บทที่ 2125+2126

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2125 อยู่ด้วยกัน 4

“เพียงใช้ใบไม้หรือไม่ก็หนังสัตว์อันใดมาพันเอวไว้ เป็นข้าที่ค้นพบว่าในป่าตรงชายขอบด้านตะวันตกของหมู่บ้าน หลังจากลอกเปลือกไม้มาทุบให้อ่อนนุ่มแล้ว สามารถนำมาทอเป็นผ้าเนื้อหยาบได้ เพียงแต่ในป่านั้นมีสัตว์ร้ายมายาอยู่ไม่น้อยเลย เปลือกไม้ชนิดนี้ก็เก็บเกี่ยวได้ไม่ง่ายนัก ดังนั้นผ้าเนื้อหยาบนี้จึงขาดแคลนยิ่งนัก…”

มิน่าเล่าเสื้อผ้าที่คนที่นี่สวมจึงสั้นเต่อไปเสียหมด…

สถานที่ผุพังแห่งนี้ก็คือสังคมยุคดึกดำบรรพ์!

ยากจะจิตนาการได้จริงๆ ว่านางอาศัยอยู่ในสถานที่ผุพังเช่นนี้มากว่าครึ่งปีแล้ว!

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าร่างกายของคุณชายใหญ่อย่างตี้ฝูอีบอบบางสูงค่า ปูผ้าไว้ชั้นเดียวเขาต้องไม่ยอมนั่งเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงนำ ‘ผ้าห่ม’ ของตัวเองออกมาคลี่ แล้วเริ่มปูลงไป

“เจ้านั่งตรงนี้ก่อนสิ…”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ก็เอ่ยต่อไปไม่ได้แล้ว ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ควบคุมตัวเองได้

ระหว่างที่เอ่ยออกมาเพียงไม่กี่ประโยคนี้ ห้องโกโรโกโสของเธอก็เปลี่ยนโฉมใหม่แล้ว

ตี้ฝูอีเสมือนเล่นมายากลก็มิปาน ไม่รู้ว่าหยิบโต๊ะเก้าอี้ชุดหนึ่งออกมาจากไหน

ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ล้วนแต่ทำมาจากไม้พยุง เรียบหรูสง่างาม บนเก้าอี้บุด้วยเบาะอ่อนนุ่ม ไม่ต้องนั่งก็รู้ว่าสบายยิ่งนัก

จากนั้นเขาก็ยกตั่งนุ่มๆ หลังหนึ่งออกมา บนตั่งมีชุดเครื่องนอนอ่อนนุ่ม สีสันเข้าชุดกับโต๊ะเก้าอี้ยิ่งนัก

กู้ซีจิ่วอ้าปากหวอมองดูเขา เห็นเขาหยิบกาชาถ้วยชา เสื้อผ้าอาภรณ์ เครื่องนอนนานาชนิด

เธอเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม ก้าวตรงเข้ามา จ้องมองแขนเสื้อเขา

“ในนี้ของเจ้าซ่อนอ่างรวมทรัพย์เอาไว้หรือ?”

ตี้ฝูอียิ้มนิดๆ ยกแขนเสื้อขึ้น ยื่นแขนไปตรงหน้านาง

“เจ้าลองล้วงดูสิ”

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็เป็นคู่หมั้นของตน จะล้วงแขนเสื้อก็ไม่เห็นเป็นไร ดังนั้นเธอจึงล้วงเข้าไปจริงๆ

มือน้อยๆ สีแทนล้วงเข้าไปในแขนเสื้อเขา พยายามควานหา ‘อ่างรวมทรัพย์’ ใบนั้น ผลคือเธอคลำพบเพียงเนื้อผ้าที่นุ่มลื่นและผิวตรงข้อมือของเขา…

แปลกจัง เขาเอา ‘อ่างรวมทรัพย์’ ไปไว้ที่ไหนกันนะ?

กู้ซีจิ่วควานหาต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ ยังคงคลำไม่พบอะไรเช่นเดิม มือปัดป่ายต่อไป คลำไปจนถึงปากแขนเสื้อตัวในของเขา…

หรือว่าจะอยู่ในแขนเสื้อของเสื้อตัวใน?

