ตอนที่ 518 น่าเชื่อถือ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 518

น่าเชื่อถือ

“ท่านโดรัน ไม่ทราบว่าแหวนวงนี้สมควรประมูลราคาเท่าไหร่”เพิร์ลถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ มันแทบจะรอดูฉากต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ระ เรื่องนั้น….”โดรันอึ้งไปพลางมองไปที่แหวนกลางเวที มันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเอาแหวนที่มันเป็นคนเจียระไนเพชรตรงกลางให้ออกมาประมูลหลังจากประมูลแหวนทับทิมเพลิงที่ตนพึ่งเสียโอกาสไป

“ตัวเพชรเป็นฝีมือของข้าน้อยเองขอรับ เนื่องจากเป็นเพชรสีดำหายาก ข้าน้อยจึงตั้งใจเจียระไนเป็นพิเศษ ทั้งเหลี่ยมมมุมและรูปทรงทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบขอรับ”โดรันพูดพลางเหลือบมองไปที่แหวนบนเวที

“ในสายตาข้าน้อยแหวนวงนั้นมีค่าเสียยิ่งกว่าทับทิมเพลิงเสียอีก”โดรันว่าพลางก้มหัวลงน้อยๆ มันกำลังพยายามคิดในแง่ดี บางทีเพิร์ลอาจจะนำเครื่องประดับฝีมือของมันมาประมูลในราคาแพง เพื่อบอกให้โลกรู้ว่าผลงานของมันเป็นผลงานล้ำค่าที่เหนือกว่าทับทิมเพลิงก็ได้ แม้จะไม่ได้เป็นตัวเงิน แต่หากผลงานถูกประมูลในราคาสูงชื่อเสียงของช่างฝีมือที่ทำออกมาก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

พรึบ! ยังไม่ทันได้เริ่มประมูล อยู่ๆแสงไฟก็ส่องลงมายังที่นั่งพิเศษของพวกเพิร์ลทันที แสงไฟที่ส่องลงมานั้นปะทะเข้าที่ร่างของโดรันที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเพิร์ลและรูบี้พอดี

“ก่อนจะเริ่มประมูลผลงานชิ้นต่อไป ข้าน้อยจะขอแนะช่างฝีมือผู้ลงมือเจียระไนอัญมณีบนแหวนวงนี้เสียก่อน”พิธีกรบนเวทีพูดพลางผายมือขึ้นมาทางห้องพิเศษเหมือนกำลังจะแนะนำแขกผู้มีเกียรติ เมื่อเห็นเช่นนั้นโดรันจึงยืนขึ้นให้ผู้คนได้เห็นชัดตา ท่าทางงานนี้จะเป็นการกล่าวเพิ่มพูนชื่อเสียงของมันกระมัง

“อย่างที่ทุกท่านเห็น ช่างฝีมือที่สามารถเจียระไนเพชรสีดำได้งดงามเช่นนี้คือช่างทำอัญมณีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังนามว่าโดรันผู้นี้นี่เอง”พิธีกรว่าพลางฉายภาพโดรันขึ้นจอใหญ่บนเวทีทันที ทำเอาโดรันเองยังรู้สึกประหม่าเพราะเทคโนโลยีการฉายภาพเช่นนี้ยังเป็นของใหม่มาก ในอาณาจักรไชน์มีไม่กี่แห่งเท่านั้น

“ด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยม ท่านโดรันได้เจียระไนอัญมณีจำนวนมากออกมาให้พวกเราได้ยลโฉม แต่ละชิ้นงดงามและดูล้ำค่าเสมอ แต่…”อยู่ๆพิธีกรก็หยุดพูดไป ก่อนจะหันไปมองทางโดรันด้วยสายตาดูถูกแทนที่จะเป็นการชื่นชม

