ตอนที่ 156 ล้มป่วยแล้ว / ตอนที่ 157 แค่ความฝัน

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 156 ล้มป่วยแล้ว 

 

 

 

 

 

ระยะนี้ถังเฉียนได้รับหอฟังฝนซึ่งอากาศและทำเลที่ตั้งดีมาก นางได้ลองดูหลายวันแล้ว แต่ไอทิพย์ก็ยังไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นแม้แต่น้อย ตั้งแต่หลังพิธีบวงสรวง การดูดรับพลังทิพย์ของนางดูเหมือนจะมาถึงจุดที่ก้าวข้ามได้ยากอีกครั้ง นางรู้สึกผิดหวังในตัวเองมาก โดยเฉพาะหลังจากทุ่มเทตลอดทั้งคิมหันต์ฤดูแล้วไม่สำเร็จ จึงอดที่จะเศร้าใจไม่ได้ 

 

 

นางรู้ว่าในที่สุดคิมหันต์ฤดูนี้ก็ผ่านไป ยิ่งเข้าใกล้สารทฤดูความเศร้าในใจของนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ถังเฉียนในขณะนี้ทั้งเป็นห่วงบิดาซึ่งถูกขังอยู่ในคุก ทั้งยังนึกถึงน้องสาวของตน ยิ่งรู้สึกเศร้าเพราะสารทฤดู ในใจก็เศร้าเสียใจหนักขึ้น บวกกับการทุ่มเทในหลายวันมานี้ ร่างกายจึงทรุดโทรมลง ทำให้นางซูบผอม 

 

 

ถังเฉียนนึกไม่ถึงว่าตนเองจะล้มป่วยลงนอนซมบนเตียงติดต่อกันสามวัน ดื่มได้เพียงน้ำเท่านั้น ฮวาหวนเห็นนางเป็นเช่นนี้ก็เป็นห่วง ร้อนใจจนร้องไห้ ถังเฉียนต้องปลุกใจตัวเองพูดปลอบเด็กหญิง ฮวาหวนคิดว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปจึงไม่ดีแน่ จึงขอร้องให้อาห่าวคิดหาวิธีไปหาเถิงเฟิง 

 

 

แต่น่าเสียดายที่เถิงเฟิงยังถูกขังไว้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข่าวนี้ถูกปิด ทำให้ตามหาเขาไม่ได้ระยะหนึ่ง ฉู่จิ่งเหยาไม่เห็นถังเฉียนหลายวัน จึงให้จื่อเย่ว์มาดู จึงพบว่านางป่วยหนักมาก 

 

 

จื่อเย่ว์รู้ว่าฉู่จิ่งเหยาห่วงใยถังเฉียนมาก จึงรีบไปตามหมอหลวงจางมาตรวจ หมอจางบอกว่าเป็นเพราะนางวิตกเกินไป ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง จึงจ่ายยาเทียบหนึ่งให้นางลองกิน 

 

 

ถังเฉียนกินยาดังกล่าว ผ่านไปครึ่งเดือนร่างกายจึงเริ่มมีเรี่ยวแรงบ้าง 

 

 

“ไม่รู้ว่าเด็กอายุน้อยอย่างเจ้า วันๆ กลุ้มใจเรื่องอะไร กังวลจนตัวเองล้มป่วย ยังสู้ยายแก่อย่างพวกเราไม่ได้” 

 

 

ฮว่าเหยียนพักที่นี่สองวันเพื่อช่วยดูแลนาง อย่างไรนางก็อายุมากผ่านประสบการณ์มายาวนาน รู้ว่านางเป็นโรคทางใจจึงป่วยหนักเช่นนี้ ฮว่าเหยียนคิดทบทวนดู แล้วเล่าข่าวที่ได้ยินมาในช่วงนี้ให้ถังเฉียนรู้ บอกนางว่าเรื่องชัดเจนแล้วว่าถังหรงเจินไม่เป็นไรแล้ว 

 

 

“เจ้าหมายความว่าถังหรงเจินจะไม่ถูกประหารแล้วหรือ” 

 

 

นี่น่าจะเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับถังเฉียนในระยะนี้ นางฟังแล้วดวงตาดูมีประกายขึ้นมาไม่น้อย ได้ยินว่าฉู่จิ่งเหยาให้คนไปช่วยสืบข่าว แน่นอนว่าต้องขอบใจฮว่าเหยียนซึ่งกุเรื่องขึ้นในคราวนั้น 

 

 

ได้ยินว่ามีหนังสือแจ้งจากเมืองหลวง จากเดิมโทษประหารเปลี่ยนเป็นเนรเทศแทน เขาถูกส่งไปภาคเหนือแล้ว ถึงจะอย่างไรอย่างน้อยก็รักษาชีวิตไว้ได้แล้ว บางทีครอบครัวอาจจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง 

