1917 vs 1918 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1917

จิ่วมาแล้ว

ในระหว่างที่ชายผมทองกำหมัด ก้มศีรษะอย่างท้อแท้ ก็ได้ยินเสียงที่ไม่เน้นหนักอีก “ยังมีข้อมูลอย่างอื่นอีกไหม ในเมื่อเคยผ่านเจอเรื่องแบบนี้มาหลายครั้ง น่าจะได้ข้อมูลอื่นบ้าง ถ้าไม่มีก็ลองเล่าลำดับเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย”

“ลำดับเหตุการณ์มีชัวร์!” ชายผมทองรีบตอบ “เพราะมันเหลือเชื่อทุกครั้งเลยทีเดียว พวกเราเลยเตรียมถ่ายคลิปในหลายสถานที่ เวลาที่ Z จะจับคน เขาจะประกาศล่วงหน้า นี่แหละที่ทำให้เราปวดหัว เขาใช้วิธีได้ไม่เลว แถมทำสำเร็จทุกครั้ง พวกคนที่มีเงินมีอำนาจไม่กล้าเล่นตุกติกให้ผลการตัดสินถูกกระทบ บางคนใช้ช่องว่างทางอินเทอร์เน็ตได้เก่งมาก”

ฉินมั่วเปิดประตูรถตามการนำทางของอีกฝ่าย หลังจากฟังคำพูดเหล่านั้นแล้วเลิกคิ้วพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ฟังดูแล้ว ดูเหมือนคุณจะชื่นชม Z มาก”

“พูดยาก เพราะพวกเรายังอยากจับเขาอยู่” ชายผมทองอยากเก็กทำขรึม ทว่าฉินมั่วไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อ  เอ่ยอย่างเรียบเรื่อยว่า “ขอดูคลิปที่เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

คงเพราะบุคลิกที่สง่าของอีกฝ่าย ทำให้ชายผมทองรู้สึกว่าเข้าถึงตัวฉินมั่วได้ไม่ง่าย ทั้งที่เป็นแค่เด็กม.ปลาย แต่ท่าทีเย็นชาเหลือเกิน

ทว่าเมื่อนึกถึงสถานะของอีกฝ่าย ชายผมทองก็เปลี่ยนความคิดอีกครั้ง หากไม่ใช่คนที่มีความสามารถ รับรองว่าไขคดีที่สุมเป็นกองไม่ได้แน่

ยิ่งไปกว่านั้น หากดูจากข้อมูลที่พวกเขาได้มา พบว่าทุกคดีเก่าหรือคดีต้องสงสัย เมื่อผ่านมือเด็กหนุ่มแล้วเป็นต้องจับคนร้ายตัวจริงได้ ทั้งยังใช้เวลาแค่สั้นๆ อีกด้วย แถมยังเดาพฤติกรรมของคนร้ายได้เร็วกว่าก้าวหนึ่งอีก ราวกับมีแค่คนอย่างนี้ที่จะไม่หลงกล Z

ยิ่งคิด ชายผมทองก็รู้สึกว่าพวกเขาต้องประสบความสำเร็จสูงแน่ เพราะเขาอุตส่าห์แอบเชิญคนคนนี้มา ไม่ได้ใช้วิธีทางอินเทอร์เน็ต และยิ่งไม่มีการแพร่งพรายแต่อย่างใด แถมเขายังเป็นคนมารับเอง ดังนั้น Z ไม่น่าจะรู้

เวลาผ่านไปอีกนิด ใกล้จะถึงช่วงพลบค่ำแล้ว ท้องฟ้าที่ The Fifth Avenue เป็นสีฟ้าเสมอ นกพิราบสีขาวและน้ำพุเป็นสิ่งที่เห็นได้ทั่วทุกที่ ถนนที่กว้างใหญ่เหมาะต่อการแล่นรถมาก ดังนั้นจึงเป็นที่พบว่าสถานที่นี้จะปรากฎในหนังภาพยนตร์เสมอ แต่หากไม่ใช่คนท้องถิ่นย่อมไม่รู้ว่าที่นี่มีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งเรียกว่า Street culture แล้วยังมีเขตหนึ่งที่เรียกว่าเขตสีเทา ที่นั่นจะมีคนจากทุกวงการมารวมตัวอยู่ด้วยกัน

