1913 vs 1914 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1913
ไม่ได้มาจับเธอ แต่มาหาเธอต่างหาก 1
คงเพราะชอบมากเกินไป ทำให้ท่านเสธฉินยังพอจะรู้ความในใจของลูกชาย คุณท่านอานไม่ได้เป็นคนบอก ทว่าหลังจากที่กลับจากภูเขาอู่ไถ ฉินมั่วก็ไข้ขึ้นสูง ก่อนที่จะตามท่านไปกองทัพ ลูกชายดึงแขนเสื้อ บอกว่าต่อไปถ้าเห็นคนที่เล่นคอมพิวเตอร์ก็อย่าทำอะไรคนคนนั้น
อันที่จริง เวลานั้นคนที่รู้จักฉินมั่วเป็นอย่างดีจะรู้ว่าเขารับมาหลายคดี หากเป็นคดีที่เกี่ยวกับแฮกเกอร์เขาจะยิ่งสนใจมาก
เวลานั้นฉินมั่วยังสวมชุดนักเรียนของนักเรียนมัธยมเจียงเฉิง 1 กำลังอยู่ในวัยหนุ่ม หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกก็เท่ ไม่มีใครคิดว่าเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาเกินใครจะเป็นคนเดียวกันกับท่านเทพที่ไขคดีประหลาดได้ หลายคนบอกว่าไม่รู้ว่าท่านเทพคิดอะไร อารมณ์เขานิ่งจนคนอื่นอ่านไม่ออก ทั้งยังสูงส่งสง่างาม และสามารถอ่านใจคนร้ายได้แม่นยำมาก ไม่เหมือนเด็กมัธยมปลายสักนิด แถมเขายังเป็นคนเย็นชา เหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ยากจะละลายมานับพันปี ไม่มีใครเคยเห็นเขายิ้ม ทว่ากลับพบเขาตอนป้อนอาหารให้แมวข้างถนน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง ตั้งชื่อให้ว่าเจ้าหญิง ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าทำไมแมวตัวผู้ถึงได้ชื่อว่าเจ้าหญิง
ถึงกระนั้น ฉินมั่วเป็นอัจฉริยะอย่างไร้ข้อกังขา เขามักถูกชื่นชมแบบนี้เสมอ
“ไม่คิดเลยว่าตระกูลฉินที่เก่าแก่จะมีลูกหลานเย็นชาเป็นน้ำแข็ง” นี่คือคำพูดกลั้วเสียงหัวเราะของผู้กำกับหวงที่เอ่ยขึ้นเมื่อได้เจอเขาเป็นครั้งแรก
เวลานั้นฉินมั่วยังก้มหน้าก้มตาดูศพที่อยู่ข้างเท้าตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงทักของผู้ใหญ่ มือที่สวมถุงมืออยู่ก็ปาดเลือดบนพื้น เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
ตอนนั้นผู้กำกับยังไม่ได้มีหน้าท้องโตเท่าปัจจุบันนี้ ใหญ่เท่าลูกโป่งลูกเล็กเท่านั้น เมื่อเห็นเจ้าน้ำแข็งฉินมองหน้าเขายังนึกว่าเจ้านี่จะพูดอะไรบ้าง อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ใหญ่ แถมยังเป็นผู้กำกับด้วย?
“รบกวนขยับหน่อยนะครับ” เสียงนั่นเรียบนิ่ง ยิ่งคนพูดสวมชุดเด็กม.ปลายด้วยยิ่งให้อารมณ์ แต่เดี๋ยว นั่นมันเป็นสิ่งที่คนเป็นผู้กำกับพูดมากกว่า เจ้าเด็กฉินนี่ต้องโดนสั่งสอนเสียบ้างแล้ว
ใช่ ต้องสั่งสอนมัน! ผู้กำกับหวงคิดจะขุดบารมีของผู้กำกับออกมา แต่ฉินมั่วกลับพูดเสริมอย่างเป็นปกติมาก “หน้าท้องคุณใหญ่เกินไป รบกวนการหาเบาะแสของผมครับ”
ผู้กำกับหวงบ่นในใจ…เด็กเดี๋ยวนี้ แค่ฉลาดหน่อยก็ใหญ่คับฟ้าแล้วหรือวะ!
