ตอนที่ 590 : หิมะ

Virtual World – Peerless White Emperor

Flame Emperor เป็นคนแรกที่ปรบมือ แม้ว่า LordAsked จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงปรบมือตาม “อย่ามีความสุขเกินไปนัก”

“ไม่ ไม่ใช่เลย ฉันยังคงต้องขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการที่ให้ฉันฆ่าด้วย” เย่ฉางพูดอย่างถ่อมตน

FullFlame และคนอื่นๆโกรธมาก “อย่าหยิ่งผยองมากเกินไป ผมขาว!”

CloudDragon อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาไตร่ตรองโดยไม่พูดอะไร ‘ไอ้คนที่พวกนายเกลียดชังนี่ไม่ใช่คนธรรดาหรอกนะ’

เมื่อสหพันธ์เกมเมอร์เปลี่ยนกฎ เธอจึงรู้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายในครั้งต่อไป ดังนั้น ThornyRose จึงพูดขึ้นมาว่า “เฮ้ เฮ้ โปรด…”

ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ หลินหลี่ก็กระแทกโต๊ะจนส่งเสียงดังออกมา “ไอ้พวกไก่อ่อน พวกนายเชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถระเบิดพวกนายได้ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว”

เมื่อเขากำลังจะดึงกางเกงของเขาลงมา หลินหลี่ก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกเสมือนจริง จากนั้นเขาก็ปั้นใบหน้าประหนึ่งดุจว่า ‘พวกนายนั้นโชคดีมากจริงๆ’

“หลินหลี่ไม่ต้องไปเสียเวลาเถียงกับพวกนู๊บเหล่านี้ โดยเฉพาะพวกงี่เง่าที่นายสามารถฆ่าได้ทันทีด้วยสกิลเดียว” จางเจิ้งเฉียงพูดขึ้นมาอย่างดูถูกดูแคลน

“แก!!” FullFlame โกรธมากจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ Flame Emperor เหลือบสายตาของเขาแล้วดึง FullFlame กลับมา “เงียบซะ!”

ในขณะที่ FullFlame กลับไปยังที่นั่งของเขา หลินหลี่ก็เชิดคางสูงขึ้น บรรยากาศในงานสังสรรค์นั้นกลายเป็นน่าอึดอัด ThornyRose ทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ‘คนพวกนี้เป็นราชาแห่งการสร้างปัญหาจริงๆ’

“เอาล่ะ เอาล่ะ! เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาข้อโต้แย้ง พวกยุโรปนั้นก้าวหน้ารวดเร็วมาก ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความลับที่พวกคุณมี” เพื่อแสดงความจริงใจของเธอ MistyVeil จึงได้อธิบายอย่างสั้นๆเกี่ยวกับภูมิทัศน์ และวัฒนธรรมของที่อยู่อาศัยของพวกเอลฟ์ ทุกคนมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย ในที่สุดก็มาถึงคราวของ ThornyRose CloudDragon และคนอื่นๆต่างก็พากันเลิกคิ้วขึ้น ‘ในที่สุดก็มาถึงฉากสุดท้ายเสียที สมาคมเทพธิดา’

ThornyRose ขมวดคิ้ว ‘มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดทุกอย่าง แต่ถ้าเราไม่พูดอะไรเลย ฉันกลัวว่าเราจะถูกคว่ำบาตร แต่ถึงอย่างนั้นสมาคมเทพธิดา และเมืองเทพธิดาก็ไม่ใช่ของฉันอยู่ดี’ จากนั้นเธอก็มองไปที่เย่ฉาง เย่ฉางมองไปที่จางเจิ้งเฉียง จางเจิ้งเฉียงมองไปที่หลินหลี่ หลินหลี่มองไปที่ LittleJade และในที่สุด LittleJade ก็มองไปที่เย่เทียน

เย่เทียนถอนหายใจ “เรากำลังจะสร้างเส้นทางเดินเรือไปยังท่าเรือฟาร์ซารี ซึ่งเชื่อมต่อไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือ, ทางเหนือ และทางใต้ นั่นคือทั้งหมดที่หนูสามารถพูดได้”

ทุกคนดูเหมือนจะมีความคิดคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่เธอพูด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ขออะไรเพิ่มเติม

“เอาล่ะ เราจะขายอาหารที่เพิ่มค่าสถานะสูงมาก และจัดส่งทางจดหมาย” เย่ฉางขัดจังหวะ เมื่อเขาเห็นทุกคนกำลังพูดคุยกัน

NalanPureSould, CloudDragon และคนอื่นๆที่เคยลองกินอาหารในก่อนหน้านี้ได้ปิดปากลงทันที แต่ถึงอย่างนั้น Flame Emperor ก็ยังคงสงสัยอยู่ดี “อาหารที่เพิ่มค่าสถานะสูงมาก…”

