จากการหยั่งเชิงก่อนหน้านี้ ผู้ชายเสื้อหนังพอจะจับทางเรี่ยวแรงกำลังของเย่เทียนได้แล้ว บัดนี้เห็นเย่เทียนพุ่งเข้ามา เขาไม่ถอยกลับบุกกลับ ยกแขนขึ้นปัดหมัดของเย่เทียน
แต่ไม่รอให้เขาได้ทำอะไรเพิ่มเติม มือซ้ายของเย่เทียนก็กำเป็นหมัดและจู่โจมเข้าไป
ตู้ม!
ผู้ชายเสื้อหนังรู้สึกแค่เจ็บท้อง ก่อนที่คนทั้งคนถอยหลังไปหลายก้าวอย่างอดไม่ได้
“นายก็แค่เท่านี้นี่หว่า!”
เย่เทียนไม่เลือกที่จะไล่จี้จู่โจมต่อเช่นกัน เขายืนอยู่ที่เดิมจัดแจงตัวให้เรียบร้อยและมองผู้ชายเสื้อหนัง ใบหน้าฉายรอยยิ้มจางๆ
ผู้ชายเสื้อหนังบันดาลโทสะในบัดดล นี่เป็นคำพูดที่เขาใช้แดกดันเย่เทียน คิดไม่ถึงว่าจะโดนย้อนไวขนาดนี้
เขาแค่นเสียงเย็น ใต้เท้าขยับรัวๆ และพุ่งไปจู่โจมเย่เทียน
ไวดุจแสง ดุดันราวสายฟ้า!
เปรี๊ยะ!
นิ้วดุดันราวกรงเล็บพยัคฆ์ราวกับข่วนทะลุมิติ ส่งเสียงทะลวงอากาศแสนน่ากลัวเป็นพักๆ เพื่อพุ่งไปคว้าเย่เทียนอย่างทรงพลัง
แป๊ะ!
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาเห็นผู้ชายเสื้อหนังบุกเข้ามา จึงยื่นมือขวาออกไปด้วยความเร็วแสง ปัดกรงเล็บคมที่ผู้ชายเสื้อหนังจู่โจมมาอย่างแม่นยำ
แต่เหมือนผู้ชายเสื้อหนังจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ส่วนมืออีกข้างกลับฉวยโอกาสนี้จับไปที่แขนของเย่เทียน
แคว่ก!
เมื่อเป็นเช่นนี้ เสื้อผ้าช่วงแขนของเย่เทียนโดนข่วนจนขาด และข่วนเขาจนมีแผลสี่แผล เลือดสีแดงฉานซึมออกมาทันตา
“ซี้ด!”
เย่เทียนอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้ เขารีบขยับฝีก้าวเพื่อดึงระยะห่างออกจากผู้ชายเสื้อหนัง
เขารู้สึกเพียงความเจ็บแสบที่ส่งมาจากแขน จึงอดก้มมองไม่ได้ และได้เห็นแขนที่ราวกับโดนสัตว์ป่าข่วนมา อนาถาจนทนมองไม่ได้
“ไอ้เวรเอ๊ย….”
ตาเย่เทียนกระตุกเล็กน้อย ผู้ชายเสื้อหนังเลียนแบบตัวเองอย่างเห็นได้ชัด แค่ตัวเองบาดเจ็บหนักกว่าเยอะ
“ไอ้หนุ่ม ฉันขี้เกียจจะอยู่เล่นกับนายแล้ว ไปตายซะ!”
ผู้ชายเสื้อหนังแค่นเสียงเย็น ไม่ให้เย่เทียนได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย ห้านิ้วของเขารวมเข้ากันดั่งมีด ฟันเข้าไปที่คอหอยของเย่เทียน
“อยากจะฆ่าฉัน? ยังเร็วไปโว้ย!”
เย่เทียนหรี่ตาลง ยกมือป้องกันมีดมือที่ผู้ชายเสื้อหนังฟันมา ขณะเดียวกันยื่นมือขวาออกไปด้วยความเร็วแสง ต่อยเข้าไปหน้าอกของผู้ชายเสื้อหนังอย่างหนัก
แต่ผู้ชายเสื้อหนังกลับทำเหมือนไม่เห็น ไม่หลบหรือไม่มีทีท่าว่าจะป้องกันเลยสักนิด
ภายใต้ความประหลาดใจของเย่เทียน เจ้านี่ยกแขนซ้ายขึ้นเช่นกันและต่อยเย่เทียนกลับ
เย่เทียนเห็นท่า ไม่ตกใจแต่ดีใจด้วยซ้ำ เขาไม่เชื่อว่าความทนทานของผู้ชายเสื้อหนังจะเท่ากับเซวหมานจื่อ
หน้าอกแลกกับไหล่ ดูยังไงก็ต้องเป็นหน้าอกที่บาดเจ็บหนักกว่า
เย่เทียนเชื่อว่าขอเพียงหมัดนี้โดน อย่างแย่สุดผู้ชายเสื้อหนังก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
ตู้มตู้ม!