เธอจึงยื่นมือเข้าไปในแขนเสื้อตัวในเสียเลย คลำหาต่อไป…

ฝ่ามือสัมผัสถูกปลายแขนเขา ต้นแขน…

เริ่มแรกตี้ฝูอียังปล่อยให้นางคลำไปด้วยสีหน้าขบขัน นางที่สูญเสียความทรงจำไปอาจหาญขึ้นมาก และน่ารักขึ้นมากด้วย

แต่พอสัมผัสไปสัมผัสมาแววตาของเขาก็ลุ่มลึกขึ้น มือน้อยๆ ข้างนั้นสากขึ้นมาก ยามที่ท้องนิ้วสัมผัสถูกผิวเขาถึงขั้นที่สัมผัสถึงแรงเสียดสีอันหยาบกระด้างประการหนึ่ง ควรเป็นสัมผัสที่ไม่สบายตัวยิ่งนัก แต่ยามนี้ผู้ที่ลูบคลำเขาอยู่คือนาง สัมผัสของนางดั่งขนนกที่ปัดผ่านหัวใจเขา อบอุ่นวาบหวาม แฝงความเสียวซ่านเล็กน้อย…

กู้ซีจิ่วมีนิสัยไม่บรรลุเป้าหมายไม่ยอมเลิกรา เธอคลำไม่พบเป้าหมายย่อมไม่ยอมถอดใจ ยิ่งคลำยิ่งขึ้นสูง ในไม่ช้าก็สอดเข้าไปถึงอกเสื้อของอีกฝ่ายโดยไม่ทันรู้ตัว มือน้อยๆ ของเธอแทบจะแตะถูกหัวไหล่ของเขาแล้ว…

สิ่งที่ทำให้เธอผิดหวัง เธอคลำหามาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายังคงคลำไม่พบอะไรอยู่ดี แขนเสื้อของเขาก็คือแขนเสื้อ แม้แต่แถบแพรสักผืนยังไม่มีเลย

ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ ขณะที่กำลังจะชักมือกลับ จู่ๆ ตี้ฝูอีก็กุมข้อมือเธอไว้ พลางออกแรงผลัก กู้ซีจิ่วเซถอยหลังไปหลายก้าว นั่งลงบนตั่งนุ่มตัวนั้น…

เธอสะดุ้งโหยง คิดจะลุกขึ้นยืนตามสัญชาตญาณ ทว่าถูกตี้ฝูอีกดตัวไว้

“อย่าขยับ ข้าจะดูแผลเจ้า แผลอยู่ตรงไหน?”

เขาอยู่ใกล้นางยิ่งนัก ลมหายใจของทั้งสองฝ่ายแทบจะผสานรวมกันเป็นหนึ่งแล้ว

กู้ซีจิ่วหัวใจเต้นรัว

“ไม่ต้องดูแล้วจริงๆ…ดีขึ้นแล้ว”

“จะดีที่สุดถ้าเจ้าบอกมาว่าแผลอยู่ตรงไหน มิเช่นนั้นข้าจะตรวจดูด้วยตัวเอง”

ตี้ฝูอีดันร่างนางให้เอนลงไปกึ่งหนึ่ง มุมปากยกขึ้นอย่างยิ้มมิเชิงยิ้ม น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก ทว่าแววตากร้าวแกร่งยิ่งนัก

….

————————————————————————————-

บทที่ 2126 เขาเป็นคู่หมั้นของตนจริงๆ น่ะหรือ?

มีกลิ่นหอมที่คล้ายสะระแหน่คล้ายดอกถูหมี[1]อบอวลอยู่ในห้องนอน กลิ่นหอมนี้มีฤทธิ์ช่วยให้สงบผ่อนคลาย ประกอบกับกู้ซีจิ่วยุ่งหัวหมุนมาทั้งวัน เหนื่อยล้าจริงๆ เธอจึงผล็อยหลับไปเช่นนั้นเลย

ยามที่เธอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่ลืมตาขึ้น ทั้งร่างล้วนแข็งค้าง!

เธอพบว่าสภาพรอบข้างเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล

บนผนังหินเปล่าเปลือยมีผ้าม่านโปร่งเพิ่มขึ้นมาอีกชั้น เตียงหินของเธอก็หายไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยเตียงคู่หลังใหญ่ที่เรียบง่ายสง่างาม ม่านเตียงสีขาวนวลห้อยลงมา บดบังทัศนียภาพด้านใน

บนพื้นปูพรมอ่อนนุ่มสีขาวนวล เมื่อกู้ซีจิ่วย่ำเท้าลงไปจะรู้สึกนุ่มนิ่ม สบายยิ่งนัก

ในห้องมีโต๊ะมีม้านั่ง มีฉากกั้นลม มีโต๊ะเล็ก บนโต๊ะเล็กยังมีบอนไซที่ทำจากหินอยู่ด้วย…

เธอกวาดตามองรอบห้อง พบว่าในห้องมีเพียงตัวเธอ ตี้ฝูอีไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนแล้ว

เขาเป็นคนตกแต่งที่นี่หรือ?

คนผู้นี้ช่างมีความสามารถในการพลิกโฉมข้าวของโดยแท้ ความสามารถมากมาย วรยุทธ์ล้ำลึก รูปโฉมหล่อเหลา ซ้ำยังเชี่ยวชาญสารพัดอีก เขาเป็นคู่หมั้นของตนจริงๆ น่ะหรือ?

จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว

เธอเลิกผ้าห่มออก ลงจากตั่งนุ่ม ลงไปชั้นล่าง มองเห็นหัวหน้าเผ่ากำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น

“หัวหน้าเผ่า เขาล่ะ?”

