1901-3 vs 1901-4 vs 1902-1 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1901-3 คุณป๋อและมาดามของเขา

เมื่อเห็นยัยเสือน้อย ลุงว่านก็หัวเราะ นี่เป็นครอบครัวแสนสุขและดูไม่ธรรมดาที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น ทว่าปกติท่านประธานจะยุ่งมาก ส่วนคุณป๋อ…พูดยาก เขาชอบทำตัวติดกับท่านประธาน แต่ก็ไม่เหมือนกับพวกไอ้หนุ่มหน้าอ่อนที่ไม่เอาไหน เอาเป็นว่าขอแค่คุณป๋อไม่ทำร้ายจิตใจท่านประธานเป็นพอ

การได้กินปีกไก่ทอดถือเป็นเรื่องที่มีความสุข  บนโต๊ะยังมีเป๊บซี่ เฟรนช์ฟรายส์และแฮมเบอร์เกอร์อีกด้วย เดิมมาดามป๋อกะจะพับแขนเสื้อให้ลูกสาว แต่พอเงยหน้าเห็นแฮมเบอร์เกอร์อยู่ตรงหน้าจึงกัดคำหนึ่ง

เขาหัวเราะ หัวเราะแบบนั้นยังไม่เท่าไร ทว่าพวกที่มากินต่างเป็นนักศึกษากันทั้งนั้น หลายคนมองจนตาเคลิ้มเลยทีเดียว

ทว่าไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มพลันชะงักมือในวินาทีถัดมา สองตามองด้านนอก แววตาเคร่งขรึมทันที เสียงรถตำรวจที่ขับผ่านดังขึ้นข้างหู แต่ไม่สำคัญเท่ากับมีกลุ่มคนสวมชุดดำกำลังถามไถ่ผู้คนอยู่ที่ใต้ร่มไม้

“ทำไมเหรอคะ?” มาดามป๋อมองตามสายตาสามี แต่ไม่เห็นอะไร

คุณป๋อกัดแฮมเบอร์เกอร์ “เปล่า พอดีบ่ายนี้มีเรียน ผมคงไปส่งคุณไม่ได้นะ”

มาดามป๋ออึ้ง ก่อนจะยิ้ม “โอเคค่ะ กินเยอะหน่อยนะคะ” คงเพราะมีเรื่องที่ต้องกังวล เพราะมีคนมองพวกเธอเยอะมาก มื้อนี้จึงต้องเร่งกินกันหน่อย เวลามาดามป๋ออยู่ด้วย คุณป๋อดูสบายๆ แต่พอมาดามป๋อออกเดินทาง เขาก็ต่อสายโทรศัพท์ทันที “มารับจิ่วกลับไปที”

“ครับ บอส” เสียงภาษาอังกฤษสำเนียงบริติชนั่นดึงดูดใจเหลือเกิน ป๋อเสียวจิ่วเคยได้ยินมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับต่างไปจากเดิม เสียงนั่นดูจะกังวลมาก

ห้านาทีผ่านไปโดยประมาณ รถแลมโบกินีคันดำจอดลงตรงหน้าประตูมหาวิทยาลัย มีคนคนหนึ่งเดินลงมา พร้อมถือสิ่งที่คล้ายกระเป๋าเดินทางติดตัวมาด้วย แค่เราจะไม่ใช้มือหิ้วกระเป๋าเดินทางเท่านั้นเอง แถมคนคนนั้นยังสวมสูททักซิโด ทั้งยังสวมถุงมือสีขาว เหมือนพวกผู้ดูแลราชวงศ์ชั้นสูงในภาพยนตร์ แม้เจ้าตัวจะเลยวัย 40 มาแล้ว แต่คนในวัยนี้คนน้อยรายจะสวมได้เท่เหมือนเขา ชายคนนั้นถ่ายทอดความเป็นสุภาพบุรุษออกมาได้อย่างเต็มความภาคภูมิ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถือกล่องขนมเค้กกล่องเล็กอีกด้วย เมื่อเห็นป๋อจิ่วก็ไพล่มือซ้ายไว้ด้านหลัง เอ่ยเสียงเบากลั้วหัวเราะว่า “นายน้อย ผมได้เจอคุณสักที”