เวลานั้นเอง เสียงทุ้มต่ำสองเสียงดังขึ้นติดต่อกัน หมัดของทั้งสองคนต่างกระแทกใส่ตัวอีกฝ่ายอย่างหนัก
เย่เทียนรู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัสตรงไหล่ทันที จนถอยหลังไปหลายก้าวอย่างอดไม่ได้
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่มุมปากเย่เทียนกลับฉายรอยยิ้มสะใจ เขาเงยหน้ามองผู้ชายเสื้อหนังตรงหน้า
เขาเชื่อว่าผู้ชายเสื้อหนังต้องอนาถกว่าเขาแน่นอน!
แต่ภาพที่ตาเห็นกลับทำให้เย่เทียนอึ้งจนคางแทบหลุดออกมา
ไม่มีสาเหตุอื่น อย่าว่าแต่สีหน้าเจ็บปวดเลย ผู้ชายเสื้อหนังไม่แม้แต่จะถอยหลังสักก้าว ราวกับหมัดของเย่เทียนไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด!
“ทำไม? ผิดหวังมากเลยใช่มั้ย?”
ผู้ชายเสื้อหนังหัวเราะเย็นๆ สบจังหวะที่เย่เทียนเสียสมาธิ ก้าวออกไปข้างหน้าฉับพลันและต่อยเย่เทียนอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง
พรวด!
หน้าอกของเขาโดนต่อยอย่างหนักอีกครั้ง เย่เทียนทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารู้สึกหวานในคอก่อนจะกระอักเลือดออกมา
แต่เย่เทียนไม่มีเวลามามัวเจ็บอยู่ จึงรีบถอยหลังออกไป ดึงระยะห่างกันถึงสามเมตรถึงได้ยืนนิ่ง
เขามองผู้ชายเสื้อหนังอย่างระแวง นึกแปลกใจ
ต่อให้เป็นเซวหมานจื่อ ถ้าโดนหมัดเขาเข้าจังๆแบบนั้นก็ต้องมีปฏิกิริยาบ้าง แต่ผู้ชายเสื้อหนังคนนี้กลับแปลกประหลาดมาก ประหนึ่งว่าไม่รู้จักความเจ็บปวด ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เลยสักนิด!
“รู้สึกแปลกใจมากเลยใช่มั้ย?”
อาจเพราะเขาเห็นความฉงนในสายตาเย่เทียน ผู้ชายเสื้อหนังกล่าวเรียบๆ “เห็นแก่ที่นายกำลังจะตายแล้ว ฉันก็ไม่กลัวที่จะบอกนาย ตอนฉันเด็กๆ พ่อของฉันส่งฉันไปเรียนวิชานินจาที่ญี่ปุ่น”
“ฉันคุ้นเคยกับความเจ็บปวดมาตั้งแต่เด็ก แรงแค่นี้ของนายยังไม่หนักเท่าแรงที่ฉันต้องทนตอนฝึกเลย!”
“หืม?!”
เย่เทียนฟังแล้วขมวดคิ้วเป็นปมทันที นัยน์ตาฉายแววตะลึงออกมาจางๆ
หมัดเต็มแรงของตัวเองนี้ ต่อให้ไม่ใช้ชี่ทิพย์แต่อย่างน้อยก็พอจะฝากรอยกำปั้นบนกำแพงปูนได้แล้ว กลับสู้แรงที่ผู้ชายเสื้อหนังต้องเจอตอนฝึกอีกเหรอ?
นี่มันพ่อประสาอะไรกันวะ ถึงใจไม้ไส้ระกำขนาดที่ปล่อยให้ลูกของตัวเองต้องทรมานกับความเจ็บปวดตั้งแต่เด็ก?
“อึ้งมากเลยใช่มั้ย?”