เขารู้ว่าสมาคมเทพธิดามีอาหารมากมายที่สามารถเพิ่มค่าสถานะได้ สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการทำเควสลับ และการเก็บเลเวลอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาได้ยินว่ารสชาติมันแปลกๆ “บอกราคาและคุณสมบัติมาหน่อยสิ”

จากนั้นเย่เทียนก็ระบุราคา และคุณสมบัติของสูตรอาหารแห่งความมืด ที่สามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากเป็นการชั่วคราว ส่วนมากสโมสรที่ไม่ได้อยู่ในเมืองแบล็คร็อค และเมืองไวท์สโตนรู้สึกสนใจ แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูงก็ตาม

“ฉันสามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ทั้งหมดหรือไม่?” BlackForestMoon จาก Heavenly Oath ถามออกมา

“ไม่ได้ เรารับเพียงเงินสดครึ่งหนึ่งเท่านั้น” เย่เทียนรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จ่ายเป็นเงินสดเนื่องจากปริมาณมีจำนวนที่เยอะมากเกินไป

BlackForestMoon พยักหน้า และแลกเปลี่ยนการติดต่อกับเธอ ผู้นำสโมสรที่เหลือก็เริ่มแลกเปลี่ยนการติดต่อกับเย่เทียน และเย่ฉาง แม้แต่ Flame Emperor ก็ทำเช่นนั้นด้วยเช่นกันเพราะเขารู้ว่าพวกเขาจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในอนาคต นอกจากนี้ Happy Firmaments ก็ยังเป็นกิลด์ที่สามารถทำกำไรได้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Thorn and Roses แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงสถานที่ทำงานเท่านั้น

เมื่อเห็นคำสั่งซื้อ เย่ฉางก็มอบมันให้กับ LittleJade “LittleJade กลับไปหาอัลลี่ (มาดามมาร์) และดึงสต็อคออกมาจากคลังสินค้า หลังจากนั้นไปพบกันที่สถานีขนส่ง”

“ฉันเข้าใจแล้ว หัวหน้าทีม” LittleJade พยักหน้าอย่างจริงจัง

เมื่อเธอเห็นว่า LittleJade ทำตัวเหมือนกับพนักงานมากขึ้น ThornyRose ก็รู้สึกสับสน ‘ฉันเป็นหัวหน้าสโมสรจริงๆงั้นเหรอ?’

การสังสรรค์ถูดจัดขึ้นเพียงไม่นาน เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะมาทำการแลกเปลี่ยนข้อมูล และยั่วยุกันเท่านั้น

เมื่อมาถึงสนามหญ้า เย่ฉางก็เห็นผู้อาวุโสสองคนจากตระกูลลั่วกำลังนวดเอวของกันและกัน เขาจึงหันหลังกลับ และเดินออกไปทันที

“อยากหนีงั้นหรอ?! ฉันรอนายมาครึ่งวันแล้ว!” ผู้อาวุโสสองรีบพุ่งเข้ามาหาเขา และผู้อาวุโสสามก็ติดตามอย่างใกล้ชิด

“ลุงฉิน! ผู้เฒ่าฉิน! ฉันถูกใครบางคนไล่ตามมา!” เย่ฉางตะโกน

ฉินฮองและฉินซานนั่งดื่มชา และมองไกลออกไปทางหน้าต่างอย่างไม่สนใจ

“ช่างเป็นเด็กน้อยที่ซุกซนเหลือเกิน ปล่อยให้เขาเล่นกับเพื่อนเก่าอีกสองคนไปพักหนึ่งก็แล้วกัน” ฉินฮองระลึกถึงช่วงเวลาที่เย่ฉางทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“เรามารอดูกันว่าเขาจะสงวนท่าทีไว้ได้นานแค่ไหนกัน” ฉินซานยิ้ม

“ความแข็งแกร่งของเจ้าหนุ่มนั่นไม่เลวเลยทีเดียว ฉินซานเขาคือใคร?” ฉินเซียงเดินเข้ามา และมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ลูกเขยของฉันเอง เย่ฉาง สมาชิกผู้มีเกียรติของกลุ่มมังกร” ฉินซานยิ้ม

เมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งสองติดตามเขาอย่างไม่ลดละ เย่ฉางจึงหันหลังกลับ และใช้ไลท์นิ่งพลาสม่า (เวอร์ชั่นดาบ) คลื่นดาบระเบิดออกไปทั่วทุกที่ ผู้อาวุโสสองบล็อคด้วยม่านพลังน้ำทันที และไล่ตามเขาไป เขาคิดในใจ ‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ปล่อยให้ไอ้เด็กเวรนี่หลุดมือไปได้’ อย่างไรก็ตาม เย่ฉางได้เบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา ในขณะที่เขาวิ่งหนีจนทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในที่สุดเย่ฉางก็หายตัวไปจากวิสัยทัศน์ พวกเขาทั้งคู่ถอนหายใจ ผู้อาวุโสสองโมโหจนอกแทบจะระเบิดออกมา “ห่าเอ๊ย! การเคลื่อนไหวร่างกายที่เหนือธรรมชาติของไอ้หนุ่มนี่จะเร็วเกินไปไหม?! เราปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งแล้ว!”