“ช่างฝีมือท่านนี้ได้กระทำเรื่องไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งลงไป ทำให้ผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ต้องหมองค่าลงด้วยชื่อของผู้สร้างมันขึ้นมา ชายคนนี้โกหกสมาคมช่างฝีมือ ใส่ความผู้นำทับทิมเพลิงมาจ้างมันเจียระไนว่าไม่ยอมจ่ายค่าจ้างและยังดูถูกเหยียดหยามตัวช่างฝีมือ แต่ความจริงนั้นกลับตรงกันข้าม ช่างฝีมือผู้นี้เกิดความโลภ เลยจะขอซื้ออัญมณีที่องค์ชายพึ่งจะประมูลซื้อไปด้วยราคา 170 ล้านเหรียญทองในราคาเพียง 1 แสนเหรียญทองเท่านั้น เมื่อพ่อค้าผู้ครอบครองทับทิมเพลิงไม่ยอมขาย ช่างฝีมือผู้นี้ก็ตัดสินใจจะแย่งทับทิมเพลิงไป แต่ก็ทำไม่สำเร็จ”ได้ยินสิ่งที่พิธีกรพูดออกมาโดรันก็สะท้านวาบ แสงไฟที่คิดว่ากำลังส่องลงมาเพื่อเชิดชูตนเองยามนี้กลับร้อนจนแสบหน้าไปหมด ส่วนเหล่าช่างฝีมือที่ได้รับจดหมายเวียนต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยท่าทีตกใจ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ในสมาคมช่างฝือ

“ซ้ำร้าย พอไม่ได้อัญมณีตามที่ต้องการ ช่างฝีมือผู้นี้กลับโกหก และป้ายสีพ่อค้าผู้นั้นและยังใช้เรื่องแต่งขอร้องให้ทางสมาคมไม่รับซื้อสินค้าจากพ่อค้าคนนั้นอีก ทั้งๆที่ตนเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ เอาล่ะท่านทั้งหลายผลงานของช่างฝีมือผู้นี้ยังงดงามอยู่อีกหรือไม่”เมื่อพิธีกรพูดจบเหล่าผู้ร่วมงานและช่างฝีมือที่มาเป็นผู้ช่วยต่างก็หันไปพูดคุยกันจนเสียงดังไปทั้งห้องประชุม ส่วนใหญ่ต่างก็กำลังถกกันว่าโดรันทำแบบนั้นจริงหรือไม่ ทำเอาโดรันที่โดนฉายภาพประจานอยู่นั้นเดือดจนระเบิดออกมา

“เจ้ากล่าวหาข้าเช่นนี้ได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องมีคนใส่ความข้าแน่ๆ”โดรันว่าพลางมองไปทางพวกยี่เจิน

“เจ้า ต้องเป็นเจ้าแน่ๆ เพราะข้าไม่ยอมเจียระไนให้เจ้าฟรีๆ เจ้าก็เลยสร้างเรื่องโกหกออกมาสินะ”โดรันชี้นิ้วไปทางยี่เจินที่นั่งอยู่ชั้นล่างพอดี หรือว่าเจ้ายี่เจินนั่นจะมีเส้นสายอยู่ในงาน ก็เลยทำแบบนี้กัน

“เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงขอรับ ข้ารับรองได้”ไป๋จูล่งตอบพลางยืนขึ้นมาช้าๆ ตัวมันจ้องไปทางโดรันด้วยท่าทีไม่สะทดสะท้าน

“เจ้าบอกว่าจริงก็จริงหรือไง”โดรันว่าพลางทุบระเบียงของห้องพิเศษเข้าอย่างจังแสดงให้เห็นถึงความเดือดดาลของมันอย่างมาก

“ข้าไม่โกหกหรอกขอรับ”จูล่งตอบด้วยท่าทีหนักแน่น หากเป็นคนรู้จักจูล่งก็คงเชื่อว่าจูล่งไม่โกหกอยู่แล้ว แต่…

“เจ้าบอกว่าไม่โกหกก็ต้องเป็นความจริงหรือไง อย่าบอกนะว่าเรื่องทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเพราะเรื่องโกหกจากปากเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแค่คนเดียว”โดรันหัวเราะออกมาพลางส่ายหน้าช้าๆ

“น่าเสียดายนะที่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้นเป็นคนที่ข้าเชื่อ”เพิร์ลพูดออกมาพลางเดินมายืนอยู่ข้างๆโดรัน

“ทะ ท่าน….”โดรันเหมือนจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าจริงๆแล้วคนที่เข้าข้างจูล่งคือใคร แต่ทำไมกัน..