ป๋อจิ่วรู้สึกแปลกอยู่บ้างกับคำเรียกดังกล่าว แต่แม้จะเป็นเวลานี้ เธอก็รู้ดีว่าในอนาคตต้องทำงานอะไร เธอกะพริบตา มองดูคนตรงหน้าด้วยท่าทีน่ารัก คุณตาพ่อบ้านหัวใจแทบละลาย ต่างไปจากนายใหญ่จริงๆ นายน้อยเหมือนลูกเสือตัวน้อย เป็นลูกเสือแสนน่ารักเสียด้วย แต่คนเป็นพ่อต่างออกไป กลับดูเหมือนมาเฟียมาตั้งแต่ยังเด็ก

คุณป๋อปล่อยให้ทั้งสองทำความรู้จักกัน รับกระเป๋ามาจากมือคุณตาพ่อบ้าน ก่อนจะเปิดออกดูทันที เพราะเวลานี้คนในมหาวิทยาลัยมีค่อนข้างน้อย ความมหัศจรรย์ของกระเป๋านี้อยู่ตรงที่เราจะเดาไม่ออกเลยว่า เมื่อเปิดออกมาแล้วมันจะมีหลายชั้น ด้านในนอกจากจะมีเสื้อกันลมตัวดำยังมีแล็ปท็อปเครื่องเล็กรวมถึงอาวุธจำนวนหนึ่ง

………………………………………..

 ตอนที่ 1901-4 คุณป๋อและมาดามของเขา

คุณป๋อสวมเสื้อกันลมก่อน จากนั้นจึงหิ้วกระเป๋า เขาที่สวมแว่นตาจะดูสุภาพมาก ไม่เหมือนคนจะไปทำการใหญ่ใดๆ แต่หากทุกคนรู้ว่าเขาถืออะไรไว้ในมือ ย่อมต้องรู้ว่าเขาจะทำอะไร?

เขาก็กำลังจะไปกำจัดพวกแมลงตัวร้ายไง

สำหรับยัยเสือน้อย คุณตาพ่อบ้านย่อมเอากลับไปด้วย โดยนำไปส่งที่บ้านวิลเลี่ยมจูเนียร์ที่น่าไว้ใจมากที่สุด เพราะบ้านนั้นมีชีวิตที่ผูกติดกับหนังและละคร เห็นทุกเรื่องราวเป็นเรื่องธรรมดาจนไม่คิดอะไรมาก

ทั้งนี้คุณตาพ่อบ้านกลับมีมารยาทเหลือเกิน โค้งให้กับวิลเลี่ยมจูเนียร์ “ต้องรบกวนให้นายน้อยอยู่บ้านคุณสักวันล่ะครับ” เล่นเอาเจ้าหนูตาโต เพราะเขาเคยเห็นคนแบบนี้แค่ในหนังที่แดดดี้ถ่ายทำเท่านั้น

ทางด้านยัยเสือน้อยกลับไม่อยากรบกวนคนอื่น แต่รู้ดีว่าพ่อเธอมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ เธอเป็นคนคิดอะไรรอบคอบ เมื่อได้กลิ่นอายที่ต่างไปทุกครั้งที่ผ่านมาก็ปีนหน้าต่างแอบดู

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงดึก พ่อเธอถึงกลับมา คุณป๋อมารับลูกสาวกลับบ้าน อันที่จริงนอกจากบ้านตระกูลฉินแล้ว เขาไม่ไว้ใจให้ลูกอยู่กับใครถึงวันหนึ่งเต็ม ใช่ว่าบ้านอื่นจะไม่ดี แต่พูดตรงๆ บ้านอื่นฉลาดไม่มากพอ

เช่นในเวลานี้ วิลเลี่ยมจูเนียร์ยังดูไม่ออกเลยว่าคุณป๋อได้รับบาดเจ็บที่มือ เพราะเขายังมีท่าทีเหมือนเดิม ไม่ผูกเนคไทให้เรียบร้อย สภาพเหมือนคนเกาะเมียกินเต็มที่ แค่เรียวปากซีดขาวเท่านั้น มีเพียงยัยเสือน้อยที่ดูออกว่าพ่อผิดปกติไป จึงไม่ยอมให้พ่ออุ้ม กลับจูงมือพ่อกลับบ้าน

เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง คุณป๋อก็เกาะต้นไม้ หายใจไม่เป็นปกติ “จิ่ว ลูก…” ทว่ายัยเสือน้อยเก่งมาก แม้จะเป็นเด็กน้อย แต่พอเห็นสภาพคนเป็นพ่อ เธอก็ทรมานใจ ทว่าไม่ตื่นตระหนก

เมื่อเห็นพ่อหมดแรงก็คว้ามือถือออกมาจากกระเป๋าพ่อ ก่อนจะต่อสายถึงคุณตาพ่อบ้าน เธอจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่โทรเรียกคุณตา ตลอดจนคุณตามาถึงบ้าน ไม่เหมือนเด็กห้าขวบทั่วไปจะทำได้เลยสักนิด เว้นเสียแต่มือที่สั่นเล็กน้อย ทว่าศีรษะไม่ได้เงยขึ้นเลย

หลังจากที่คุณตามาถึงก็จัดการทำแผลให้คนเจ็บ อาการบาดเจ็บที่มือยังไม่เท่าไร แต่กระสุนที่ฝังไหล่นี่สิต้องเอาออก ทว่าแม้นายใหญ่จะเดินเองได้ตลอดเส้นทาง แต่ก็ยังหาเวลาต่อสายหาภรรยา หัวเราะเสียงเบาบอกว่า “ท่านจิ่วเหรอ? นั่งเล่นคีย์บอร์ดอยู่ชั้นล่าง วางใจเถอะ ผมจะดูแลลูกให้ดี”

หลังจากวางสาย อาการหอบหายใจก็ปรากฏชัด ตัวเขาร้อนมาก คุณตาจัดยาให้มากมาย เมื่อจัดการบาดแผลเสร็จก็เอ่ยขึ้น “โชคดีที่นายน้อยโทรหาผมทันเวลาพอดี” คุณป๋อพิงอยู่ที่เดิม มีผ้าพันแผลพันที่ไหล่ นัยน์ตาเรียวเลิกขึ้น ฉายบุคลิกความเป็นผู้นำอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครเห็นมาก่อน “ถึงได้บอกว่าลูกเหมาะที่จะมาอยู่ในตำแหน่งฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝีมือหรือสภาพจิตใจ”

………………………………………………….

ตอนที่ 1902-1

ชั้นล่าง ยัยเสือน้อยกำลังจิ้มคีย์บอร์ดตัวเอง เหมือนอยากจะติดต่อมั่วมั่วด้วยคอมพิวเตอร์ของเธอ แต่เมื่อเข้าซอฟต์แวร์ที่ใช้สื่อสารกัน ก็เห็นเวลาที่แสดงออกมา ตอนนี้ที่จีนคงยังไม่สว่าง มั่วมั่วต้องนอนแล้วแน่นอน เสือน้อยชะงัก ก่อนจะเกาหน้าตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองดูชั้นบน

ช่วงนี้พ่อดูลึกลับกว่าเมื่อก่อน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้ามั่วมั่วอยู่ด้วย เขาอาจช่วยเธอวิเคราะห์หาสาเหตุได้ เขาเหมือนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

ยัยเสือน้อยกอดคีย์บอร์ดตัวเอง หันไปดูรูปโปรไฟล์สีเทา ก่อนจะกระตุกหางเสื้อบนตัวเสื้อ พึมพำอย่างยั้งใจไม่อยู่ “มั่วมั่ว ฉันคิดถึงเธอจัง”

เวลานั้นป๋อจิ่วยังเล็กมาก เสียงพูดอ้อนๆ เรียกความเอ็นดูจากผู้คน ลืมเลือนสิ่งที่เจ้าหล่อนซนมหากาฬจนสิ้น

