ตอนที่ 515 ระวัง

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 515

ระวัง

“เอมิล เกว็น….”ขณะนั่งอยู่บนหลังของเอมิลและเกว็น ยี่เจินก็เอ่ยปากเรียกพวกมันด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“เจ้านาย มีอะไรงั้นหรือ”เอมิลที่นั่งอยู่ข้างถามด้วยท่าทีสงสัย พวกมันกำลังจะถึงอยู่แล้วแท้ๆ เจ้านายมีอะไรจะเปลี่ยนใจหรือไม่

“ไอ้นั่น….คือเป้าหมายของเรางั้นหรือ”ยี่เจินถามพลางมองไปที่เกาะกลางน้ำแห่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เป็นเขตอสูรแน่ๆ มันเป็นสถานที่ที่ยี่เจินไม่มีวันคิดเลยว่าจะได้เข้าไป

“ใช่เข้าค่ะ คนที่เราจะมาหาคือราชาของเขตอสูรแห่งนี้เจ้าค่ะ”เกว็นว่าพลางโฉบลงไปที่เขตอสูรอย่างรวดเร็ว

ฟุบ!! ทันทีที่เริ่มเข้าไปใกล้ อยู่ๆก้อนหินขนาดใหญ่ก็ลอยขึ้นมาใส่เกว็นทันที แต่เพราะเกว็นเป็นอสูรธาตุลมที่รวดเร็วมาก และเหมือนนางจะเตรียมตัวเอาไว้อยู่แล้ว ทำให้นางสามารถหลบก้อนหินก้อนนั้นไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

“เจ้านาย หลังจากนี้จะอันตรายสักหน่อยนะขอรับ”เอมิลว่าพลางกระโดดลงจากหลังของเกว็น ก่อนจะกลายร่างกลับไปเป็นอสูรมังกรสีเขียวตามเดิม

ตูม!! กระสุนวายุของเอมิลกระแทกก้อนหินที่ลอยมาจนแตกกระจายกลางอากาศขณะที่เกว็นกำลังบินโฉบหลบก้อนหินที่พุ่งมาเพื่อเข้าไปหาผู้โจมตีให้ได้

เปรี้ยง!! กรงเล็บของเกว็นและอุ้งมือของเอมิลกระแทกเข้าใส่ร่างกายใหญ่โตร่างหนึ่งเข้าอย่างจัง ทำให้ร่างนั้นเซถอยไปด้านหลังนิดหน่อย

“พวกเจ้า”เสียงคำรามของมังกรดินที่โดนเอมิลและเกว็นโจมตีเข้าใส่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างมาก มันกัดฟันรับการโจมตีก่อนจะเหวี่ยงหางของมันกระแทกใส่ร่างของเอมิลเข้าอย่างจังทันที

“ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะมาถึง พวกเจ้ารวมหัวกันล้มข้างั้นหรือ”มังกรดินตนนั้นว่าพลางปล่อยพลังอสูรออกมาเป็นจำนวนมาก ระดับของมันเองก็อยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 4 เหมือนกัน แต่เหมือนพลังจะเหนือกว่าพวกเอมิลอยู่นิดหน่อย

“เปล่า พวกข้าไม่ได้อยากจะล้มเจ้า”เอมิลที่โดนหางโจมตีใส่พูดพลางกอดหางของมังกรดินตนนั้นเอาไว้แน่น

“พวกข้ามีเรื่องต้องให้เจ้าช่วย”เกว็นว่าพลางกดกรงเล็บของตนให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้มังกรดินดิ้นไปมา

“ช่วย? พวกเจ้าขอร้องให้ผู้อื่นช่วยแบบนี้งั้นเหรอ”มังกรดินว่าพลางพยายามดึงหางออกมาจากการจับกุมของเอมิล

“เพราะเจ้าโจมตีมาโดยไม่ถามต่างหาก”เกว็นพูดด้วยท่าทีร้อนรน เพราะบนหลังของนางมีเจ้านายอยู่ด้วย

“ราชาของเขตอื่นเข้ามาบุกเขตของข้าทีเดียว 2 ตนจะให้ข้าคิดอะไรได้อีก”มังกรดินว่าพลางคำรามออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่ทันทีที่เห็นร่างของมังกรดินจูล่งก็เข้าใจทันทีว่าทำไมถึงได้มาขอร้องให้มังกรดินตนนี้ช่วย เพราะบนหลังของมังกรดินตนนี้หาใช่ต้นไม้เหมือนท่านน้ามังกรไม่ แต่กลับเป็นอัญมณีจำนวนมากติดเอาไว้ราวกับเป็นสายแร่อัญมณีไม่มีผิด