“คุณอาหวงคงรู้ดีว่าคดีนี้สำคัญมาก” ฉินมั่วเหมือนจะเดาความคิดเขาออก ดึงถุงมือออกอย่างไม่รีบร้อน กิริยาท่าทางของเขาเหมือนพวกผู้คุมกฎในการ์ตูน ความหล่อเหลาของเขาทำให้พวกนักเรียนที่อยู่อีกฝั่งไม่หวาดผวาเลยว่าตรงนี้มีคนตายอยู่ด้วย
ผู้กำกับกระแอมเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เสียงเด็กนั่นดังขึ้นอีก ครั้งนี้แฝงความเย็นชาเล็กน้อย “ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่โดนฆ่า คราบเลือดผิดปกติ ไม่น่าจะมีร่องรอยเลือดอยู่ตรงนี้ อีกอย่างผู้ร้ายยังพาตัวอีกคนไปด้วย”
ผู้กำกับหวงรู้ว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เพราะเขาก็มากด้วยประสบการณ์ ย่อมมองออกอยู่แล้ว แต่การที่คนร้ายพาตัวคนไปด้วยนี่สิ หมายความว่ายังไง?
“มือถือ” ฉินมั่วหันมามองที่พุ่มไม้ด้านข้าง “ตรงนี้มีมือถือที่ไม่ใช่ของคนร้าย แล้วก็ไม่ใช่ของคนตายด้วย”
ผู้กำกับหวงไม่เชื่อ “รู้ได้ไงว่ามันไม่ใช่ของคนร้าย”
“คุณอาหวง นี่เป็นคดีฆ่าต่อเนื่องนะครับ คนร้ายจะโง่เง่าขนาดทิ้งมือถือไว้ในที่เกิดเหตุเชียวเหรอครับ?” ฉินมั่วย้อนถามเสียงเรียบ
ผู้กำกับโดนสวนเข้าให้จนสะอึก เจ้าเด็กเมื่อวานซืนหน้าน้ำแข็งนี่ โคตรจะไม่น่ารักเลย! เห็นแก่ที่นายไขคดีนะ ฉันจะยอมนายก็แล้วกัน!
ทั้งนี้…
……………………………………………………..
ตอนที่ 1914
ไม่ได้มาจับเธอ แต่มาหาเธอต่างหาก 2
ในเวลาเดียวกัน ผู้กำกับหวงเห็นฉินมั่วเดินตรงไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก่อนจะหลุดปาก “คนร้ายยังอยู่ที่นี่”
“อยู่ที่นี่เหรอ?” ผู้กำกับไม่เชื่อ “จะเป็นไปได้ยังไง?”
ฉินมั่วเบือนไปมองอีกทาง เอ่ยเสียงเรียบว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการอยู่ที่นี่จะทำให้ล้างข้อสงสัยได้ทั้งหมด ในสภาวะที่คนร้ายสามารถฆ่าคนได้คนหนึ่งแล้วยังจับตัวอีกคนไปได้ แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำมีความสนิทสนมกับเหยื่อ คนร้ายฉลาดพอที่จะรู้ว่าตำรวจเดาได้ถึงขั้นนี้ ถึงได้จงใจปรากฏตัวในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าตัวเขาไม่เกี่ยวข้องกับคดี แถมยังสร้างหลักฐานว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่นี่ในเวลาเกิดเหตุได้อีก เพราะถ้าคนร้ายอยู่ที่นี่ด้วย จะทำให้คนอื่นไม่สงสัยว่าเขาลักพาตัวคนไป”
เสียงเขาไม่ดังและไม่เบามาก ลอยมาช้าๆ ทำให้ผู้กำกับหวงสีหน้าเปลี่ยนทันที แล้วหันไปพูดใส่หูฟังเสียงเบา “ล้อมสถานที่เกิดเหตุให้มิดชิด ให้นักเรียนทั้งหมดที่มาที่นี่ ห้ามออกไป!”
