ตอนที่ 906 - ของขวัญจากหยินม

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  ในอดีตตอนที่เทพีไม้บาดเจ็บหนักและกำลังจะจมสู่ห้วงนิทรา นางได้สร้างผนึกปกป้องตัวเองเอาไว้ ในเวลานั้น หยินมู่คือยอดฝีมือระดับเซียน
  หลังจากผ่านไปไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีพลังชีพของหยินมู่ได้อ่อนแอลงจนพลังปีศาจรุกล้ำสู่ร่างและเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นสิ่งชั่วร้าย นั่นเป็นยามที่เขาเริ่มวางแผนขโมยสภาวะเทพของเทพีไม้
  หยินมู่ผู้กำลังถูกเผาอ้อนวอนขอชีวิตและตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดหลายครั้งแต่อย่างไร แสงสีทองยังคงเผาเขาต่อไป สีดำในต้นไม้สีเงินต้นเล็กเองก็หายไปอย่างมาก มันกลายเป็นควันดำสลายไปในท้องนภา
  ความชั่วร้ายและนิสัยคุกคามของหยินมู่เองก็หายไปกับมันด้วย
  หลังจากผ่านไปหลายลมหายใจสีดำในดวงวิญญาณหยินมู่หายไปจนหมด วิญญาณของเขากลับมามีสีเงินกระจ่างอีกครั้ง มันเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันสว่างจ้าแต่ก็เป็นแสงที่อ่อนโยน ผู้คนที่มองจะรู้สึกสุขสงบในหัวใจ
  หลังจากแสงทองหายไปต้นไม้สีเงินต้นเล็กก็เปลี่ยนไปจนแทบจะไม่ได้ จากนั้นก็ได้กลับสู่ร่าง
  เมื่อหยินมู่ลืมตาอีกครั้งความชั่วร้ายในแววตาเขาหายไป สีหน้าของเขาเยือกเย็นไร้กังวล
  ซือหยูได้รับความรู้สึกจากหยินมู่แบบเดียวกับเทพีไม้
  “ท่านเทพีไม้…”
  หยินมู่พูดเบาๆด้วยแววตาว่างเปล่าราวกับเขาได้เกิดใหม่ หลังจากคิดถึงทุกสิ่งที่ทำในอดีตตลอดหลายพันปี ความละอายก็ได้แสดงบนใบหน้า เขาคุกเข่าข้างเดียวกับพื้น
  “ข้ามันใช้ไม่ได้ข้ามิอาจปกป้องท่านได้ ข้ากลับปล่อยให้พลังปีศาจยึดครองร่างกายข้า ข้าพยายามมากนักเพื่อขโมยความเป็นเทพจากท่าน ท่านเทพีไม้ลงโทษข้าเถอะ!”
  เทพีไม้พูดอย่างอ่อนโยน
  “ข้าไม่โทษเจ้าหลังจากข้าหลับ พวกเจ้าเสียพลังเทพของข้าคอยค้ำจุน พวกเจ้าอ่อนแอลงในแต่ละวันผ่านพ้น แม้แต่เจ้าก็มิใช่ข้อยกเว้น คงยากลำบากนักกว่าเจ้าจะรอดชีวิตมาได้ถึงวันนี้”
  หยินมู่ก้มหน้าด้วยความละอายใจ
  “ยังมีพวกเราที่ยังมีชีวิตรอดแต่ถูกพลังปีศาจครอบงำมีพวกเรามากมายตายไปและกลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย”
  เทพีไม้โศกเศร้านางสงสารเผ่าพันธุ์ไม้ทั้งหมด
  “หยินมู่หลังข้าหลับใหลอีกครั้ง เจ้าจะต้องปกป้องพวกเราให้จงได้ จงรอครั้งต่อไปที่ข้าตื่น”
  พรึ่บ!
