ตอนที่ 904 - ใบไม้สามใบ

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  พลังอันชั่วร้ายกระจายออกมาจากหอกไม่หยุดหย่อนและรุกล้ำร่างกายหญิงสาวพลังที่เหลือได้กระจายกลายเป็นเมฆามืดมิดบนท้องนภา
  “ในอดีตข้าบาดเจ็บเพราะหอกเล่มนี้ ถ้าข้าไม่รีบผนึกร่างในขอบเขตเทพ พลังจากหอกก็มากพอที่จะเปลี่ยนในทั้งจิวโจวเป็นแดนปีศาจ พลังปีศาจจะเข้าครอบงำทุกสิ่งจนกลายเป็นวิญญาณร้าย”
  เสี้ยววิญญาณกล่าว
  ซือหยูเงยหน้ามองเมฆดำบนนภาเขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เสี้ยววิญญาณเทพไม้พูดจะเคยเกิดขึ้นมาก่อน พลังปีศาจที่สามารถยึดเทพีให้ติดกับบัลลังก์ได้นั้นจะน่ากลัวเพียงใดกัน?
  “ถ้าเจ้าดึงหอกออกร่างหลักของข้าจะตื่นขึ้น แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงเรื่องไร้ค่า…”
  เสี้ยววิญญาณกล่าว
  “แต่ข้าต้องเตือนเจ้าก่อนถ้าเจ้าไม่มั่นใจ จงอย่าแตะต้องหอกเพราะมันมีพลังปีศาจมากนัก เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอนหากสัมผัสมัน”
  ซือหยูพยักหน้าหยินมู่ร่างปีศาจยังอยู่ด้านนอก มีเพียงการปลุกเทพีไม้ให้ตื่นเท่านั้นจึงจะช่วยเขาได้
  ซือหยูก้าวไปข้างหน้าทุกย่างก้าวนั้นทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน เพราะยิ่งเข้าใกล้เท่าใด พลังจากร่างกายของหญิงสาวก็ยิ่งทำให้เขาเสียสติมากขึ้น
  หม้อเก้ามังกรในจิตใจสั่นอย่างรุนแรงไม่หยุดมันไม่เคยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน
  ยิ่งไปกว่านั้นร่างหญิงสาวตรงหน้ายังคงหลับใหลอยู่ ถ้าหากนางตื่น เจ้าก็คงมิอาจเข้าใกล้นางได้อีกแล้ว
  แต่ซือหยูก็กัดฟันก้าวต่อไปเหลือระยะเพียงร้อยศอกเท่านั้น แต่ซือหยูก้าวแต่ละก้าวอย่างยากลำบาก ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามก่อนที่เขาจะเข้าถึงหอก
  ซือหยูยื่นมือขวาออกแสงทางช้างเผือกเปล่งประกาย เขาหายใจเข้าลึกก่อนจะคว้าหอกด้วยมือขวา
  เมื่อสัมผัสมันพลังปีศาจมหาศาลได้พุ่งเข้าสู่ร่าง สิ่งที่มองเห็นได้กลายเป็นภาพอันมืดมิด วิญญาณกำลังจะขาดสะบั้น ทุกสิ่งที่รับรู้มีแต่ความดำมืด เขารู้สึกเหมือนได้เข้าสู่ก้นบึ้งแห่งความตาย
  โฮก!
