ตอนที่ 905 - การลงมือของเทพีไม

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  “ท่านหยินมู่ข้าก็ยินดีรับใช้ท่าน”
  เจ้าของสวนตำราฉินพูดขึ้นมาอีก
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับนางเป็นจ้าวเทวะระดับสองทั้งคู่เป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าซือหยู
  “แค่จับมันมาก็พออย่าได้ฆ่ามัน ข้าต้องการจับเป็น ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ข้าจะให้หยดน้ำพุแห่งชีวิตสองหยดกับพวกเจ้าด้วย…”
  หยินมู่ให้สัญญา
  ทั้งสองดีใจมากแม้ว่าชายหน้าสีเงินเผ่าไม้ผู้นี้จะไม่น่าเชื่อถือ แต่พวกเขาก็ยังมีหวังที่จะรอดออกไป
  ทั้งคู่หัวเราะอย่างสะใจและร่วมมือกันทั้งสองบินไปยังผนึกและผ่านเข้าไปได้โดยไร้สิ่งต่อต้าน
  หยินมู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นผนึกนั้นต่อต้านเขาได้ดี แต่มิใช่กับมนุษย์
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างยิ้มเยาะ
  “ซือหยูเซี่ยนซือหยูเซี่ยน! เจ้าทำลายข้า ข้าเสียทุกอย่างไปก็เพื่อเจ้า ถ้าลู่จือยี่ไม่มาขวาง ข้าก็ได้ฆ่าเจ้าไปแล้ว มาดูเถอะว่าตอนนี้เจ้าจะอยู่ข้างหลังสตรีได้อีกไหม!”
  เจ้าของสวนตำราฉินเองก็ถอนหายใจแรงการทำลายสวนตำราของนางนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
  และดินแดนมีดสวรรค์ก็เสียร้านทั้งหมดไปในงานเซ่นสวนตำราของนางเองก็เป็นหนึ่งในนั้น มันถูกยึดกลับไปโดยฝ่ายดินแดนพรสวรรค์ ความสูญเสียนี้ไม่ใช่น้อย
  ซือหยูยังคงใจเย็น
  “พวกเจ้ามั่นใจเหลือเกินนะว่าจะจัดการข้าได้ที่นี่”
  ที่นี่ไม่มีใครอื่นซือหยูสามารถใช้ไพ่ตายทั้งหมดได้โดยไม่ต้องออมมือ จ้าวเทวะสองคนทำอะไรซือหยูไม่ได้เลย
  “ฮื่ม!เจ้ามันอวดดีจริงๆ”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างพูด
  “ท่านฉินไอ้เด็กนี่จะต้องมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้สักสองอย่าง ไม่ต้องสนใจเรื่องความยุติธรรม เข้าไปจัดการมันพร้อมกันเถอะ”
  นางพยักหน้าและเดินไปทางซือหยูเมื่อห่างกันสิบก้าว นางก็พุ่งเข้าไป ร่างที่มองแทบไม่เห็นของนางนั้นรวดเร็วจนซือหยูตอบสนองไม่ทันเมื่อนางมาถึงตัว พลังชีวิตพุ่งเข้าใส่หน้าผากของซือหยู
  ซือหยูแตะพื้นด้วยปลายเท้าพร้อมทะยานฟ้าไปเขาดูเหมือนกำลังจะหนี
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างมองตามซือหยูกำลังอยู่บนฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ร่างกายยืดหยุ่นไม่พอที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก มันคือโอกาสดีที่สุดที่จะจู่โจม
  “ไอ้เด็กบ้าเอาชีวิตมาให้ข้าซะเถอะ!”