  เสียงใบไม้ขยับดังก้องทุกทิศทางเสียงนี้ช่างไพเราะน่าฟังราวกับเสียงสวรรค์
  ซือหยูประทับใจในเสียงนี้เขาไม่กล้าจะพูดขัดบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในโลกนี้เลย
  ชาวเผ่าไม้ทั้งหมดที่ได้ยินเสียงสะบัดใบหยุดนิ่งเสี้ยวพลังทมิฬในร่างกายกระจายหาย ความรู้สึกด้านลบหายไปหมดสิ้น
  มันเกิดขึ้นกับชาวเผ่าไม้ทั้งป่านอกในของป่าปีศาจร้าง
  ชั้นหมอกอำพันหนาในป่าที่สะสมมาหลายปีสลายไปเมื่อสายลมพัดผ่านแสงตะวันส่องประกายในป่าอีกครั้งหลังจากผ่านเวลามาเนิ่นนาน ป่าปีศาจร้างอันหมองหม่นกลับมาสดใสงดงามอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น
  ชาวเผ่าไม้ทองแดงทั้งหมดกลับมาได้สติทุกต้นแสดงความเคารพในทิศทางของต้นเสียง พวกเขากำลังตื่นเต้น!
  เสียงธรรมชาติอันงดงามที่สุดทำให้โลกทั้งใบเงียบกริบความสงบสุขกำเนิดเกิดขึ้นทุกแห่งที่เสียงนี้ดังไปถึง
  กว่าซือหยูจะลืมตาขึ้นได้ก็เป็นตอนที่เสียงนี้หายไปแล้ว เมื่อเขามองเทพีไม้อีกครั้ง เขาสัมผัสได้ว่าสติของนางกำลังอ่อนลง นางกำลังจะหลับใหลอีกครั้ง
  “หยินมู่ปกป้องเผ่าพันธุ์เราให้ดี…”
  เทพีไม้กล่าวร่างของนางหายไปในอักษรรูปหัวใจกลับสู่แดนเทพ
  ก่อนที่ร่างนางจะจางหายหมดสิ้นนางพูดขึ้นอีกครั้ง
  “โปรดดูแลเด็กมนุษย์คนนี้ให้ดีหากเขาขอความช่วยเหลือ จงช่วยเหลือให้มากเท่าที่ทำได้”
  “ท่านเทพีไม้ข้าน้อมรับบัญชา”
  หยินมู่ตอบด้วยความเคารพ
  แม้ว่าเทพีไม้จะหายไปแล้วผนึกก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
  หยินมู่ยืนขึ้นสีหน้าสงบสุขไร้กังวล ความไร้กังวลนี้มาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ
  “เจ้าหนูขอบคุณเจ้ามากที่ขวางข้า”
  หยินมู่ขอบคุณซือหยูด้วยใบหน้าละอายใจเขาถอนหายใจ
  ซือหยูแอบตื่นเต้นหยินมู่ถูกชำระล้างแล้วจริงๆ
  “ข้าเพียงแค่ทำให้ดีที่สุด…”
  ซือหยูตอบ
  “สหายข้ายังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่?”
  สิ่งที่ซือหยูกังวลที่สุดก็คือความปลอดภัยของนางทั้งสอง
  หยินมู่พยักหน้า
  “พวกนางมิได้บาดเจ็บหรือมีอันตรายเจ้าสบายใจได้ ก่อนที่จะไปพบนาง ข้าจะให้ของขวัญกับเจ้า เพราะเจ้าได้ช่วยเผ่าพันธุ์ไม้ทองแดงทั้งหมด จงรับสิ่งนี้แทนคำขอบคุณของข้า”
  …
  หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามพวกเขาออกมาจากโลกใต้พิภพและกลับมา ณ ลำธารที่ซือหยูพบหยินมู่ครั้งแรก
  ซือหยูมองลำธารอันสงบสุขด้วยความสงสัย
  “จะให้ของขวัญใดกับข้าหรือ?”
  “น้ำพุแห่งชีวิต…”
  หยินมู่ตอบ
  “น้ำพุแห่งชีวิต?มันไม่ได้อยู่ที่อื่นหรอกหรือ?”
  ซือหยูพูดด้วยความแปลกใจ
  ซือหยูยังจำได้แม่นว่าหยินมู่จับตัวพวกเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างมาเพราะทั้งสองพยายามจะแอบตามหาน้ำพุแห่งชีวิต
  “นั่นก็เป็นน้ำพุแห่งชีวิตแต่น้ำพุแห่งชีวิตเป็นสถานที่ที่ชาวเผ่าไม้ทองแดงทั่วไปกำเนิดขึ้นมา มันใช้เพียงเพื่อบำรุงเลี้ยงชาวเผ่าไม้รุ่นเด็กเท่านั้น น้ำพุที่ข้าจะให้เจ้าคือน้ำพุที่ข้าสร้างขึ้นมาตอนที่ข้าเป็นเซียน…”
  หยินมู่ตอบ
  เร็วๆนี้ซือหยูได้ของล้ำค่ามามากมายและเริ่มจะคุ้นเคยแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นมากนัก
  ฟึ่บ!