  จู่ๆก็มีเสียงมังกรสามตัวร้องคำรามลั่นนภามืดมิดมันขจัดความมืดจนโลกของซือหยูกลับมามีแสงสว่างอีกครั้ง
  ซือหยูยังคงจับหอกไว้แน่นทั้งๆที่ความรู้สึกที่เหมือนยืนอยู่หน้าประตูนรกไม่จากหาง
  เมื่อซือหยูมองฝ่ามืออีกครั้งก็เห็นว่าทรายดาราทางช้างเผือกได้โคจรเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วมันขจัดพลังปีศาจที่พยายามจะรุกล้ำร่างกายของซือหยู หยดของเหลวสีเลือดหลั่งไหลออกจากหม้อเก้ามังกรไม่ขาดสาย นั่นทำให้ซือหยูยังครองสติเอาไว้ได้
  ต้องขอบคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่ทำให้ซือหยูเลี่ยงภัยพิบัติมาได้ถ้าหากไร้ซึ่งสมบัติ ซือหยูคงจะตายไปแล้ว
  “โอ้!เจ้ามีของวิเศษอยู่ด้วยหรือ…”
  เสี้ยววิญญาณอุทานด้วยความตกใจมันเห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายซือหยูถูกพลังปีศาจรุกล้ำ และวิญญาณของเขาก็ถูกมันกลืนกินเข้าไป
  แต่เมื่อคาดว่าซือหยูจะตายอย่างแน่นอนและกำลังจะเศร้า เขาก็กลับมามีชีวิต
  ซือหยูแววตาเศร้าหมองแต่ไม่ตอบอะไรเขาเสียงแค่จะโกนกู่ร้องและใช้พลังทั้งหมดในนิ้วทั้งห้าที่กำลังดึงหอก
  แต่หอกมิได้ขยับแม้แต่น้อยมันยังคงนิ่งแม้ว่าเขาจะพยายามมาหลายครั้ง
  เสี้ยววิญญาณได้แต่พูด
  “ไม่ผิดแน่!หอกนี้มีต้นกำเนิดลึกลับ ยากที่เจ้าจะจัดการด้วยพลังในตอนนี้”
  ซือหยูผิดหวังแม้ว่าเขาจะใช้ทรายดาราทางช้างเผือกและเสี่ยงชีวิตพยายาม เขาก็ยังล้มเหลว มันจบแค่นี้สินะ?
  เขาไม่คิดจะยอมรับความพ่ายแพ้เขาลองใช้ทรายดาราดูดพลังปีศาจมาอีกครั้ง แต่เขาก็รับรู้อย่างรวดเร็วว่าเขามิอาจดูดซับพลังได้
  เขาได้ทรายดาราทางช้างเผือกมานานแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับสิ่งที่มิอาจชำระล้างได้
  “อย่าเสียแรงเปล่าเลย…”
  เสี้ยววิญญาณกล่าว
  “สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเหลือแค่ตัวร่างไร้ซึ่งจิตวิญญาณสมบัติ มันใช้พลังหนึ่งในสิบไม่ได้เสียด้วยซ้ำ อย่างมากมันก็ดูดซับได้แค่พลังเซียน แต่มันทำอะไรพลังเทพไม่ได้หรอก! พลังปีศาจนี่ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังเทพ เจ้าทำอะไรไม่ได้”
  มันไม่มีจิตวิญญาณสมบัติหรือ?นี่เป็นครั้งแรกที่ซือหยูได้ยินว่ามันเสียจิตวิญญาณไป
  “ข้าไม่เชื่อหรอก”
  ซือหยูไม่คิดจะยอมรับผลเช่นนี้เขาพยายามต่อไป แต่ไม่ว่าจะใช้ทรายดาราอย่างไร เขาก็จัดการแม้แต่ส่วนเล็กๆของพลังปีศาจไม่ได้
  เสี้ยววิญญาณกล่าว
  “ข้าขอโทษเจ้ามนุษย์ เจ้าช่วยนข้าไม่ได้ แล้วข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้…ขอแค่เทพีไม้ได้สติกลับมาสักหน่อย มันก็มากพอที่จะช่วยชาวเผ่าไม้ทองแดงได้ แต่น่าเสียดายนัก…”
  เสี้ยววิญญาณถอนหายใจอีกครั้งตัวอักษรรูปหัวใจปรากฏต่อหน้าซือหยู
  “ไปซะให้เจ้าเข้ามาในขอบเขตเทพก็ใช้พลังวิญญาณข้าไปมากแล้ว…”
  ซือหยูผิดหวังเรื่องดำเนินมาถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดที่จะเป็นไปได้ เขาทำได้แต่ใช้วายุมิติเพื่อหนีไปให้ไกลจากที่นี่
  แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนหลังจากก้าวพริบตาสิ่งที่เขาลงแรงทั้งหมดในตำหนักโลหิตจะเสียเปล่า เขาต้องเริ่มใหม่หมด
  “ช้าก่อน!”