  มือทั้งสองของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกลายเป็นกรงเล็บวิหคไล่ล่าตามแผ่นหลังซือหยูไปเพลิงได้ลุกไหม้บนกรงเล็บ มันจะเผาซือหยูก่อนที่กรงเล็บถึงตัว นั่นทำให้เขาโต้กลับไม่ได้
  เพราะอย่างไรหยินมู่ก็บอกให้เขาจับตัวซือหยูแต่ไม่ได้ห้ามทำร้ายร่างกาย
  เมื่อเจอกับการโจมตีทั้งสองทางซือหยูใช้มือทั้งสองข้างซัดอากาศทะยานขึ้นไปอีก ปีกสีเลือดปรากฏบนแผ่นหลังและทิ้งร่างเงาของซือหยูเอาไว้ เขาหายไปต่อหน้าต่อตาเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจู่โจมความว่างเปล่าเขามองปีกสีเลือดบนแผ่นหลังซือหยู
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเคยเห็นปีกนี้แล้วในตอนที่หูหวังกุยไล่ตามซือหยูปีกนี้มีความเร็วเทียบเท่ากับจ้าวเทวะระดับห้า
  “เจ้าไม่ต้องห่วงมันไม่กล้าออกจากผนึก การเคลื่อนไหวมันมีขีดจำกัด เจ้าจะจู่โจมอย่างไรก็ได้…”
  หยินมู่พูดอย่างใจเย็นการจับตัวซือหยูได้นั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับเจ้าของสวนหนังสือฉินเหลือบมองกันก่อนจะเริ่มจู่โจมซือหยูอีกครั้งจากด้านข้าง
  ครั้งนี้ซือหยูไม่หลบเขาเพียงแค่มองทั้งสองด้วยความเวทนา
  “ย่อมได้ข้าจะใช้พวกเจ้าลองวิชาใหม่ของข้า”
  ซือหยูขยับมือทั้งสองข้างมังกรพิโรธสามตัวร้องคำรามจากอก มังกรดำทั้งสามพุ่งออกจากอกซือหยูเข้าใส่ทั้งสองคน มันร้องคำรามโกรธเกรี้ยวไม่หยุดหย่อน
  ทางฝั่งเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้สึกถึงอันตรายจากมังกร
  “ใช้ผนึกเทพเร็ว!”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกใจซือหยูมีวิชาที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?
  ผนึกเทพของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างคือโอสถมันจะมอบพลังให้เขามหาศาล มันทำให้ฐานพลังของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสูงขึ้น มันทำให้พลังของเขาไปถึงจุดสูงสุดของจ้าวเทวะระดับสอง
  มีผนึกเทพแบบนี้อยู่ด้วยรึ?ซือหยูแปลกใจที่ได้เห็นพลังใหม่ๆ
  ส่วนผนึกเทพของเจ้าของสวนตำราเป็นผนึกธรรมดาๆเท่านั้นมันคือตำราที่มีตัวอักษรมากมายพุ่งออกมาไม่ขาดสาย ตัวอักษรเหล่านั้นจู่โจมมังกรอสูรและพยายามจะต้านทานไม่ให้เข้าใกล้
  แต่ความเร็วของมังกรอสูรมิได้ลดลงมันกลับบินเข้ามาเร็วขึ้น เสียงคำรามของมันบดขยี้ตัวอักษรของนางและทะลวงร่างนางไป
  นางหวาดกลัวและมิอาจเชื่อสายตานางตัวแข็งทื่อ ร่างกายนางถูกฉีกจากภายในเป็นชิ้นๆ
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกตะลึงอย่างมาก
  “เพชรกระจ่าง!”
  เขาตะโกนเสียงดัง
  ชุดเกราะสีน้ำเงินปรากฏห่มกายหมัดทั้งสองของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีน้ำเงิน
  หลังจากมังกรอสูรผ่านเจ้าของสวนตำราฉินมันก็คำรามเสียงดังและพุ่งเข้าใส่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง มันเข้าปะทะกำหมัดสีน้ำเงิน
  ฉั่วะ!
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเบิกตากว้างเขากระอักเลือดและถอยหลังกลับออกจากผนึกเทพีไม้
  “เจ้าบ่มเพาะวิชาอสูรอะไรกัน?ทำไมมันถึงดุร้ายเช่นนี้?”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นภูติระดับห้าสามารถใช้วิชาเดียวสังหารจ้าวเทวะระดับสองไปได้ ขณะที่ตัวเขาเองบาดเจ็บหนัก
  ซือหยูตอบอย่างใจเย็น.ไอลีนโนเวล.
  “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้แต่ก่อนเจ้าตาย เจ้าเข้ามาอีกครั้งก็ย่อมได้”
  ซือหยูกำลังสงสัยว่าเทพีไม้เตรียมการเรียบร้อยแล้วหรือไม่และนางจะควบคุมจนใช้พลังเทพได้สำเร็จแค่ไหน
  ควันดำปะทุจากผิวกายหยินมู่ความชั่วร้ายสะท้อนในดวงตา
  “เจ้ามนุษย์ข้าชักจะหมดความอดทนแล้ว ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นต่อไป มันจะไม่จบแค่จับตัวเจ้า มันยากที่ข้าจะจับตัว แต่เป็นเรื่องง่ายในการสังหาร ซ่อนตัวในผนึกก็หนีไม่พ้น!”
  ซือหยูเรียกชุดเกราะทมิฬมากำบังกายมันคือเกราะราชาศิลานิรันดร์
  ซือหยูใช้การเรียกเกราะแทนการปฏิเสธเขาย่อมไม่ยอมจำนนอยู่แล้ว
  “ฮื่ม!เจ้ามันโง่เขลา! เจ้าคิดจริงๆรึว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้?”