 

 

“ฮว่าเหยียน ขอบใจนะ” 

 

 

ถังเฉียนอยากขอบใจนางด้วยความจริงใจ ที่ผ่านมานางเข้าใจผิดฮว่าเหยียนหลายเรื่อง แต่เดี๋ยวนี้นางเข้าใจยิ่งขึ้นว่าเป็นตายขึ้นกับโชคชะตา แพ้ชนะขึ้นกับสวรรค์ 

 

 

“ไม่ต้องเกรงใจอย่างนั้นหรอก ข้าเป็นคู่แค้นที่ทำร้ายน้องสาวเจ้าจนตาย ไม่ต้องเกรงใจข้าขนาดนั้น ข้าไม่ได้เกรงใจเจ้าหรอก” 

 

 

พิธีอัญเชิญเทพครั้งนี้ฮว่าเหยียนเสียหายไม่น้อย สูญเสียแมลงพิษและหญ้าพิษไปไม่น้อย ลำบากแทบแย่กว่าจะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ได้ยินว่าบุปผาดำห้าดอกของนางยังสามารถสูงขึ้นอีกหนึ่งขั้น แต่ต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง 

 

 

หลังจากพิธีบวงสรวงแล้วต้าฝูก็มาอยู่ข้างตัวถังเฉียน กินและนอนด้วย แม้ถังเฉียนจะไม่สบาย มันก็นอนขดอยู่ที่หัวเตียง ทุกเช้ายังมานอนขดบนตัวนางอย่างใกล้ชิด 

 

 

กลับเป็นเสี่ยวจินที่เกียจคร้านยิ่งขึ้น ตั้งแต่มีกิ่งไม้ทองใบไม้หยกแล้ว ทุกวันมันจะนอนพักอยู่ในกล่องหยกเวินเซียงหน่วน 

 

 

“พี่หมอผี รีบลุกขึ้นเถอะ ใกล้สารทฤดูแล้ว เราต้องเก็บเกี่ยวข้าว ปีนี้มีไข้ป่าระบาดหนัก เรายิ่งต้องเกี่ยวข้าวให้ได้มากๆ หลังจากนั้นก็ปลูกกระเจี๊ยบกัน ทำอย่างนี้แล้วเราก็จะไม่อดอยาก แล้วพอถึงสารทฤดู เราก็ยังมีผลไม้มากมายให้กิน ถึงตอนนั้นข้าจะพาพี่กลับไปหมู่บ้านเทียนอี ที่นั่นมีของกินเต็มไปหมด” 

 

 

ฮวาหวนอยู่เป็นเพื่อนถังเฉียน ช่วยปอกส้มให้นาง นี่เป็นส้มชุดแรกของปีนี้ เพราะนางกำลังป่วยจึงได้ชิมของสดๆ พอเห็นดวงตาใสแจ๋วของหนูน้อย เลยรู้สึกเก้อเขินที่จะกิน เหลือทั้งหมดให้ฮวาหวนดีกว่า 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 157 แค่ความฝัน 

 

 

 

 

 

ถังเฉียนฝัน ฝันว่าเถิงเฟิงกลับมาแล้ว ในฝันดูเหมือนนางจะคิดถึงเขาเหลือเกิน นางฝันว่าตัวเองนั่งอยู่ในหอฟังฝน นั่งสมาธิดูดรับไอทิพย์ เถิงเฟิงลงมาจากฟ้า เหมือนที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก เขาถอดหน้ากากของนางออก มองดูสีหน้าที่ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกของนาง แล้วยื่นนิ้วออกมาเคาะที่หน้าผากนาง 

 

 

“อาหรูน่าของข้าไม่สบายหรือ ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นห่วง” 

 

 

ถังเฉียนไม่รู้สึกเจ็บหน้าผาก รู้สึกเพียงเย็นเฉียบ ดูแตกต่างจากเดิมมาก นางดูท่าทางเถิงเฟิง แล้วรู้สึกว่าน่าหัวเราะขึ้นมา 

 

 

“ข้าคงคิดถึงเจ้ามาก ถึงฝันเห็นเจ้า หรือเพราะข้ากำลังจะตาย ป่วยใกล้ตายถึงได้เห็นเจ้า” 

 

 

เถิงเฟิงยื่นมือออกมา แตะหน้าผากนาง ร่างลอยอยู่ ทำให้ถังเฉียนแปลกใจ 

 

 

“เจ้ากลุ้มใจเรื่องอะไร ถึงได้ล้มป่วย เพราะคิดถึงข้าใช่หรือไม่ อย่างนั้นเจ้าไม่มาหาข้าที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เล่า” 

 

 

“ข้า…ข้าไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ” 

 

 

