1900-1 vs 1900-2 โดย Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 1900-1

เวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน มักผ่านไปเร็วเสมอ ยัยเสือน้อยนอนซบฉินมั่ว รอจนตื่นอีกครั้งก็เป็นช่วงกลางดึกแล้ว เธอนึกขึ้นมาได้ว่า คนเราป่วยก็ต้องกินอาหารเยอะๆ บ้านนี้ไม่มีใครอยู่ ยัยเสือน้อยจึงอาสาไปต้มบะหมี่ให้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสีของมันเจิดจ้าหรือเครื่องปรุงรสจัดมาก เมื่อฉินมั่วกินเข้าไปกลับไม่ดีขึ้น แถมยังป่วยเป็นลำไส้อักเสบอีก

ต่อมาคุณหมอบอกว่า เวลาเป็นหวัดระบบย่อยอาหารจะอ่อนแอ แถมเครื่องปรุงในซองค่อนข้างมัน จึงไม่แปลกที่จะป่วยเช่นนี้ ทว่าป๋อจิ่วรู้สึกผิดเหลือเกิน จึงปีนกำแพงเข้าไปหาในตอนกลางคืน เพื่อจะขอให้ฉินมั่วยกโทษ

เวลานี้ฉินมั่วไร้เรี่ยวแรง เอ่ยเพียง “ขึ้นมา” รอจนเมื่อยัยเสือน้อยปีนขึ้นเตียง เขาก็รวบเธอเข้ามากอด ช่างนุ่มเหลือเกิน ส่งผลให้มุมปากแยกยิ้มเลยทีเดียว “ป๋อเสียวจิ่ว เธอโง่หรือเปล่า?”

“เปล่านี่” ยัยเสือน้อยตอบจริงจัง “แต่มั่วมั่ว ดูแหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอกอดฉันเองนะ งั้นฉันควรจะฉลองได้แล้วใช่ไหน เธอจะยอมให้ฉันซื้อได้หรือยัง?”

ฉินมั่วหันไปมองอีกทาง “ฉันแพงมากนะ”

“งั้นฉันจะขยันหาเงิน” ยัยเสือน้อยกำมือ

ฉินมั่วกุมกำปั้นของเธอ “รอเธอครบ 18 ปีก่อน แล้วจะบอกเธอว่า ฉันจะยอมขายตัวเองให้เธอไหม?”

“18 ปีเลยเหรอ…” ป๋อจิ่วคลี่นิ้วนับเลข นานจังแฮะ “ตอบตกลงตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ?”

ฉินมั่วเลิกคิ้ว “ไม่ได้สิ”

“ก็ได้ 18 ปี ตอนนั้นฉันคงสูงกว่านี้แน่นอน ถึงเวลานั้นฉันจะใส่สูทเหมือนแม่ไปหาเธอเอง” ป๋อจิ่วคิดว่าไม่มีที่ไหนสบายเท่าที่นี่อีกแล้ว

ฉินมั่วขมวดคิ้ว “สูท? ทำไมไม่ใส่กระโปรง?”

“ไม่ได้สิ พวกท่านประธานจอมโหดในหนังชอบใส่สูทนี่นา” ป๋อจิ่วว่าแล้วก็หาว ซบศีรษะที่บ่าอีกฝ่ายเหมือนเป็นลูกเสือน้อย เธอส่ายหางนิดหน่อย “มั่วมั่ว ฉันง่วงจัง” คือต้องการให้ฉินมั่วกล่อมเธอนอน

ความเคยชินบางอย่างเกิดจากการฝึก ก่อนที่จะรู้จักฉินมั่ว ป๋อจิ่วไม่เคยให้ใครกล่อมนอน แต่ตอนนี้เธอเริ่มหมดแรงจึงซบบ่าฉินมั่ว ส่วนฝ่ายหลังก็ลูบหลังเธอเป็นระยะๆ น้ำเสียงเย็นน่าฟังพูดอะไรก็ไม่รู้ น่าจะเป็นคำกล่อมให้เธอหลับ

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ไม่ว่าอย่างไรคุณท่านอานจะต้องกลับประเทศจีน ฉินมั่วก็เช่นกัน ยัยเสือน้อยได้ยินแล้ว ปรี่เข้าไปขดตัวนอนด้านในกระเป๋าเดินทางรูปหมีแพนด้าของฉินมั่ว “มั่วมั่ว ถือว่าฉันเป็นสัมภาระเดินทางแล้วเอาฉันไปด้วยนะ”

ใช่ว่าฉินมั่วจะไม่อยากพาเธอไปด้วย แต่เขาเคยไปขอแล้ว ทว่าคุณป๋อที่ดูเอ้อระเหยในยามปกติกลับยิ้มบางพลางตอบว่า “ไม่ได้”

และในวันนั้นนั่นเอง ฉินมั่วได้กลิ่นคาวเลือดจากตัวคุณอา แม้ชายหนุ่มจะสวมเสื้อกันลม แต่กลิ่นนั่นยังลอยมาเป็นระยะ ทว่าก่อนที่คุณอาผู้หญิงกลับมา ชายหนุ่มก็เข้าไปในห้องน้ำ

ฉินมั่วเป็นเด็กที่เก็บงำความในใจได้เป็นอย่างดี คนที่มีไอคิวสูงคงเป็นกันแบบนี้ เขาทิ้งกล่องยาไว้ที่บ้านตระกูลป๋อ ไม่พูดอะไรอีก เพราะแค่เอาตัวยัยเสือน้อยไปด้วยไม่ได้ เขาก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอนที่กำลังขึ้นรถ ก็มองดูดวงตากลมโตของเจ้าหล่อน

 ……………………………………….