  ก่อนที่ซือหยูจะยื่นมือไปยังตัวอักษรตรงหน้าเสี้ยววิญญาณได้พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
  ซือหยูเลิกคิ้วเขารู้สึกถึงการตื่นขึ้นของหญิงสาวที่หลับใหล
  ครืน!
  เมฆครึ้มถูกพัดออกหอกที่ท้องหญิงสาวสั่นสะเทือน มันถูกดึงออกไปเล็กน้อย
  “เจ้า…หนุ่ม…”.novel-lucky.
  เสียงอันยิ่งใหญ่เก่าแก่ และแทบไม่ได้ยินดังขึ้นในเวลาสุดท้าย มันดังก้องไปทั่วขอบเขตเทพของเทพไม้
  ซือหยูตัวสั่นขณะที่มังกรจากหม้อเก้ามังกรร้องคำรามไม่หยุด ดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่เป็นความลับกำลังจะคลี่คลาย
  เสี้ยววิญญาณตื่นเต้น
  “ร่างหลักข้าตื่นแล้ว!”
  ซือหยูมองหญิงสาวที่ยังคงนั่งที่เดิมไม่เคลื่อนไหวนางไม่ได้ดูเหมือนกำลังจะตื่นเลย
  “เจ้าหนุ่มข้าคือเทพีไม้”
  เสียงดังมาจากร่าหญิงสาวที่หลับใหล
  “ตอนที่พลังปีศาจรุกล้ำร่างเจ้าข้าสัมผัสได้ว่ามีเทพปีศาจอยู่ในส่วนลึกของวิญญาณเจ้า มันดูดซับพลังปีศาจไปส่วนหนึ่ง ข้าจึงตื่นขึ้นมาได้สักครู่”
  เป็นฝีมือเทพปีศาจในมิติวิญญาณ!ไอ้เจ้าเล่ห์บัดซบนั่นจะต้องใช้โอกาสที่วิญญาณข้าถูกจู่โจมแล้วแอบออกมาดูดซับพลังปีศาจไป
  เทพปีศาจที่ซือหยูมีก็คือเป็นแก่นโลหิตของเทพปีศาจพลังปีศาจย่อมเป็นสิ่งสำคัญ
  ซือหยูเริ่มระแวงถ้าเทพปีศาจแข็งแกร่งพอที่จะฉีกมิติวิญญาณแล้วหนีออกไป เขาจะทำอย่างไร? เขาไม่มีวิธีกักขังไอ้บัดซบนั่นอีกครั้งแล้ว
  ซือหยูหยุดคิดเรื่องนี้และโค้งคำนับ
  “เทพีไม้ข้าไร้พลังและมิอาจดึงหอกออกมาได้”
  “เจ้าไม่ต้องโทษตัวเองแม้แต่ข้าก็ดึงมันไม่ได้ แล้วเจ้าจะทำได้อย่างไร”
  เทพีไม้เสียงอ่อนลงมันมิได้ฟังดูยิ่งใหญ่อีกแล้ว
  “ข้าตื่นได้ช่วงสั้นๆเจ้าหนุ่ม เจ้ามีความปรารถนาใดหรือไม่?”
  เทพีไม้ต้องการทำความปรารถนาของซือหยูให้เป็นจริง!
  ซือหยูลังเลก่อนจะพูด
  “แล้วข้าต้องแลกกับสิ่งใดหรือ?”
