ตอนที่ 837

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“พวกเจ้ากล้ามากที่บุกเข้ามาในที่ของพวกข้า จงออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” หญิงสาวทั้งห้าคนกรีดร้องออกมาพร้อมกัน ทันใดนั้นพลังปราณที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกปลดปล่อยออกมา ทำให้จู่เสวี่ยนเอ๋อและเจ้ากระต่ายเริ่มตัวสั่นเทา ส่วนเจ้าหนูทองคำนอนหงายทองและขาทั้งสี่ข้างชี้ขึ้นไปในอากาศเหมือนกับแกล้งตาย

ฮูหนิวรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีและตะโกนว่า “แล้วถ้าหนิวไม่ออกไปล่ะ พวกเจ้าจะทำอะไร?”

“รนหาที่ตาย!” พวกนางยกหอกขึ้นไปแล้วชี้ไปที่ฮูหนิว พร้อมกับจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดที่แผ่กระจายออกมาทำให้บรรยากาศราวกับถูกแช่แข็ง

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง พลังปราณของพวกนางแข็งแกร่งกว่าหม่าตั๋วเป่าซะอีก!

นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? หม่าตั๋วเป่าเป็นถึงรูปแบบอาคมสังหารที่หนึ่ง แม้กระทั่งตัวตนระดับพระเจ้าก็สามารถต่อกรด้วยได้ ในทางทฤษฎีแล้ว เขาควรเป็นตัวตนไร้พ่ายของโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม พลังปราณที่พวกนางปลดปล่อยออกมามันกลับเหนือกว่าหม่าตั๋วเป่าเสียอีก ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้เพียงแค่อย่างเดียว

พระเจ้า!

แม้ว่าตัวตนระดับพระเจ้าจะลงมาเบื้องล่างพลังของพวกเขาจะถูกสะกดเอาไว้ และไม่มีทางที่พวกนางจะมีพลังของพระเจ้า

แปลกมาก! นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก!

หลิงฮันจับมือฮูหนิวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราจะออกไปจากที่นี่ทันที”

พวกหลิงฮันเริ่มเดินออกไปตามทางที่เดินเข้ามา รวมถึงผู้คนที่เข้ามาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างถูกขับไล่ออกมา แม้แต่ฉัวชี่ฟงและหม่าตั๋วเป่าก็ไม่มีข้อยกเว้น

กล่าวอีกนัยคือ แม้จะมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวก็ยังออกมาแต่โดยดี นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทหารหญิงพวกนั้น

เรื่องที่น่ากลัวกว่านั้นคือ พวกนางเป็นแค่ทหารไม่ใช่คนที่มีอำนาจสูงสุดบนเรือ!

“พี่หม่า แม้แต่ท่านก็ยังไม่อาจต่อกรด้วยได้?” หลิงฮันถามหม่าตั๋วเป่า

หม่าตั๋วเป่ายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะเอาแต่มองโลกจากด้านบน โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นต่ำต้อยแค่ไหน”

มันเป็นเช่นนั้นได้ยังไง?

ความแข็งแกร่งของเขาควรจะอยู่บนจุดสูงสุดมนุษย์ และเป็นเรื่องยากมากที่จะหาใครที่สามารถเทียบกับเขาได้ นอกจากเอาจำนวนเข้าสู้

“พวกนางไม่ใช่คนจริง แต่เป็นเพียงแค่จิตวิญญาณที่กระจัดกระจาย” หอคอยน้อยกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ว่าไงนะ!

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง สตรีห้าคนที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ไม่ใช่คน? ถ้างั้นพวกนางเป็นผีอย่างนั้นรึ?

“ตามความเข้าใจของเจ้าจะเรียกพวกนางว่าผีก็ย่อมได้” หอคอยน้อยสัมผัสได้ถึงความคิดของหลิงฮัน “หลังจากที่ตาย พวกนางมีจิตวิญญาณอันแรงกล้า ด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าของพวกนางทำให้ก่อเกิดเป็นวิญญาณพวกนั้นขึ้น”

“แต่พวกนางก็แทบจะไม่แตกต่างจากคนจริงๆเลย และดูเหมือนจะมีสติปัญญาเป็นของตัวเองด้วย” หลิงฮันกล่าว

“นั่นคือสัญชาตญาณของชีวิต” หอคอยทมิฬกล่าว “ถ้าเจ้าไม่เชื่อ เจ้าจะเข้าไปถามชื่อของพวกนางก็ย่อมได้ แม้วิญญาณจะคงอยู่ แต่ความทรงจำนั้นได้เลือนหายไปหมดแล้ว”

หลิงฮันเค้นเสียงและพูดว่า “แล้วข้าสามารถถูกพวกนางสังหารได้หรือไม่?”

“พวกนางไม่มีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก เพียงแค่พูดจาข่มขู่เจ้าเท่านั้น แต่ไม่อาจตบตาข้าได้ แล้วจะร้ายเจ้าได้อย่างไร?” หอคอยน้อยเริ่มพูดจาโอ้อวดอีกครั้ง

หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งและพูดว่า “พี่หม่า ท่านจะเข้าไปข้างในอีกครั้งหรือไม่?”