ตอนที่กู้ซีจิ่วอยู่ต่อหน้าคนอื่น จะเรียกเขาว่าท่านพ่อ แต่ตอนที่อยู่กันแค่สองคน ยังคงเรียกขานเขาว่าหัวหน้าเผ่าโดยตรง

หัวหน้าเผ่าคล้ายเพิ่งได้สติกลับมา ชะงักไปเล็กน้อย

“สือโทว…เอ่อ ไม่สิ แม่นางซีจิ่ว คุณชายตี้บอกว่าถ้าท่านตื่นแล้วขอเชิญท่านไปที่ทะเลสาบไร้โศก”

….

ทะเลสาบไร้โศก เป็นแหล่งน้ำเพียงหนึ่งเดียวในหมู่บ้านนี้ เป็นแหล่งน้ำเปิด สามารถไหลออกสู่ด้านนอกได้

ทะเลสาบไม่ใหญ่ มีขนาดเท่าสระเล็กๆ แห่งหนึ่ง ด้านซ้ายสูงด้านขวาต่ำ ด้านสูงเป็นจุดที่ผู้คนเอาไว้ดื่มกิน ส่วนด้านต่ำเป็นจุดที่ผู้คนเอาไว้อาบน้ำ

ในหมู่บ้านมีประชากรกว่าหนึ่งร้อยคน จึงมีกฏเกณฑ์ในการอาบน้ำด้วย

ยามเซินเป็นเวลาอาบน้ำของสตรี ยามโหย่วเป็นเวลาอาบน้ำของบุรุษ และเมื่อถึงยามซวี จะเป็นเวลาอาบน้ำของหัวหน้าเผ่าและ ‘สือโทว’ โดยเฉพาะ

ตอนที่กู้ซีจิ่วออกมาได้ดูนาฬิกาทรายแล้ว เป็นเวลาอาบน้ำของพวกผู้ชายพอดี

เขาไปทำอะไรที่นั่นในตอนนี้? หรือเขาจะไปอาบน้ำกับคนเหล่านั้น?

ในสมองปรากฏภาพตี้ฝูอีอาบน้ำร่วมกับบุรุษคนอื่นๆ วาบเข้ามา…

เธอตัวสั่นทันที รู้สึกว่าฉากนี้ไม่เข้าท่าเหลือเกิน ไม่อาจจินตนาการได้

เธอตามไปหา ประหลาดใจที่ในทะเลสาบเงียบสงบ ไม่เห็นเงาร่างของผู้ใดเลยสักคน ‘ไม่มีไข่ทองแดง’ ลอยเต็มทะเลสาบอย่างที่จินตนาการไว้

ทำไมวันนี้คนพวกนั้นไม่มาอาบน้ำกันล่ะ? ขี้เกียจอีกแล้วหรือ?

ตอนที่กู้ซีจิ่วเพิ่งมาถึง ผู้คนของที่นี่ไม่ชินกับการอาบน้ำบ่อยๆ สิบวันครึ่งเดือนอาบน้ำสักครั้งก็นับว่าเป็นคนที่สะอาดยิ่งนักแล้ว

อีกทั้งที่นี่อากาศร้อน ด้วยเหตุนี้ในหมู่บ้านจึงมีกลิ่นเหงื่อกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์โชยอยู่เสมอ

เรื่องแรกที่กู้ซีจิ่วกระทำเมื่อลงหลักปักฐานที่นี่ ก็คือบังคับให้ผู้คนที่นี่อาบน้ำทุกวัน…

ค่อยๆ ปลูกฝังความเคยชินที่ดีในด้านการใส่ใจสุขอนามัยให้พวกเขา

แต่วันนี้…

เธอเดินวนริมทะเลสาบดูรอบหนึ่งแล้ว ไม่มีคนเลยจริงๆ ทว่าเมื่อมองไปที่บริเวณต้นน้ำ กลับมีกระโจมสีขาวพิสุทธิ์หลังหนึ่งตั้งอยู่หลังโขดหิน

เธอใจเต้นแวบหนึ่ง เดินเข้าไป

มองเห็นตี้ฝูอีนั่งอยู่หน้ากระโจม เบื้องหน้าคือโต๊ะเล็กตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีน้ำชามีของว่าง เขานั่งอยู่ตรงนั้น สายลมพัดเสื้อคลุมเขาให้ปลิวไสว ดูสำราญยิ่งนัก

กู้ซีจิ่วมองกระโจมที่อยู่ด้านหลังเขา จากนั้นก็มองเขา ไม่ว่าคนผู้นี้จะไปที่ใดล้วนใช้ชีวิตอย่างหรูหราอู้ฟู้

ดูเหมือนเขาวางแผนจะจัดตั้ง ‘บ้าน’ ไว้ที่นี่แล้ว

—————————————-