  “วันใดเจ้าแข็งแกร่งพอเจ้าต้องดึงหอกนี้ออกไป…”
  เทพีไม้กล่าว
  ซือหยูพยักหน้า
  “ข้ายินดีแต่ข้ารับประกันไม่ได้ว่าชีวิตนี้ข้าจะดึงมันได้”
  แม้แต่เทพีไม้ก็ดึงมันออกมาไม่ได้แล้วเขาจะทำได้หรือ?
  “หากเจ้าลั่นวาจานั่นก็เพียงพอแล้ว เจ้าปรารถนาสิ่งใด…”
  เทพีไม้กล่าว
  ซือหยูตอบทันที
  “จุดสูงสุดแห่งพลัง”
  ซือหยูพบเจอความยากลำบากมามากมายและรู้ว่าพลังเท่านั้นที่ตัดสินทุกสิ่งเขาต้องแข็งแกร่งมากพอเท่านั้น เขาจึงจะปกป้องคนรักและสิ่งอื่นๆได้
  “เจ้าอยากจะเป็นเทพหรือ?ข้าทำให้เจ้าเป็นเทพคนใหม่ไม่ได้ แต่ข้าสามารถปกป้องเจ้าในวิถีแห่งเทพได้…”
  ซือหยูพยักหน้า
  “เทพีไม้ขอบคุณที่ช่วยข้า”
  เทพีไม้ที่ใกล้ตายจะช่วยให้เขาไปสู่จุดสูงสุดได้อย่างไร?ซือหยูโชคดีอยู่แล้วที่ได้รับการปกป้องจากนาง
  ฟึ่บ!
  ชุดยาวที่ทำจากใบไม้ที่นางสวมเริ่มโบกสะบัดใบไม้เขียวสามใบหลุดจากชุดของนางสู่ฝ่ามือซือหยู
  “นี่คือใบไม้ที่ข้าได้ตอนเป็นเทพนั่นคือใบไม้ชีพของข้า ต่อให้ไร้พลังเทพ มันก็ช่วยให้เจ้าหนีจากอันตรายได้หลายครา จะไม่มีสิ่งที่อ่อนแอกว่าเซียนป้องกันมันได้ มันจะสลายศัตรูทั้งหมดของเจ้ากลับสู่สภาวะเริ่มแรก มันมีประโยชน์กับเจ้ามากทีเดียว”
  “แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่มันใช้พลังชีวิตของเจ้ามาก เจ้าจะเสียพลังการต่อสู้ทั้งหมดไป หากเลวร้ายกว่านั้น มันอาจจะทำให้จุดกำเนิดพลังเจ้าเสียหายจนฐานพลังลดลง จงใช้มันในยามที่ชีวิตเจ้าอยู่ในอันตรายเท่านั้น”
  ซือหยูพยักหน้าเขาดีใจมาก! ถ้าหากนางบอกว่ามันใช้ได้กับทุกคนที่พลังต่ำกว่าเซียน เช่นนั้นอสูรเนรมิตรก็ป้องกันใบไม้นี้ไม่ได้ไม่ใช่รึ?
  ใบไม้ทั้งสามนี้มากพอที่จะทำให้ซือหยูสังหารอสูรเนรมิตรสามคน
  “เทพีไม้ขอบคุณท่านมากสำหรับของขวัญ…”
  ซือหยูขอบคุณนางอย่างมาก
  เทพีไม้กล่าว
  “เมื่อเจ้ากลายเป็นเซียนข้าจะมอบของขวัญให้เจ้าอีกหากเจ้าช่วยให้ข้าตื่นโดยสมบูรณ์ได้”
  ซือหยูรู้สึกขอบคุณนางจริงๆ!
  ฟึ่บ!
