุ้มเสียง แล้วจึงตบเบาๆ

…………………………………….