“จูล่ง เอาสิ่งที่น้าให้ออกมาสิ”เพิร์ลพูดพลางยิ้มกว้างออกมา ทำให้ไป๋จูล่งนำเข็มกลัดสีทองออกมาจากมิติส่วนตัว ทำเอาเหล่าคนรอบข้างส่งเสียงฮือฮากันอย่างมาก

“จะ เจ้าเป็นคนของตระกูลโรซารี่งั้นหรือ”โดรันสะท้านวาบ ตอนที่พบกันที่ร้านมันมองจูล่งเป็นลูกน้องของยี่เจินเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นคนของตระกูลโรซารี่แบบนี้ ไม่สิ เข็มกลัดเป็นสีทอง แถมตัวเพิร์ลยังแทนตัวเองยามพูดกับเด็กคนนั้นว่า น้า อีกต่างหาก

“มันเป็นลูกชายของสหายข้า และ เป็นเหมือนหลานชายข้าเช่นกัน”เพิร์ลตอบคำถามในใจของโดรันช้าๆ พลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสะใจ แต่ดูเหมือนแค่นั้นจะไม่พอสำหรับเพิร์ลนี่สิ

“จูล่ง ทำไมเจ้าไม่บอกชื่อเต็มของเจ้าให้ทุกท่านได้ฟังหน่อยเล่าว่าเจ้านั้นเป็นใครและมีความน่าเชื่อถือพอหรือไม่”เพิร์ลว่าพลางยิ้มออกมา แม้การที่จูล่งเป็นบุตรชายของใครจะไม่ได้ช่วยให้พิสูจน์ว่าโดรันทำผิดหรือไม่ แต่ความน่าเชื่อถือของเด็กที่ไหนก็ไม่ทราบ กับบุตรชายของวีรบุรุษผู้ช่วยเหลืออาณาจักรไชน์นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

“ชื่อเต็ม? ท่านน้าหมายถึงชื่อ ไป๋จูล่ง ของข้าหรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีงุนงง ชื่อตระกูลไป๋ไม่ใช่ว่าจะไม่มีซ้ำที่อื่น แต่หากบอกว่าจูล่งเป็นบุตรชายสหายของเพิร์ลที่มีชื่อสกุลว่าไป๋นั้น คนทั้งหอประชุมก็นึกออกแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

“………”ยามนี้คนที่อึ้งที่สุดคงเป็นโดรันและยี่เจินเป็นแน่ บุตรชายของไป๋จูเหวิน วีรบุรุษผู้เป็นดั่งพระเจ้าผู้คุ้มครองอาณาจักรไชน์คนนั้นนะหรือ

“คุณชาย เรื่องทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่ท่านพบเห็นด้วยตนเองงั้นหรือ”อยู่ๆชายชราคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาพลางเดินเข้าไปถามจูล่งด้วยท่าทีนอบน้อม

“ขอรับ ข้าไม่โกหกอยู่แล้วขอรับ”จูล่งตอบพลางกะพริบตาปริบๆ ตัวมันก็ไม่มีหลักฐานอะไรหรอก เพราะเรื่องตอนนั้นมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป

“เช่นนั้นทางสมาคมของเราจะตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ต้องขออภัยที่พวกเราไม่ตรวจสอบให้ดีทำให้ท่านได้รับผลกระทบเช่นนี้”ดูเหมือนชายชราคนนั้นจะเกี่ยวข้องกับสมาคมช่างฝีมือแน่ๆ ทำเอาโดรันไม่ทราบว่าจะทำเช่นไรดี ทันทีที่รู้ว่าเจ้าเด็กที่ตนคิดจะชิงทับทิมเพลิงคือใคร สิ่งที่โดรันคิดจะเถียงออกมาก็ถูกกลืนลงคอไปทันที

“ข้าไม่อาจบังคับให้ทุกท่านเชื่อได้ แต่ข้าเชื่อว่าหลานชายของข้าผู้นี้ไม่ใช่คนที่จะโกหกเรื่องเช่นนี้”เพิร์ลประกาศพลางมองไปทางพิธีกรบนเวที เมื่อได้รับสัญญาณพิธีกรบนเวทีก็รีบคว้าไมค์โครโฟนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“เอาล่ะทุกท่าน ในเมื่อเรื่องของช่างฝีมือที่ทำเครื่องประดับชิ้นนี้ออกมาได้รับการยืนยันแล้ว”เสียงของพิธีกรที่ดังผ่านไมค์โครโฟนออกมาดึงความสนใจของทุกคนกลับไปที่เวทีทันที พวกมันเกือบลืมไปแล้วว่ากำลังประมูลผลงานของโดรันอยู่

