TQF:บทที่ 559 ออกจากเฉาซาง (1)
“พอก่อน ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดอะไร” ไม่รู้ทำไมฟางซูหยุนไม่ยอมให้ทั้ง 2 เฉลยออกมา
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสัมผัสถึงความรำคาญใจจากสีหน้าท่านย่าได้ ราวกับเจอเข้ากับบางอย่าง จึงถามขึ้น “ท่านย่า เกิดอะไรขึ้นหรือ”
หรือว่า 2 วันนี้ที่โรงเตี๊ยมเกิดบางอย่างขึ้นโดยที่ตัวเองไม่รู้
ไม่ทันที่ฟางซูหยุนจะตอบ ผู้เฒ่าหยิงข้างๆชิงเอ่ยก่อน “คุณหนู ตอนนี้มีคนจำนวนมากคอยสืบหาข่าวของพวกเราอยู่ ขืนเราอยู่ที่นี่ต่อต้องเจอปัญหาแน่ เจ้าของโรงเตี๊ยมเองก็จะพลอยยุ่งยากไปด้วย”
“เกิดอะไรขึ้น” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยังไม่เข้าใจ
หยูเฮงกระพริบตาปริบๆถามงงๆ “พวกเราอยู่โรงเตี๊ยมนี้แล้วไปเกี่ยวอะไรกับคนอื่น ทำไมต้องตามหาพวกเราด้วย”
“ข้างนอกนั่นไม่รู้ว่าใครไปประกาศเรื่องที่เราเป็นคนต่างถิ่น มีเงินทองและสมบัติมากมาย ทำให้มีผู้ฝึกฝนวิทยายุทธนับไม่ถ้วนเข้ามาคอยเสาะหาเรื่องของเราแม้ในยามวิกาล โรงเตี๊ยมนี้แทบจะถูกล้อมไว้หมดแล้ว ทำให้แขกคนอื่นๆในโรงเตี๊ยมไม่พอใจ เจ้าของโรงเตี๊ยมก็เช่นกัน ดังนั้น….”
“นี่มันอะไรกัน…”
ไม่ทันที่ผู้เฒ่าหยิงจะพูดจบ หยูเฮงก็โมโหโทโสแล้ว นางตะโกนลั่น “พวกเราจ่ายหินพลังวิญญาณเพื่อเข้าพักที่โรงเตี๊ยม เขากล้าไม่ยอมให้อยู่รึ นี่มันคนทำมาหากินบ้านอะไร มีลูกค้าแต่ไม่เอารึ นี่มันรังแกกันชัดๆ อย่าให้ข้าต้องโมโห ไม่อย่างนั้นจะทุบโรงเตี๊ยมนี้ให้ราบเป็นหน้ากองไปเลย”
“เอาหน่า โทษเขาไม่ได้หรอก อย่างไรซะก็เป็นพวกเราเองที่ไปเตะตาผู้ฝึกฝนวิทยายุทธพวกนั้นเข้า โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเจ้ากับเสี่ยวเสี่ยวไม่อยู่ ยิ่งทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเข้าไปใหญ่ วนเวียนอยู่แถวโรงเตี๊ยมทั้งวัน กลางค่ำกลางคืนก็ไม่เว้น ทำให้แขกหลายคนเข้าใจผิด เจ้าของโรงเตี๊ยมเองก็ลำบากใจ”
ฟางซูหยุนไม่มีท่าทีตำหนิเจ้าของโรงเตี๊ยม แต่ช่วยอธิบายความลำบากใจของเขา นางพูดจบก็หันไปมองเฉิงเสี่ยวเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว เจ้าคิดว่าอย่างไร”
“มี 2 วิธี พวกเราแอบออกจากเฉาซาง จะได้ไม่ถูกพวกเขารบกวน 2 เราอยู่ที่โรงเตี๊ยม แต่หาซื้อบ้านสักหลัง อยู่สัก 2-3 เดือนค่อยไป” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวบอกอย่างไตร่ตรอง
“จะไปก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ไปหาที่อื่นอยู่ก็ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าหากซื้อบ้านอยู่ที่นี่ ถึงจะไม่คุ้มแต่ก็ใช่ว่าไม่ได้ ตอนจะไปค่อยขายก็จบ แต่ถ้าทำแบบนี้พวกผู้ฝึกฝนวิทยายุทธในเมืองต้องมาหาถึงที่แน่ ถึงตอนนั้นเราไม่ยอมไปเจอใครก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่”
ฟางซูหยุนขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเบา รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง ถ้าหากเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธมาหายังพอเมินได้ แต่หากเป็นผู้ฝึกฝนวิทยายุทธจะทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก หากคนอื่นหามาถึงที่นี่เจอจริงๆจะไม่สนใจไม่ได้ โดยเฉพาะไปเตะตาคนที่นี่เข้าแล้ว คนอื่นยังไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตัวเองต้องไม่ยอมรามือแน่
ยิ่งหากมีการชักจูงจากคนคิดไม่ดี ต้องเห็นย่าหลานทั้ง 3 เป็นเหยื่อให้ล่าแล้วแน่ๆ ตอนนี้จะเลือกทางไหนก็เต็มไปด้วยความยุ่งยาก
“ท่านย่า ที่นี่มีข่าวอะไรน่าสนใจมั้ย” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถาม
ฟางซูหยุนเหล่มองอย่างสงสัย ถามขึ้น “เสี่ยวเสี่ยว เจ้าหมายความว่า?”