  ลำธารแยกออกกล่องไม้สีเงินจากก้นลำธารลอยขึ้นมา พลังชีวิตมหาศาลแผ่ออกมาจากกล่องไม้ ซือหยูรู้สึกถึงพลังที่เข้มข้นไม่ต่างจากพลังของโอสถฟื้นชะตา แต่มันก็ด้อยกว่าโอสถมากนัก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็หาได้ยากที่จะเจอสิ่งที่มีพลังชีวิตเทียบเท่าสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า
  “มันเกิดจากการหลอมรวมพลังเซียนมันคือพลังพิเศษที่หาได้ยากของเผ่าไม้ ข้าหลอมรวมมาได้เก้าหยดด้วยเวลาหลายปี แต่ละหยดจะทำให้ผู้ใช้มีอายุยาวนานไปอีกพันปี มันใช้ชำระร่างกายและจะให้ประโยชน์อันมิอาจจินตนาการได้อีกด้วย ในอดีต เหยามู่ที่มีพรสวรรค์ระดับธรรมดาได้ผ่านการชำระล้างจากมันหกหยด สุดท้ายจึงได้กลายเป็นเซียน”
  “ครั้งนี้ข้าจะให้หยดที่เหลือกับเจ้า จงรับไว้แทนคำขอบคุณและคำขอโทษจากข้า…”
  หยินมู่กล่าว
  เพิ่มอายุขัยพันปีหรือ?ซือหยูเลียริมฝีปาก แต่จะปฏิเสธของแบบนี้ได้อย่างไร?
  และยิ่งไปกว่านั้นมันยังชำระร่างกายได้อีกด้วย ซือหยูคิดย้อนกลับไปถึงคำสาปที่ยังตราอก เขาควรจะกำจัดมันได้ในตอนนี้
  “คงจะดีกว่าถ้าเจ้าใช้มันตอนที่เจ้ากำลังจะเพิ่มพลังในขอบเขตต่อไปต้องเป็นเวลานั้น เจ้าจึงจะได้ใช้ประโยชน์สูงสุดของมัน…”
  หยินมู่แนะนำ
  ซือหยูพยักหน้าและเลิกล้มความคิดที่จะใช้มันในทันที
  “ท่านหยินมู่ขอบคุณท่านมาก”.novel-lucky.
  ซือหยูเก็บมันไว้ด้วยกันกับใบไม้ทั้งสามสิ่งเหล่านี้คือสมบัติที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้อีกแล้ว
  หยินมู่ยิ้มอย่างอบอุ่น
  “ต้องเป็นข้าต่างหากที่ขอบคุณเจ้าเทพีไม้ท่านขอให้ข้าดูแลเจ้า และข้าจะให้ของขวัญเจ้าอีกแทนนาง”
  เมื่อหยินมู่พูดทั้งร่างของเขาเปล่งแสงสีเงิน เขากลายเป็นต้นไม้สีเงินยาวแสนศอก มันตั้งตระหง่านบดบังนภาปกคลุมผืนโลก ช่างเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์
  “เจ้าหนุ่มการค้นหาความจริงอยู่ใต้ต้นโพธิ์เป็นเรื่องง่าย ถึงชาวเผ่าไม้ทองแดงจะมิใช่ต้นโพธิ์ พวกเราก็มีบรรพบุรุษเชื้อสายเดียวกัน จงบ่มเพาะใต้ร่มเงาข้าในร่างต้นไม้ของข้า เจ้าจะบรรลุหลายเรื่องราวได้เป็นแน่”
  หยินมู่ช่วยเขาด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการบ่มเพาะรึ?ซือหยูดีใจอีกครั้ง เขาเชื่ออยู่เสมอว่าตัวเองมีระดับปัญญาที่ดี และก็ยิ่งดีกว่าเมื่อมีหม้อเก้ามังกร แต่ระดับปัญญาของเขายังห่างชั้นนักเมื่อเทียบกับระดับอันน่าทึ่งของเซี่ยจิงหยู
