SD:บทที่ 25 โปรดบอกฉันว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง

ในที่สุด เฉา ตั้วเฟย ก็ตระหนักได้ว่าเขาประเมินคนขับแท็กซี่ต่ำเกินไป แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมคนขับแท็กซี่จึงสามารถขับรถตามเข้ามาได้ติดๆ แต่มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคนขับรถแท็กซี่มีทักษะการแข่งรถเทียบเท่าได้กับเขา ด้วยความคิดนี้ เฉา ตั้วเฟย จึงจับตาดูซูฉิวไป่และพยายามปิดกั้นเส้นทางไม่ให้ ซู ฉิวไป่ แซงเขาได้

มันก็สายเกินไป!

ในเสี้ยววินาทีที่มือของเขาสั่นเล็กน้อยรถแท็กซี่ก็สามารถที่จะแซงเขาไปต่อหน้าต่อตาและปาดหน้าทันที เฉา ตั้วเฟย เหยียบเบรคจนมิดด้วยความเร็วของรถทั้ง 2 คันพวกเขาอาจชนกันอย่างง่ายดาย

เฉา ตั้วเฟย ตระหนักได้ว่า ซู ฉิวไป่ กำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ คนขับแท็กซี่แสดงทักษะการขับขี่ของเขาด้วยการปล่อยควันเสียออกมาก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง

โอ้เชี่ย!  เฉา ตั้วเฟย สาบานได้บนรถแท็กซี่กำลังพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว  เฉา ตั้วเฟย ขับรถไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 5-6 วินาทีเขาก็ไม่สามารถจับสัญญาณรถของ จุน เสี่ยวเตา และรถของ ซู ฉิวไป่ ได้อีกต่อไป

แม้ว่าเขาไม่ค่อยพอใจแต่เขารู้ชัดเจนว่า การเบรคชั่วขณะก่อนหน้านี้ทำให้เขาไม่สามารถเอาชนะการแข่งขันในครั้งนี้ได้แล้ว

แปลกมาก แทนที่เขาจะรู้สึกหดหู่เขากลับรู้สึกถึงความหวัง เขาอยากเห็นสีหน้าของ จุน เสี่ยวเตา เมื่อรถแท็กซี่ขับแซงรถมาเซราติ

เจ้าอันธพาลนั้นต้องบ้าอย่างแน่ๆ ถ้ารถแท็กซี่สามารถแซงเขาไปได้!

เมื่อคิดอย่างนั้น เฉา ตั้วเฟย ก็ให้ความสำคัญต่อการขับขี่ต่อไป เวลานี้สำหรับเขามันไม่ใช่การแข่งขันอีกต่อไปเขาแค่ต้องการจะตามทันและดูฉากด้วยตาของตัวเอง

ในอีกด้านหนึ่ง จุน เสี่ยวเตา สังเกตเห็นว่าเฟอรารี่ของ เฉา ตั้วเฟย นั้นไม่ได้ตามหลังมาหลังจากผ่านโค้งแรกไปแล้ว เขาหัวเราะเบาๆเรื่องนี้มันง่ายเกินไปที่เขาจะเอาชนะ  เฉา ตั้วเฟย ควรที่จะประมาณตัวเองเนื่องจากไม่มีทักษะในการแข่งขันเช่นเดียวกับเขา

มันคงเป็นแค่ฉันที่คิดมาก….

จุน เสี่ยวเตา ขับรถสปอร์ตของเขาอย่างคล่องแคล่วเขารู้สึกดีที่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นในกระจกมองข้างของเขาก็ปรากฏบางอย่าง..

เขามองไปที่กระจกมองข้างก่อนที่จะตีโค้งอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาเห็นเกือบทำให้ดวงตาของเขากระเด็นออกมา! เพียงไม่กี่เมตรข้างหลังเขาคือรถแท็กซี่ที่กำลังพุ่งมาตามเขาอย่าเงียบๆ!

เ-ี้ย! คนขับรถแท็กซี่!

หากเขาไม่เห็นรถแท็กซี่ จุน เสี่ยวเตา คงลืมไปแล้วว่าการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันสำหรับ 3 คน

เป็นไปได้ยังไง!