ตอนที่ 1900-2

ฉินมั่วจับหน้าเธอ “ฉันจะรีบกลับมา อย่างมากก็อยู่แค่ฉลองวันสิ้นปี เวลาที่ฉันไม่อยู่ เธอตั้งเชื่อฟังคุณอาป๋อ อย่าปีนกำแพง ลูกอมที่ให้ก็อย่ากินเยอะ เวลาหิวก็ใช้กุญแจที่ฉันให้ไขเข้าบ้านฉัน ฉันเตรียมขนมให้เธอเต็มตู้เลย มีเนื้อกระป๋องด้วย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้มันน้อยๆ หน่อย เธอมีเบอร์ฉันแล้วนะ มีอะไรก็โทรหาล่ะ แล้วอย่าซน”

ยัยเสือน้อยกอดคีย์บอร์ด นับเวลาอยู่ในใจสามวันไม่ถือว่านาน เธอยังยอมรับได้

แม้จะเป็นเช่นนั้น รอจนรถกำลังจะขับออกไป ยัยเสือน้อยก็ยังไม่ปล่อยมือจากชายเสื้อเขา แต่สิ่งที่ทำให้คุณท่านอานตะลึงกลับไม่ใช่อาการของยัยเสือน้อย เป็นหลานท่านเองต่างหากที่ไม่อยากไป ท่าทีต่างไปจากเมื่อตอนที่เขาเพิ่งมาถึงที่นี่อย่างเห็นได้ชัด

ทว่าสิ่งที่น่าช็อกยิ่งกว่าก็คือ เมื่อรถถูกขับออกไปจริงๆ หลานท่านกลับใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลานท่านไม่ยิ้มออกมาเลย ตลอดเส้นทางที่เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้าจนมาถึงปลายทาง จนกระทั่งท่านหยิบมือถือต่อสายไปต่างประเทศ ถึงได้ดูดีขึ้นมาหน่อย

เวลานั้นยังไม่มีวีแชท ไม่สะดวกเท่าสมัยนี้ หากจะวิดีโอคอลต้องใช้คอมพิวเตอร์ แต่เวลาจะถึงตรุษจีนอย่างนี้ กระทั่งเด็กก็ยังยุ่งมาก แถมด้วยทั้งสองฝั่งมีความแตกต่างด้านเวลามาขวางกั้น

เมื่อฉินมั่วกลับไปยังเขตทหารก็ถูกพวกเด็กๆ รุมห้อมล้อม อยากโทรศัพท์แค่ไหนก็ปลีกตัวไม่ได้ กว่าจะเยี่ยมญาติเสร็จแล้วได้จับโทรศัพท์อีกที ก็รู้ตัวว่าเวลาไม่เหมาะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เดิมบอกว่าจะฉลองข้ามปีเสร็จก็จะกลับไป แต่ด้วยอานกรุ๊ปเกิดปัญหาขึ้น ทำให้กำหนดการกลับไปจึงถูกเลื่อนออกไป ยังดีที่เมื่อมีเวลาว่าง ฉินมั่วก็สามารถโทรไปหาเสือน้อยในเวลาที่เหมาะสมได้

แต่ฝั่งนั้นไม่มีใครรับสาย ด้วยป๋อจิ่วไม่อยู่บ้าน เพราะเธอตามพ่อไปมหาวิทยาลัย ครั้งนี้ไม่ได้ไปเพื่อทำตัวแบ๊ว แม้ภายนอกจะเหมือนแบบนั้น ด้วยเธอแต่งชุดนอนเสือน้อยเหมือนเดิม ทว่าคุณป๋อไม่ได้มีเป้าหมายดังกล่าว ไม่งั้นเขาคงไม่พาลูกสาวมาที่นี่ในเวลาอย่างนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่โลกแฮกเกอร์เกิดเรื่องขึ้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ปกติที่ผ่านมาโลกแฮกเกอร์ก็ไม่ค่อยสงบนัก นี่คือเส้นทางชีวิตที่เขาเลือก ทว่าเรื่องข้อมูลที่ปิดเป็นความลับนั้น ไม่ได้หลุดออกไปอย่างใหญ่โตเท่าในครั้งนี้ คนพวกนั้นต้องรู้ตัวตนของเขาในเวลาไม่ช้านาน เมื่อก่อนคุณป๋อไม่แคร์ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนกัน ใต้โต๊ะเรียนเขามีเด็กน้อยคนหนึ่ง รวมถึงหญิงสาวอีกคนที่อยู่ตึกตรงข้ามผู้เป็นจุดอ่อนของเขา

ถึงเขาจะออกคำสั่งและกำลังรอให้คุณพ่อบ้านมาหา แต่นั่นก็หมายถึงว่าจิ่วจะไม่มีทางเลือกอื่นอีก

คุณป๋อเงยหน้าขึ้นมองดูตัวอักษรภาษาอังกฤษบนกระดาน เท้าคางด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างเรียบเรื่อย “จิ่ว หนูชอบเรื่องที่เรากำลังทำอยู่หรือเปล่า?”

“ชอบ” ยัยหนูพิงหลังที่มุมโต๊ะ ไม่ว่าอะไร แค่ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์ตัวอักษรตอบพ่อ ส่วนคุณป๋อหันหน้ากลับมามองด้วยแววตาเข้มเล็กน้อย “งั้นก็ดี”

ตอนนี้เขาต้องซ่อนลูกเอาไว้ ส่วนตัวเขาจะออกไปดึงความสนใจจากพวกมัน แต่จะเล่นจริงไม่ได้ พวกมันอาจรู้อะไรขึ้นมา เห็นทีเขาคงต้องคิดเรื่องย้ายกลับไปอยู่ที่ปราสาทเสียแล้ว…

…………………………………………………..