  เวลานี้ซือหยูเจอปัญหาในด้านวิชามากมาย เขาจะพลาดโอกาสดีเช่นนี้ได้อย่างไร? ซือหยูนั่งลงใต้ต้นไม้เงินทันที เขาเริ่มใช้พลังเร่งเวลาและศึกษาวิชาบ่มเพาะทั้งหมดที่เขาไม่ก้าวหน้าแม้จะผ่านมานาน
  โอรสสวรรค์จ้องนภาฝ่ามือเทพดับสวรรค์ และวิชาลับห้าธาตุคือวิชาที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก และซือหยูต้องใช้เวลานี้ในการบรรลุมันใต้ต้นไม้เงิน
  หนึ่งชั่วยามพ้นผ่านสองชั่วยามพ้นไป…
  ดวงตะวันขึ้นทางตะวันออกก่อนจะส่องแสงประกายฉาบใบหน้าซือหยู
  เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นซือหยูลืมตาช้าๆ แสงตะวันที่ฉาบดวงตาได้เห็นเพลิงเล็กๆสองลูกภายในดวงตานั้น มันเผาไหม้อย่างสงบใต้แสงบางๆ
  แม้จะผ่านไปเพียงครึ่งวันมันก็เทียบเท่ากับเวลาทั้งปีเมื่อซือหยูใช้พลังเร่งเวลา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขาอยู่ใต้หยินมู่ พลังปัญญาของเขาได้มากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า นั้นหมายความว่ามันเท่ากับเวลาบ่มเพาะปกติของซือหยูสิบปี! มันทำให้เขาก้าวกระโดดอย่างมากในสามวิชาที่ติดขัด
  โอรสสวรรค์จ้องนภาได้ก้าวข้ามผ่านระดับแรกเริ่มโดยที่เขาไม่รู้ตัวจากนั้นก็ไปที่ขั้นต้น และตอนนี้ก็ได้มาถึงขั้นกลางแล้ว เขาเพียงแค่ขาดประสบการณ์เท่านั้น ในตอนนี้เขาสามารถควบคุมจ้าวเทวะสี่คนได้พร้อมกัน
  ซือหยูไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้ก้าวหน้าในวิชานี้อย่างรวดเร็วถ้าหากหยุนย่าสีรู้ เขาคงจะต้องตกใจเป็นแน่
  ซือหยูยังก้าวหน้าในฝ่ามือเทพดับสวรรค์ในเฉินหลง เขายังใช้พลังของมันได้ในขั้นกลางและมิอาจใช้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ เขาบรรลุมันแล้ว เขาสามารถใช้ฝ่ามือนี้สังหารจ้าวเทวะระดับสามได้อย่างง่ายดาย
  สุดท้ายก็คือวิชาลับห้าธาตุก่อนหน้านี้ ซือหยูเข้าใจอักษรอสูรเพียงแค่เจ็ดตัว แต่ตอนนี้เขาเรียนรู้ได้ถึงเจ็ดสิบตัว
  หากเขาศึกษาต่อไปอีกสามสิบตัวเขาจะควบคุมคุกเทวะห้าธาตุได้ และวิชาการปรุงยาของเขาก็จะได้พัฒนาขึ้นด้วยเมื่อเข้าใจวิชาลับห้าธาตุ
  ก่อนหน้านี้เขามักจะมาไม่ถึงขั้นหลอมรวมโอสถแต่เมื่อเข้าใจในไฟถึงขั้นนี้ เขาจะสามารถมาถึงขั้นหลอมโอสถได้อย่างง่ายดาย ครั้งต่อไปที่เขาปรุงยา เขาจะต้องปรุงยาในระดับที่ดีกว่าเดิมได้แน่
  ซือหยูตื่นเต้นที่ได้คุณประโยชน์มากมายในการบ่มเพาะใต้ต้นหยินมู่แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะหยุดไว้ก่อน เขาย่อมไม่พยายามวิ่งก่อนที่จะเดินได้ฉันใด เขาก็ต้องย่อยสิ่งที่ได้เรียนรู้มาก่อนฉันนั้น
  ฟึ่บ!
