บทที่ 2132+2133

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2132 เผยตัวตน

ทุกคนได้แต่คาดเดาอยู่ในใจ รู้สึกว่าอาจเป็นเพราะเจ้าหนุ่มหน้าขาวที่เพิ่งมาใหม่คนนั้นต้องการอาบน้ำ ร่างกายของผู้อื่นบอบบางสูงค่า และเป็นไปได้ว่าจะเป็นสตรี ย่อมไม่อยากให้ผู้ใดเห็นเข้า…

ในเมื่อพูดถึงตี้ฝูอี ย่อมต้องพูดถึง ‘สือโทว’ ด้วย พูดคุยถึงเรื่องหมั้นหมายของพวกเขา

และคุยกันว่าครั้งนี้หัวหน้าเผ่าออกหน้าขับไล่คนให้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ตี้ฝูอีได้อาบน้ำ เห็นได้ชัดเจนยิ่งว่ายอมรับเรื่องหมั้นหมายของพวกเขา ถึงอย่างไร ‘สือโทว’ ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

บรรดาบุรุษนั้นไม่เท่าไหร่ แต่บรรดาสตรีกลับไม่ยินยอม!

‘สือโทว’ เป็นคนรักในฝันของหญิงสาวเหล่านี้ เป็นเป้าหมายที่พวกนางตามเกี้ยวพาสารพัดวิธี ยามนี้พอได้ยินว่า ‘พี่สือโทว’ ผู้เลื่องชื่อมีเจ้าของแล้ว พวกนางย่อมไม่ยินดีอย่างยิ่ง มีความรู้สึกต่อต้านตี้ฝูอีตามสัญชาตญาณ

และไม่พอใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อตี้ฝูอีมีแนวโน้มว่าจะได้เป็น ‘ศรีภรรยา’ ของพี่สือโทว พวกนางคัดค้านความเห็นนี้ บอกว่าพี่สือโทวชอบเพียงสตรี ไม่ชอบบุรุษ ถึงแม้ตี้ฝูอีผู้นั้นจะรูปโฉมหล่อเหลา แต่ก็ยังเป็นบุรุษอยู่ดีอะไรทำนองนั้น…

ขณะที่กำลังโต้เถียงกันอย่างไม่จบไม่สิ้น พลันมีลมพัดมาวูบหนึ่ง คนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า

หลังจากฝูงชนมองเห็นใบหน้าของคนผู้นี้ชัดเจนแล้ว ล้วนโง่งมกันไปครู่หนึ่ง

ผู้มาคือหญิงสาว สวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน รูปโฉมงามพิสุทธิ์ ผิวสีแทนนิดๆ ดูสุขภาพดี ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นก็ทำให้เหล่าสตรีดูหมองลงไปหมด

ที่สำคัญที่สุดคือ ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครรู้จักนางเลยสักคน…

เถี่ยตั้น เถี่ยหนิวรับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย จึงลุกขึ้นมาทันที ปิดล้อมซ้ายขวาของสตรีนางนั้นไว้

“แม่นางคือ?”

หญิงสาวนางนั้นยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง ขณะที่เถี่ยตั้น เถี่ยหนิวรู้สึกว่ารอยยิ้มของนางดูคุ้นตาอยู่บ้าง นางก็เอ่ยขึ้นว่า

“จำข้าไม่ได้หรือ?”

เสียงนางกระจ่างชัด เป็นเสียงที่ทุกคนคุ้นเคย ได้ยินกันจนชิน

ทุกครั้งที่ออกล่าสัตว์ พวกเขาจะได้ยินเสียงนี้สั่งการอยู่เสมอ

‘เคร้ง!’ ดาบเหล็กในมือเถี่ยตั้นหล่นลงพื้นทับเท้าของตน!

เถี่ยหนิวเบิกตากว้างเท่าไข่วัวแล้ว

“พ…พี่สือโทว?”

ฝูงชนตกตะลึง

“พ…พี่สือโทว ท่าน เหตุใดท่านแต่งเป็นสตรีเล่า? หรือ…หรือเป็นเพราะไอ้หนุ่มหน้าขาวที่บอกว่าเขาเป็นคู่หมั้นของท่านคนนั้น?”

เด็กสาวหมายเลขหนึ่งกำเนื้อสัตว์มายาในมือแน่น

“พี่สือโทว คงมิใช่ว่าท่านแต่งกับคนผู้นั้นจริงๆ กระมัง?! ต่อให้ท่านจะแต่งกับเขา ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นสตรีเลย ให้เขาแต่งเป็นสตรีก็ไม่เลวเลยนะ” เถี่ยตั้นกำหมัด รู้สึกเหมือนภาพลักษณ์ไอดอลกำลังพังทลาย

“ขอโทษนะ ทุกคน นางไม่ใช่พี่สือโทวของพวกเจ้า สือโทวสิ้นชีพภายใต้คมเขี้ยวของสัตว์ร้ายมายาตั้งแต่ครึ่งปีก่อนแล้ว แม่นางกู้ท่านนี้ต้องสวมรอยเป็นเขามาโดยตลอด”

เสียงของหัวหน้าเผ่าแว่วขึ้นมาไม่ไกล

ทุกคนตะลึงงัน

ฝูงชนหันกลับไป มองเห็นหัวหน้าเผ่ากับคุณชายชุดม่วงผู้นั้นเดินเคียงกันมา

….

