เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 650
ตาแก่อายุหนึ่งร้อยปีคนหนึ่งทำไมร้ายกาจอย่างนี้?

เวลาเดียวกันนี้

เหลิงฉานก็เงยหน้าขึ้นมา มองเย่หลงอยู่ด้วยใบหน้าที่คิดไม่ถึง

“หมัดหย่งชุน!”

เขาคิดไม่ถึง

เย่หลงตาแก่ที่ดูแล้วใกล้จะตายคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะรู้หมัดหย่งชุน

นาทีนี้

สายตาที่เขามองไปทางเย่หลงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ผู้คุมกฎสิบทำตาหรี่แล้ว

เย่หลงคนนี้ไม่เปิดเผยมาตลอดทาง

เดิมทีเขายังคิดว่า

นี่เพียงแค่คนแก่ธรรมดาคนหนึ่ง

ตอนดูแล้ว เขาผิดแล้ว

นี่คือจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่งที่น่ากลัวกว่าใคร ๆ !

หยางเฟิงก็ไม่คาดคิดเล็กน้อย

ถึงแม้เขาไม่ได้เห็นเหลิงฉานอยู่ในสายตา

แต่เหลิงฉานยังไงก็คือปรมาจารย์สูงสุดของปรมาจารย์ใหญ่อย่างแท้จริง

เย่หลงสามารถต่อยหมัดหนึ่งให้เขาลอยกระเด็นไป

พลังชนิดนี้

ถึงแม้กับตัวเองแล้วก็ไม่แย่ไปกว่ากัน!

ทันใดนั้น

ฉากเข้าสู่ความเงียบสงบแปลก ๆ

หยางเฟิงไม่ขยับ

ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานก็ไม่กล้าขยับ

ทหารที่ส่งไปตายของโลกบู๊ที่เหลือทั้งหมดก็ยิ่งไม่กล้าขยับ!

เห็นชัดว่าชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรอยู่ใกล้ ๆ ข้างหน้านี้

กลับไม่มีสักคนที่จะกล้าบุ่มบ่าม!

ในพริบตานั้น

กระทั่งอากาศต่างก็เหมือนจับตัวแข็งทื่อแล้ว!

ก็ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่

ผู้คุมกฎสิบในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้ว

เขาหันหน้ามองไปทางหยางเฟิง พูดตาหรี่ว่า“หยางเฟิง พวกเราถ่วงเวลาต่อไปก็คือเสียเวลา สู้ร่วมมือกันแย่งชิงชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรมาด้วยกันดีไหม?”

ได้ยิน

หยางเฟิงลืมตายิ้มพูดว่า“ดีสิ! กุ่ยเหมินของพวกคุณคนมาก งั้นก็พวกคุณไปสำรวจทางก่อนแล้วกัน?”

“นาย……”ผู้คุมกฎสิบพูดไม่ออก

ให้คนของกุ่ยเหมินพวกเขาไปสำรวจทาง งั้นยังร่วมมือบ้าอะไร!

“ทำไม ไม่กล้าเหรอ?”

หยางเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา“ในเมื่อเป็นอย่างนี้และจะเจรจาความร่วมมือยังไง?”

ผู้คุมกฎสิบคิดวางแผนเพื่อประโยชน์ของตัวเองอะไร

ในใจของหยางเฟิงชัดมากแล้ว

อยากที่จะอาศัยในนามของการร่วมมือให้คนของตัวเองไปเป็นทหารที่ส่งไปตาย

เรื่องชนิดนี้เขาจะไปทำได้ยังไงล่ะ?

ถึงยังไงหยางเฟิงก็ไม่รีบร้อน

ที่รีบร้อนก็คือผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉานสองคน

ยืดเวลายิ่งนาน

ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาสองคน!

อย่างที่คิดไว้จริง ๆ

มองเห็นหยางเฟิงไม่ยอมร่วมมือ สายตาของผู้คุมกฎสิบก็มองไปทางเหลิงฉานอีก

“ผู้คุมกฎเหลิง!”

เวลานี้เหลิงฉานกำลังหลับตาพักผ่อน

เขาลืมตาเงยหน้ามองผู้คุมกฎสิบแวบหนึ่ง พูดฮึอย่างเย็นชาว่า“พวกเราร่วมมือกันได้แต่อยากที่จะให้คนของผมส่งไปตายนั่นไม่มีทาง!”

ตอนนี้ศูนย์พันธมิตรบู๊ได้เสียหายหนักมาก

ถ้าเสียหายอีกเขาก็ต้องกลายเป็นหัวหน้าที่ไม่มีลูกน้องแล้ว

เรื่องที่ส่งทหารไปตายเขาถึงไม่เต็มใจที่จะทำมัน!

มองเห็นทุกคนต่างก็ไม่หลงกล

สุดท้าย

สายตาของผู้คุมกฎสิบทำได้เพียงมองไปทางนักบู๊นับร้อยคนที่เหลืออยู่

นักบู๊นับร้อยคนก็สั่นไปทั้งตัว

“พวกนายทั้งหมดต่างก็ขึ้นไปให้ฉัน!”

เสียงของผู้คุมกฎสิบเยือกเย็น

ไม่มีคนพูด!

นักบู๊แต่ละคนต่างก็ได้รับการกดขี่และดูถูกจนอยากที่จะร้องไห้!

เดิมที่พวกเขามีนับหมื่นคนเต็ม ๆ

ตอนนี้กลับเหลือเพียงไม่ถึงหนึ่งพันคน

ส่งไปตายอีก

กองทัพทั้งหมดก็ต้องถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!

มองเห็นไม่มีคนพูด ไอลีนโนเวล

ผู้คุมกฎสิบพูดด้วยสายตาที่เย็นชา“ทำไม พวกนายไม่ยอม?”

คนเหล่านี้

ที่เขาเหลือไว้ถึงตอนนี้ทั้งหมดก็คือเพื่อเป็นทหารที่ส่งไปตาย

ตอนนี้ชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรก็อยู่ด้านหน้านี้แล้ว

ไม่ส่งคนเหล่านี้ไปตาย ใครจะไปตาย?

กริ๊ง!

กริ๊ง!

กริ๊ง!

……

พูดจบ

ทุก ๆ คนของกุ่ยเหมิน แต่ละคนก็ดึงดาบที่แหลมคมในมือออกมา

ในเวลาเดียวกันนี้

คนของศูนย์พันธมิตรบู๊ก็เดินมาแล้ว

พวกเขาแต่ละคนในมือกำอาวุธจ้องมองอย่างดุร้าย

เห็นชัดมากว่า

ไม่บุกคือตาย

บุกยังสามารถมีชีวิตรอด!

นักบู๊เหล่านี้ไม่บุกก็ต้องบุก!

ในพริบตา

ความรู้สึกที่ความเศร้าโศกเสียใจทะลักออกมาจากหัวใจของนักบู๊นับร้อยคน!

ส่วนลึกในหัวใจของพวกเขาเสียใจอย่างมาก!

ของล้ำค่าของตัวเองไม่ได้แย่งมา

ผลลัพธ์คือ

ยังต้องต่อสู้เพื่อหาทางอยู่รอด!

หยางเฟิงมองนักบู๊เหล่านี้แวบหนึ่งแล้ว