ทันใดนั้นร่างเถิงเฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เหมือนอยู่ห่างจากนางมาก ถึงตอนนี้ถังเฉียนอยากจะตามเขาไป แต่ทำอย่างไรก็ตามไม่ทัน ได้แต่ฟังเสียงเขาอยู่ห่างไกล 

 

 

“มาสิ พอถึงสารทฤดูที่นี่สวยมาก เจ้าจะหายป่วย ข้ารอเจ้าอยู่นะ” 

 

 

ถังเฉียนลังเล ก็แค่ภาพในจินตนาการ การผลัดเปลี่ยนฤดูกาล เป็นความฝันที่สวยงาม เถิงเฟิงไม่รู้ว่านางกลุ้มใจเรื่องอะไร ทำได้เพียงพูดหยอกล้อให้นางสบายใจขึ้น แม้ถังเฉียนยังคงหดหู่ แต่พอสารทฤดูในฝันมาถึง ตามพื้นเต็มไปด้วยใบไม้ร่วง เขาเป็นเหมือนนกที่ขยันขันแข็ง บินไปมาทุกวัน บางครั้งกลับมาอย่างอ่อนล้า แต่พอเห็นนางก็จะพูดว่า 

 

 

“รอให้ผ่านสารทฤดู เมื่อถึงเหมันต์ฤดูเจ้าก็จะหายป่วย” 

 

 

ถังเฉียนมองดูรอยยิ้มของเขา ตามเขาผ่านสารทฤดู มาถึงเหมันต์ฤดู ดูเหมือนนางจะหายป่วยแล้ว ร่างกายไม่อ่อนเปลี้ยอีก เพียงแต่รู้สึกตัวเบาหวิว เท้าเหมือนเหยียบบนปุยฝ้าย ลอยละลิ่วตามเขาทันแล้ว 

 

 

“เจ้าหายป่วยแล้วใช่หรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนยิ้มกับเถิงเฟิงอย่างเบิกบาน นางกระโดดโลดเต้นในฝัน นางไม่ได้เป็นอย่างนี้มานานมากแล้ว ไล่ตามหิมะลูกกลมไปไกล แต่จู่ๆ ลมก็พัดแรง 

 

 

“หนาวจัง…” 

 

 

ถังเฉียนครางออกมา ฮวาหวนอยู่ข้างๆ ช่วยห่มผ้าห่มให้นาง ถังเฉียนลืมตาขึ้นมองทุกอย่างรอบๆ ที่คุ้นเคย ที่แท้นางยังนอนอยู่บนเตียง เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าตัวหนักอึ้งแล้ว 

 

 

“หรือข้าฝันผ่านไปสามสารทฤดู” 

 

 

ถังเฉียนถอนหายใจ ฮวาหวนร้องไห้พลางโอบคอถังเฉียนไว้ 

 

 

“ท่านหมอ ท่านไม่รู้หรือว่าตัวเองนอนหลับไปสามวันสามคืนแล้ว พวกเขาคิดว่าท่านคงแย่แน่แล้ว” 

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ลุกนั่ง แม้ว่าท่าทางนางจะดูแข็งทื่อบ้าง แต่กลับทำได้อย่างไม่ยากเย็น นางเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองก็แปลกใจมาก คิดในใจว่า 

 

 

“เพราะอะไร ข้าป่วยหนักมาก เหตุใดอยู่ดีๆ ก็หายป่วย หรือที่ฝันไปช่วยรักษาโรคได้” 

 

 

ถังเฉียนตบหลังฮวาหวนเบาๆ ให้ฮวาหวนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในนางฟัง ที่แท้ก็ได้รู้ว่านางพูดคุยอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็หมดสติไป ฮว่าเหยียนรวมทั้งหมอหลวงหลายคนวินิจฉัยไม่ออกว่านางเป็นอะไรไป ท่านอ๋องตามหมอที่มีฝีมือมาตรวจ แต่ไม่พบปัญหาอะไร ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงนอนหลับไม่ตื่น 

 

 

นางหลับไปเช่นนี้สามวันสามคืน ช่วงเวลาดังกล่าวจื่อเย่ว์ฮว่าเหยียนและฮวาหวนผลัดกันอยู่ดูแลนาง 

 

 

“อาห่าวล่ะ เขาเจอเถิงเฟิงหรือไม่” 

 

 

ฮวาหวนได้ยินเช่นนี้ก็แปลกใจทันที แล้วรีบบอกว่า 

 

 

“จริงสิ มีเพียงอาห่าวเท่านั้นที่บอกว่าท่านหมอไม่เป็นไร นอนหลับไปพอตื่นก็จะหายป่วย ยังบอกว่าพวกเราวุ่นวายไปเปล่าๆ เดี๋ยวข้าจะไปตามพี่อาห่าวมา”