“นายน้อย เจ้านี่ไม่ยอมฟังเลย”เกว็นว่าพลางกระพือปีกให้แรงขึ้น เพราะถึงจะโดนเอมิลและเกว็นจับเอาไว้มังกรดินก็ยังพยายามดิ้นไม่เลิก

ตุบ…..จูล่งไม่ได้ตอบ มันเพียงกระโดดลงจากหลังของเกว็นพร้อมกับปล่อยพลังอสูรออกมาให้มังกรดินได้สัมผัส ทันทีที่พลังของอสูรแมงมุมเปิดเผยออกมา เจ้ามังกรดินก็พลันหน้าซีดเผือดหยุดดิ้นในพริบตา

“ข้ามีเรื่องอยากจะขอให้ท่านช่วย ได้โปรดฟังข้าหน่อยได้หรือไม่”จูล่งถามพลางวางมือลงไปที่หน้าผากของมังกรดิน แม้ปากจะบอกว่าขอร้อง แต่พลังที่น่ากลัวจนจิตใต้สำนึกของมังกรดินแทบจะกรีดร้องออกมานั้นไม่เปิดโอกาสให้มังกรดินตอบปฏิเสธเลย แถมหลังจากนั้นมันยังโดนพลังดึงดูดเหล่าอสูรของจูล่งดึงดูดเข้าอีกต่างหาก

“ดะ ได้”มังกรดินว่าพลางขยับตัวมายืนตรงหน้าจูล่งช้าๆ พอเห็นว่ามังกรดินไม่คิดจะขัดขืนแล้ว พวกเอมิลก็ยอมปล่อยมันไปแต่โดยดี

“ขะ ขอบใจ”คนที่ตกใจที่สุดคงจะเป็นยี่เจินอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากเกว็นปล่อยตนลงมายืนกับพื้นได้เสียทีมันก็ได้แต่ขอบใจแล้วยืนอึ้งต่อไปโดยไม่ทราบว่าจะปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างไรดี แค่อยู่ๆลูกน้องของมันก็กลายเป็นอสูรก็ประหลาดใจพอแล้ว ลูกน้องที่ว่าดันพาตนเองมาที่เขตอสูรของผู้อื่นแล้วบุกเข้าไปหาราชาของเขตอสูรอีกต่างหาก

“อย่างที่บอก พวกข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วยพาซาล”เอมิลว่าพลางนำทับทิมเพลิงออกมาให้มังกรดินตรงหน้าดู ทันทีที่เห็นทับทิมเพลิงด้วยตาของพาซาลก็เปลี่ยนไปทันที

“เจ้าไปได้มันมาจากไหน”พาซาลมองทับทิมเพลิงด้วยสายตาเป็นประกายทันที

“เฮ้ เจ้าคงไม่คิดจะฮุบเอาไว้เองหรอกนะ”เกว็นทำหน้าไม่ไว้ใจออกมาทันทีที่เห็นดวงตาของพาซาล เจ้านี่ทำตาเหมือนพ่อค้าอัญมณีไม่มีผิด

“ข้าจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง”พาซาลที่โดนกล่าวหารีบแก้ตัวทันที มันจะไปกล้าทำแบบนั้นต่อหน้าต่อหน้าจูล่งได้อย่างไร พลังของมันมีมากมายขนาดนี้ขืนมันแอบชิงทับทิมเพลิงไปมีหวังตายศพไม่สวยแน่ๆ

“รู้ตัวก็ดี พวกข้ากำลังหาคนเจียระไนทับทิมเพลิงกับอัญมณีอื่นๆอยู่ เจ้าชอบสะสมอัญมณีน่าจะช่วยพวกเราได้”เอมิลว่าพลางกอดอกด้วยร่างมนุษย์ทันที ขืนเจ้าบ้านี่ขโมยอัญมณีหนีไปอีกคงโดนจูล่งเล่นงานแน่ๆ เรื่องนั้นพวกมันไม่สนหรอกแต่ถ้าเจ้านี่ไม่ช่วยเจียระไนให้ก็มีแต่ต้องบินไปอาณาจักรอู๋เท่านั้น