“ท่านย่า ข้ารู้สึกว่าที่นี่ไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรให้อยู่ต่อแล้ว เราไปจากที่นี่กันเถอะ ไปที่โถงสาขาวิหารสวรรค์ใกล้ๆก็ยังดี อยู่ที่นี่ไปก็ไม่สงบ ในเมื่อไม่มีเรื่องจำเป็นให้อยู่แล้ว สู้เราไปซะดีกว่า”
“ใช่แล้วฮูหยินฟาง ที่นี่ไม่มีโถงสาขาวิหารสวรรค์ และก็ไม่มีผู้เชี่ยวชาญยันต์วิเศษด้วย เราไปจากที่ไหนดีกว่า ถ้ามีพวกไม่กลัวตายมาหาเรื่องพวกเราจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหรอก”
ตอนนี้หยูเฮงมีพลังระดับจักพรรดิ์อมตะ ไม่กลัวพวกผู้ชายไม่หวังดีพวกนั้นหรอก
“ถูกต้อง ข้าก็คิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้ว โถงสาขาวิหารสวรรค์ที่ระดับล่างสุดก็อยู่ที่อำเภอชั้น 2 ไม่ใช่หรือ พวกเราไปดูหน่อยก็ดี จะได้หาผู้เชี่ยวชาญยันต์วิเศษมาคลายคำสาปให้ท่านย่าด้วย”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเพิ่งพูดจบ ผู้เฒ่าหยิงก็พยักหน้าเห็นด้วย “ฮูหยินฟาง ข้าคิดว่าคุณหนูและหยูเฮงพูดถูก ไปจากที่นี่เถอะ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ไม่สามารถฝึกฝนอย่างสบายใจได้”
“ได้ เมื่อเป็นอย่างนั้นเราก็ไปจากที่นี่กันเถอะ” ฟางซูหยุนตัดสินใจ
“เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเราไป คืนนี้เราเคลื่อนย้ายโดยใช้มิติกัน จะได้ไม่มีใครรู้ตัว” หยูเฮงเสนอขึ้น
“ไม่ดี” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่เห็นด้วย มองตาเฒ่าข้างๆ “ไม่น่าจะมีใครเคยเห็นผู้เฒ่าหยิง พรุ่งนี้ข้า ท่านย่า หยูเฮงจะไปคืนห้องด้วยกัน แล้วเราก็ไปจากที่นี่”
“ทำไม”
หยูเฮงไม่เข้าใจ ผู้เฒ่าหยิงก็เหมือนกัน ฟางซูหยุนก็มองนางด้วยความฉงน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้ม “เราจะพึ่งมิติทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้การพึ่งพามิติจะช่วยลดปัญหาลง แต่ปัญหาก็มีข้อดีของมันอยู่ เรื่องดีและเรื่องร้ายมักจะมาคู่กัน ไม่ลองประสบพบเจอด้วยตัวเองดูก็เสียเที่ยวที่มาผืนดินฉางไห่น่ะสิ”
“อีกอย่าง มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเราถึงจะได้ข่าวคราวต่างๆมากขึ้น ดังนั้น ข้าตัดสินใจว่าจะจากไปท่ามกลางสายตาของทุกคน”
พูดมาถึงตรงนี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ลูบหัวหยูเฮงเบาๆ “หยูเฮง เจ้าต้องปกป้องท่านย่าให้ดีนะ เรื่องอื่นให้ข้าจัดการเอง”
“ได้ ไม่มีปัญหา” หยูเฮงตอบรับเต็มปากเต็มคำ
ฟางซูหยุนยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ
—————————————