  หยินมู่เหลือบมองเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
  ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจะรู้สึกได้เขาหันหน้ามองผ่านไหล่อย่างจริงใจไปตอบหยินมู่
  “ท่านหยินมู่ขอโอกาสข้าอีกครั้ง ข้าจับเป็นมันได้แน่”
  “ช่างมันเถอะเจ้าทำอะไรมันไม่ได้ ข้าจะจัดการมันเอง”
  หยินมู่เปล่งแสงสีเงินจากทั้งร่างต้นไม้สีเงินต้นเล็กที่ถูกปกคลุมโดยควันดำพุ่งออกมาจากหน้าผาก
  ครึ่งหนึ่งของใบไม้เป็นสีดำสนิทมันปล่อยพลังปีศาจออกมา
  “วิญญาณมันออกจากร่าง!”
  ซือหยูรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเองก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาบินเข้าหาผนึกและพูดอย่างกระวนกระวาย
  “ซือหยูเซี่ยนลืมเรื่องของเราไปก่อน ข้าขอไปหลบข้างในก่อนได้หรือไม่?”
  คนฉลาดอย่างเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้แล้วว่าหยินมู่มิอาจเข้าสู่ภายในผนึกได้มิเช่นนั้นหยินมู่ก็คงไม่ต้องขอให้เขามาช่วย
  ซือหยูลังเลแต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
  “ฮื่ม!”
  เมื่อเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างห่างจากผนึกเพียงร้อยศอกต้นไม้สีเงินก็ถอนหายใจแรง
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตัวแข็งทื่อเขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาถูกคนอื่นควบคุมตัว จากนั้นพลังมิติหนาแน่นก็ปรากฏล้อมรอบ
  การควบคุมพลังมิติเป็นพลังพิเศษที่อสูรเนรมิตรครอบครองเท่านั้น
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างหวาดกลัวมากแต่เขาขยับไม่ได้ มันเป็นเช่นนั้นต่อไปจนดวงวิญญาณของหยินมู่ในรูปของต้นไม้สีเงินต้นเล็กผ่านเข้าหน้าผากของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
  ซือหยูมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกลเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างถูกบดขยี้แตกละเอียดไปแล้ว จากนั้นร่างของเขาก็ถูกต้นไม้สีเงินยึดครอง
  ไม่นานวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างก็ดับไปและถูกแทนที่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตายแล้ว
  ปั้ง!
  ‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ลืมตา พลังอันน่าตกใจปะทุออกมาจากเนตรสีเงิน คลื่นพลังเช่นนี้ทำให้ทั้งใต้ดินระส่ำระสาย
  ‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ในขณะนี้มีพลังของอสูรเนรมิตรอยู่ แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าร่างหลักของหยินมู่ เขาก็แข็งแกร่งกว่าซือหยูมาก
  “สิงร่างหรือ!”
  ซือหยูเคยอ่านในตำราโบราณมาแล้วในเรื่องของกายขโมยร่างกายเช่นี้ว่ากันว่าหากแข็งแกร่งถึงขั้นอสูรเนรมิตร วิญญาณจะแข็งแกร่งพอจนออกจากร่างกายตัวเองและยึดครองร่างอื่นได้ มันคือการสิงร่าง
  แต่การใช้วิธีนี้ต้องแลกเปลี่ยนอย่างมหาศาลตามบันทึก ต่อให้อสูรเนรมิตรชั้นสูงใช้มัน ฐานพลังจะตกลงไปหนึ่งขอบเขต ดูเหมือนว่าหยินมู่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อจับตัวซือหยู
  แต่ถ้าหยินมู่ทำสำเร็จเขาจะสังหารเทพีไม้ได้ และจะขโมยแก่นเทพของนางมาจนกลายเป็นเทพไม้ต้นใหม่ การเสียสละเล็กน้อยจะเทียบกับความสำเร็จนี้ได้อย่างไรเล่า?