ผู้ชายเสื้อหนังหัวเราะเฝื่อนๆและส่ายหัว “ถ้าฉันบอกนายว่านอกจากการฝึกให้ทนต่อการโจมตีขั้นพื้นฐานแล้ว ฉันยังโดนพ่อแท้ๆโยนเข้าไปในถ้ำของสิ่งมีชีวิตที่มีพิษต่างๆ หิวน้ำต้องดื่มเลือดงูพิษ หิวข้าวต้องจับพวกแมงมุมพิษ ตะขาบพิษมากิน…..”
“หยุดๆๆ นายไม่ต้องพูดต่อไปแล้ว”
เย่เทียนรีบโบกมือ “ฉันรู้ว่านายเป็นโรคจิต ทั้งบ้านนายเป็นโรคจิต”
“บางทีฉันอาจจะเป็นโรคจิตจริงๆ”
ผู้ชายเสื้อหนังยักไหล่ สีหน้าเย็นยะเยือกขึ้นมา “เถ้าแก่หยางเป็นคนพาฉันออกจากบ้านนั้น ทุกสิ่งที่ฉันมีในตอนนี้ล้วนแล้วมาจากที่เถ้าแก่หยางมอบให้”
“เพราะฉะนั้น ในเมื่อเถ้าแก่หยางต้องการให้นายตาย นายก็ต้องตาย!”
สิ้นเสียง ผู้ชายเสื้อหนังก็ไม่พูดมากอีกต่อไป เขาขยับเท้าและพุ่งไปหาเย่เทียนอีกครั้ง
ตู้ม!
เมื่อเห็นผู้ชายเสื้อหนังที่พุ่งเข้ามาอย่างดุดัน เย่เทียนมีสีหน้าอึมครึมลง หมุนเวียนคัมภีร์หวงในร่างอย่างรวดเร็ว พายุโหมออกมาจากตัวในบัดดล และพัดไปรอบๆ
“ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”
ผู้ชายเสื้อหนังกระตุกยิ้มเย้ยหยันมุมปาก ระหว่างที่บุกเข้าไปโจมตีก็เปล่งพลังแกร่งกล้าออกมาเช่นเดียวกัน และพุ่งไปหาเย่เทียนโดยไม่หยุดฝีเท้า
ฟิ้วฟิ้ว!
ภายใต้การห่อหุ้มด้วยกำลังภายใน หมัดของเขาดูจางขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งระเบิดมิติไปแล้ว พร้อมส่งเสียงคำรามอย่างน่าใจสั่น
แป๊ะ!
เย่เทียนในตอนนี้กลัวผู้ชายเสื้อหนังที่ไหน เขายื่นมือซ้ายออกไปฉับพลัน หยุดหมัดของเขาด้วยความแม่นยำ
ขณะเดียวกัน มือขวาของเย่เทียนกำหมัดและต่อยหน้าผู้ชายเสื้อหนังอย่างแรง
ตู้ม!
จมูกของผู้ชายเสื้อหนังเลือดทะลักในบัดดล แต่เขาไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด ประชิดตัวเข้าไปอีกครั้ง ตั้งมั่นจะฉีกเย่เทียนให้เป็นชิ้นๆประหนึ่งหมาป่าหิวโหย
เย่เทียนหัวเราะเย็นๆในใจ จิ้มเท้าเบาๆและกระโจนตัวขึ้นสูง พริบตาเดียวก็ถีบออกไปสามครั้ง เล็งไปที่หัวของผู้ชายเสื้อหนังทั้งหมด
ยังไงซะสมองก็เป็นส่วนสำคัญ ผู้ชายเสื้อหนังรีบถอยหลังไปหลายก้าว ยื่นมือหมายจะป้องกัน
ปึ้งปึ้ง!
ทว่า เขาป้องกันได้แค่สองทีด้วยความทุลักทุเล แล้วก็โดนลูกถีบที่สามของเย่เทียนเข้าที่หน้าอก จนต้องถอยหลังอีกสองก้าวอย่างควบคุมไม่ได้
นาทีต่อมา ไม่รอให้เย่เทียนเผยรอยยิ้ม ผู้ชายเสื้อหนังก็เร่งความเร็ว ใช้ไหล่ชนใส่เย่เทียนอย่างแรง
ปึ้ง!
เย่เทียนไม่ทันระวัง พลันรู้สึกถึงความเจ็บที่หน้าอก และคนทั้งคนกระเด็นกลางอากาศ โดนผู้ชายเสื้อหนังชนไปไกลถึงสามเมตรและกระแทกลงบนรถอย่างแรง…