อย่างไรก็ตามเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาประหลาดใจ

อ้าก!แท็กซี่เปิดไฟเลี้ยว!!!

มันเป็นการยากที่จะบรรยายว่า จุน เสี่ยวเตา นะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขาเห็นว่าแท็กซี่ตบไฟเลี้ยว เขาใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจว่าคนขับแท็กซี่ต้องการส่งสัญญาณว่าเขากำลังจะแซง

จุน เสี่ยวเตา รู้สึกว่าศักดิ์ศรีในฐานะนักแข่งรถมืออาชีพของเขาถูกเหยียบย่ำ แต่มันเพราะความหยิ่งทะนงของ จุน เสี่ยวเตา เมื่อเขามาถึงทางโค้ง เขาไม่ยอมที่จะลดความเร็วลงแม้แต่น้อย แต่!!รถแท็กซี่ก็พุ่งผ่านเข้าไปในขณะที่เขากำลังคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

จุน เสี่ยวเตา รู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผี เขาไม่เคยคิดเลยว่าใครจะสามารถเอาชนะเขาได้ในสถานการณ์เฉียดฉิวแบบนี้ แต่ภาพตรงหน้าทำให้เขาต้องตกใจ มันเหมือนกับมีใครบางคนตบหน้าเขาอย่างแรงราวกับว่าเขากำลังแตกสลายเช่นเดียวกับ เฉา ตั้วเฟย

ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ คือเขาพยายามที่จะแซงรถแท็กซี่เมื่อมาถึงโค้งที่ 3

ไม่มีใครรู้ว่า จุน เสี่ยวเตา กำลังต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเขาพยายามผลักดันตัวเองให้มีพลังในการแข่งขันต่อไป แต่ความเชื่อของเขาในฐานะนักแข่งก็ถูกบดขยี้

ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะแย่ขนาดนี้ แม้แต่คำพูดก็ไม่สามารถอธิบายได้

จริงๆแล้วฉันไม่ได้แพ้เขา ฉันเพียงแต่ไม่เห็นเขาในตอนนี้เท่านั้น

หลังจากผ่านเส้นทางคดเคี้ยวรถแท็กซี่ก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีก ในขณะที่ ซู ฉิวไป่ ไม่รู้ว่าตัวเขานั้นได้เขย่าโลกให้กับนักแข่งทั้งสองคนอยู่เบื้องหลังมันเป็นเพียงการส่งสัญญาณไฟเลี้ยวอย่างง่ายๆตามกฎจราจรเท่านั้น

ตอนนี้เขากำลังพิจารณาว่าเขาควรที่จะเหยียบคันเร่งเพิ่มอีกหรือไม่

“น้องชายเราควรเร่งขึ้นให้เร็วกว่านี้อีกหน่อยไหม?”

ซู ฉิวไป่ มองไปยังคนด้านข้างเพื่อขอความคิดเห็นจาก อู่ซง

“ พี่ชาย…แค่นี้พอแล้ว อึก..”

ใบหน้าของ อู่ซง กลายเป็นสีเขียว ซู ฉิวไป่ รู้ทันทีว่า อู่ซง กำลังทุกข์ทรมานจากอาการเมารถดังนั้นเขาจึงชะลอความเร็วลง

ในทางกลับกันสถานที่จุดเริ่มต้นค่อนข้างเสียงดังทั้งสองฝ่ายต่างวางเดิมพันว่าใครจะเป็นคนแรกที่มาถึงเส้นชัย เนื่องจากเส้นทางเป็นวงกลมดังนั้นจุดเริ่มต้นจึงเป็นจุดเส้นชัยเช่นกัน ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะมีถึง 5 รอบและค่อนข้างเป็นการแข่งขันที่ยาวนานแต่ทว่าการแข่งขันในรอบแรกนั้นเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์สุดท้ายดังนั้นทุกคนจึงตื่นเต้น

“ฉันพนันฝั่งพี่เฟย เขาจะเป็นคนแรกที่มาถึงจุดหมายอย่างแน่นอนบางที จุน เสี่ยวเตา ตามเขาไม่ทันแล้วก็ได้”

