ถังซีเดินตามผูกั๋วชิ่งออกจากห้องเรียน ผูกั๋วชิ่งหันกลับมามองถังซีและขมวดคิ้ว ถังซีเดินมาหาเขา ถามว่า “คุณครูผู มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผลการตรวจร่างกายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง” ผู่กั๋วชิงมองหน้าถังซีขณะถาม พูดตามตรง เขาสงสัยอยู่แล้วว่าเซียวโหรวไปตรวจร่างกายที่ปารีสจริงหรือเปล่า บางทีเธออาจหาข้อแก้ตัวเพื่อจะขาดเรียน
ถังซีเลิกคิ้ว เธอรู้อยู่แล้วว่าคุณครูผูจะต้องถามเรื่องนี้ โชคดีที่เธอเตรียมตัวมาพร้อม…
ถังซียิ้ม ส่งเอกสารที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสให้ผู่กั๋วชิง “นี่คือรายงานการตรวจร่างกายของหนูค่ะ”
โชคดีที่เฉียวเหลียงเตรียมเอกสารนี้ไว้ให้ เธอจึงไม่กลัวที่จะถูกคุณครูผู่กั๋วชิงตรวจสอบ
ผู่กั๋วชิงอ่านรายงานที่เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส หางตาเขาหรี่ลง มองถังซีอย่างพินิจพิจารณา แล้วโยนรายงานไปทางหนึ่ง “เธอตั้งใจจะเข้าวงการบันเทิงเหรอ”
ถังซีมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงถามหนูแบบนี้ล่ะคะ คุณครูผู”
“ถ้าเธอเข้าวงการบันเทิง การเรียนของเธอจะได้รับผลกระทบ” ผู่กั๋วชิงมองถังซี กล่าวด้วยความจริงใจ “ครูรู้ว่าเธอฉลาดและมีผลการเรียนดี แต่เธอกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย แน่ใจหรือว่าจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีได้ ถ้าเลิกเรียน”
ถังซีขมวดคิ้ว แต่ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ หมายความว่าคุณครูผูก็ห่วงอนาคตเธอใช่ไหม เธอไม่คิดว่าเขาจะดีกับเธอขนาดนี้ เธอเพิ่งได้พบกับคุณครูเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น…
ในความเป็นจริงครูส่วนใหญ่ก็เหมือนกับเขาและคุณครูเหอ ที่มักจะห่วงใยนักเรียนของตน มีครูไม่กี่คนหรอกที่เหมือนเฉาไอ้เชี่ยน
เมื่อเห็นถังซีนิ่งเงียบ ผู่กั๋วชิงก็คิดว่าเธอไม่ซึมซับคำพูดของเขาเข้าไปในหัวใจ เขาจึงกล่าวต่อไป “ครูคิดว่าเธอฉลาดพอที่จะสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศจีนได้ แม้แต่มหาวิทยาลัยแคปิตอล แต่ถ้าเธอเข้าวงการบันเทิง เธอจะไม่มีเวลาเรียนมากนัก ถ้าเป็นอย่างนั้นเธออาจไม่สามารถ…”
เขาหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวต่อไป “ครูรู้ว่าครอบครัวเธอรักเธอมาก และหวังว่าเธอจะมีอนาคตที่สดใส เธอไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวังใช่ไหม”
ถังซียิ้ม เงยหน้าขึ้นมองผู่กั๋วชิง “คุณครูผูคะ ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ ดาราหลายคนก็ไม่เสียการเรียน เท่าที่หนูรู้สามหนุ่มวงไอดอลที่ดังมากๆ ก็ล้วนแต่เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้ หนูคิดว่าหนูจะไม่มีปัญหาในการเรียนค่ะ”
เมื่อเห็นผู่กั๋วชิงขมวดคิ้ว ถังซีก็หัวเราะเบาๆ “หนูทราบคะ ว่าคุณครูผูพูดแบบนี้เพื่อประโยชน์ของตัวหนูเอง แต่หนูก็มีความฝันของตัวเอง คนมากมายดูถูกหนู หนูจึงต้องการพิสูจน์ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง เหมือนอย่างที่มีคำกล่าวไว้ว่า การตอบโต้ที่ดีที่สุด คือการไปให้ถึงระดับที่ศัตรูของคุณไม่มีทางไปถึงได้”
“ถ้าอย่างนั้นลองเล่าแผนของเธอให้ครูฟังหน่อยซิ” ผู่กั๋วชิงเดาว่าเซียวโหรวจะไม่มาโรงเรียนบ่อยนักนับจากนี้
“หนูจะยังมาเรียนค่ะ แต่ก็อย่างที่คุณครูทราบ หนูคงจะไม่ค่อยว่าง หนูก็เลย… แต่ไม่ต้องห่วงนะคะคุณครูผู หนูอยากเข้าภาควิชาภาพยนตร์และโทรทัศน์ของมหาวิทยาลัย A เพราะฉะนั้นหนูจะไม่เลิกเรียน หนูมั่นใจว่า…” ถังซีกล่าว หันกลับไปมองเผิงอวี้ ซึ่งแอบมองเธอกับคุณครูอยู่เป็นระยะ ถังซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนูคิดว่าหนูสามารถสอบได้ที่หนึ่ง ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งเมือง A ค่ะ”
ผู่กั๋วชิงชะงัก จริงเหรอ เธอจะได้ที่หนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งเมือง A เชียวหรือ เธอล้อเล่นใช่ไหม จะต้องมีนักเรียนหลายหมื่นคนสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเธอบอกว่าเธอจะได้ที่หนึ่งอย่างนั้นเหรอ เขามองหน้าถังซี และถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “นี่เธอพูดจริงจังหรือเปล่า”
ถังซียิ้ม กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “คุณครูผูคะ หนูดูท่าทางเหมือนล้อคุณครูเล่นเหรอคะ”
เธอมั่นใจว่าเธอทำได้
แม้เธอจะยังต้องทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กัน แต่เธอมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้!
เมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ผูกั๋วชิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เขาก้มลงมองนาฬิกา และปล่อยเธอไปเข้าห้องเรียน
ถังซีเดินเข้ามาในห้องเรียน ขณะเธอเดินผ่านหนิงเคอ เขาก็ลุกขึ้นและถามเธอด้วยความเป็นห่วง “เซียวโหรว เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
ถังซียิ้ม “ฉันไม่เป็นไร คุณครูผูแค่ถามเรื่องแผนการเรียนของฉัน ฉันรับประกันกับเขาว่าฉันจะได้ที่หนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งเมือง A เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีก”
นักเรียนคนอื่นๆ ต่างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ นักเรียนชายผิวปาก “เซียวโหรว เรารอฟังข่าวดีของเธอนะ”
“ใช่ ใช่ อย่าทำให้เราผิดหวังนะ”
ถังซียิ้ม กล่าวว่า “ถ้าฉันสอบได้ที่หนึ่งของเมือง A คะแนนรวมของชั้นเรียนเราก็จะสูงขึ้น แล้วพวกเธอจะให้อะไรฉันเป็นการตอบแทนล่ะ”
เธอแค่ล้อเล่น เพราะผลการเรียนโดยรวมของชั้นนี้ดีที่สุดในโรงเรียนอยู่แล้ว
มีคนตอบทันทีว่า “เราจะเลี้ยงอาหารเธอ หรือตอบแทนเธออย่างอื่นก็ได้ ขอให้เธอบอกมา!”
พวกเขาก็ล้อเล่นเช่นกัน
ถังซีหัวเราะ “ฉันชอบอาหารทะเล ฉันอยากให้พวกเธอจับอาหารทะเลสดๆ จากทะเลมาให้ฉัน”
“พวกเธอมันพวกประจบสอพลอ ดีแต่ยกยอคนขี้อวด!” บรรยากาศที่กำลังสนุกสนานครึกครื้นถูกทำลายลงด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามของเผิงอวี้ เธอหัวเราะเยาะหยันอย่างไม่พอใจ “เธอนี่มันตลกสิ้นดี!”
ถังซีเลิกคิ้วเดินเข้าไปหาเผิงอวี้ แล้วเหลือบตาลงมอง “ขอโทษนะ! สิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกมา คือการหาเรื่องฉันเป็นการส่วนตัว”
เผิงอวี้เหลือบมองถังซีอย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วหันไปมองหนังสือในมือเธอ ถังซียิ้มเยาะ “ที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพราะเซียวจิ้นหนิงใช่ไหม พี่สาวเธอเป็นเพื่อนเซียวจิ้นหนิงใช่ไหม ครอบครัวเธอเคยได้รับประโยชน์มากมายจากความสัมพันธ์ของพี่สาวเธอกับเซียวจิ้นหนิง ตอนนี้เซียวจิ้นหนิงถูกจับเข้าคุก ผลประโยชน์ที่เคยได้ทั้งหมดก็หมดไป เธอก็เลยเกลียดฉัน อย่างนั้นเหรอ”
เมื่อเห็นใบหน้าเผิงอวี้มีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ถังซีก็ยิ้มเยาะอีกครั้ง “ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูก เธอใส่ร้ายและหายเรื่องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า เธอคิดว่าฉันจะนั่งหัวเราะ โดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ”
ถังซีเคยให้ 008 ตรวจประวัติเผิงอวี้ ปรากฏว่าพี่สาวเธอคือเผิงเสวีย ดาราในสังกัดเซิ่งต้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และเป็นเพื่อนสนิทของเซียวจิ้นหนิง เซียวจิ้นหนิงเคยให้ผลประโยชน์มากมายกับเธอ เพราะเธอคอยประจบเซียวจิ้นหนิง หลังจากเซียวจิ้นหนิงถูกไล่ออกจากตระกูลเซียวและถูกจำคุก เผิงเสวียก็ตกงาน ในฐานะน้องสาวเผิงเสวีย ชีวิตของเผิงอวี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน…
และ…
ถังซีจ้องหน้าเผิงอวี้ ยิ้มให้เธออย่างเย็นชา “เธอเข้าโรงเรียนนี้ได้ ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเซียวจิ้นหนิงใช่ไหมล่ะ หรือว่าหลิวเฉิงอวี่”
เผิงอวี้หน้าถมึงทึง “อีบ้า!”
“เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ฉันพูดน่ะเป็นความจริง!” ถังซีกล่าวอย่างเย็นชา “เท่าที่ฉันรู้ เกรดเธอก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ถึงแม้เธอจะเรียนหนักมากก็ตาม…”
“เซียวโหรว!”
“เผิงอวี้!” โดยไม่ให้โอกาสเธอพูดต่อ ถังซีกล่าวอย่างดุดันว่า “ในเมื่อเธอไม่เคยให้เกียรติฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติเธอ ในเมื่อเธอยั่วยุฉันครั้งแล้วครั้งเล่า คงจะเสียมารยาทมาก ถ้าฉันไม่มีน้ำใจตอบโต้เธอบ้าง!”