หัวหน้าเผ่าบอกเล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวแก่ทุกคนอย่างชัดเจน ทว่าทุกคนยังรู้สึกราวกับฝันไปอยู่เลย

สายตาซับซ้อนมากมายร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าที่จะเชื่อ พี่สือโทวที่พวกเขาเคารพนับถือมาโดยตลอดเป็นเด็กสาวคนหนึ่งปลอมตัวมา ซ้ำยังสวมรอยได้แนบเนียนถึงเพียงนี้!

แต่พอนึกถึงท่าทางของนางในครึ่งปีมานี้ ก็เชื่ออยู่หลายส่วน

นางไม่เคยอาบน้ำร่วมกับพวกบุรุษเลย ไม่เคยถอดเสื้อเลย ในวันที่ร้อนอบอ้าวยิ่งนักนางก็สวมเสื้อผ้ามิดชิดอยู่ตลอด มีเด็กสาวสารภาพรักกับเขามากมายปานนั้น ล้วนถูกเขาปฏิเสธทั้งหมด…

เมื่อก่อนพวกเขาคิดว่านางมีนิสัยประหลาด ยามนี้ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าที่แท้ผู้อื่นเป็นหญิงสาว…

สายตาที่เหล่าบุรุษมองกู้ซีจิ่วมีทั้งเลื่อมใส มีทั้งไม่เชื่อ แน่นอนว่ามีความรักใคร่ชื่นชมด้วย..

เด็กสาวที่งดงามซ้ำยังมากความสามารถถึงเพียงนี้ต่อให้ส่องโคมหาก็หาไม่เจอ!

————————————————————————————-

บทที่ 2133 ทำให้คู่หมั้นผู้นี้หลงใหลขึ้นอีกหน่อย!

แน่นอนว่าหัวใจของหญิงสาวเหล่านั้นก็แหลกสลายเป็นเสี่ยงแล้ว ชายในดวงใจที่พวกนางเฝ้าใฝ่ฝันที่แท้ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน…ยังมีสิ่งใดที่ทำให้คนสิ้นหวังไปมากกว่านี้อีกหรือไม่?

พวกนางอดมองแล้วมองอีกจากที่ห่างไกลไม่ได้ อยากเห็นว่าอีกสักครู่จะมีพี่สือโทวอีกคนปรากฏตัวออกมาหรือไม่…

ซีจิ่วย่อมเข้าใจความคิดของทุกคนเป็นอย่างดี ทว่าเธอก็ยังคงโล่งใจ

ไม่ว่าอย่างไร ในที่สุดเธอก็กลับมาเป็นตัวเองได้แล้ว

ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตในฐานะสือโทวอีกต่อไป

เมื่อรอให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชนเงียบลง แล้วค่อยๆ ยอมรับตัวตนใหม่ของเธอ เธอจึงเอ่ยปาก

“ทุกคนไม่จำเป็นต้องสงสัยว่าข้าเป็นชายหรือหญิง ยังไงข้าก็เป็นข้า ข้ายังจะปฏิบัติตัวต่อทุกคนเหมือนเดิม คิดหาหนทางพาทุกคนออกจากที่นี่ กลับเข้าไปในเมือง”

ซุ่มเสียงของเธอยังคงเยือกเย็นแฝงพลังที่ทำให้จิตใจคนมั่นคงดังเดิม ทำให้ความคิดที่สิ้นหวังกลัวว่าจะไม่มีทางออกไปได้อีกเพราะ ‘สือโทวตายแล้ว’ ของทุกคนจางหายไปในที่สุด

ใช่แล้ว ไม่ว่านางเป็นใคร อย่างไรนางก็คือนาง นางไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขาอย่างไม่ใยดี!

บางที ‘ดาวนำโชคสือโทว’ ที่พ่อหมอพูดถึงอาจจะหมายถึงนางก็ได้!

เด็กผู้หญิงคนนี้คือปาฎิหารย์!

ทว่าต่อจากนี้ยังมีปาฎิหารย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า หัวหน้าเผ่ายังประกาศฐานะของกู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีตามมาอีก พวกเขาเป็นเซียนจากดินแดนเบื้องบน!

เมื่อประกาศข่าวนี้ออกมาก็เปรียบเสมือนเทน้ำหยดหนึ่งลงในหม้อน้ำมัน ฝูงชนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว!