“ได้…”พาซาลตอบพลางมองทับทิมเพลิงด้วยสายตาหลงใหล เจ้านี่มีนิสัยเหมือนน้าไก่ฟ้าอยู่หลายส่วนทีเดียว แต่น่าเสียดายเขตอสูรของมันยังมีของไม่หลากหลายเท่าของไก่ฟ้าหงอนทอง เพราะเขตอสูรของมันเป็นเขตอสูรเดี่ยวๆไม่เหมือนเขตอสูรผาไร้ก้นที่เป็นค่ายกลอสูรที่รวมเขตอสูร 5 เขตเข้าด้วยกันมาเป็นเวลาพันๆปี ทำให้มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายมากกว่าในเขตของพาซาลมากมายนัก

“ทับทิมเพลิงนี่ยังไงก็ต้องทำเป็นทรงรุ้งประกาย แต่คงต้องเผานิดหน่อยเพื่อเพิ่มความเงา”อยู่ๆพาซาลก็พูดออกมาเหมือนกำลังบ่น ก่อนจะนำทับทิมเพลิงเดินหายเข้าไปในเขตอสูรของตนเอง ท่าทางมันจะเริ่มงานทันที ทำให้พวกจูล่งได้แต่รออยู่ข้างนอกเท่านั้นเพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนพาซาลเวลาทำงาน แน่นอนว่าจูล่งใช้ดวงตาสีม่วงเพื่อตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาว่าพาซาลมีท่าทีแปลกๆหรือไม่

“……แปลกจริงๆ ทำไมถึงมีซารา 2 ตนอยู่ที่นี่กัน”ขณะกำลังรอให้พาซาลเจียระไนทับทิมเพลิงอยู่นั้น อยู่ๆเสียงของอสูรตนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากรอบข้างพวกไป๋จูล่ง

“ท่านปู่ ท่านหมายถึงอะไรงั้นหรือ”จูล่งถามพลางมองไปที่มังกรตนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ มังกรตนนั้นมีพลังอยู่ระดับมายาขั้นที่ 8 เป็นมังกรลูกน้องของพาซาล แต่รูปร่างของมันกลับเป็นมังกรที่ดูแก่ชรามาก แถมอายุจริงก็น่าจะแก่มากแล้วเช่นกันด้วย

“เจ้า กับ เจ้าหนูที่ไหล่ของเจ้า”มังกรตนนั้นพูดพลางมองมาที่จูล่ง

“ข้าด้วยหรือขอรับ”จูล่งขมวดคิ้วด้วยท่าทีงุนงง มันทราบอยู่หรอกว่าพี่ตงฟางถูกเรียกว่าซาราในแผ่นดินนี้ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงบอกว่าตนเองเป็นซาราด้วยเล่า

“เจ้าหนู พ่อแม่ของเจ้าได้ดื่มน้ำตาของซาราใช่หรือไม่”มังกรเฒ่าถามพลางหัวเราะออกมา ท่าทางเจ้าหนูนี่จะไม่รู้อะไรเลย

“กิ้ว…”คนที่ตอบไม่ใช่จูล่ง แต่เป็นตงฟางแทน คนที่มอบน้ำตาให้กับไป๋จูเหวินก็คือตัวตงฟางเอง มันจึงยอมรับออกมาตรงๆ

“แสดงว่าใช่จริงๆ”มังกรเฒ่าพูดพลางหลับตาลงช้าๆ

“เพราะแบบนั้นข้าก็เลยเป็นซาราไปด้วยหรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีสับสน การที่บิดามารดาของมันดื่มน้ำตาของซาราทำให้มันกลายเป็นซารางั้นหรือ?

“นั่นเป็นวิธีการของซารา น้ำตาของซาราเหมือนเป็นการส่งต่อพลังของตนเองให้ผู้อื่น พ่อแม่ของเจ้าได้ดื่มมันหลังจากนั้นก็มีเจ้าเป็นลูก นั่นก็คือการส่งต่อพลังของซาราให้กับเจ้า เส้นผมสีขาวนั่นและผิวสีขาวนั่นเป็นเพราะสายเลือดของซาราไม่ใช่หรือ”มังกรเฒ่าตอบพลางจ้องมองรูปร่างของจูล่ง แต่เดิมจูล่งเข้าใจว่าเส้นผมสีขาวและผิวกายสีขาวเช่นนี้เป็นเพราะสายเลือดของท่านย่าแมงมุม แต่พี่ไป๋หลินเองก็ไม่ได้มีเส้นผมสีขาวเหมือนมันเสียด้วย บางทีอาจจะเป็นอย่างที่ท่านผู้เฒ่ามังกรพูดก็ได้