“ไม่จริง ฉันเดาว่าพวกเขาทั้งสองคนน่าจะไล่เลี่ยกัน แม้ว่าพี่เฟยจะคุ้นเคยกับเส้นทางนี้แต่ จุน เสี่ยวเตา นั้นเป็นนักขับมืออาชีพ”

“นายยกย่องแก๊งอื่นได้ยังไง?ฉันจะบอกว่าพี่เฟยต้องเป็นคนที่นำหน้ามาอย่างแน่นอน!คอยดูเถอะ…”

“ เฉา ตั้วเฟย? นำหน้า?ฉันจะบอกพวกนายว่าเสี่ยวเตาได้รับรางวัลในการแข่งขันชิงแชมป์ระดับประเทศ…”

…..

มันไม่ชัดเจนว่าตอนนี้ใครเป็นคนของแก๊งใดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทุกคนรวมกลุ่มกันเพื่อรอรถคันแรกที่จะออกมาจากโค้งอย่างใจจดใจจ่อ

“เฉิงหยาคุณคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะการแข่งขันในครั้งนี้?”

ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามโน้มตัวลงมาจากรถแฮมเมอร์เขาเพ่งมองไปที่ถนนที่คดเคี้ยวในขณะที่เขาถามผู้หญิงที่อยู่ถัดจากเขา

“ฉันเชื่อในทักษะของเสี่ยวเตา แต่…ฉันมีความรู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับคนขับรถแท็กซี่คนนั้น”

กู่ เฉิงหยา มีดวงตาที่สวยงามและผมยาวเธอดูเท่ยามที่ลมพัดผ่าน แต่สิ่งที่เธอพูดทำให้คนไม่กี่คนที่อยู่ข้างเธอหัวเราะพร้อมกัน

“เฉิงหยา คุณคิดว่าคนขับรถแท็กซี่จะชนะอย่างนั้นหรอ?”

ผู้หญิงอีกคนถาม เธอค่อนข้างมีผมหยักศก แต่ดูเป็นธรรมชาติน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ กู่ เฉิงหยา

กู่ เฉิงหยา ยิ้มอย่างเงียบๆเธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น แต่เธอก็คาดหวังบางอย่างอยู่ลึกๆ

“ฟังสิ!คุณได้ยินเสียงเครื่องยนต์ไหม?”

บางคนจากฝูงชนเริ่มตะโกนเสียงดัง ทุกคนเงียบลงทันทีพวกเขาพยายามเปิดให้กว้างที่สุดเพื่อจะฟังเสียงจากระยะไกลอย่างระมัดระวัง

“ฉันคิดว่ามันเป็นเสียงเครื่องยนต์จริงๆ…พวกเขากำลังมา!”

“ไม่เป็นไปไม่ได้ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับพี่เฟยเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาที แสดงว่าคนที่กำลังมานี้ไม่ใช่พี่เฟย”บางคนในฝูงชนเริ่มแสดงออกด้วยความเศร้าสลด

“ฮ่าฮ่า มันต้องเป็นเสี่ยวเตาอย่างแน่นอน!!”

ด้วยการพูดแบบนี้เกือบทุกคนเชื่อว่าคนที่นำหน้ามานั้นเป็นเสี่ยวเตาอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนว่าทักษะการขับขี่ของเสี่ยวเตาจะดีขึ้น เขาขับรถเร็วมาก”

ชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามพักผ่อนอยู่บนหลังรถแฮมเมอร์เขายิ้มเยาะเหมือนกับเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆที่อยู่ข้างเขา

“นั่นไม่ใช่เสี่ยวเตา คุณคิดว่านั่นคือเสียงเครื่องยนต์ของมาเซราติหรอ?”