  เนตรสีเงินของหยินมู่มองทะลวงหาซือหยูผนึกสั่นเล็กน้อย พลังเล็กน้อยของหยินมู่ผ่านเข้ามาได้
  ซือหยูรู้สึกเหมือนถูกซัดด้วยสายฟ้าเขาร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บปวด โลหิตซึมออกมาจากมุมปาก เพียงแค่หยินมู่มองเขาอย่างเดียวก็น่ากลัวเช่นนี้ ถ้าหากเผชิญหน้ากันตรงๆ การมองของหยินมู่อย่างเดียวก็สังหารซือหยูได้แล้ว
  “ข้าทำขนาดนี้ก็เพราะเจ้าเจ้าจงภูมิใจซะเถอะ แม้แต่เหยามู่ก็ไม่เคยได้เจออะไรแบบนี้…”
  ‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’พูดอย่างเยือกเย็น เนตรสีเงินเปลบ่งประกายสว่างจ้า เขาก้าวมาข้างหน้าพร้อมมือไพล่หลัง
  เขายืนอยู่หน้าผนึกและยื่นมือออกมาด้านหน้าพร้อมกัน
  เมื่อสัมผัสกับผนึกร่างของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสั่นสะเทือน ความเจ็บปวดแสดงผ่านเนตรสีเงิน แม้ว่าวิญญาณหยินมู่จะซ่อนในร่างมนุษย์ ผนึกก็ยังตรวจสอบได้และแผดเผาดวงวิญญาณเขา
  ถ้าหากเขาออกไปไม่ทันเวลาวิญญาณของเขาจะดับมอดอย่างแน่นอน แต่ด้วยฐานพลังในขณะนี้ เขาย่อมจับตัวซือหยูได้ในสามลมหายใจ
  เขาหยุดมือหากเขาผ่านผนึกต่อไป ผนึกก็จะขวางร่างมนุษย์ของเขาไม่ได้อีก
  “ออกมาซะ!”
  ‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’มองด้วยแววตาชั่วร้าย เขายื่นมือไปข้างในผนึกเข้าหาซือหยู
  พลังมิติอันรุนแรงล้อมรอบซือหยูป้องกันไม่ได้เขาขยับตัวได้เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเพียงต้องใช้ความคิดเดียวเพื่อนำตัวซือหยูออกมา จากนั้น สิ่งที่รอคอยซือหยูอยู่ก็คือการถูกทรมานที่มิอาจจินตนาการได้
  ปั้ง!
  ลำต้นของต้นไม้สีทองปรากฏที่หน้าตัวอักษรรูปหัวใจมือขาวเนียนยื่นออกมาคว้าไหล่ของซือหยูเอาไว้ พลังมิติที่ล้อมรอบซือหยูสลายไปพลัน พลังอันน่ากลัวค่อยๆซึมปกคลุมช้าๆ
  สีหน้าหยินมู่เปลี่ยนไปทันทีเขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือขาวเนียนนี้ เขาพูดด้วยความกลัว
  “เทพีไม้!”
  เป็นไปไม่ได้!นางหลับอยู่ไม่ใช่รึ? นางมาที่นี่ได้ยังไง?
  ความหวาดกลัวเอ่อล้นในใจหยินมู่นี่คือความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ เขาได้แต่คิดหนี
  แต่เขาก็พบว่าตัวเองมิอาจขยับได้แม้แต่น้อยร่างกายของเขาถูกบางอย่างกักตัวเอาไว้ เขายืนอยู่ในท่าเดิมและขยับไม่ได้
  วิญญาณภายในร่างที่เป็นต้นไม้สีเงินหนีออกจากหน้าผากเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างด้วยความตื่นตระหนกแต่เมื่อออกจากร่าง วิญญาณก็ถูกกักขังดังเดิม มันขยับไม่ได้เช่นกัน
  วิญญาณของเขาอยู่ในระดับของอสูรเนรมิตรชั้นสูงแต่เทพีไม้กลับหยุดมันได้เพียงแค่มองเท่านั้น
  “เทพีไม้!โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย…”
  ต้นไม้สีเงินต้นเล็กอ้อนวอนขออภัยด้วยความกลัวเพลิงสีทองเริ่มเผาวิญญาณ มันทำให้วิญญาณเจ็บปวดอย่างร้ายแรง
  ฟึ่บ!
  ลำต้นไม้สีทองขยับปรากฏให้เห็นเจ้าของมือซึ่งเป็นหญิงสาวนั่งบัลลังก์ที่หลับใหลอย่างสงบสุข ท่วงท่าของนางไม่ได้ต่างจากเดิม สิ่งเดียวก็คือนางยื่นมือมาวางบนไหล่ของซือหยู
  “หยินมู่ข้าไม่ได้พบเจ้ามาหลายพันปี เจ้าอ่อนแอจนมีพลังแค่อสูรเนรมิตรเชียวรึ? ไม่แปลกเลยที่พลักปีศาจเข้าไปในร่างของเจ้าได้ คงเป็นเพราะเจ้ากำลังจะตายสินะ”
  เสียงถอนหายใจสะท้อนออกมาจากภายในลำต้นของเทพีไม้