“รับทราบ!” แม้จะไม่รู้ว่าทำไมผู้กำกับหวงถึงได้ออกคำสั่งเช่นนี้ แต่เจ้าหน้าที่กองคดีพิเศษต่างทำหน้าที่แข็งขัน
ทว่า…คนมามุงดูเยอะมาก คนไหนที่เป็นคนร้าย?
ในระหว่างที่ผู้กำกับหวงคิดเช่นนี้ ก็เห็นเด็กหนุ่มในชุดม.ปลายเดินไปยังกลุ่มผู้คคน ทั้งยังทำสัญญาณมือห้ามไม่ให้เขาติดตามไปด้วย ทั้งที่ดูยังเด็กว่าพวกนักเรียนที่มามุงดูเสียอีก แต่กลับออร่าเจิดจรัส บารมีดูสูงกว่าพวกนี้เป็นเท่าตัว
พวกที่มามุงดูยังไม่รู้ว่าคนมาไขคดีจะเป็นแค่เด็กม.ปลาย ดังนั้นเมื่อฉินมั่วเดินเข้าไปหา นักเรียนหญิงบางคนก็หน้าแดง กระซิบกระซาบกัน ท่าทางเหมือนไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อแบบนี้จริงๆ
และเมื่อฉินมั่วจับจ้องตัวเด็กคนหนึ่ง แววตาที่จับจ้องนั้นขรึมลง ก่อนจะกดหูฟังบลูทูธ “เจอตัวคนร้ายแล้ว”
ผู้กำกับหวงได้ยินแล้วรีบไปหาทันที พยายามมองหาตัวเด็กนักเรียนชายที่รูปร่างล่ำสัน แต่หายังไงก็เจอแต่เด็กผู้หญิง ไม่มีผู้ชายสักคน “คนร้ายอยู่ที่ไหน?” เขากดเสียงให้ต่ำลง
ฉินมั่วเห็นเป้าหมายกำลังจะเดินจากไป “อยู่ข้างหน้าผม”
ผู้กำกับอึ้ง ไม่กล้าเชื่อ เพราะฝ่ายนั้นไม่เพียงเป็นเด็กผู้หญิง แต่ยังแต่งตัวน่ารักด้วย แถมตัวไม่สูงอีกต่างหาก คนแบบนี้จะเป็นคนร้ายไปได้ยังไง? อย่าลืมสิว่านี่เป็นคดีฆ่าต่อเนื่อง
“ยังไม่ทำอะไรอีก” ฉินมั่วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันตัวไป ถีบขายาวๆ ไปที่โคนกิ่งไม้ “งั้นผมลงมือเอง”
ผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยินเพียงเสียงลม จากนั้นแผ่นหลังเธอเหมือนโดนอะไรกระแทกเข้าหนักๆ แล้วถูกตำรวจกดให้นอนราบกับพื้น เธอตกตะลึง เหมือนจะเดาอะไรออก ร้องตะโกนขึ้นว่า “พวกคุณทำอะไรน่ะ? เป็นตำรวจแล้ววิเศษนักหรือไง ถือสิทธิ์อะไรมาจับฉัน?”
“หุบปาก” คนจากกองคดีพิเศษไม่อยากทำให้เป็นที่เอิกเกริก
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดิ้นไม่หยุด “ฉันจะฟ้องพวกแก”
“ก่อนจะฟ้อง เธอคงโดนตัดสินโทษประหารไปแล้ว” น้ำเสียงเรียบเรื่อยดังตามจังหวะที่ก้าวเข้ามาหา เสียงนั้นเป็นของเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง ทำให้หญิงสาวตะลึงอีกครั้ง
เสียงของฉินมั่วเรียบมาก “ตั้งแต่เมื่อกี้ สายตาของเธอไม่เหมือนกับของคนอื่น พอฉันเดินมาหาเธอก็ไม่มองฉันสักนิด พวกผู้หญิงปกติเห็นฉันแล้วไม่มีแก่ใจมองสถานที่เกิดเหตุได้อีกหรอก”
ผู้กำกับหวง…อ้อ ใช้อุบายหนุ่มงามเรอะ?
…………………………………