เดิมทีฝูงชนก็ไม่ค่อยมีความหวังว่าจะออกไปได้หรือไม่ ทว่ายามนี้กลับมีชาวเซียนมาสองท่าน มีชาวเซียนอยู่ พวกเขาจะต้องทะลวงออกไปได้รวดเร็วอย่างแน่นอน

สายตานับไม่ถ้วนจดจ้องบนร่างของกู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอี

หากก่อนหน้านี้ที่ได้ยินตี้ฝูอีบอกว่าเขาคือคู่หมั้นของสือโทว ฝูงชนยังคงคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น ทว่าตอนนี้คนส่วนมากต่างพากันเชื่อหมดใจแล้ว!

ชาวเซียนสองท่าน คนหนึ่งมาก่อน อีกคนมาทีหลัง…

กู้ซีจิ่วดึงตี้ฝูอีมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักอย่างสุภาพ

“เขาคือคู่หมั้นของข้าในดินแดนเบื้องบน มาเพื่อตามหาข้าโดยเฉพาะ”

ตี้ฝูอีกลับนึกไม่ถึงว่านางจะยอมรับตัวตนของเขาต่อหน้าคนอื่นอย่างสุภาพเช่นนี้ หัวใจพลันอุ่นวาบ ทว่าก็ละอายใจในเวลาเดียวกัน

ซีจิ่วเชื่อเขาหมดใจ ปฏิบัติต่อเขาในฐานะคู่หมั้น เขารู้สึกพึงพอใจและกังวลใจอยู่บ้าง

หากวันหนึ่งนางฟื้นคืนความทรงจำ จะเห็นเขาเป็นคนหลอกลวงกระโดดถีบเขาปลิวหรือไม่?

กู้ซีจิ่วย่อมไม่รู้ความคิดซับซ้อนในใจเขา หลังจากแนะนำเขาเสร็จก็บอกแผนการวันพรุ่งนี้ให้เข้าใจโดยทั่วกัน

แผนการนี้เป็นแผนการที่เธอกับตี้ฝูอีหารือกันริมทะเลสาบ ยามนี้เมื่อเธอพูดมันออกมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทุกคนนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะโห่ร้องกันขึ้นมา!

ตามแผนการของกู้ซีจิ่ว ไม่แน่พรุ่งนี้พวกเขาอาจจะออกจากสถานที่ผีสางแห่งนี้ไปได้!

ในที่สุดก็มีทางที่จะยุติชีวิตคนป่าเช่นนี้แล้ว…

นี่เป็นข่าวดีอันยิ่งใหญ่ที่เป็นแรงบันดาลให้ผู้คนได้จริงๆ

พวกเด็กสาวค่อยๆ มีปฏิกิริยาตอบสนอง เด็กสาวคนหนึ่งเริ่มร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน ด้านหลังก็มีเด็กสาวคนอื่นๆ เข้าร่วมด้วย แม้แต่บุรุษเหล่านั้นก็เข้าไปในวงเต้นรำนั้นด้วย บุรุษสตรีร้องรำด้วยกัน กลายเป็นการร่ายรำอย่างสนุกสนาน

กู้ซีจิ่วนั่งย่างเนื้ออย่างตั้งอกตั้งใจอยู่บนหินยักษ์ก้อนหนึ่ง เธองัดฝีมือทั้งหมดออกมาเพื่อย่างเนื้อชิ้นนี้ เธออยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา อยากอวดความสามารถของตัวเองต่อหน้าเขา ทำให้คู่หมั้นผู้นี้หลงใหลขึ้นอีกหน่อย!

เธอส่งเนื้อให้เขาเมื่อย่างเสร็จ

“ลองชิมฝีมือข้าดูสิ”

ตี้ฝูอีรับเนื้อย่างมาไว้ในมือ เงยหน้าขึ้นมองนาง ภายใต้แสงเดือนดวงตาของนางสว่างสุกใสทำจิตใจคนไหวหวั่น

เขากัดไปคำหนึ่งแล้วยกนิ้วชมเชย

“ดีมาก! ฝีมือดี!”

กู้ซีจิ่วแย้มยิ้ม รอยยิ้มของเธอดุจดอกพู่ระหงที่ผลิบานภายใต้แสงดาวแจ่มจรัส แฝงความพึงพอใจและภาคภูมิใจเล็กๆ…

จู่ๆ ตี้ฝูอีก็พบว่ากู้ซีจิ่วในครั้งนี้ดูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอยู่บ้าง

เขาคิดไม่ออกไปชั่วขณะเช่นกันว่าตรงไหนที่แตกต่างไป

ทว่าไม่นานเขาก็รู้ถึงความแตกต่างของนาง…

นางเรียนรู้การปล้นชิงเยี่ยงบุรุษ!

————————–