ช่วงพลบค่ำใกล้เข้ามาเยือน ท้องฟ้าเริ่มมืด ท่ามกลางแสงไฟอันโชติช่วง ตู้โทรศัพท์สาธารณะข้างถนนดูเป็นปกติ ทว่าพวกคนผิวสีที่กำลังวาดรูปอยู่ อยากจะยึดพื้นที่อีกฟากฝั่งของกำแพงนี่เหลือเกิน แต่จู่ๆ ตู้โทรศัพท์นั่นเหมือนมีคนกดปุ่มอะไรบางอย่าง จากนั้นถึงแยกออกจากกัน

เสียงหนึ่งดังขึ้น ประตูหนึ่งม้วนตัวเปิด

จากนั้นรถแลมโบกินี่สีดำที่มีประตูเหมือนปีกค้างคาวพุ่งออกมาจากที่นั่น เสมือนสิงโตที่สง่างามที่สุดในโลก มันส่งสัญญาณว่าจะออกมาแล่นแล้ว

เหล่าคนผิวสีต่างตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นมันออกมา ก่อนจะกระโดดไปอยู่ด้านข้างทันที

ต้องรู้กันว่าอย่าไปแหยมเจ้าของรถคันนี้! แต่เจ้าของมันกลับทะเล้นนัก คนอื่นยิ่งกลัวก็ยิ่งน่าทักทาย “ว้าว บังเอิญจัง”

………………………………………..

ตอนที่ 1918

Z ในวัย 18

กระจกหน้าต่างลดลงตามจังหวะเสียงที่ดังขึ้น พวกคนผิวสีอยากจะหนีแต่ก็จนปัญญา เพราะเส้นทางหนึ่งเดียวถูกขวางกั้นไว้แล้ว ได้แต่หันหน้าไปดูรถสปอร์ตคันดังกล่าว

เมื่อกระจกติดฟิล์มกรองแสงถูกลดลงมา

เด็กวัยรุ่นผู้เป็นเจ้าของผมสั้นเซอร์ดำที่ย้อมเป็นสีเงินไม่กี่กระจุกยื่นมือออกมา นิ้วเรียวยาวสวมแหวนสีดำไว้ มุมปากเหยียดยิ้ม ดูร้ายกาจมาก แต่สิ่งที่ทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งกว่าก็คือใฝเสน่ห์ใต้ตานั่นเอง ใฝของคนอื่นจะเป็นสีดำ แต่ของเธอกลับเป็นสีดำออกแดง ทำให้ดูสวยแฝงกลิ่นอายแบบศาสนาพุทธ

ป๋อจิ่วเวลานี้อายุ 18 ปี แม้จะเป็นเด็กสาวชัดๆ แต่กลับมีหน้าตาที่เหมือนทั้งชายและหญิง

นี่ไม่เกี่ยวข้องกับทรงผมสักนิด แต่เป็นเพราะบุคลิกเธอมากกว่า

อันที่จริงอิทธิพลของคนผิวสีเป็นที่รู้กันในบริเวณนั้น

พวกเขาช่วยให้คนแต่ละกลุ่มติดต่อกันได้สะดวกในหลากหลายช่องทาง

เขตเก่าแก่แบบนี้เป็นที่รวมตัวของคนที่พวกคุณพอจะนึกออก เช่นหัวขโมย นักหลอกลวง และพวกต้มตุ๋น

แต่ละคนจัดการยากมาก เพราะเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ฝีมือ

คนผิวสีชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม พวกเขามีพลังเสียงดีอันเป็นผลจากกรรมพันธุ์

อย่าคิดว่าใครจะดีไปเสียทุกอย่าง และอย่าคิดว่าใครจะเลวร้ายไปเสียทุกอย่าง เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์

พรสวรรค์ด้านเสียงเพลงและกำลังวังชาในการวิวาทล้วนมีพร้อมสรรพในตัวกลุ่มคนผิวสี ทำให้คนจำพวกขโมย นักหลอกลวง และนักต้มตุ๋น ต่างต้องหลีกทางให้เมื่อเจอพวกคนผิวสี แต่คนที่ทำให้พวกผิวสีต้องเดินอ้อมทางไปกลับเป็นเจ้าคนตรงหน้านี่เอง!

