ตอนที่ 1624 หนูยักษ์แทะกระดูกกลายพันธุ์

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1624 หนูยักษ์แทะกระดูกกลายพันธุ์
ทั้งดาราสวรรค์และตี้เอิ่นต่างหันไปมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้ดวงตาของทั้งคู่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์

เหล่ายอดฝีมือของฝ่ายมนุษย์นี่มันมีแต่ขยะอย่างที่พวกเขาคิดจริงๆ

ดาราสวรรค์จึงตอบกลับไป “ฮุฮุ ข้อเสนอนี้ไม่เลวเลย! แต่พวกเจ้าต้องแสดงความจริงใจออกมาก่อน พวกเจ้าต้องจัดการเจ้าเด็กนี่ลงให้ข้าดูก่อน”

เมื่อสิ้นคำ สีหน้าของทุกคนก็ปรากฏความลังเลขึ้นมาทันที

เพราะพวกเขาทั้งหลายเองก็ไม่ใช่คนโง่งม เย่หยวนในสายตาของพวกเขามีความน่ากลัวที่ไม่แพ้เหล่าปีศาจเลย

การมอบตัวเขาให้แล้วจบเรื่องราว ทั้งสองฝ่ายหันหน้าคุยกันและออกไปช่วยกันตามหาสมบัติ นั่นคือทางออกที่ดีที่สุด

เจิ่งชีเดินออกมาบังหน้าเย่หยวนไว้ในทันทีพร้อมดึงดาบของตนออกจากฝัก เขากล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเหยียบ “ใครที่กล้าแตะต้องเย่หยวนมันต้องข้ามศพชายแก่คนนี้ไปให้ได้ก่อน! เกาหยุน ต่อให้วันนี้ต้องตายข้าก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกัน!”

เกาหยุนหัวเราะและกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น “งั้นเจ้าก็จงถูกกลบฝังไปพร้อมกันกับมันเสียเถอะ! ใครๆ ต่างก็เห็นว่าพวกปีศาจมันแข็งแกร่งและมีจำนวนมากกว่าเราแค่ไหน ทุกคน จงไปจัดการเย่หยวนลงเสีย!”

เจิ่งชีหันไปมองหน้าหลิงจี้คุนและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบ “หลิงจี้คุน แบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน? เรามาเพื่อช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้ากลับตอบแทนเราแบบนี้น่ะรึ?”

หลิงจี้คุนถอนหายใจและตอบสวนกลับไป “พี่เจิ่งชี ตอนนี้เด็กคนนี้มันกลายเป็นเป้าหมายของทุกคนไปแล้ว ทำไมพวกเราจึงต้องยอมสละตัวตายไปพร้อมมันด้วยเล่า? ตราบเท่าที่เราจัดการมันลงเสีย ทุกคนก็จะได้รอดออกไปอย่างปลอดภัย”

หลิงจี้คุนนั้นไม่ค่อยชอบหน้าเย่หยวนมาตั้งแต่แรกแล้ว

หลังจากที่ตอนนี้เขาถูกเกาหยุนต้อนจนมุม พร้อมด้วยถูกสถานการณ์บีบบังคับ เขาจึงเลือกที่จะเปลี่ยนข้างอย่างไม่ลำบากใจมากนัก

แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เย่หยวนต้องแปลกใจก็คือ ตอนนี้กู่ฮั่น ศิษย์ของหลิงจี้คุนกลับพูดขัดขึ้นมาแทน “ท่านอาจารย์ หากไม่มีเย่หยวนแล้วเราจะสามารถลงมายังที่แห่งนี้ได้อย่างไร เมื่อสักครู่นี้เขายังช่วยเหลือพวกเราทั้งหลายไว้ด้วย! ในฐานะเจ้าภาพหากเราตอบแทนบุญคุณด้วยความโหดร้ายเช่นนี้ หากวันนี้มีใครสักคนสามารถรอดกลับไปได้ วันข้างหน้าจะยังมีใครกล้ามาช่วยเหลือเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์เราอีก?”

สิ่งนั้นทำให้หลิงจี้คุนเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที ก่อนที่จะเริ่มลังเลใจขึ้นมา

แต่ก็เป็นเกาหยุนที่พูดขึ้นมาก่อน “เจ้าหนู นี่ไม่ใช่เรื่องที่แกจะมาแส่ได้! หลิงจี้คุนลงมาที่นี่ได้ก็เพราะพวกเราต่างหวังใช้งานกันและกัน! ที่เด็กคนนี้มันพาเราลงมาด้วยก็เพื่อว่าจะได้ใช้กำลังของเราในการต่อสู้ ไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลยสักนิด!”