“หลังจากนี้เราจะมาเริ่มประมูลแหวนประดับเพชรสีดำอันล้ำค่าวงนี้กันเลยดีกว่า”พิธีกรหนุ่มว่าพลางผายมือไปที่หน้าจอที่ก่อนหน้านี้ใช้ฉายภาพของโดรัน ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนเป็นสีขาว พร้อมตัวเลขและตัวอักษร 1 C ขึ้นมาอย่างเด่นชัด

“ราคาเริ่มต้นของสินค้าชิ้นนี้คือ 1 เหรียญทองแดง ไม่ทราบมีท่านใดจะให้ราคาหรือไม่” ราคาเริ่มต้นเช่นนี้เห็นได้ชัดเลยว่าทำมาเพื่อดูถูกผลงานชิ้นนี้ชัดๆ ราคาเริ่มต้นปกติของเครื่องประดับในงานคือ 10,000 เหรียญทองแล้ว แต่นี่กลับตกไปถึงหน่วยทองแดงเลย หากซื้อในราคานี้คนที่ได้ไปย่อมได้กำไรแน่ๆ แต่….

“ไม่มีใครเสนอราคาเลยหรือขอรับ สินค้าระดับนี้ในราคานี้ไม่มีอีกแล้วนะขอรับ”พิธีกรพูดด้วยท่าทีเสียดายอย่างมาก ทั้งๆที่รู้ว่าพอได้ฟังเรื่องมั้งหมดแล้วไม่มีใครกล้าซื้อแหวนวงนี้แน่ๆ หากเป็นเพราะแค่โดรันทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ราคาของแหวนวงนี้อาจจะแค่ตกลง 2 – 3 ส่วน แต่พอทราบว่าคนที่โดรันใส่ความคือ ไป๋จูล่ง บุตรชายของไป๋จูเหวิน หลานชายของเพิร์ลและรูบี้ ยังจะมีใครกล้าประมูลสินค้าของโดรันอีก ตอนนี้แม้จะขอให้รับฟรีๆก็คงไม่มีใครเอาแน่ๆ

“…………..”โดรันมองบรรยากาศเงียบกริบตรงหน้าด้วยท่าทีเหมือนวิญญาณจะหลุดออกมาจากร่าง คนในหอประชุมนี้ต่างเป็นผู้มีชื่อเสียงและเงินทองทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นลูกค้าหลังของร้านเครื่องประดับเลยทีเดียว หากคนพวกนี้ไม่เอาผลงานของโดรัน จะมีร้านอัญมณีร้านไหนกล้าเอามันเข้าทำงานอีก

กริ้ง!! ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดของหอประชุม อยู่ๆเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างตกก็ดังขึ้น เมื่อมองตามเสียงไปก็พบว่ามีชายคคนหนึ่งทิ้งแหวนวงหนึ่งลงพื้นเสียอย่างนั้น

“น่าเสียดาย ท่าทางงานชิ้นนี้คงไร้ราคาไปเสียแล้ว”ชายคนนั้นว่าพลางมองแหวนบนพื้นด้วยท่าทีเฉยชา คนอื่นอาจจะไม่ทราบ แต่โดรันมองเพียงวูบเดียวก็ดูออกว่าแหวนวงนั้นใช้อัญมณีที่มันทำนั่นเอง

กริ๊งๆๆ…..หลังจากชายคนแรกทิ้งแหวนไป เหล่าคนในงานที่มีเครื่องประดับของโดรันอยู่กับตัวก็พากันถอดทิ้งอย่างไม่เสียดาย ไม่ใช่ว่าอัญมณีพวกนี้จะหมดค่าหรอก แต่หากสวมใส่ผลงานของคนที่กล่าวโทษบุตรชายของไป๋จูเหวิน พวกมันที่รอดชีวิตมาได้เพราะมีไป๋จูเหวินมาช่วยเหลือย่อมไม่สบายใจอยู่แล้ว

“กลับไปที่บ้าน แล้วสั่งให้ทำลายเครื่องประดับของชายคนนั้นให้หมด”ชายอีกคนพูดพลางหันไปสั่งลูกน้องของตนด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก ทำเอาโดรันที่มองอยู่ข้างบนได้แต่ทรุดลงกับพื้น หลังจากนี้ชีวิตช่างทำอัญมณีของมันคงจบลงแล้ว เพราะต่อให้มันทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมเพียงไรก็คงไม่มีใครคิดจะซื้อเป็นแน่