ฉินมั่วเคยถามตัวเองว่ายัยคนนี้มีอะไรดี แต่ดูเหมือนจะตอบไม่ได้

ทว่าไม่มีใครที่เหมือนเธอ

ทว่าหัวใจของเขาจะบรรจุอะไรบางอย่างเต็มไปหมด จนหาที่ว่างไม่ได้

ทว่าแม้ห่างกันครึ่งโลก ภาพเธอกลับลอยอยู่ตรงหน้า

เมื่อมาถึงบ้านเกิด หลังจากที่ฉลองวันตรุษจีนเสร็จ งานเลี้ยงและธรรมเนียมเดิมที่ต้องปฏิบัติก็มีมากอยู่ โดยฉพาะด้วยสถานะที่สูงส่งของตระกูลอานและตระกูลฉินด้วยแล้ว ยิ่งต้องเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อฉลองวันตรุษจีนเสร็จ ฉินมั่วก็ต้องเดินทางไปยังหลากหลายสถานที่มาก ต้องเยี่ยมบ้านท่านนายพลเก่าแก่แต่ละคนที่อยู่ในแดนทหารด้วยกัน ทางจีนตอนเหนือเรียกธรรมเนียมนี้ว่าการไปสวัสดีปีใหม่ ทั้งนี้ตระกูลฉินเป็นคนพวกหัวอนุรักษ์ ให้ความสำคัญกับประเพณีมาก แต่ปีนี้ฉินมั่วไปสวัสดีปีใหม่ตามบ้านต่างๆ อย่างใจลอย เวลาที่เห็นเด็กน้อย เป็นต้องชะงักครู่หนึ่ง กระทั่งเด็กที่ชอบต่อยตีกันในเขตทหารแบบนัดตีกันยังต้องสำรวมท่าทีเมื่อเห็นฉินมั่ว

เพราะเด็กในเขตทหารต่างรู้ดี อย่าเห็นว่าฉินมั่วสุภาพเหมือนเจ้าชายน้อยเชียว เวลาลงมือทีเล่นเอาคนเจ็บกันทั่วหน้า ทว่าฉินมั่วกลับทำเหมือนไม่เห็นพวกเขาที่อยู่ตรงนี้

อะไรกัน? เด็กเหล่านั้นไม่เข้าใจจริงๆ ส่วนเด็กผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาเรียก ‘พี่มั่ว’ เขาก็ยังไม่หันกลับไปมอง ไม่ใช่พฤติกรรมที่แสนมีมารยาทของเจ้าตัวเลย

และในระหว่างที่เด็กๆ ต่างรู้สึกว่าฉินมั่วผิดปกติไป เด็กชายกลับมองพวกนั้น พลางคิดว่ายัยเสือน้อยกำลังทำอะไรอยู่ กินข้าวเป็นปกติหรือไม่ แต่ไม่น่าหรอก เพราะตอนที่เขาจะออกเดินทางก็บอกเธอว่า ถ้าหิวก็ไปเอาขนมที่ห้องเขา นอกเหนือจากนี้ ปกติแล้วน้อยครั้งที่โทรศัพท์ในบ้านจะมีเสียงดัง เขาจึงสั่งน้าจางไว้ว่าหากมีคนโทรเข้ามา ก็ให้บอกเขาด้วย

สถานการณ์ในอินเทอร์เน็ตสงบนิ่ง แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่กลับมีความคิดหนึ่งที่รุนแรงขึ้นทุกที กลัวว่าในช่วงที่เขาไม่อยู่ด้วย เธอจะเล่นสนุกจนลืมเขาเสียสิ้น เพราะเธอชอบเล่นอยู่ด้วย

ช่วงนี้ยัยเสือน้อยอยากออกไปเล่นจริงๆ ล่ะ ทว่าเธอไม่ได้ตอบตกลงไปเที่ยวกับวิลเลี่ยมจูเนียร์ด้วยเหตุผลนี้ แต่เป็นเพราะวิลเลี่ยมจูเนียร์บอกว่าทางคณะถ่ายหนังจะไปสถานที่ที่ขอฮู้กันภัย

ในต่างประเทศยังพอจะมีสถานที่แบบนี้ ที่นั่นมีโบสถ์วิหารทุกประเภท ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าจะไปขอพรพระ ยัยเสือน้อยตอบตกลงโดยไม่คิดเลยทีเดียว

 ………………………………………………….