“เจ้าหนู ข้าเห็นว่าเจ้าไม่ทราบเรื่องตนเองเป็นซาราข้าเลยต้องเตือนเจ้าเอาไว้หน่อย เลือดของเจ้ามีผลเหมือนเลือกของซาราตนอื่นๆ มันมอบพลังและความบ้าคลั่งให้กับผู้ที่ได้ดื่ม จงระวังอย่าให้ใครดื่มเลือดของเจ้าเป็นอันขาด”ผู้เฒ่ามังกรว่าพลางจ้องมองไป๋จูล่งด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก เพราะหากมีคนใช้เลือดของซาราก็จะเกิดเรื่องเหมือนตอนอาณาจักรอีมอร์อีก

“ไม่ต้องห่วงหรอกขอรับ ตัวข้าตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยเลือดออกเลย”จูล่งตอบด้วยท่าทีมั่นใจ ด้วยเกราะแมงมุมและความสามารถอื่นๆให้จูล่งไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย เกรงว่าผู้เฒ่ามังกรจะเป็นห่วงเสียเปล่าแล้ว เพราะจะหาคนที่สามารถทำให้จูล่งเลือดออกได้คงยากเต็มที

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น”ผู้เฒ่ามังกรตอบพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ไม่ว่าใครหากเคยได้เห็นความบ้าคลั่งของผู้ใช้เลือดของซาราแล้วก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกหรอก

“กิ้ว…”ตงฟางส่งเสียงออกมาพลางใช้ลำตัวยาวๆของมันรัดแขนของจูล่งเอาไว้แน่น

“ไม่ต้องห่วงหรอกขอรับ ข้าเองก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาเลือดของพี่หรอก”จูล่งว่าพลางยิ้มให้ตงฟางอย่างอบอุ่น พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาตงฟางก็พลันนึกถึงตอนโดนพวกอีมอร์จับตัวเอาไว้รีดเลือดขึ้นมา ทำให้จูล่งเสนอตัวช่วยเหลือออกมา

“กิ้ว”ตงฟางยิ้มออกมาพลางนอนลงบนไหล่ของจูล่งอย่างโล่งใจ สาเหตุที่ทำให้ตงฟางติดจูล่งแต่ทั้งๆที่พลังดึงดูดเหล่าอสูรใช้กับตงฟางไม่ได้ผลอาจจะเพราะเพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพราะจูล่งเป็นผู้มีสายเลือดของซาราเช่นเดียวกับมันก็ได้

“เสร็จแล้ว”ระหว่างกำลังปลอบใจตงฟางอยู่นั้น อยู่ๆพาซาลก็กลับออกมาพร้อมนำทับทิมเพลิงที่เจียระไนแล้วมาให้พวกเอมิลดู สมแล้วที่เป็นอสูรที่สะสมอัญมณีเอาไว้บนหลัง เพียงไม่ถึงชั่วโมงก็เจียระไนทับทิมเพลิงออกมาได้อย่างงดงามอย่างมากแล้ว

“ขอบใจเจ้ามาก ไม่ทราบว่าข้าจะจ่ายค่าตอบแทนอะไรให้ได้บ้าง”ยี่เจินถามพลางมองไปรอบๆ ปกติหากจ้างช่างทำอัญมณีก็ต้องจ่ายค่าจ้าง แต่พอมองไปรอบๆยี่เจินก็ไม่ทราบจะจ่ายพาซาลด้วยอะไรดี เพราะในเขตอสูรแห่งนี้มีแต่ของดีๆที่ยี่เจินหามาไม่ได้ด้วยตนเองเต็มไปหมด

“ตอบแทนงั้นหรือ”พาซาลว่าพลางยิ้มออกมา มันรอคำนี้อยู่แล้ว

“เอาเป็นเศษทับทิมเพลิงพวกนี้ก็แล้วกัน”พาซาลว่าพลางนำเศษของทับทิมเพลิงที่ตัดออกในขั้นตอนการเจียระไนออกมา

“แค่นั้นก็พอแล้วหรือขอรับ”ยี่เจินตอบด้วยท่าทีเกรงใจ การได้ความช่วยเหลือจากอสูรระดับนี้นั้นเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากของยี่เจินเลยทีเดียว

“แน่นอน แค่มีเศษพวกนี้ประดับบนร่างกายข้ามันก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว”พาซาลว่าพลางนำเศษทับทิมเพลิงพวกนั้นติดลงไปบนแผ่นหลังของมันเช่นเดียวกับอัญมณีชิ้นอื่นๆ