“โอ้ว น้องชายตัวดำ เจ้ามีแผนการอะไรดีๆอย่างนั้นรึ?” หม่าตั๋วเป้ากล่าว

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ข้าไม่เข้าไปด้านในจะไปรู้ได้อย่างไร”

“ก็จริง” หม่าตั๋วเป่ากล่าว ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของหลิงฮัน แต่เชื่อในตัวหลิงฮัน

ราชันทั้งแปดคนมองหน้ากันไปมา และติดตามหม่าตั๋วเป่าไป แม้ว่าทหารหญิงที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นคนขี้ขลาด แต่มันเป็นเพราะช่องว่างระหว่างพวกเขากับทหารหญิงเหล่านั้นกว้างใหญ่เกินไป หาสู้มีแต่จะรนหาที่ตาย

แต่พวกเขาก็สาบานว่าจะตายไปพร้อมกับจักรพรรดิของพวกเขา

เมื่อเห็นพวกหลิงฮันกลับเข้าไปในเรืออีกครั้ง อู่เกาเหยียนและคนอื่นๆจึงมองหน้ากันไปมาก่อนที่จะตามเข้าไป อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้นพวกเขาที่ตามอยู่ด้านหลังก็สามารถหนีออกมาได้ทันที และถ้าเจอสมบัติ พวกเขาก็สามารถฉกฉวยได้เช่นกัน

ไม่นานหลังจากที่เข้าไปในลำเรือ ทหารหญิงทั้งห้าคนก็ปรากฏออกมาให้เห็นอีกครั้ง

“พวกเจ้ากล้ามากที่บุกเข้ามาในที่ของพวกข้า จงออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” ทหารหญิงคนหนึ่งคำรามและมีท่าทางไม่ต่างไปจากก่อนหน้านี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้หลิงฮัน หม่าตั๋วเป่าและคนอื่นๆรู้สึกว่ามันแปลก

ปฏิกิริยาของพวกนางทั้งห้าคนยังคงเหมือนกับก่อนหน้านี้ นี่เป็ฯเรื่องที่แปลกมาก

ดังที่หอคอยน้อยพูด พวกนางทั้งห้าคนเป็นเพียงแค่จิตวิญญาณอันแรรงกล้าก่อนที่จะตายเท่านั้น พวกนางไม่มีความทรงจำอะไรเลย และไม่มีทางจำได้ด้วยว่าก่อนหน้านี้พวกเขาก็เข้ามา

ยิ่งไปกว่านั้น เรือลำนี้ชนเข้ากับรอยแยกของมิติ แต่พวกนางยังคงเดินลาดตะเวนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลิงฮันโจมตีออกไปด้วยปราณดาบใส่หญิงสาวคนหนึ่งทันที

“รนหาที่ตาย!” หญิงสาวคนนั้นตอบโต้ด้วยหอกทันที

พลังที่นางปลดปล่อยออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวมาก แม้แต่หม่าตั๋วเป่าก็ยังหวั่นเกรง ด้วยสัญชาตญาณของจอมยุทธ พวกนางจะรอความตายได้อย่างไร? ด้านหลังพวกเขา อู่เกาเหยียนและคนอื่นๆเผยรอยยิ้มที่เย้ยหยันออกมาเมื่อเห็นหลิงฮันกล้ายั่วยุพวกนาง เขารนหาที่ตายของตัวเองจริงๆ แม้จะมีกายหยาบเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับสิบก็ไม่มีทางต่อกรตัวตนอย่างพวกนางได้

หลิงฮันยังคงยืนตัวตรงไม่ไหวติ่ง

ตู้ม เมื่อทหารหญิงคนนั้นกระโจนเข้าหาหลิงฮัน ร่างของนางทะลุผ่านร่างกายของเขาไป และวิ่งไปที่ราชันทั้งแปดคนที่อยู่ด้านหลังของเขา ทั้งยังทำให้อู่เกาเหยียนและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังแทบจะวิ่งหนีออกไปในทันที สมองของนางมีปัญหาหรือเปล่า? นางกำลังจะฆ่าพวกเขาด้วย?

“นี่เป็นเงาอย่างนั้นรึ?” หม่าตั๋วเป่ารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นร่างของทหารหญิงทะลุผ่านร่างกายของหลิงฮันราวกับไม่มีตัวตนอยู่จริง

“ผี” หลิงฮันพูดคำคำหนึ่งออกมา

หม่าตั๋วเป่าส่งเสียงหัวเราะ แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อเรื่องพวกนั้น และจ้องมองไปที่ทหารหญิงสี่คนที่เหลืออยู่และพูดว่า “หรือว่าพวกนางจะเป็นตัวตนระดับพระเจ้า? แม้จะตายไป แต่จิตวิญญาณก็ไม่ดับสลาย เพียงแค่พลังปราณของพวกนางก็สามารถทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวได้”

ถ้าหลิงฮันไม่พิสูจน์ให้เห็น ใครจะเชื่อว่าพวกนางเป็นแค่จิตวิญญาณ และไม่สามารถทำอันตรายใครได้

“ออกไปจากที่นี่!” ทหารหญิงอีกสี่คนตะโกนและโจมตีออกไปพร้อมกัน แต่พวกนางก็ไม่สามารถทำอะไรได้

แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลิงฮันก็รู้สึกปวดหัวและอดที่จะถามหอคอยทมิฬไม่ได้

“เนื่องจากพวกนางเป็นจิตวิญญาณของคนตายเลยส่งผลต่อจิตวิญญาณของเจ้า และจะคอยรังควานเจ้าทำให้เจ้าปวดหัวเท่านั้น” หอคอยน้อยทมิฬ

โชคดีที่เรือไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักและน่าจะใช้เวลาสำรวจไม่นาน ไม่เช่นนั้นคงจะถูกพวกนางคอยรังควานไม่รู้จัก