ไม่มีใครคาดคิดว่า กู่ เฉิงหยา จะพูดสิ่งนี้ขึ้นมา

ไม่ใช่เสี่ยวเตา?ถ้าอย่างนั้นเป็น.. เฉา ตั้วเฟย อย่างนั้นหรอ

“และมันก็ไม่ใช่ เฉา ตั้วเฟย เช่นกัน  เฟอรารี่ ไม่ได้มีเสียงแบบนี้”

ก่อนที่ใครจะถามขึ้น กู่ เฉิงหยา ก็ได้พูดขึ้นอีกครั้งขัดจังหวะคนอื่น หลังจากการพูดจบดวงตาของชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่เบื้องหลังเธอที่แสดงออกถึงความไร้อารมณ์ตลอดเวลาก็มีแสงเปล่งประกายออกมา

วัยรุ่นคนอื่นๆก็ตกตะลึงเช่นกัน ไม่มีใครสามารถเถียง กู่ เฉิงหยา ผู้คุ้นเคยกับรถสปอร์ตชั้นนำดังนั้นการที่เคยกล่าวอ้างถึงเกี่ยวกับรถแข่งเหล่านั้นจึงค่อนข้างถูกต้อง

แต่ถ้าไม่ใช่นักแข่งทั้งสองคน…แล้วจะเป็นใคร

ในขณะที่ทุกคนกำลังขบคิดกันอยู่นั้นภาพของคนขับแท็กซี่ใส่เสื้อกล้ามก็ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน

ฝูงชนได้แต่ส่ายหัวของพวกเขา…

มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะเป็นเขา!อาจมีบางคนที่หลงเข้ามายังเส้นทางนี้โดยไม่ตั้งใจ

เสียงรถดังใกล้ขึ้นเข้ามาทุกที ทุกคนต่างเงียบลงแม้แต่ เซี่ยเซียวมู่ ก็เปิดตากว้างเพื่อรอให้รถปรากฏออกมา

ในบรรดาคนทั้งหมดมีเพียงเขาคนเดียวที่มีความหวังเล็กๆว่า ซู ฉิวไป่ จะชนะ ความหวังนั้นมาจากความไว้วางใจที่เขามีต่อพี่สาวของเขา ไม่ใช่เพราะคนขับรถที่ดูเฉิ่ม

ในที่สุด…รถก็ปรากฏตัวออกมาในโค้งสุดท้าย

หลังจากมองดูรถอย่างระมัดระวังทุกคนที่กำลังฟังเสียงเครื่องยนต์ก็แทบจะล้มลง

โอ้พระเจ้า!..ฉันเพิ่งเห็นอะไร!รถแท็กซี่สีฟ้าเหลืองที่มีป้ายโฆษณาขนาดเล็กอยู่ด้านบน มันเป็นป้ายแสดงโฆษณาลดราคาของห้างสรรพสินค้า…

หลายคนพยายามตบตัวเอง เพื่อต้องการให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ฝัน!

มาเซราติและ เฟอรารี่ ยังไม่ปรากฏตัวแต่แท็กซี่คันนี้กับโผล่ออกมานำหน้าคนอื่นๆและมาถึงที่นี่แล้ว!

มันอาจให้อภัยได้ถ้าหากเป็นคนขับรถคนอื่นที่ไม่รู้วิธีการแข่งรถแต่คนเหล่านั้นคือ จุน เสี่ยวเตา และ เฉา ตั้วเฟย!

หนึ่งในนั้นคือนักแข่งมืออาชีพได้รับรางวัลในการแข่งชิงแชมป์แห่งชาติ ในขณะที่อีกคนเป็นหัวหน้าแก๊งรถซิ่ง พวกเขามีเคล็ดลับบางอย่างของพวกเขา?

ไม่มีใครสามารถเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น แต่พวกเขาเชื่อมั่นว่ารถสปอร์ต 2 คันกำลังเผชิญปัญหาทางเทคนิคอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่มีใครสามารถปฏิเสธความจริงได้ว่ารถแท็กซี่มาถึงเส้นชัยเป็นคนแรก

ถึงอย่างนั้นคนขับรถแท็กซี่ใช้มือข้างหนึ่งอยู่บนพวงมาลัยและมืออีกข้างหนึ่งคีบบุหรี่ เมื่อใกล้ถึงเส้นชัยเขายื่นมือออกมานอกหน้าต่างเพื่อปัดขี้บุหรี่ออกจากแท่งบุหรี่

 

——————————————-