 “อากาศดีจัง” ป๋อจิ่วแหงนหน้าอย่างเอื่อยเฉื่อย มองดูท้องฟ้าที่มืดมิดแล้ว

หากได้เห็นฉากดังกล่าวจะต้องรู้สึกว่ามันเป็นภาพคลาสสิก

ใน The Fifth Avenue ฟ้าเพิ่งมืดลง

เด็กวัยรุ่นกำลังแย้มริมฝีปากบางยิ้มนิดๆ ราวกับมองเห็นลมกำลังพัดผ่าน

นี่คือ Z ในวัย 18 ปี เธอทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ทั้งยังลึกลับมาก

คงเพราะไม่มีใครคอยห้ามปรามและตามใจเธออีก ดังนั้นแววตาเธอจึงไร้แสงแวววับ ทั้งยังดำขลับจนมืดทะมึน แม้จะยิ้ม แต่กลับทำให้คนนึกถึงจอมปีศาจในการ์ตูนเสียมากกว่า

พวกคนผิวสีหนีไม่ได้แล้ว ถูกเธอกั้นไว้ที่กำแพง แม้จะทำด้วยความเป็นมิตรก็ตาม แต่ลองคิดดูสิว่าฟ้ามืดขนาดนี้ ทำไมถึงยังบอกว่าอากาศดีได้อีก!

ทว่านี่ก็เป็นเรื่องปกติแล้ว

พวกคนผิวสีรู้ดีว่าเวลาเผชิญกับเธอจะต้องมุ่งมั่นมากชนิดห้ามเปลี่ยนสีหน้าเลยทีเดียว

ไม่ผิดคาด ป๋อจิ่วรู้สึกเบื่อแล้ว เธอหมุนพวงมาลัย สะบัดท้ายอย่างสวยงาม ก่อนจะมุ่งสู่ท้องถนนที่แสนคับคั่ง ส่งผลให้พวกเขาผ่อนคลายได้สักที นี่มันช่าง…นับตั้งแต่เจ้านี่ย้ายมาเข้ามาอยู่ พวกเขาก็อดทำตัวเป็นมาเฟียเลย!

“ปรับเปลี่ยนเส้นทางให้เรียบร้อยแล้วครับ เจ้านาย วันนี้พวกเราจะไปไหนกันดี?” ระบบจีพีเอสแผ่คลื่นเป็นชั้นๆ เสี่ยวเฮยนั่นเอง แต่เวลานี้ดูเหมือนมันจะได้รับอิทธิพลจากเจ้านาย ทำให้เสียงดูหนักทุ้มร้ายกาจ เหมือนไม่ใช่คนดี

ป๋อจิ่วม้วนผมเข้านิ้ว “ตอนนี้ยังหัววันอยู่ ชีวิตกลางคืนเพิ่งจะเริ่ม เราไปวนเล่นๆ สักรอบดีกว่า”

“OK” เสี่ยวเฮยเปิดเพลง เปลี่ยนเกียร์เพิ่มความเร็ว ไม่นานก็สลัดรถคันหน้าให้ไปอยู่ด้านหลัง

ป๋อจิ่วหันไปมอง พลางยิ้มบางๆ “เอาข้อมูลของเหยื่อในวันนี้ออกมาดูหน่อยซิ”

“ได้ครับ เจ้านายสุดเท่ของผม”

เสียง ‘พรึ่บ’ ดังขึ้น หน้าจอ 3D เปลี่ยนจากแผนที่กลายเป็นภาพหนึ่ง เสี่ยวเฮยบรรยายช้าๆ ราวกับเป็นเสียงพากย์หนัง “สมิธ อายุ 57…”

…………………………………..