ตอนนี้หลิงจี้คุนกลายเป็นคนกลางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่กล้าตัดสินใจไปแล้ว

เหล่าปีศาจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามต่างได้แต่มองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง

เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องอะไรที่พวกเขาไม่ได้คิดได้ฝันมาก่อนเลย

ค่ายกลเมฆาปีศาจกลืนกินวิญญาณนั้นทำให้คนฆ่ากัน แต่พวกเขาไม่นึกเลยว่าแม้ไม่ต้องพึ่งค่ายกลพวกเขาเหล่านี้ก็ยังจะทะเลาะกันไม่ขาด

เย่หยวนที่นิ่งเงียบมาตลอดได้เปิดปากพูดขึ้นในที่สุด “หากข้าเป็นพวกเจ้า ข้าคงห่วงเรื่องของตัวเองก่อน!”

นั่นทำให้เกาหยุนหัวเราะขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าคิดจะมาขู่คนแก่อย่างข้าหรือ? วิธีการแบบนี้เจ้ามาหลอกช้าไปแสนปีแล้ว!”

เย่หยวนได้แต่ยักไหล่ให้คำพูดนั้น ดูท่าแล้วเขาไม่คิดจะอธิบายอะไรอีก

แต่ในวินาทีต่อมาก็เกิดเสียงดังแปลกๆ ขึ้นจากรอบด้าน

นั่นทำให้หน้าของทุกคนเปลี่ยนสีไปในทันที พวกเขาทั้งหลายหันหน้าไปมองและภาพตรงหน้ามันก็ทำให้พวกเขาต้องขนลุกชัน

เพราะที่รอบด้านตอนนี้มันมีแต่ความมืดสีดำสนิทเต็มไปหมด พวกเขาทั้งหลายกำลังถูกรุมล้อมด้วยฝูงหนู

หนูพวกนี้มันมีขนาดใหญ่ผิดปกติจากหนูทั่วๆ ไป ที่สำคัญ จำนวนมันยังมีมากมายมหาศาลอีกด้วย

แม้หนูเหล่านี้จะมีพลังไม่มาก มันมีพลังแค่ระดับสัตว์เทวะขั้นสามเท่านั้น แต่ด้วยจำนวนที่มากมายปานนี้มันก็ทำให้ผู้ที่เห็นต้องตกอยู่ในสภาพหมดหวังไปตามๆ กัน

“หนูยักษ์แทะกระดูก! พวกนี้มันหนูยักษ์แทะกระดูก! เรา… เราตกอยู่กลางคลื่นฝูงหนูแล้ว!” เกาหยุนร้องขึ้น

เสียงของเขานั้นสูงแหลมเพราะการตะโกนที่รุนแรงจนเกินไป เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

หนูยักษ์แทะกระดูกนั่นเป็นสัตว์ที่ดุร้าย ทุกที่ที่พวกมันผ่านไปจะกลายเป็นความว่างเปล่า ไม่เหลือแม้แต่หญ้าสักใบ

หากได้เจอกับสิ่งมีชีวิตเข้า พวกมันก็จะกัดแทะจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก ทำให้ได้ชื่อนี้มา

ดวงตาของเหล่าหนูยักษ์แทะกระดูกนั้นส่องสีแดงขึ้นภายในความมืด ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความน่าหวาดกลัวของมัน

ตอนนี้ไม่มีใครที่ไม่ขนลุก พวกเขาต่างรับรู้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามาได้อย่างเต็มที

“จบแล้ว มันจบแล้ว! ข้า… ข้าไม่อยากตายลงที่นี่!”

“เอายังไงดี? ได้ยินว่าหากเจอเข้ากับฝูงหนูยักษ์แทะกระดูกมันจะไม่มีทางรอดได้เลย!”

“ทำไมกัน? ทั้ง ๆ ที่มีพลังงานอัดแน่นมากขนาดนี้ทำไมถึงยังมีสัตว์เทวะสุดแกร่งอย่างหนูยักษ์แทะกระดูกอยู่ได้กัน?”

ตอนนี้ฝั่งมนุษย์นั้นตื่นตระหนกจนไม่เป็นอันทำอะไร

เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังแสดงให้เห็นได้อย่างดีว่าพวกเขานั้นหวาดกลัวแค่ไหน

แต่เย่หยวนกลับพูดออกมาอย่างใจเย็น “ขอให้สนุกกันให้เต็มที่ ตัวนายน้อยคนนี้ขอไม่อยู่เล่นด้วยก็แล้วกัน!”

พูดจบก็เกิดคลื่นมิติขึ้น เย่หยวนดึงตัวเจิ่งชีและคนอื่นๆ บินขึ้นไปบนอากาศทันที

เมื่อทุกคนได้เห็น ดวงตาของพวกเขาก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้า

ดาราสวรรค์และตี้เอิ่นนั้นมองดูเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจอย่างมาก “แนวคิดแห่งห้วงมิติ! เจ้าบ้านี่มันสามารถเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติได้จริงๆ พรสวรรค์ของมันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

ดาราสวรรค์รู้ดีว่าเย่หยวนสามารถปั่นป่วนมิติและเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติได้ไม่น้อย

แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนบินขึ้นไปบนอากาศภายในแรงกดดันอันมหาศาลนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าความเข้าใจในแนวคิดแห่งห้วงมิติของเย่หยวนนั้นสูงมาก

เรื่องแบบนี้จะให้เขามองผ่านๆ ไปได้อย่างไร?

เพราะพวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนเป็นผู้ที่ทำให้ทำนองแห่งยอดเต๋าบรรเลง

และไม่ใช่แค่นั้น เด็กคนนี้ยังมีพลังความรู้ในด้านการโอสถอย่างมากเหลือ และมีความสามารถในการต่อสู้ที่น่ากลัว

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับพวกเขาเลย

เกาหยุนหันไปมองเย่หยวนและกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “จะไปไหน? เรื่องอะไรข้าจะปล่อยเจ้ารอดไปคนเดียว!”

เกาหยุนปล่อยคลื่นพลังออกไปใส่พวกเย่หยวนที่ลอยอยู่กลางอากาศ

แต่คลื่นพลังของเขานั้นกลับทำให้พวกหนูยักษ์มันแตกตื่นขึ้น

แซ่ก! แซ่ก! แซ่ก!

คลื่นหนูจำนวนมหาศาลค่อยๆ ไหลเข้ามากลืนกินผู้คนไป

เกาหยุนนั้นไม่มีเวลาที่จะทันได้โจมตี ตัวเขาถูกกลืนเข้าไปในคลื่นหนูยักษ์เสียแล้ว

หากเป็นเวลาปกติ เขาสามารถเข้าออกคลื่นพวกนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น

แต่ตอนนี้ด้วยพลังบ่มเพาะที่ถูกกดดันไว้ พลังฝีมือของเขาจึงตกลงไปมาก

เมื่อต้องมาเจอกับหนูยักษ์แทะกระดูกในสภาพแบบนั้นเขาจึงลำบากไม่น้อยเลย

เล็บของเจ้าหนูยักษ์แทะกระดูกนั้นคมกริบ ที่สำคัญหนังและขนของพวกมันยังหนาอย่างมาก

ต่อให้พวกมันออกมาแค่ตัวเดียวก็มาพอที่จะจัดการกับยอดฝีมืออาณาจักรบรรพชนพระเจ้าได้ง่ายๆ ไม่ต้องนึกเลยว่าด้วยจำนวนขนาดนี้พวกมันจะน่ากลัวแค่ไหน

“บุกทะลวงเข้าไปในทีเดียว! หากเราถูกมันล้อมไว้เราตายแน่นอน!” เกาหยุนตะโกนสั่งทุกคน

ตอนนี้เกาหยุนใช้คลื่นฉีอย่างเต็มแรงและพยายามพุ่งทะลวงคลื่นเข้าไป

พลังของเขานั้นแข็งแกร่งมาก นั่นทำให้คนที่เหลือต่างพยายามตามเขาออกไปอย่างไม่ได้นัดหมาย มุ่งหน้าเข้าสู่คลื่นสีดำสนิทนั้น

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือเผ่าปีศาจเองก็ไม่ได้สนใจพวกมนุษย์อีกต่อไปแล้ว พวกเขาเองก็ต้องทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อต้านฝูงหนูยักษ์แทะกระดูก

แต่ไม่นานนัก พวกเขาก็ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกไป

เพราะหนูยักษ์แทะกระดูกพวกนี้มันไม่ใช่หนูยักษ์แทะกระดูกธรรมดาๆ

หนูยักษ์แทะกระดูกพวกนี้มีสนามพลังอยู่ในร่าง แถมพวกมันยังสามารถสื่อสารและประสานงานกันได้จากระยะไกล ทำให้ย่างเท้าแต่ละก้าวของเหล่านักยุทธเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

“พวกมันเป็นหนูยักษ์แทะกระดูกกลายพันธุ์! มันจบแล้ว เท่านี้ทุกสิ่งอย่างมันก็จบกันแล้ว!” เสียงหนึ่งพูดตัดพ้อ

จึก!

เล็บคมๆ ของมันตัดผ่านลำตัวของนักยุทธ

หลังจากนั้นก็มีฝูงหนูอีกมากรุดเข้ามายังร่างของเขา ไม่นานเสียงของเขาก็เงียบลง

ที่ด้านล่างนั้นกลายเป็นทะเลเลือด แต่เย่หยวนกลับบินไปเรื่อยๆ อย่างสบายอารมณ์

ตอนนี้ยิ่งเจิ่งชีก้มหน้ามองไปลงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบเจอแต่ความสยดสยองมากขึ้นเท่านั้น

เพราะฝูงหนูเหล่านี้มันไม่มีสิ้นสุด

ในระยะเวลาที่พวกเขาบินมานี้ เจิ่งชียังไม่เห็นเลยว่าจุดสิ้นสุดของคลื่นฝูงหนูเหล่านี้มันอยู่ที่ไหน