  แสงสีเงินส่องประกายรอบต้นไม้สีเงินมันกลับมาเป็นหยินมู่ตามเดิม
  “เจ้าคงได้ประโยชน์ไปเยอะสินะ…”
  หยินมู่พูด
  ซือหยูพยักหน้าและโค้งคำนับเพื่อขอบคุณ
  “ถึงอย่างไรข้าสัมผัสพลังเวลาได้ ข้าไม่คิดเลยว่าพลังจากยุคโบราณจะได้รับสืบทอดและยังไม่หายไปไหน…”
  หยินมู่พูดกับซือหยูด้วยรอยยิ้ม
  ซือหยูไม่แปลกใจเป็นไปได้ที่เขาจะซ่อนพลังจากอสูรเนรมิตร แต่ไม่ใช่กับอสูรเนรมิตรที่เคยเป็นเซียนมาก่อน
  “จงระวังให้ดีแม้แต่เทพก็ถวิลหาสืบทอดพลังเวลา อย่าให้ผู้ใดได้รับรู้…”
  หยินมู่บอกอย่างจริงจัง
  “ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณผู้อาวุโสที่ตักเตือน”
  “เทพีไม้ท่านอยากให้ข้าช่วยเหลือเจ้ามากที่สุดข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ เพื่อที่ข้าจะได้ปกป้องเจ้า ช่วยเจ้าบ่มเพาะพลัง และทำให้เจ้าได้เป็นเซียนเร็วขึ้น…”
  หยินมู่พูดขึ้นมา
  ซือหยูเงียบและลังเลเขาสนใจกับข้อเสนอเช่นนี้มาก
  “ท่านหยินมู่ขอบคุณที่ท่านเป็นห่วง แต่ข้ามีเรื่องอีกหลายอย่างที่ต้องทำในภายนอก ข้ามิอาจอยู่ที่นี่ได้…”
  หยินมู่พยายามจะรั้งแต่สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้
  “ย่อมได้ข้าจะส่งเจ้ากับสหายออกจากที่นี่”
  ฟึ่บ!
  หยินมู่โบกมือซือหยูถูกพาไปยังต้นไม้ที่ตายแล้ว ต้นไม้นี้ไม่ได้กลายเป็นสิ่งชั่วร้าย แต่ร่างกายของมันกลายเป็นกรงขังไว้กักตัวมนุษย์ที่บุกเข้ามา
  หลังจากมาถึงซือหยูได้เห็นหูหวังกุยในกรงขังนี้ เขากำลังใช้ลมหายใจสุดท้ายในชีวิต พลังถูกดูดแห้งเหือด ชะตาของเขาก็คือการเป็นอาหารของเมล็ดเผ่าไม้
  “เขามาที่นี่กับเจ้าเขาก็เป็นสหายเจ้า เจ้าพาเขากลับไป หลังจากพวกข้าได้เทพีไม้ชำระล้าง พวกข้าไม่ต้องเลี้ยงดูไม้รุ่นใหม่ด้วยการนดูดซึมเลือดเนื้อมนุษย์อีกแล้ว…”
  หยินมู่ตอบ
  “เขาเป็นศัตรูยิ่งกว่ามิตรแต่อีกเดี๋ยวจะกลายเป็นข้ารับใช้ข้า”
  ซือหยูเดินยิ้มเข้าไปในกรงขัง
  เมื่อผ่านไปนานหูหวังกุยก็เดินตามซือหยูมาด้วยความนับถือ ราวกับข้ารับใช้ไม่มีผิด!
  ซือหยูเป็นภูติระดับห้านั่นทำให้เขาใช้วิชาคุมวิญญาณกับจ้าวเทวะระดับห้าได้
  หูหวังกุยที่กำลังจะตายเลิกล้มความคิดที่จะต่อต้านเขาตกอยู่ในการควบคุมของซือหยู
  เมื่อใดที่หูหวังกุยฟื้นตัวเวลานั้นพลังการต่อสู้ของเขาก็จะกลับคืนมาด้วย จ้าวเทวะระดับห้าจะช่วยเหลือซือหยูได้ในยามสำคัญ
  แขนซือหยูเปล่งแสงสีเขียวหูหวังกุยถูกพาเข้าไปในมุกวิญญาณเก้าหยก
  “ยังเหลือแม่พันธุ์เจ้าอีกสองคนนะ”
  หยินมู่ยิ้มจางๆ
  “ข้าเคยบอกว่าจะให้ของขวัญเจ้าอีกและข้าก็ทำตามสัญญาแล้ว”