  แสงสีน้ำเงินพุ่งออกจากหน้าผากเทพีไม้และเข้าสู่หน้าผากของซือหยู
  “นี่คือสัญญาของเรามันจะไม่ส่งผลกับเจ้า แต่มันจะทำให้ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่…”
  เทพีไม้กล่าว
  ซือหยูไม่ต่อต้านเพราะเชื่อว่าเทพีไม้จะไม่หลอกสิ่งมีชีวิตต้อยต่ำอย่างเขา
  “ข้าสร้างพันธสัญญาแล้วเจ้าออกไปได้ ข้าจะใช้พลังเทพที่ยังเหลือที่นี่ และข้าจะชำระล้างเผ่าพันธุ์ข้าอีกครั้งขณะที่ยังมีชีวิต หากเจ้าอยู่ที่นี่ต่อไป เจ้าจะได้รับผลกระทบจากพลังข้า…”
  เทพีไม้กล่าว
  พลังเทพนั้นเป็นพลังที่น่ากลัวถึงที่สุดถ้าได้แตะต้องซือหยู เขาจะสลายหายไปทันที
  ซือหยูสัมผัสอักษรรูปหัวใจและก้าวพริบตากลับไปขอบเขตเดิมใบไม้ทั้งสามถูกซือหยูซ่อนไว้อย่างดีในมุกวิญญาณเก้าหยก
  ฟึ่บ!
  เมื่อซือหยูมาถึงโลกภายนอกพลังอันน่ากลัวของหยินมู่ก็ได้คืบคลานมาหาเขาอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่ได้กลับมาคนเดียว มีมนุษย์อีกสองคนอยู่กับเขา และซือหยูก็รู้จักหนึ่งในนั้นด้วย
  “เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง!”
  ซือหยูแปลกใจเขาได้เจอกับเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างโดยไม่คาดคิด
  สตรีวัยกลางคนยืนอยู่ข้างเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างนางคือคนที่ซือหยูไม่รู้จัก แต่ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว
  แล้วสองคนนี้มาที่ป่าปีศาจร้างได้ยังไง?
  “ซือหยูเซี่ยน?เจ้ายังไม่ตายเรอะ?”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกใจเมื่อเห็นซือหยูที่นี่เขาเห็นว่าซือหยูกับหูหวังกุยถูกกิ่งไม้ลากเข้ามากับตา แต่ซือหยูเซี่ยนกลับยังมีชีวิตอยู่
  หยินมู่แปลกใจเขามองซือหยูอย่างเยือกเย็น
  “บังเอิญนักพวกเจ้ารู้จักกันหมดสินะ”
  เจ้าของสวนตำราฉินกลอกตาและตะโกน
  “ซือหยูเซี่ยนเจ้าทำลายสวนตำราข้า และข้าก็ยังไม่ได้รับการชดใช้”
  ซือหยูเหลือบมองนางและคิดย้อนกลับไปเป็นสวนตำราแห่งนั้นที่เขาได้ทรายสีทองมาจากเหยามู่เต๋าเหริน
  “หึหึน่าสนใจ! พวกเจ้ามีเรื่องบาดหมางต่อกันสินะ จัดการเรื่องนี้คงง่ายขึ้นแล้ว”
  หยินมู่ยิ้มมุมปาก
  หลังจากจับตัวเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับเจ้าของสวนตำราฉินได้ชาวเผ่าไม้ทองแดงก็อยากจะใช้ทั้งสองเพื่อปลูกเมล็ด แต่ทั้งคู่ก็ถูกหยินมู่พาตัวมาก่อน
  ทั้งสองกระวนกระวายตลอดเวลาที่ถูกพาตัวมาเพราะทั้งคู่คิดว่าจะถูกพาไปยังจุดที่อันตรายยิ่งกว่า
  แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งคู่ก็เข้าใจความตั้งใจของหยินมู่
  “ท่านหยินมู่ข้ามีเรื่องบาดหมางกับคนผู้นี้ ข้าเต็มใจจะช่วยท่านฆ่ามัน…”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างอาสา
  การทำลายอาชีพของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างนั้นไม่ต่างกับการสังหารบุพการีนี่เป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้