“ความเร็วที่น่าทึ่ง” ฉินเซียงพยักหน้า

เย่ฉางรีบหนีออกจากตระกูลลั่ว และมาที่ถนน เมื่อคิดว่าจะดีใจตอนนี้มันยังเร็วไป เขาจึงเดินไปทั่วบนถนนที่วุ่นวาย เพลง ‘Ding Dong’ มีขายอยู่ทุกหนทุกหนแห่ง และได้ยินไปทั่วทุกแห่งหน และพบเห็นครอบครัวที่มีความสุขได้ทั่วทุกที่ เย่ฉางมองผ่านกระจกหน้าต่างของร้านอาหาร เขาเห็นครอบครัวอื่นกำลังรับประทานอาหาร และจมดิ่งเข้าสู่ห้วงความคิด ราวกับว่าเขาเห็นซินหยู่, จางเจิ้งเฉียง และตัวเขาเองกำลังพูดคุยกันอยู่ที่นั่น จากนั้นเขาก้มหน้าลง และเดินต่อไป ‘มีวิธีใดที่ทำให้ฉันลืมมันได้ไหม?’ ทันใดนั้นสายลมที่หนาวเย็นก็พัดผ่านเข้ามา เขาค่อยๆจ้องมองไปที่ท้องฟ้า และหิมะก็ตกกระทบลงบนใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา เมื่อมองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ น้ำตาก็ค่อยๆไหลรินอาบแก้มของเขา เขาพึมพำกับตัวเอง “มันจะดีแค่ไหนกันนะ ถ้าทุกอย่างสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง”

เฉาหยินรุ่ยที่ออกมาข้างนอกเพื่อช้อปปิ้งในวันคริสต์มาสต์ได้เห็นฉากนี้เข้า ‘เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขาดูเศร้าโศกเป็นอย่างมาก’ จากนั้นเธอก็เดินไปหาเย่ฉาง และรู้สึกลังเล “เย่ฉาง?”

เมื่อดึงสติตัวเองกลับมา เย่ฉางก็จ้องไปที่เฉาหยินรุ่ยผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า และถามออกมาอย่างแผ่วเบา “เธอมีผ้าเช็ดหน้าบ้างไหม?”

ในขณะที่เฉาหยินรุ่ยยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เย่ฉางรับมาและเช็ดน้ำตา และพูดออกมาด้วยความเศร้า “เรื่องราวความรักของวัยรุ่นทั้งสามในตงกวน กระเทือนจิตใจฉันมากเกินไป”

“……” เฉาหยินรุ่ยพูดไม่ออก ‘เกี่ยวกับเรื่องนี้… มันเป็นละครเกรดบี +, ละครวิปลาส’

ทันใดนั้นชิงหยุนก็มาถึงถนนสายนั้น ขณะที่เธอกำลังจะไปตรวจสอบภารกิจ เมื่อเธอเห็นเย่ฉาง เธอก็หันหลังกลับทันที และตัดสินใจจะไปที่อื่นแทน แต่เย่ฉางสังเกตเห็นเธอ และเดินเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว เขากดไปที่ไหล่ของเธอ และพูด “โย่ว! ตอนนี้ฉันค่อนข้างเบื่อพอดี เธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหม?”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ภารกิจนี้ค่อนข้าง…” ชิงหยุนตอบอย่างเชื่องช้า แต่ไม่รอให้เธอพูดจบ เย่ฉางก็ยิ้มออกมา “ฉันรู้ว่าเธอมีภารกิจ มาเถอะ เราเดินไปคุยไปกันดีกว่า เธอต้องการที่จะมีชีวิตอยู่หรือตายดีล่ะ?”

“เอาล่ะ ฉันขอตามพวกนายไปด้วยได้ไหม?” เฉาหยินรุ่ยเดินตามมา และพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

“ได้แน่นอน ถือเป็นค่าตอบแทนที่ให้ฉันยืมผ้าเช็ดหน้าก็แล้วกัน” เย่ฉางตอบตกลง ในทางตรงกันข้ามชิงหยุนทำได้แค่เพียงยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเท่านั้น ‘กลุ่มของเราถือเป็นความลับ และนายก็พาคนอื่นมาเยี่ยมชมงั้นเหรอ?’ เธอไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากฉากของเย่ฉางที่เกือบจะฆ่าเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ยังคงวนเวียนอยู่ภายในใจของเธอ